กลายเป็นกระแสดราม่า นักร้องสาวชื่อดัง จอย บียอนด์ อาการหนักขึ้นทุกวัน ท้าวศรีสุดาจันทร์เสด็จลงสิงร่างอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยถูกสิงร่างมาแล้วครั้งหนึ่ง จนตาเหลือกตาชัก พูดไม่เป็นภาษาคน เจ้าตัวยอมรับตอนนี้รับเป็นร่างให้แม่หยัวท้าวศรีสุดาจันทร์แล้วงานเข้าเยอะ ทั้งหนังและงานคอนเสิร์ต ไม่สนคนอื่นมองว่าบ้า งมงาย

"ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้จอยเคยเข้าไปกราบไหว้แม่หยัวท้าวศรีสุดาจันทร์มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นจอยก็มีอาการแปลกๆ ตามที่เคยเป็นข่าว จนทีมงานต้องหามจอยออกมาจากจุดนั้น ซึ่งตอนนั้นจอยได้ทำพิธีบวงสรวงแม่หยัวขอพร ขอโชคลาภ การเงิน การงาน

ปรากฏว่าพอกลับมา มีงานหนังติดต่อเข้ามา 3 เรื่อง และมีอยู่เรื่องหนึ่งเป็นหนังย้อนยุคไปในสมัยอยุธยาสุโขทัยนี่แหละ มันก็ยิ่งทำให้จอยรู้สึกขนลุก พอดีมีอาจารย์ประเภทจิตสัมผัสโทรมาทัก เพราะเขาเห็นคลิปที่จอยแต่งองค์ทรงเครื่องไปไหว้แม่หยัว

อาจารย์คนนั้นทักมาว่า แม่หยัวต้องการให้จอยเป็นร่างของท่าน เพื่อนำมาสื่อสารกับคนในยุคปัจจุบัน ตอนแรกก็งงๆ จะมาเป็นร่างทรงอะไร เราไม่ใช่ร่างทรง

...

อาจารย์จิตสัมผัสคนนั้นก็บอกเราว่า ลองของานจากท่านสิ ท่านจะให้ ถ้าสำเร็จจริงจอยก็ต้องรับเป็นร่าง

ปรากฏว่างานจอยเข้าเยอะจริงๆ ทั้งงานในวงการและธุรกิจส่วนตัว เงินเข้ามาหลายสิบล้านภายในไม่กี่วัน

จอยจึงต้องกลับไปไหว้ท่านใหม่อีกครั้ง และยอมรับเป็นร่างให้ แต่จอยไม่ใช่เจ้าแม่ร่างทรงนะ เรายังทำงานของเราปกติ ถึงเวลาก็ไปกราบไหว้ท่าน ไปสื่อสารกับท่านว่าท่านต้องการอะไรบ้าง หรืออยากบอกอะไรกับเรา

ยืนยันจอยไม่ได้บ้าและไม่ใช่คนทรงเจ้า ไม่ต้องมาให้จอยเข้าร่างทรงอะไรนะ จอยแค่รับเป็นร่างสื่อสารกับท่านเท่านั้น

เพราะครั้งล่าสุดที่ไปไหว้แม่หยัว จอยก็มีอาการแปลกๆ อีก พูดไม่เป็นภาษาคน ทีมงานบอกจอยพูดไม่รู้เรื่อง แต่พอฟังดูแล้วเหมือนจอยท่องคาถาอะไรบางอย่าง

จอยไม่ได้งมงายนะ แค่เราศรัทธาแล้วเราได้ตามที่ขอ เราไม่ได้ทำผิด เราไม่ได้หลอกลวงใคร เราทำตามที่เราเชื่อและศรัทธา เพื่อให้หน้าที่การงาน ปัง ปัง เท่านั้น"