ทำเอาหลายคนตกใจและเป็นห่วงไม่น้อย เมื่อนักแสดงสาวที่รักสุขภาพอย่าง ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าเธอนั้นกำลังเผชิญกับโรคแพนิกมา 9 เดือน
ซึ่งเจ้าตัวได้ระบุอาการที่ต้องเจอเอาไว้ว่า “ความกลัว และอาการทางร่างกาย กระทบต่อการใช้ชีวิตมากๆ มันทำให้เรา ไม่กล้าออกไปไหน ไม่กล้าใช้ชีวิตคนเดียว ไม่กล้าแม้กระทั่งขับรถ
เพราะกลัวว่าอาการจะมา โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญ สุขภาพก็อ่อนแอลงมาก มีปัญหาเรื่องการนอนรุนแรง และ น้ำหนักตัวที่ลดลงอย่างน่าตกใจ”
โดยยิปซีได้แชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านทางรายการ ไหนเล่าซิ๊ ทางยูทูบ ANO and Friends ที่ทำกับเพื่อนๆ ว่า
“แชร์ประสบกาณณ์จริง Panic Attack ซึ่งเป็นอาการ กับ Panic Disorder คือเป็นโรคแล้ว ซึ่งยิปเป็นอันนี้ แต่ตอนนี้หายแล้ว อาการเริ่มจากตอนขับรถอยู่ดีๆ แล้วรู้สึกมึน มีเสียงวี๊ดเข้ามาในหูข้างเดียว มีอาการชาที่ขาฝั่งซ้าย ตามด้วยแขนซ้าย เลยเริ่มตกใจว่าจะเป็นอะไรตอนขับรถหรือเปล่า
...
เริ่มใจเต้นเร็ว ยังดีที่ตั้งสติทัน มีอาการอยู่ประมาณ 15 นาที ตอนนั้นกลัวมาก แล้วในอาทิตย์นั้นอาการก็มาอีก เราก็พยายามแกะตัวเองว่าเครียดอะไร
ช่วงนั้นใกล้แต่งงานคนรอบตัวก็ทักว่าเรื่องนี้หรือเปล่า เราก็คิดว่าเปล่านะ เราอยากแต่งงาน ไม่ได้กลัวการแต่งงาน จนกระทั่งมาเจอว่าอยากแต่งงานมาก จนกลัวว่าจะไม่เกิดขึ้น
มีอาการอยู่ 10 ครั้ง ก่อนที่จะไปหาหมอ มีเป็นตอนขับรถ ถ่ายยูทูบ ถ่ายโฆษณา ไปงานอีเวนต์ก็เป็น อาการบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ที่ตัดสินใจไปหาหมอ เพราะเป็นหนักมากจนคิดว่าจะต้องตายแน่ๆ
พอเป็น 1 ครั้ง 2 ครั้ง ร่างกายมันจดจำไปแล้ว เช่น กลัวที่สุดตอนอยู่ในรถ พอจากนั้นจะขึ้นรถเราจะกลัวว่าจะเป็นไหม เลยต้องโทรหาเพื่อนเวลาอยู่ในรถ
ครั้งที่เป็นหนักที่สุด ตอนอยู่ในร้านอาหารเป็นวันแม่ เราก็แพลนว่าจะไปแป๊บเดียว แต่พอก้าวเข้าไปในร้านแป๊บเดียวเริ่มยืนไม่ได้ เหงื่อออก จำได้ว่ามีแต่เสียงเต็มไปหมด เหมือนในหนังเลยที่เราหยุดนิ่งแต่มีทุกอย่างเต็มไปหมด
ใครชวนคุยก็ไม่อยากคุย สั่งน้ำแดงมาจิบแล้วหันหน้าเข้ามุม จนทุกคนไปเหลือแค่เรากับพ่อก็ดีขึ้นทันที อาการที่เป็นเพราะเราเครียด วันนั้นเลยไปหาหมอ ที่ผ่านมาคิดไปเองว่าเอาอยู่ ไม่ไปหาหมอ
พอไปหาหมอ หมอก็จะเช็กลิสต์อาการว่าเป็นยังไงบ้าง ก็ตรงเกือบทุกข้อ สรุปว่าเป็น Panic Disorder ต้องกินยา ตอนนี้รักษามา 5 เดือน นิ่งแล้ว แต่ต้องกินยาต่อไปจนครบ 6 เดือน แล้วจะเริ่มถอนยา เราหยุดยาเองไม่ได้เด็ดขาด
สำหรับวิธีการรับมือที่ตัวเองรู้สึกว่าเวิร์ก คือจริงๆ สัญญาณของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เทคนิคที่เราใช้คือ เวลาเริ่มรู้ตัวว่าจะหายใจเร็วมากๆ ให้มีสติแล้วหายใจช้า เหมือนการทำสมาธิ
อีกวิธีคือพยายามหาสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจ คิดอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เกี่ยวกับอาการตัวเอง ส่วนเวลาที่รู้สึกว่ามือ ขา หายไป เราจะตีตัวเอง แต่ไม่ตีแรงนะ ให้ยังรู้สึกไม่เสียประสาทสัมผัส ไม่ก็นวดเพื่อให้มีความรู้สึก
คนไม่เคยเป็นไม่มีทางรู้ว่ามันขนาดไหน มันเหมือนจะตายแล้ว เคยสงสัยแล้วถามหมอว่า ปลายทางที่เรารู้สึกจะเป็นยังไง ก็คือเป็นลม แล้วเราก็จะตื่นขึ้นมาได้ เหมือนร่างกายชัตดาวน์ไป
อีกสิ่งหนึ่งคือ เราต้องบอกคนรอบตัวว่าเราเป็นอะไร มันช่วยไปแล้วเปลาะนึง กับแฟนก็บอกเขาไม่ให้ตื่นเต้น เพราะพอเขาตื่นเต้นเราจะยิ่งหนัก จนต้องคุยกับเขาว่าอะไรจะทำให้เราดีขึ้น หรือเพื่อนที่เราโทรหาจะดึงเราไปคุยเรื่องอื่นๆ เราก็จะลืมอาการไปเลย รวมไปถึงเพิ่มสิ่งที่รู้สึกบวกเขามา ลดสิ่งที่ลบออกไป”
...
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”