สตรองตัวแม่ สำหรับ หนิง ปณิตา ล่าสุดมาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดเรื่องราวในชีวิต พร้อมเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรก พร้อมเล่าวินาทีช็อกถูกเดินมาขอหย่า ไม่คิดว่าจะมีคำพูดนี้ออกมา
แล้วมาสิ้นสุดที่การหย่าครั้งนี้ได้อย่างไร?
หนิง ปณิตา : ถูกเดินมาขอหย่า
เขาเป็นฝ่ายเดินมาขอหย่า?
หนิง ปณิตา : ใช่ค่ะ
การที่เขาเดินมาหย่าตรงนั้นเราช็อกไหม?
หนิง ปณิตา : ช็อกนะคะ คือไม่คิดว่าจะมีคำพูดนี้ออกมา
ช็อกวันนั้นเกิดจากการแค่ไม่คิดในเชิงของการเป็นครอบครัว หรือมันยังมีความอกหักอยู่?
หนิง ปณิตา : ความอกหัก ณ วันนั้นไม่มีเพราะวันนั้นไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้ฟูมฟาย ไม่ได้มีอาการแบบดิ่งเศร้า คือช็อกแค่ว่ามาเบอร์นี้เลยเหรอเล่นเบอร์นี้จริงๆ เหรอ
คือเข้าใจเลยว่าเวลาผู้หญิงที่แบบเราถอยไปสุดแล้ว อยู่อย่างนี้ก็ได้ไม่เป็นอะไรอยู่กันเป็นครอบครัว แต่พอวันหนึ่งดันกลายเป็นฝ่ายที่เขาพยายามจะบอกว่าออกไปจากชีวิตฉันในฐานะคู่ชีวิตเสีย
...
หนิง ปณิตา : ก็เลยเกิดการที่ไปเซ็น
ตอนเซ็นรู้สึกอย่างไรบ้าง?
หนิง ปณิตา : โล่งค่ะ เพราะว่าวันที่บอกว่าขอเซ็นเราก็จะต้องมีการบอกกล่าวผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการ ก็จะมีผู้ใหญ่ห้าม แล้วก็รั้ง แล้วก็ดึง ซึ่งตอนนั้นเราก็ถอยนะเราก็โอเคยังไม่อะไรใดๆ จนมีการมาขอพูดเป็นครั้งที่ 2 เราก็เลยตัดสินใจเลยค่ะ
ซึ่งในที่สุดหลังจากทุกอย่างดำเนินหน้าไปมันก็มีเรื่องของมือที่สามชัดเจนแล้วมันก็มีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น ก็ตามที่เป็นข่าวอีกในที่สุดเรื่องนี้ก็มีผลที่ค่อนข้างจะถือว่าสิ้นสุดทางกฎหมาย ก็คือหนิงฟ้องไปหลักสิบล้านบาทแล้วในที่สุดจบลงที่
หนิง ปณิตา : 3 ล้านบาทค่ะ
3 ล้านนี่คือศาลตัดสิน
หนิง ปณิตา : ก็มีการเจรจากันที่ศาลจาก 10 ล้าน มา 7 ล้านบาท มา 6 ล้านบาท มา 4 ล้าน มา 3 ล้านบาท
แต่ภาพที่ทุกคนค่อนข้างที่จะแปลกใจก็คือดูเหมือนว่าเราเกิดความเห็นอกเห็นใจกันในระหว่างของการดำเนินคดีความนั้น?
หนิง ปณิตา : ก็เห็นใจเขาในส่วนหนึ่งหนิงถึงยอมที่จะถอยนิดหนึ่งเพราะมีคำพูดของศาลคำหนึ่งพูดกับหนิงว่า คุณหนิงจะไปเรียกตัวเลขแบบนี้เพราะคุณหนิงเอาต้นทุนชีวิตของตัวเองมาตั้งเป็นมูลค่า คือ หนิงชี้แจงหมดเลยนะคะ ว่าทำไมหนิงเรียกเป็นตัวเลขเท่านี้เพราะว่าในระหว่างทางที่เกิดปัญหาเนี่ยหนิงสูญเสียอะไรไปบ้าง จำนวนเงินประมาณเท่าไร และค่าฮีลใจหนิงอีกประมาณเท่าไร หนิงคิดจากตัวเลขที่มันน่าจะเป็นแล้วก็ไม่โอเวอร์ เขาก็บอกว่าโอเคคุณหนิงคิดจากต้นทุนคุณหนิงแต่ต้นทุนของอีกฝ่ายหนึ่งถ้าเขามีให้คุณหนิงได้แค่นี้ นั่นคือเต็มที่ของเขาแล้ว คุณหนิงถอยสักหน่อยได้ไหม ต่อให้คุณหนิงถอยคุณหนิงก็ไม่ได้เสียอะไรแล้วพอที่ความได้มีการถามคำถามบางคำถามเขาก็ได้ชี้แจง ซึ่งหนิงก็คิดว่าโอเคเป็นเหตุผลที่น่าจะพอ พอลดให้ได้บ้าง
เหตุผลนั้นคืออะไรเอ่ย พอบอกได้ไหม?
หนิง ปณิตา : เขาบอกว่าตัวเขาก็โดนหลอก หนิงขอไม่ลงรายละเอียดแล้วกันนะคะ เขาบอกว่าตัวเขาก็โดนหลอก หนิงก็จะพูดกลับไปประมาณหนึ่งว่า แต่คุณก็เต็มใจให้หลอก อย่างนั้นฉะนั้นการที่คุณก็เต็มใจให้หลอกเนี่ยคุณก็ต้องรับผิดชอบความเต็มใจ เพราะนี่มันทำให้ครอบครัวอีกครอบครับหนึ่งเขาเสีย
ที่ถามคำถามนี้เพราะว่าถ้าหนิงเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีใครรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับหนิงเลย มันมีคนโดนหลอกเยอะแยะให้มาเป็นมือที่สาม แต่พอบังเอิญเกิดกับคนทั้งประเทศรู้ คนคนนี้ใช้ชีวิตอยู่กับใครบอกว่าโดนหลอก มันค่อนข้างแอบยากนิดหนึ่ง
หนิง ปณิตา : แต่หนิงก็ถอยให้คุณแล้วนะ หนิงเต็มที่ได้เท่านี้จริงๆ
ซึ่งถ้าพูดตรงๆ วันนั้นความสัมพันธ์ของเขากับผู้ชายก็สิ้นสุดลงด้วยแล้ว?
หนิง ปณิตา : ตอนนั้นรู้สึกว่ายังค่ะ
ฝ่ายชายมีการช่วยเรื่องของค่าใดๆ ของฝั่งนู้น มันก็มีความรู้สึกมากพอถึงขนาดที่ทำให้เขาเดินมาขอหย่ากับเรา ถ้ารักกันมากขนาดนั้นแล้วจะฟ้องหย่าแบบนี้จ่ายให้ไหม อันนี้พูดถึงฝ่ายชาย
...
หนิง ปณิตา : มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นนะคะ
แต่มันไม่มีใช่ไหม?
หนิง ปณิตา : (ทำหน้านิ่ง)
...