ดวงดาว จารุจินดา ควงลูกชาย เติ้ล ตะวัน ย้อนเล่าวินาทีบีบหัวใจ น้องมียา ป่วยหนัก ต้องรักษาตัวที่ รพ.นานกว่า 11 วัน ถึงขั้นต้องบนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเหลือ พร้อมย้อนวีรกรรมสุดแสบ ความสัมพันธ์แม่ลูก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31

น้องมียากี่ขวบแล้ว?

เติ้ล : 6 ขวบกำลังจะเข้า 7 ขวบ ตอนนี้ชอบโชว์เต้น ทำกิจกรรมที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เวลาเพื่อนมาบ้าน คุณเต้ นันทศัย ต้องเป็นเหยื่อ ต้องมานั่งที่โซฟากับพ่อและแม่ นั่งดูเขาเต้น โชว์การแสดง เขาจะถามว่าพ่อ วันนี้จะมีเหยื่อมาดูหนูบ้างมั้ย (หัวเราะ)

ดวงดาว : ย่ากับปู่ต้องมีส่วนร่วมในการโชว์ โดยเธอเป็นผู้กำกับ คุณย่าต้องทำแบบนี้นะ เดินมาหยิบทำท่าอย่างนี้ๆ แล้วเขาแสดงต่อ มีส่วนในการแสดง

เติ้ล : บางทีคุยเรื่องตัดต่อกับลูกน้องอยู่ เขาก็เข้ามาบอกว่า พ่อเอางี้มั้ย ให้นางเอกหันหลังไปคุยโทรศัพท์ พระเอกขับรถสปอร์ตหรูเลยนะ นางเอกหันมาก็ว้าวเลย

ย่าไม่หลงแย่เหรอ?

ดวงดาว : รักที่สุดของที่สุด ตอนเขายังเด็ก เราทำงานๆ พอวันนี้เราทำงานน้อยลง ก็มีเวลาดูแลเขา เขาเป็นเด็กผู้หญิง เวลาเขามาบ้านเหมือนบ้านเรามันเติมเต็ม ทำให้บ้านมีความสุข มีเสียงหัวเราะ พอเขาไปบ้านเงียบ ปู่ยังบอกเลยว่าบ้านเราเงียบเลยนะ พอมียากลับไป

...

เป็นเด็กร่าเริง ชอบแสดงออก ตอนเจอเขาตอนเด็กๆ ลุ้นให้เขาแข็งแรง ตอนนี้เจอล่าสุดตัวเบ้อเร่อ?

ดวงดาว : มาจากผลของการไม่สบาย เพราะเขาได้ยาสเตียรอยด์

ล่าสุดต้นปีป่วยเยอะเหมือนกัน?

เติ้ล : ตอนแรกเขาไอ ก็ฝากผู้ปกครองสังเกตด้วยนะ เขาไอต่อเนื่อง เราไปหาหมอนะ เวียนๆ กลับๆ ประมาณ 3 รอบ จนรอบสุดท้ายไปบ้านย่า ไปเล่นกลับมาแล้วงอมเลย กลางคืนมีไข้ ตื่นมาตอนเช้าเริ่มยืนไม่ไหว อ้วก เราก็พาลูกเข้า รพ. หมอก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ ก็ตรวจเลือด รู้แค่ว่าติดทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย

มีอาการนึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน?

เติ้ล : หลังเขาอาการดีขึ้น ไข้ลด เราก็อยากให้เขามานั่งรถเล่น ที่มีน้ำเกลือ

ดวงดาว : ย่าไปเยี่ยม ก่อนหน้านั้นเขาไม่ลุกเลย มีแม่บ้านเลี้ยงเขาตั้งแต่เบบี๋ ชื่อตะวัน พอเขาเห็นเรากับพี่ตะวัน เขาก็อยากลงมาข้างล่าง ซื้อของ บิลด์เขา เขาก็ลุกขึ้นมานั่งรถเล็กๆ แขวนน้ำเกลือไป พอนั่งแล้วเขาก็เอียงไปเอียงมา เราก็งง

เติ้ล : พ่อกับแม่ก็กระซิบกันว่าแสดงแน่ๆ

ดวงดาว : กระแตเอามือถือมาถ่ายคลิปด้วย ลงลิฟต์มาถึงชั้นล่าง เทกระจาดเลย อ้วก

เติ้ล : เราก็ใจหาย แม้แต่พี่เลี้ยงที่เลี้ยงเขามาก็บอกว่ามียา อย่าเป็นแบบนี้เลย ลุกมาเล่นกันเถอะ แบบนี้ไม่สนุกเลย แทบจะร้องไห้ทุกวันเลย สงสารลูกมาก เพราะไม่รู้ลูกเป็นอะไร ช่วยก็ช่วยไม่ได้

น้องไม่สามารถยืนได้ นั่งก็เอียงไปเอียงมา?

เติ้ล : ง่ายๆ เหมือนคนบ้านหมุน พอหมอเห็นก็ให้หมอสมองมาทำซีทีสแกน ต้องฉีดสีเข้าไปนะ ทำซีทีสแกน เส้นเลือดในสมองปกติ ไม่เกี่ยวอะไรกับเส้นเลือด หมอสันนิษฐานว่าถ้าไม่ใช่หูชั้นกลางก็สมองน้อยอักเสบ เราก็มีความกังวล แม่เขาก็พิมพ์อาการลูกลงไปในแอปฯ สีฟ้า มีคนเข้ามาตอบเยอะพอสมควร ทำให้เรารู้ว่าอ๋อ มีโรคแบบนี้นะ คุณหมอบอกว่าน่าจะเกิดจากสมองน้อยอักเสบ เกิดจากการที่เขาภูมิต้านทานสร้างมามากเกินไป เหมือนทำให้กระทบกระเทือน เหมือนเราคอแดง แต่ไปเกิดตรงสมองน้อย เกี่ยวกับการทรงตัว ทำให้ต้องใช้เวลา ให้สเตียรอยด์แบบฉีดเข้าเส้น ให้ประมาณ 7 วัน แล้วกลับมากินที่บ้านต่อ น่าจะนานเหมือนกัน

ดวงดาว : เขาเลยเหมือนกินอะไรไม่อิ่ม กินเยอะมาก กลับมาบ้านก็ยังยืนไม่ได้นะคะ นึกภาพคนนอนบนเตียง 11 วัน ขาไม่ค่อยมีแรง ต้องค่อยๆ กลับมาหัดเดิน เราก็คอยสังเกตเขาตลอด ห้ามขึ้นบันได ดูเขาทุกฝีก้าว ก็ค่อยๆ ฟื้นตัว

รักษาวิทยาศาสตร์ก็ส่วนนึง แต่ก็พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย?

ดวงดาว : ใช่ ตอนนั้นเราเป็นเพื่อนกับคุณดวงใจ เขาโทรมาหาเราว่าแตไปขอลูกจากพระครูบาไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่จุดธูปแล้วบอกท่าน ว่าลูกเราเป็นแบบนี้ ขอท่านสิ ก็เล่าให้พ่อกับแม่เขาฟัง ตัวเราเองออกมาจุดธูปกลางแจ้งคืนนั้นเลย บอกกล่าวท่านว่าตอนนี้มียาเป็นแบบนี้ ขอให้หมอรักษาให้หายได้ถูกจุด ถ้ามียาหาย เราจะไม่ทานเนื้อสัตว์เลยตลอดชีวิตทุกวันพุธ มียาเกิดวันพุธ จะไม่กินเนื้อสัตว์ทุกวันพุธตลอดชีวิต เพื่อเป็นกุศลให้กับหลาน เราก็บอกพ่อแม่เขา พ่อแม่เขาก็จุดธูปกลางแจ้งเหมือนกัน

เติ้ล : งดกินเนื้อสัตว์เดือนนึง จากนั้นก็ไม่กินเนื้อสัตว์ทุกวันพุธเหมือนย่า

จากนั้นมาเกิดอะไรขึ้น?

เติ้ล : อาจจะเพราะยาเขาครบโดสด้วย เขาก็เริ่มดีขึ้น จากลุกขึ้นมานั่งได้ ก็เริ่มเดินได้ แต่ระหว่างเดินได้ก็ยังเดินแบบทรงตัวไม่ได้นะ คุณหมอที่ดูแลเขาตั้งแต่เด็ก ก็น่ารักมาก เอาใจช่วย ตอนหลังเขาลุกเดินได้มากขึ้นเพราะอยากกลับบ้าน

...

ดวงดาว : พวกเราดีใจแทบแย่เลย

ตอนนี้หายหรือยัง?

เติ้ล : หายแล้วครับ เต้นทุกวัน ก็ซนได้เต็มที่เลย

ดวงดาว : น้องเติ้ลกับมียา ตอนเลี้ยงเหมือนกัน เขาชอบแสดงเหมือนกัน เสื้อผ้าต้องเลือกเอง นุ่งกางเกงสีเขียว เสื้อสีแดง ซึ่งเราบอกไม่ได้ แต่เขาไม่เอา เขาเป็นตัวเดียว ต้องเข้าห้องน้ำตลอด เอาน้ำเสยผมให้ตั้ง คิดพลอตแสดงเอง ให้พี่น้องเล่น เขาเป็นพระเอกตลอดเวลา เป็นพระเอกที่โดนยิงตายไม่ได้นะ เขาต้องไม่มีการตาย ไปสมัครกับคุณตา อยากเล่นหนัง ไปแสดงให้ดู คุณตาก็เลยให้เล่นหวานมันฉันคือเธอมั้ง แต่ตอนเขาเรียนอนุบาลมีแมวมองมาดูเขาที่โรงเรียนเอาไปถ่ายโฆษณา ยาสีฟันดาร์กี้ โดยไม่รู้ลูกเต้าเหล่าใคร ไปดูได้ตั้งแต่ตอนนั้น มีแวว พ่อลูกไม่ได้ต่างกันเลย

เปลี่ยนพี่เลี้ยงมาแล้ว 12 คน จริงมั้ย?

เติ้ล : ใช่ 6 ขวบ 12 คน

ทุกคนผ่านการสัมภาษณ์จากคุณย่า?

เติ้ล : สองคนแรกไม่ได้ผ่าน แต่หลังจากนั้นผ่านคุณย่า

คุณย่าสกรีนยังไง?

ดวงดาว : เราให้เขาดูแลสิ่งที่เขารักที่สุดในชีวิต ก็อยากฟังทัศนคติ ดูท่าทางเขา แต่สุดท้ายจริงๆ แล้วถ้าถามอาดาว มันเหมือนต้องบุญกุศลคู่กันได้ถึงแมตช์ลงตัว ก็มาพี่ปาล์มนี่แหละ จริงๆ คนแรกก็ดีนะ ป้ามล ตอนนี้มียาไม่เคยลืมป้ามลเลย

...

กระแต : คนแรกเขาเป็นแม่บ้านมาก่อน แล้วอยู่จนเราท้อง จนเราคลอด แต่อยู่ประมาณเกือบๆ ปี เขาไปกลับไม่ไหว

ดวงดาว : ด้วยสรีระเขาด้วย เขาอ้วน การคล่องแคล่วมียาก็มีเยอะมาก

เติ้ล : เราเปลี่ยนช่วงที่พัฒนาการเติบโตของเขาเปลี่ยนแปลงไปด้วย เขามีความคิดแบบใหม่ ไม่ชอบใครมาดุเขา ใครบังคับเขา หลอกผีเขาจะไม่ได้ เราไม่ชอบ

ดวงดาว : แต่ละบ้านการเลี้ยงดูแตกต่างกัน ดังนั้นคนกำหนดทิศทางการเลี้ยงดูต้องเป็นพ่อกับแม่ ไม่ใช่พี่เลี้ยง พี่เลี้ยงจะมากำหนดไม่ได้ว่าซ้ายขวา ต้องพ่อกับแม่เท่านั้น เพราะคนนี้คือเลี้ยงเขาไปจนกว่าจะเติบโต

คุณย่าเป็นฝ่ายสปอยล์?

ดวงดาว : ก็แหม มีหลานสาวคนเดียว แต่เวลาจะซื้ออะไรให้หลานก็ถามแม่เขาก่อนนะ ว่าย่าอยากซื้ออันนี้โอเคไหม

ชีวิตจริง ไม่ได้สปอยล์เลย แค่ทุบบ้านเพื่อตามใจหลาน ดูฮวงจุ้ยเพื่อความสบายใจของหลาน?

ดวงดาว : ตอนนั้นได้คุยกันอยู่แล้วว่าถ้าเขาคลอด จะเอาลูกมาอยู่กับเรา เราเลยต้องดูนิดนึง ฮวงจุ้ยยังไง นอนห้องไหนดี วางอ่างล้างมือตรงไหน ต้องทุบแล้วทำ จากห้องเรามีห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นดีๆ ก็ไม่มีแล้ว ต่อมาเป็นห้องนอนของเขา จนถึงวันนี้เราถามเขา เพราะอยากเอาบ้านเรากลับคืนมา ถามว่าน้องจะยังไง เขาบอกน้องยังมาอยู่ ถ้ามาแล้วแม่เปลี่ยนแปลงแล้วน้องจะนอนที่ไหน สรุปบ้านก็ยังเหมือนเดิม กี่เดือนไม่รู้ถึงมานอนกับแม่ที

...