หลังจากที่มีเรื่องมีราวกับ บู๊ พี่ชายของ แจง ปุณณาสา ซึ่งอีกฝ่ายก็ออกมาแฉ 2 ผัวเมีย แจ๊ส ชวนชื่น และแจงอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดกับคดีขโมยรองเท้าสุดรักของ แจ๊ส ไปขาย ทำเอา แจ๊สและแจง ไม่ขอทนอีกต่อไป ขอออกมาแถลงข่าว พร้อมหลักฐานเพื่อฟาดอีกฝ่าย หลังจากที่ปล่อยให้อีกคนโจมตีมานาน พร้อมกับท้าให้มาเจอกันเพื่อเคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งแจงและแจ๊สเผยว่า 

วันที่เราทราบเรื่อง?

แจง : จริงๆ เราพอทราบมาคร่าวๆ แล้ว แต่ว่าเรายังไม่มีหลักฐาน ประกอบกับที่เขาไลฟ์สดแล้วมีคนอัดเอาไว้ในช่วงที่เขาบอกว่า มีคนถามเขาไปว่ารองเท้าพี่แจ๊สป่านนี้ไปแล้วสิ เขาก็เลยบอกมาทั้งหมดว่าเขาเป็นคนเอาไป ก็เอาหลักฐานอันนี้ส่งให้ตำรวจ แล้วก็นัดกับตำรวจว่าเราจะว่างวันที่ 29 มีนาคม

เพราะฉะนั้นเราก็เลยผ่านไปหน้าบ้านก่อน เราก็ตกใจว่าประตูหน้าบ้านแตกไปหนึ่งบาน เราเลยโทรไป 191 เพื่อแจ้งเหตุให้ตำรวจเข้ามาดู เพราะเราไม่มั่นใจว่ายังมีคนอยู่ในบ้านหรือเปล่า เพราะมีช่วงนึงที่เขาเข้ามาแล้วออกไป เราเลยให้ตำรวจเข้ามาที่บ้าน ทีนี้พอตำรวจมาเห็นประตูแตกแต่มีการล็อกกุญแจด้านนอกไว้ เขาเลยแจ้งไปที่ สน.มีนบุรีเพิ่มเติม เพื่อให้กำลังเสริมเข้ามา

เราในฐานะเจ้าบ้านก็ไม่มีกุญแจ ก็เลยงัดเข้าไป ตรวจดูในบ้านมีร่องรอยของคนอยู่ ก็เลยไปตรวจที่ห้องชั้น 3 ที่เป็นห้องรองเท้าก่อน ซึ่งเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว เราถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ว่ามาเยี่ยมบ้านหลังเก่า เลยมีรูปภาพและวิดีโอของรองเท้าที่ยังอยู่ที่นั่น ส่วนคนที่ถามทำไมไม่ย้ายของออก เพราะเรายังไม่ได้ทำห้อง

แจ๊ส : ยังไม่ได้ทำห้องเสื้อผ้าผม เลยเก็บรองเท้าโซนที่เป็นคอนเวิร์สไว้บ้านหลังนี้ คู่อื่นก็เก็บไว้ก่อน

...

แจง : บ้านหลังนี้ ห้องนั้นคนที่มีกุญแจคือพี่ต่อ คือเพื่อนแจ๊สที่จะเป็นคนดูแลของทั้งหมดของแจ๊ส ทีนี้ห้องนั้นมันเปิดได้เลยแปลว่ามันมีร่องรอยการถูกงัด พอเข้าไปพบว่ารองเท้าหลายๆ คู่ ที่เป็นแรร์ไอเทมหายไป ก็กลายเป็นว่าวิดีโอนั้นมันมีมูลความจริง ตำรวจก็เลยเรียกกองพิสูจน์หลักฐานทั้งหมดเข้ามา แต่ทีนี้ในห้องนึงที่เป็นชั้น 3 ตรงข้ามห้องรองเท้า มีร่องรอยของการพักอาศัย แล้วพบอุปกรณ์เสพยา พบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วและยังไม่ได้ใช้

ทำให้รู้ว่าบ้านเรามีคนอยู่จริงๆ แล้วลงไปชั้น 2 ห้องนอนเก่าของแจงกับแจ๊ส พบห้องนั้นล็อกอยู่ตำรวจเลยงัดพังประตูเข้าไป ก็พบว่าแอร์เหมือนเพิ่งจะปิดไป ทิ้งของใช้ส่วนตัว เช่น นาฬิกา โทรศัพท์มือถือไว้ แปลว่าวันนั้นเขาหนีออกไปทางหลังบ้าน คลาดเคลื่อนกัน คิดว่าเขาน่าจะรู้เพราะแจงให้คนไปดูหน้าบ้านแล้วรอบนึง เขาเลยหนีไป แต่ทั้งหมดทั้งมวล มีคำถามว่าทำไมแจงถึงเงียบได้ขนาดนี้ แจงไม่ได้เงียบนะ ตั้งแต่เขาออกมาไลฟ์เดือนธันวาคม แจงได้แจ้งความไว้ที่ สน.ลาดพร้าว โดยมีทนายเป็นตัวแทนไปแจ้งความวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ที่แจงเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร พูดตรงนี้เลยว่าสิ่งที่แจงและครอบครัวโดนกระทำมามันสุดจริงๆ แล้วทำไมเราต้องมาพูดให้ทุกคนเข้าใจเราด้วย การที่เราไม่พูดกลับกลายเป็นว่ามองว่าเรายอมรับ แล้วเราไม่เคยปกป้องแจ๊ส

แจ๊ส : บอกก่อนว่าตอนนี้ผมกับแจงกำลังสร้างตัวกัน ผมเชื่อว่าไม่มีใครยอมใครนะ ถ้าใครมาร้ายกับคุณ แต่ผมต้องเงียบ ผมต้องทำงานหาเงิน ถ้าไปปะทะบางทีมันมีผลกับงาน แล้วบางทีที่เขาไลฟ์เหมือนต้องการให้พวกผมเสียชื่อเสียง ไม่มีงาน แต่เมื่อวาน (28 มี.ค. 67) เงียบไม่ไหวแล้ว คนเราไม่ได้อยากโดนกระทำย่ำยีบ่อยๆ หรอก

รู้เหตุผลที่เขาทำไหม ทำไมทำซ้ำๆ?

แจง : แจงก็นั่งถามตัวเองนะว่าแจงผิดอะไร นั่งย้อนไป 2 ปี ตั้งแต่ออกจากคุกมาช่วงโควิด วงไม่มีงาน พอเริ่มมี 1 งาน 2 งาน ก็ให้มาช่วยขับรถส่งของ ทีนี้เริ่มมีฤทธิ์กับที่บ้าน เอารถส่งของที่เป็นของบริษัทแจ๊สไปขนหน้าบ้านแม่ที่มีนบุรี มีเรื่องไปเคลียร์ที่โรงพัก แจงไม่เคยเอามาบอกเพื่อทำลายใครนะ

แต่วันนี้แจงกับแจ๊สโดนทำลายจนแย่ไปหมดแล้ว แจงขอพูดบ้าง (โชว์ภาพ) เป็นภาพที่ไปเคลียร์กันที่ สน. มีนบุรี มีท่านผู้กำกับท่านเดิมอยู่ในเหตุการณ์ ก็จบด้วยการออมชอม จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ผ่านไปแป๊บนึงเพราะเหตุผลอยากจะมีรถขับ แจงซื้อรถ Civic ปี 2564 เนื่องจากว่าน้องมือกีตาร์ไม่มีเงินส่ง กำลังจะถูกยึด แจงซื้อคืน 7.9 แสนบาท เพื่อให้เขา

ถามว่าทำไมแจงโอนชื่อให้เขาเลย เพราะเหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้นนานมากแล้วแต่ไม่อยากพูด ไม่อยากให้มีปัญหาถึงตัวแจงและแจ๊ส เพราะแจงเชื่อว่าเขาไม่ได้มีความบริสุทธิ์ใจ ต่อมาเมื่อได้รถไปมีปัญหาอีก นี่คือหนี้การพนัน (โชว์หลักฐาน) สิ่งที่เอาหนี้สินมาให้แจงกับที่บ้านใช้เยอะมากนะ แต่แจงก็ทนเพื่อให้โอกาสเขา แจงกับแจ๊สหาเงินเหนื่อยมาก แต่ต้องมาทำอะไรแบบนี้

แจงแค่มองว่ามันไม่แฟร์กับแจงเลย กับสิ่งที่เขาออกมาด่าแจง โพสต์ว่าแจงนู่นนี่นั่น ลามมาถึงลูกแจง ขู่ฆ่า ขู่ปืน แจงเก็บหลักฐานไว้หมด บางทีคนเราโดนขู่มากๆ มันไม่ได้รู้สึกดีนะ ตอนแรกแจงไขว้เขวนะ รู้สึกว่าแจงประมาทเพราะว่าสามีเราทำงานในที่แจ้ง ลูกเราอีก จนเมื่อวานนี้รู้สึกว่าแจงยอมไม่ได้แล้ว แจงขอใช้ความเป็นผู้หญิงออกมาสู้เลย ออกมาเลย มาวัดกัน ว่าจะเอายังไง

...

แจ๊ส : คือเมื่อวานมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน จิตมันหลุดจริงๆ ทั้งผมทั้งแจง จิตหลุด แต่ผมมีสติที่ผมจะพูด เพื่ออยากให้ทุกคนรู้ว่าจริงๆ มันคืออะไร อันไหนมันจริง อันไหนไม่จริง คนเวลาฟังเขา คนเชื่อเยอะ เขาเป็นญาติแจง แต่ถ้ามาคุยกันต่อหน้าจริงๆ เอาจริงๆ เลยนะ คุยกันต่อหน้าแบบนี้ คุณได้รู้แน่ว่าจริงๆ มันคืออะไร

แจง : ที่แจงไม่เอาหลักฐานทุกอย่างออกมาพูดหรือให้ใครเห็น เพราะแจงคิดว่ามันเป็นเรื่องของคนในครอบครัวและเราไม่ได้ทำ เราใช้หนี้ให้คุณจริงๆ เสียใจมาก (ตอนนี้ยังนับญาติกันได้มั้ย?) ไม่ได้ค่ะ มันเสียใจจนพูดไม่ออก ทุกคนบอกว่าทำไมแจงไม่ออกมาพูด ทำไมแจงไม่ปกป้องแจ๊ส จริงๆ ทุกคนไม่มีใครรู้เลยว่า ในใจเราทำอะไรกันอยู่ เขาขู่เราสารพัด เรามีหลักฐานครบค่ะ เราห่วงความปลอดภัยคนในครอบครัว ตอนแรกแจงเป็นบ้าเลย ถามแจ๊สดู

แจ๊ส : ต้องบอกกันก่อนเลยนะ ผมไม่เคยมีปัญหากับใครอยู่แล้ว ถ้าผมกับครอบครัวเป็นอะไร ก็คือเขา แค่นั้นเองที่ผมจะบอก ผมไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหนด้วย

แจง : ตอนนี้ไม่ระแวงแล้ว ตอนแรกๆ ระแวงมาก แจงเป็นหนักกว่าทุกคนเพราะเราเป็นโรคแพนิก เอาจริงๆ นะที่ไม่อยากเอาหลักฐานออกมาเพราะอยากให้เขามีเส้นทางทำมาหากิน แจงไม่เคยทำร้ายใครเลย ตลอดเวลาที่อยู่กับแจ๊สมา 13 ปี ไม่เคยสร้างเรื่องลำบากใจให้ใครในบ้านทั้งสิ้น

...

แจ๊ส : ที่ออกมาพูดผมไม่ได้จะมาพูดเอาความดีมาโชว์ว่า ผมดีกับเขา อันนี้ผมพูดจากใจ ผมพูดจริงๆ จากที่ผมเห็นมาคบกับแจงมา แจงดูแลเขามาตลอดเลย แจงไม่เคยทิ้งพี่น้อง แล้วไม่เคยทำร้ายพี่น้องด้วย แต่ครั้งนี้มันหนักจริงๆ มันหนักมากๆ แล้วตอนนี้ในส่วนของผม เรื่องรองเท้า ผมโกรธ ตังค์ผมกว่าจะหามาได้ พ่อแม่ผมไม่ได้รวย

ผมทำงานหาเงินสุจริตหาเงินซื้อของของผม แล้วคุณมาเอาของของผม พูดตรงๆ ตอนนี้ผมซื้อใหม่ก็ได้ แต่ความรู้สึกตรงนั้นที่ผมเก็บไว้ มันตั้งแต่ครั้งแรกในชีวิตของผมที่อยากมีรองเท้าคอนเวิร์สที่ผมอยากได้คู่แรกของผม มันอยู่ในตู้นั้นหมดเลย ตอนนี้คุณแสดงตัวเถอะ แสดงตัวออกมาเลย คุณอยากจะออกรายการกับผม อยากให้คนในประเทศรู้ คุณมาได้เลย ขอให้คุณแสดงตัวเถอะตอนนี้ พวกผมพร้อมแล้ว ผมพูดเสมอว่าผมพร้อมกับคุณมากๆ คุณอยู่ที่ไหน

แจง : แล้วอีกอย่างก่อนที่จะมาเป็นแบบนี้ พอเราใช้หนี้สินให้เขาครบหมดแล้วประมาณ 7 แสนกว่าบาท หลังจากนั้นก็ไปหาเรื่องแม่อีกที่บ้านเมื่อปีที่แล้ว จำได้ว่าวันที่ 14 ก.พ. ทุกวันเกิดแม่จะมีการทำบุญอยู่หน้าบ้าน เขาเดินเข้าไปแล้วก็ไปหาเรื่อง เจตนาที่เข้าไปมันไม่ดี เข้าไปต่อยหลาน

แจ๊ส : แล้วไปต่อยพี่ชายของแม่แจง แล้วลูกเขาก็มาช่วย แล้วเขาก็โดน พอเขาโดนก็มีอาการ สิ่งที่เขาพูดบอกว่าคนในบ้านเอาปืนจะไปยิงเขา ในบ้านนั้นไม่มีใครพกปืนครับ พอเขาออกมาแล้วรถคันนั้นเป็นรถวงผม รถที่ขนเครื่องติดรูปแจ๊สเลย

แจง : อันนั้นเป็นครั้งแรก แต่ครั้งที่สองแล้วพอไป สน.ก็กลายเป็นว่ามีเรื่องกับน้องชาย น้องชายเป็นคนแจ้งจับจนเขาติดคุกไปเดือน มี.ค. ตั้งแต่เดือนมีนาเขาบอกว่าแจงไม่เคยส่งเงินอะไรเลย เราส่งทุกอย่าง ถ้าไม่ใช่แจง ใครจะส่ง เพราะไม่มีใครเอาแล้ว ก็มีแต่อีนี่คนเดียวเลย สุดท้ายอยู่คุกได้ประมาณ 3 เดือน ส่งจดหมายออกมา (โชว์หลักฐาน)

...

ว่าขอให้แจงและแม่ยอมความ จะทำตัวเป็นคนดี จะขอโทษทุกคน จะเป็นคนดีของสังคม จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน นี่คือหลักฐาน (โชว์หลักฐาน) ไม่อยากเอาออกมาเปิดเลยนะ มันเหมือนประจานคนในบ้าน แต่แจงก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

ครั้งนี้แจงต้องออกมาปกป้องแจง ปกป้องแจ๊ส ปกป้องครอบครัวที่แจงดูแลอยู่ ไม่ใช่ว่าแจงจะกลัวหดอยู่รูหนูอย่างเดียว บอกเลยนะบู๊ กูคนเก่าหายไปแล้วนะ นี่คือคนใหม่นะ เนี่ยหลักฐานที่เขาออกจากคุกมาแล้ว เราครอบครัวนัดกินข้าว ประชุมเอายังไง

สรุปสุดท้ายเพื่ออนาคตเขาไปเซ็นให้ออก บอกว่าข้อแม้ หนึ่ง ต้องมานั่งคุยกัน แล้วต้องเซ็นสัญญาเลยว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกต่างคนต่างอยู่ สุดท้ายหนี ไม่มาทำตามสัญญาที่พูดสักคำ แล้วก็เริ่มเลย พอแจงไม่เอาตัดขาด เราไม่เคยโดนไง คนที่บ้านเราโดนหมด เราคนเดียวที่ยังไม่เคยโดนพอเราตัดไปวันนั้นไม่ได้จ่ายค่าใดๆ ทั้งสิ้นก็มาที่นี่ (ชี้ตัวเอง) เราเลยรู้ว่า อ๋อ..ตอนที่พวกเขาโดนมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เขาคิดแต่ว่าเรากลัวแสงมาก กลัวว่าเราจะไม่มีงาน ยังไงเขาโพสต์ออกมาแจงมันไม่กล้าหรอก

แจ๊ส : ตอนนี้ผมก็ฝากบอกผู้ใหญ่ทุกคน ผมไม่ทำอะไรเสื่อมเสียแน่นอน แต่ผมจะทำในสิ่งที่ถูกต้องที่ผมควรจะทำ ถ้ามันมีผลกระทบกับอะไรตรงไหนผมขอโทษด้วย เพราะผมอยู่ในแสง ผมผิดอยู่แล้ว แต่ว่าที่เอามาพูดจะเชื่อหรือไม่เชื่อพวกผมก็ได้นะครับ แต่สิ่งที่เขาพูดใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แค่คุณดูว่าอะไรมันคือความเป็นจริง ผมอยู่กับความเป็นจริงมาตลอดชีวิต ผิดผมกล้ายอมรับผิดถูก ก็คือถูกไม่ตะแบง คือสรุปเลยนะ ตอนนี้เขาหนีอยู่ไม่รู้ว่าหนีไปไหน ใครที่เห็นเขาอยากให้ทุกคนได้รู้และช่วยพวกเราหน่อย ช่วยกันแจ้งเบาะแส ให้เขามามอบตัว หรือเขาข้องใจก่อนที่เขาจะมอบตัวอยากจะพูดอะไรที่คลายความสงสัยของทุกคน มาพูดรวมกันเลย

จะหยุดพฤติกรรมเขาได้ยังไง?

แจง : เอาเป็นว่าแจงไม่ต่อความยาวสาวความยืดแล้ว เขาอยากพูดอะไรปล่อยเขาเลย เพราะเราไม่มีเวลาว่างเหมือนเขา เรามีงานที่ต้องทำ เราต้องรับผิดชอบอะไรหลายอย่าง ไหนจะงานส่วนตัว เวลาพักผ่อน เอาจริงๆ อินเทอร์เน็ตที่เข้าไปดูเขาแจงยังเสียดายเลย ส่วนเรื่องคดีรองเท้าเราดูครบหมดแล้วว่าใครเป็นซื้อขาย มาจากทางไหน ต้องขอบคุณน้องที่เอารองเท้ามาคืนให้ เพราะเขามาแสดงความจำนงเลยว่า ไม่อยากมีเรื่อง เราต้องขอบคุณที่เข้ามาในวันแรก และน้องผู้หญิงที่มาชี้แจงว่าเขาได้รับรองเท้ามาจากไหน แล้วก็มีรูปการซื้อขาย อันนี้จะให้ตำรวจเป็นคนจัดการแทน เรากลัวว่ามันจะไปยุ่งกับรูปคดี

นอกจากรองเท้ามีอะไรหายอีกบ้าง?

แจง : บ้านหลังนั้นไม่ค่อยมีอะไรค่ะ ไม่มีใครอยู่แล้ว มีคนถามทำไมไม่ติดกล้องวงจรปิด คือถ้าจะติดแจงต้องติดไวไฟต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก แล้วบ้านหลังนั้นกะไม่ให้ใครอยู่จริงๆ มิเตอร์น้ำก็โดนยึดไปแล้ว แจงคิดว่าไม่มีใครสามารถอยู่ได้อะ แต่เขาอยู่ได้ แล้วแจงก็แจ้งทาง รปภ.ของทางหมู่บ้านตามคำแนะนำของคุณตำรวจ คือส่งรูป ชื่อ ใบหมายจับ ให้เรียบร้อยแล้วว่าไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องกันแต่ตอนนี้มีคดีเกิดขึ้น ก็รบกวนทางหมู่บ้านและ รปภ.ช่วยกันเป็นหูเป็นตา และแจ้งกลับมา

แจ๊ส : และล่าสุดที่ผมคุยกับเขาทะเลาะกับเขาอยู่ เพื่อนๆ เขามาโพสต์รูปปืน ถ้าผมเป็นอะไรคือเขา ตอนนี้ผมไม่ยอมจริงๆ แต่ผมจะไม่ทำก่อนนะ ถ้าคุณทำอะไรพวกผมก่อนก็ตามนั้น

คิดว่าเขาจะไปถึงจุดนั้นไหม?

แจ๊ส : ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมแค่บอกว่า ตอนนี้ทุกคนรู้แล้ว นั่นแหละ
แจง : เขาก็มีรูปปืน แต่เมื่อเช้าเข้าไปดูเขาก็รีบไปลบนะ เอาง่ายๆ ในเฟซบุ๊กเขาอะ มีแต่ขู่
แจ๊ส : แต่ตอนนี้เราก็เก็บหลักฐานหมดแล้วนะ รู้หมดแล้วว่าใครคนไหน ตอนนี้ผมตั้งรับเต็มระบบเหมือนกันเพราะว่าผมอยู่ในแสง ผมไม่ได้อยู่ที่มืดไง

เขาขู่อะไรบ้างที่เรารับรู้ ณ ตอนนี้?

แจง : ไม่รู้นะ เอาจริงๆ แจงอ่านใจเขาไม่ถูกเลย อย่างเช่นเมื่อวานแจงขึ้นไลฟ์ด้วยกันเขาก็คงน่าจะตกใจพอสมควรเพราะแจงไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน เอาง่ายๆ ทุกวันนี้ที่แจงเงียบ แจงห่วงแจ๊สคนเดียว ห่วงครอบครัวอย่างเดียว อดทนทุกอย่างเพื่อไม่ให้เขาเสียหาย แล้วเขาเสียหายเรื่องเกิดจากญาติพี่น้องเราอะ เรายิ่งทุกข์นะ แจงทุกข์มากนะทุกคนแจงบอกเลย ว่าการที่ออกมาไม่ใช่ว่ามีความสุขอะ คือเราวางแผนเราต้องทำยังไง เราต้องคุยกับตำรวจยังไง เรื่องไปถึงไหน ตอนนี้คดีไปถึงไหนแล้ว คือตามเองทุกอย่างเพื่อให้มันจบ เขาบอกว่ามาแกล้งเขามานัดเจอเขาตอนที่เขามีหมายจับ แจงถามคำเดียวเมื่อวันที่ 29 ตอน 11 โมงพวกแจงไปถึงหน้าบ้านถ้าคุณไม่ผิดคุณหนีทำไม ตอนนั้นยังไม่มีหมายจับด้วยซ้ำ

แจ๊ส : เขาอยู่ไหนแค่นั้นเองตอนนี้

เขามีอาการทางจิตไหม?

แจง : แจงว่าไม่น่านะ เพราะแจงกับน้องชายตอนนั้นที่เขาออกมาจากทัณฑสถานก็ให้น้องชายเป็นคนพาไปที่โรงพยาบาลรามคำแหง หมอก็บอกว่าเขาปกตินะ 

เคยคุยกับเขามั้ยว่าเขาอยากได้อะไรบ้าง? 

แจง : เคยคุยจนไม่รู้จะคุยอะไร คุยแต่เรื่องเดิมๆ เรื่องแบบนี้วนอยู่อย่างนั้น เอาจริงๆ คนเราอะ มันมีอดีตทุกคน แล้วยังไงต่อ ถ้าคุณไม่มูฟออนแล้วมาบอกว่าที่หมั่นไส้แจงเพราะว่าแจงไม่เข้าข้าง แจงจะเข้าข้างคนผิดได้ยังไง ในเมื่อมันผิด มันผิดก็คือผิด แล้วแจงต้องไปอยู่ข้างล่างกับเขาเหรอ ในเมื่อแจงเดินไปข้างหน้าแล้ว แล้วจะมีกี่คนที่มีเงินใช้ มีรถใช้ มีคนใช้หนี้ให้ มีบ้านให้อยู่ ค่าน้ำค่าไฟมีกี่คน 

แจ๊ส : พูดไปก็เหมือนลำเลิกบุญคุณ 

แจง : ใช่ มันไม่ดีไง เราเลยไม่อยากพูด แต่วันนี้มันไม่ไหวแล้ว มันไม่ไหวจริงๆ ไม่ต้องขู่ ไม่กลัว เพราะถ้าเรามัวแต่กลัวก็อยู่แต่ในจุดตรงนั้น เราออกมาไม่ได้เลย แต่วันนี้แจงพร้อมมาก คือ แมนๆ คุยกันเลยดีกว่า มาเลยมาคุยกัน 

คนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น มีปัญหาอะไรกัน? 

แจง : ก็ยังเป็นคำถามอยู่เนี่ย 

แจ๊ส : ผมสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในนี้นะ ถ้าผมพูดไม่จริง ขอให้ชีวิตผมฉิบหายเลย เมียผมไม่ได้ผิดอะไรกับเขาแม้แต่นิดเดียว ครอบครัวไม่มีใครผิดอะไรกับเขาเลย ช่วยมาตลอด จากที่แจงเล่าให้ผมฟัง เดี๋ยวจะหาว่ามาทีหลังแล้วมาพูด น้ำลาย เมียผมไม่ได้ผิด พวกผมไม่ได้ผิดอะไรเลยด้วยซ้ำ และผมไม่มีจุดอะไรด่างพร้อยกับตัวเขาด้วย แต่ใครอยากจะเชื่อก็เชื่อ แล้วแต่เลย 

มันกระทบกับแจ๊สเรื่องงานมั้ย? 

แจ๊ส : คนเราอยู่วงการบันเทิง รู้อยู่แล้วผมไม่พูดหยาบคายขึ้นไลฟ์กับเขา แจงก็ห้ามผมตั้งหลายครั้ง พี่ๆ ก็พร้อมจะช่วยทุกคน เราก็ต่างคนต่างห้ามกัน ถ้าพูดหยาบออกลูกนักเลง งานก็เสีย เพราะเราอยู่ในแสงสว่าง ก็อย่างที่บอกว่าอย่าไปให้ค่าเพราะเราอยู่ในแสง ก็ถูก แต่บางทีมันไม่ไหวนะ มันเป็นมานานแล้ว มันพาครอบครัวเดือดร้อน ต้องไปหาตำรวจ 

ตอนนี้โดนยกเลิกงานหรือแคนเซิลงานมั้ย? 

แจง : ไม่มีค่ะ แจงก็ยังเชื่อว่า แจงขอบคุณลูกค้ามากๆ ที่เชื่อในตัวเราและเข้าใจในตัวเรา 2 คนเ ราไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน เราทำงานให้ทุกคนเต็มที่ เรามาจุดนี้ได้ด้วยความสามารถและโอกาส เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่มี 2 อย่างนี้ เรามาถึงจุดนี้ไม่ได้แน่นอน เราไม่คิดจะทิ้ง 2 นี้อยู่แล้ว ขอบคุณลูกค้าที่เข้าใจ 

แจ๊ส : ก็ขอบคุณพี่ๆ ที่อยู่ข้างหลังด้วย ที่คอยเป็นห่วงเป็นใยว่าผมจะเป็นอะไรมั้ย ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนด้วย

อยากให้เรื่องมันจบยังไง? 

แจง : ไม่ แจงไม่มีอะไรเลย แจงถึงบอกว่า ก็ไม่มา 

แจ๊ส : ตอนนี้อยู่ที่เขาเลย เอาทีละอย่าง อันนี้หมายจับ หมายจับมาแล้ว ก็เคลียร์เรื่องจับกันก่อน ถ้าจับแล้ว คุณจะสู้คดีก็สู้ไป สิทธิ์ของคุณตอนนี้เอาแค่นี้ก่อน ส่วนถ้าติดใจข้องใจหรืออยากจะสัมภาษณ์ต่อหน้า ก็อีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้มันรวมหลายเรื่อง มันอยู่ที่เขา เขาจะกระตุกแบบไหน ทีละขั้นตอนค่อยๆ ไป แต่อันนี้เอานี่ก่อน 

แจง : เขาน่าจะไม่กลัวเข้าคุกมั้ย เพราะเขาก็เข้าๆ ออกๆ มาหลายรอบแล้ว 

กลัวว่าเขาจะลามมาที่ครอบครัวเรามั้ย? 

แจง : มาแล้วค่ะ มาแล้ว และแจงก็ไม่เข้าใจโซเชียลเท่าไร การที่แจงไม่มาพูดไม่ใช่ว่าแจงยอมรับความจริงทั้งหมดค่ะ 

ตำรวจยังจับตัวเขาไม่ได้? 

แจง : ก็ยังจับไม่ได้ ก็ยังนั่งไลฟ์สดอยู่

มีอะไรมาช่วยป้องกันเรามั้ย? 

แจง : เอาจริงๆ แบบแค่ทีมงานเรา เขารู้อยู่แล้วว่าเขาต้องดูแลพี่แจ๊สอย่างเต็มที่ เวลาเราไปเล่นร้านเหล้าก็จะมีการ์ดช่วยดูอยู่แล้ว เพราะว่าค่อนข้างดังพอสมควรนะ คนนั้น 

เราหวาดระแวงกับการใช้ชีวิตมั้ย? 

แจง : แต่ก่อน เมื่อ 2-3 เดือน มี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ไม่รู้ว่าจะกลัวทำไม รายละเอียดแจงบอกไม่ได้ ต้องลองให้พี่ตำรวจเป็นคนให้รายละเอียดดีกว่า ก็มาคุยกัน ถ้าไม่ผิดก็มาแก้ต่างให้ตัวเองสิ ไม่จำเป็นต้องหนีเลย 

เจอหน้ากันได้? 

แจง : อันนี้ตอบไม่ได้เหมือนกัน สำหรับแจงนะ คนมันสุดแล้วอะ แจงยังคิดว่าโอเคถ้าทำดีไม่ได้ดี ก็ไม่ทำกับคนนี้นะ กับคนอื่นแจงก็ทำอยู่ 

แจ๊ส : ตั้งแต่ตอนโกรธแจง ตอนไลฟ์ด่า ผมไปเกี่ยวอะไรด้วย ก็มาโกรธผม เอาปืนมาวางตรงโลโก้วง แต่ก็ลบไปแล้วนะ บอกว่าได้เปลี่ยนนักร้องแน่ ผมก็งงว่าไปทำอะไรให้ ไม่เข้าใจ ผิดอะไร ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกับผมเลย

แจง : ยังมีอยู่ แต่แจงมีหลักฐาน แล้วแจงอยากถาม เงินทั้งหมด ถ้าแจงไม่มีแจ๊ส ใคร แจงต้องทำอะไรถึงจะเอาเงินไปใช้หนี้ให้เขาได้ แล้วคนนี้ คือคนที่ทำมาหากินอยู่คนเดียว นอกจากไม่เห็นใจแล้วยังทำลายมันควรจะยืนอยู่บนสังคมนี้มัน แจงขอถามแค่นี้ เอาแค่วันนี้ แจงอยากขอบคุณแจ๊สและขอโทษแจ๊สแค่คนเดียว ไม่ได้ร้องเพราะอะไรนะ ร้องเพราะความแค้น มันแค้นจริงๆ 

ถ้าฝั่งนั้นไม่กล้ามาสู้หน้าเรา เราจะมีตัวกลางมั้ย?

แจง : ก็ให้ตำรวจจัดการอย่างเดียวเลยค่ะ ต่อไปนี้คือตัดขาด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น และบ้านที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ปัจจุบัน ซึ่งแจงแจ้งขายเอาไว้ในหมู่บ้านอยู่แล้ว และแจงขายในราคาถูกด้วย ตอนนี้มีคนติดต่อเข้ามาเรียบร้อยแล้ว ก็กำลังซ่อมบ้านและทำเรื่องซื้อขาย ตัดขาดไปเลยจบ จริงๆ บ้านหลังนี้ใครไม่มีที่อยู่ แจงจะให้อยู่ ตั้งแต่เด็กวง ใครไม่มีที่อยู่มาอยู่ที่นั่นได้เลย จนทุกคนแยกย้ายไปมีชีวิต ก็แยกย้ายกันออกไป แต่ถ้ามีแล้วมีปัญหาก็ไม่ต้องมี

เรื่องที่แจ๊สไปฉี่ใส่กระเป๋าแจง?

แจ๊ส : ไม่รู้ตัวจริงๆ

แจง : ไม่อยากจะเม้าท์ คืนนั้นเราก็เครียดมากว่าจะเอายังไงกับชีวิต ก็เลยโมโหกินยานอนหลับนอนซะเลย ตื่นเช้ามาเขาทำท่าแบบไม่รู้เรื่อง แล้วมาบอกว่า แจงๆ กระเป๋าแจงเปียกหมดเลย เราก็งงว่าเปียกได้ไงวะ เราก็รีบเอากระเป๋าออกไปนอกระเบียงเพื่อเทออก แล้วน้ำเต็มเลย และน้ำที่เทออกมามันเป็นสีเหลือง (หัวเราะ) คือแจ๊สชอบละเมอฉี่หลายรอบแล้ว

แจ๊ส : ไม่รู้ตัวจริงๆ ก็เอะใจว่ามันเป็นไปได้ยังไง คือน้ำตรงส่วนอื่นมันไม่มีเลย คงเล็งที่กระเป๋าอย่างเดียวเลย ไม่รู้จริงๆ เมาจนจำอะไรไม่ได้เลย ตื่นมาเราก็พยายามเถียงนะ แต่มันก็เยี่ยวนั่นแหละ ไม่รู้ด้วยว่ากระเป๋าใบละเท่าไร แต่เขาพูดว่าใบนี้เขาอยากได้มาก

แจง : ไม่ขอบอกราคาแล้วกันค่ะ (หัวเราะ) แต่มันหาไม่ได้ แจงกำลังจะเก็บคอลเลกชันนี้ เพราะเวลาไปเมืองนอกก็จะถามว่ายังมีอยู่มั้ย เขาก็จะบอกว่า sold out แล้ว มันไม่มีแล้ว เราก็คือหมดทุกอย่าง ขนาดเขาเพิ่งอวยพรนะว่าขอให้สิ่งไม่ดีหายไป เหลือเขาไว้แค่คนเดียว (หัวเราะ) แต่เราก็โกรธไม่ลงนะ ไม่เป็นไร เราก็จะได้มีเหตุผลว่าขอใบใหม่นะ (หัวเราะ)

สรุปแจ้งข้อหาอะไรไปบ้าง?

แจง : ก็น่าจะเป็นลักทรัพย์ในเคหสถานค่ะ

แจ๊ส : แล้วมีเป็นทอดๆ ไปอีกนะ คนที่มาขายไล่จากเขาไปอีก ตำรวจบอกว่ายังเป็นความลับทางราชการ แต่ตอนนี้เขากำลังดำเนินคดีทีละคนแล้ว

แจ๊ส : แต่เขาลงว่าเขายังอยู่ในทะเบียนบ้าน

แจง : อันนี้มันเป็นข้อนึง แจงก็ถามไปที่สำนักงานเขตว่าทำยังไงถึงจะเอาชื่อเขาออกไปจากทะเบียนบ้าน เพราะว่าเขาก่อเหตุแบบนี้ ทางสำนักงานเขตก็แจ้งว่า คือบ้านหลังนั้นเราไม่ได้อยู่ เราก็ไม่ได้ไปเป็นเจ้าบ้าน แต่ตอนนี้ย้ายคนมาเป็นเจ้าบ้านเรียบร้อยแล้ว อีก 6 เดือนมันจะเด้งออกไปเอง

โทษร้ายแรงขนาดไหน?

แจง : น่าจะประมาณมากกว่า 3 ปีหรือเปล่า

แจ๊ส : ไม่รู้เหมือนกัน ก็ทีละสเตป ให้เขาเคลียร์อันนี้ของผมก่อน หรือถ้าเขาออกมาจะอะไรยังไง แต่ก็ยังยืนยันว่าตั้งแต่วันนี้ตลอดไป ผมไม่ค่อยมีโจทก์กับใครนะ ผมมีกับเขาคนเดียวที่แล้วกันจบ เขาแค่คนเดียว

หลักๆ แค่ข้อหาลักทรัพย์อย่างเดียวใช่มั้ย?

แจง : ลักทรัพย์ ข่มขู่ และที่ยังอยู่ที่สน.ลาดพร้าวก็จะเป็นหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้าเกิดเขาไลฟ์แล้วพูดอีก แจงก็ไปแจ้งอีก ก็นับเป็นกรรมๆ ไป เขาพูดกี่ครั้งแจงก็เซฟไว้แล้วก็แจ้งความ

กลัวมั้ยว่าเขาจะไม่เข็ด?

แจง : ก็เพราะเขาคิดแบบนี้ไง

แจ๊ส : ก็บอกแล้วไงว่าก็เท่าเทียมนะ คุณมาลูกไหนก็ลูกนั้น แต่มันไม่ได้เป็นการแก้แค้นนะ แต่มายังไงก็ยังงั้น แค่นั้นเอง

แจง : ก็ให้รู้ว่าเราไม่กลัวแล้ว และเราก็ไม่กลัวว่าชื่อเสียงเราจะเสีย เพราะถ้าคนแบบนี้ ถ้าเสียแล้วจะไม่มีงาน ก็แค่ต้องยอมรับกับมัน แต่ว่าเรื่องลูกเรื่องอะไรตอนที่เขาไลฟ์ แจงแค่รู้สึกว่าการที่เราจะใช้โซเชียล เราควรใช้มันอย่างมีสติ อย่างเช่นเขาพูดเรื่องลูกของแจง และเราก็เห็นคอมเมนต์นึงที่บอกว่าเราเล่าเรื่องแตงโมต่อเลยค่ะ เฮ้ย มันเป็นแบบนี้แล้ว เราเลยคิดว่าถ้าเกิดคุณใช้โซเชียลไม่เป็น แล้วถ้าเราฟ้องหรืออะไรแบบนี้คุณก็อย่าโกรธเรา ว่าเราพูดถึงไม่ได้ พูดอะไรไม่ได้ แต่ถ้าพูดในทางที่ดีหรือพูดในความจริงเรายอมรับได้ เราไม่เคยโกรธ ไม่เคยฟ้องใครเลย เพราะมันเสียเวลา แค่อยากจะแนะนำว่าใช้โซเชียลกันอย่างมีสติค่ะ

รองเท้าที่หายไปมีกี่คู่?

แจง : เอาคร่าวๆ ที่เรารู้มาคือ 5 คู่ก่อน ตอนนี้ได้คืนมา 1 คู่ค่ะ แต่การที่นำออกมาขายน่าจะประมาณ 5 คู่