7-8 มิถุนายนนี้ ยินดีต้อนรับทุกคนสู่ Together Festival 2024 ที่จะรวมทุกความสนุก ความมัน และความทรงจำที่สุดประทับใจจากศิลปินระดับโลก Steve Angello, Alan Walker, Gryffin, Knock2, RL Grime, NWYR และอีกมากมาย ที่ไบเทค บางนา

หนึ่งในดีเจที่เป็นเฮดไลน์ของงาน Together Festival ปีนี้คือ Alan Walker เจ้าของเพลงฮิตอย่าง Alone, The Spectre และ Faded สุดยอดเพลง EDM แห่งยุคที่ในขณะนี้มียอดสตรีมมิงทาง Spotify มากกว่า 1 พันเก้าร้อยล้านครั้งแล้ว ที่ผ่านมาดีเจหนุ่มอัจฉริยะวัยเพียง 26 ปีคนนี้ เคยมาจัดเซตเพลงแนว Trap, Electro House, Future Bass ไปจนถึง Progressive House และ Dubstep ที่เมืองไทยมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็ไม่เคยทำให้ขาแดนซ์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องผิดหวังเลยแม้แต่ครั้งเดียว เรียกได้ว่าผู้ชายภายใต้หน้ากากคนนี้ เปิดเพลงให้ทุกคนได้เต้นกันยับจนพื้นสะเทือนตั้งแต่นาทีแรกจนนาทีสุดท้ายมาตลอดจริงๆ

Cheat Codes สามหนุ่มดีเจ KEVI, Trevor Dahl และ Matthew Russell จากแอลเอ, สหรัฐอเมริกา ถือเป็นศิลปินดีเจกลุ่มที่มิกซ์ดนตรีป๊อปเข้ากับสไตล์อื่นๆ ได้อย่างลื่นหูจนกลายเป็นลายเซ็นของวงไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง Sex ที่ผสมผสานดนตรี R&B และกลิ่นอายของดนตรี Tropical House ได้อย่างนุ่มนวลชวนฝัน และด้วยไอเดียและความสามารถในการนำ House ดนตรี Iconic Dance แห่งยุค 90 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Progressive House, Deep House, Euro Beat และ Trance มาเบลนด์กับดนตรี EDM ร่วมสมัยอย่าง Future Bass และ Electro Pop ได้อย่างยอดเยี่ยม นี่คืออีกหนึ่งดีเจกลุ่มยอดฝีมือที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

...

GRYFFIN หรือ Dan Griffith ชื่อนี้อยู่ในใจของขาปาร์ตี้ทั่วโลกอยู่แล้ว เพราะนี่คือดีเจที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของลิสต์ดีเจแนว Tropical House, Trance, Future Bass ที่นำดนตรี Pop, Rock และ R&B มามิกซ์เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน นอกจากนี้ GRYFFIN ก็ยังเป็นโปรดิวเซอร์, นักแต่งเพลงและรีมิกเซอร์รุ่นใหม่ที่เคยร่วมงานกับศิลปินระดับโลกมาแล้ว อาทิ Carly Rae Jepsen ในเพลง OMG, วง OneRepublic ในเพลง You Were Love รวมถึงการร่วมงานกับ Rita Ora และดีเจระดับตำนานอย่าง Armin Van Buuren ด้วย ส่วนการนำเครื่องดนตรีสดมาเล่นกับเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ก็ทำให้งานเพลงในแนว Melodic House ของเขา ได้รับความชื่นชมอย่างมากในแง่ของความคิดสร้างสรรค์

ในส่วนดีเจที่ตอบรับเข้าร่วมไลน์อัพงาน Together Festival 2024 แต่ละคนเรียกได้ว่าผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เพราะมีชื่ออยู่ในระดับโลกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น RL Grimes ที่เคยร่วมงานกับ Skrillex และ Big Sean เขาเป็นทั้งดีเจและโปรดิวเซอร์จากแอลเอที่นำดนตรีแดนซ์ที่มี BPM หรือจังหวะที่เร็วมากๆ อย่าง Drum & Bass, Dubstep และ Jungle มามิกซ์กับ Trap ซึ่งเป็นแนวย่อยของดนตรี Hip Hop ยุคใหม่ได้มันสุดๆ นอกจากนี้เขายังนำวัตถุดิบอย่างดนตรี UK Garage มาคลุกเคล้าเข้ากับดนตรี R&B ได้อย่างนุ่มลิ้นเอามากๆ โดยอัลบั้ม NOVA ของเขาที่ได้ศิลปินรับเชิญอย่าง Chief Keef, Joji และ Miguel มาร่วมงานและขึ้นถึงอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Dance / Electronic Albums ได้ด้วย

Knock2 เป็นอีกหนึ่งดีเจที่ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วจากฝีมือการมิกซ์ดนตรี House ที่มีไลน์ Bass หนักๆ เข้าไว้ด้วยกันได้เนี้ยบมากๆ โดยงานเพลงของเขาตลบลอบอวลไปด้วยสีสันของดนตรี Trap เพลงฮิตของ Knock2 มีเยอะ แต่ที่ฮิตมากก็คือเพลง What That Move และ Dashstar ที่กลายเป็นเพลงประจำตัวของเขาไปแล้ว นอกจากนี้ Dashstar ก็ยังได้รับเสียงชื่นชมจากดีเจระดับโลกอย่าง DJ Snake, Tiesto รวมถึง Joyryde ด้วย และในปีก่อน Knock2 ได้มอบเซตลิสต์กระหน่ำแดนซ์ฟลอร์ได้ระห่ำสุดๆ ในงาน 808 Festival จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโชว์ที่มันที่สุดของงานจากแฟนๆ มาแล้วด้วย

...

ใครที่ชอบฟังเพลงแดนซ์ที่ทั้งลื่นไหลและหลากหลาย ห้ามพลาดโชว์ของ Kayzo อีกหนึ่งดีเจหนุ่มจากแอลเอเป็นอันขาด เพราะงานเพลงของเขามีทั้งดนตรีแดนซ์, ร็อก และเฮฟวี่เมทัลเป็นฐานสำคัญ แถมยังนำดนตรีอิเล็กทรอนิกส์หนักๆ อย่าง Trap, Hardstyle, Happy Hardcore และ Psytrance ที่มีจังหวะที่เร่งเร้าร้อนแรงมาแสดงสดได้อย่างหนักหน่วง งานรีมิกซ์เพลง Last Resort ของวงนูเมทัลยุค 90 อย่าง Papa Roach บ่งบอกได้อย่างชัดเจนถึงความเป็นชาวร็อกของ Kayzo ส่วนเครดิตก็ไม่ธรรมดา เพราะเขาเคยขึ้นโชว์ในเฟสติวัลระดับโลกอย่าง Coachella และ Tomorrowland มาแล้ว

ในส่วนของดีเจอีกมากมายที่น่าจับตามอง ซึ่งมีดีไม่แพ้ใครแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น NWYR ที่นำดนตรีแดนซ์ในแนว Drop, Techno และ Trance มาเป็นจุดเด่น โดยทางวงเคยร่วมงานกับสุดยอดดูโอ้ดีเจจากเนเธอร์แลนด์อย่าง W&W ในเพลง Oblivion มาแล้ว SABAI ดีเจชาวไทยกับแนวดนตรีสาย House เจ้าของเพลงฮิตอย่าง Million Days ที่ในขณะนี้มียอดสตรีมมิงทาง Spotify มากกว่า 45 ล้านครั้งแล้ว Seven Lions อีกหนึ่งดีเจสายระห่ำที่เปิดเพลงแนว Trance, Glitch Hop, Psytrance และ Melodic Dubstep ได้อย่างโหดแต่แฝงเอาไว้ด้วยความไพเราะจากเมโลดีและฮาร์โมนีที่สวยงาม Steve Angello ดีเจชาวกรีซที่เป็นหนึ่งในสมาชิกวง House ระดับซูเปอร์กรุ๊ปอย่าง Swedish House Mafia ที่เปิดเพลงแนว Tech House และ Electro House ได้เท่มากๆ นอกจากนี้ก็ยังมีดีเจฝีมือดีชาวไทยอย่าง Mordan และ Tong Apollo มาร่วมเสริมทัพด้วย

...

เตรียมพร้อมร่างกายกันเอาไว้ให้ดี เพราะงาน Together Festival 2024 จะทำให้คุณเต้นแบบเบรกไม่อยู่แน่นอน และอยากจะกระซิบเพิ่มเติมอีกนิดว่า ในปีนี้ทางผู้จัดงานได้เตรียมเซอร์ไพรส์ผู้ร่วมงานทุกคน ด้วยโปรดักชันที่ทั้งแปลกใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ และยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีการจัดงานมากันเลย เรียกได้ว่าทุกคนจะได้เซอร์ไพรส์ไปกับงานกันตั้งแต่หน้าประตูทางเข้างาน ไปจนถึงระบบแสงสีเสียงหน้าเวที เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับทุกคนที่มอบความรักให้กับงาน Together Festival มาอย่างยาวนาน

เราอยากให้ทุกคนมาสนุกไปด้วยกันจริงๆ เหมือนกับดีไซน์ของโลโก้ ที่เราขอมาเฉลยว่า จริงๆ แล้วมันมีคำว่า GO ที่เหมือนจะบอกแบบตะโกนเลยว่า “ไปมันกันเถอะพวกเรา!” ส่วนทุกอย่างที่เนรมิตขึ้นมาใหม่ในงานจะกระตุกและกระตุ้นต่อมแดนซ์ให้แม้กระทั่งคนที่มางานเพื่อยืนเสพการฟังดนตรีเฉยๆ มาตลอด ก็จะต้องโชว์สเตปการเต้นกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีศิลปินรับเชิญที่จะมาสร้างความฮือฮาบนเวทีอีกหลายคน แต่ขออุบไว้ก่อน เพราะอยากให้ทุกคนได้มีเวลาลุ้นกัน

งาน Together Festival 2024 จะยังคงจัดที่ไบเทค บางนา เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยงานจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6 และ 7 มิถุนายนนี้ สำหรับใครยังไม่ได้กดบัตร แนะนำให้รีบกดโดยด่วนที่ www.togetherfestival.net และอย่าลืมว่าธนาคารหลายแห่งในประเทศไทย สามารถผ่อนชำระบัตรงานได้ด้วย ส่วนบัตรงานสามารถเข้างานได้ถึง 2 วันเต็ม แล้วพบกันชาวแดนซ์ขาปาร์ตี้ทุกคน

...