เป็นประเด็นที่คนยังติดตามกันต่อเนื่อง สำหรับเรื่องของ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ กับ แพรวพราว แสงทอง นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง เจ้าของวง แสงทองฟินแลนด์

- หลังจากที่ บิ๊ก หรือผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความและไลฟ์สด ประกาศเรื่องราวสุดช็อก ถูกภรรยานอกใจสุดเจ็บปวด เหยียบศักดิ์ศรีผัว-พ่อของลูก และความเป็นผัวของหัวหน้าวง ส่วนมือที่สามทำร้ายครอบครัว กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา

- โดยที่ผ่านมา แพรวพราว เองก็ยังไม่ได้ออกมาพูดอะไร เพียงแต่โพสต์ข้อความเท่านั้น ล่าสุด แพรวพราวก็ได้ออกมาไลฟ์สดชี้แจงในส่วนของตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

- ยืนยันว่าไม่ได้ไปมีอะไรกับใครตามที่ถูกกล่าวหา ยอมรับทำผิดจริงที่คุยกับคนอื่น เผลอใจไปรู้สึกดีด้วย ซึ่งเรื่องนี้ได้คุยหลังบ้านกับ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ แล้ว ตอนเคลียร์กันเข้าใจดี แต่ตกใจทำไมถึงได้ออกมาโพสต์และไลฟ์สด

- ที่ไม่ได้ออกมาพูด ที่เงียบและที่ไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่อยากให้ลูกเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน 

- ประเด็นที่แรกที่จะพูดคือที่ทุกคนรอ คือคำว่า “มือที่ 3” พอบิ๊กโพสต์และไลฟ์สด เลยทำให้คนที่อ่านเข้าใจว่าเราไปนอนกับคนอื่น 

...

- กล้าสาบานตรงนี้ว่า ไม่ได้ไปมีอะไรกับใคร 

- แต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องคือ บิ๊กพูดในที่สาธารณะ และสื่อโจมตีเรา หาว่าเราทำครอบครัวเรา ถามว่าเหตุผลมันเกิดจากอะไร คนโยงก็โยงไป และล่าสุดไปตัดคลิปมั่วซั่วไปหมด ทำให้คนเข้าใจผิดต่างๆ นานา เราก็ไม่ได้ชั่ว ถึงขั้นทำกับลูกกับผัว 

- แต่ยอมรับเลยว่า เวลาที่เราดาวน์ หรือเราน้อยใจ ผัวเมียอยู่ด้วยกัน มันมีทะเลาะกันและรู้สึกว่าเราน้อยใจ ยอมรับเลยว่า เราคุยกับบางคนและเรารู้สึกดี 

- ยอมรับผิดว่าเราอาจจะเผลอไปคุยกับคนนั้น และเรามีพลังบวก และเรารู้สึกว่าเรามีกำลังใจ แต่เรื่องมันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ฉันไม่ได้มีชู้ หรือไปมีอะไรกัน หรือไปนอนด้วยกัน มันไม่ได้มี หรือมีเรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้นเลย 

- พอบิ๊กรู้ว่า ฉันมีการคุย เราก็ได้เปิดใจคุยกัน แล้วบิ๊กก็รับไม่ได้ เพราะว่าเป็นคนหึงเมีย รับไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ได้มีอะไรก็ตาม นางก็เลยคิดว่านางจะถอยออกมาก่อน เพราะว่าใจนางรู้สึกว่าไม่โอเค 

- ซึ่งเรื่องนี้เราได้หันหน้าคุยกันแล้ว แต่เราไม่ได้คิดว่าจะเอาใครเข้ามาแทนที่ในครอบครัวเด็ดขาด ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์อยู่ตรงนี้ แล้วจะให้เอาใครมาแทนที่ มันเป็นไปไม่ได้

- ถามว่าเรารักผัวเรามั้ย รัก ถามว่าตอนนี้ยังรักมั้ย ยังรัก แต่สิ่งที่เสียใจคือ ผู้จัดการส่วนตัวก็คุยกับคนนี้ และเราก็คุยกับคนนี้เหมือนกัน แต่มันไม่ได้มีอะไรเกินเลย 

- เราขอโทษที่เราเผลอคุย และขอโทษที่เรารู้สึกกับคนนี้ช่วงที่เราดาวน์ เพราะช่วงเวลาที่ฉันน้อยใจให้คุณ เสียใจให้กับสิ่งที่คุณปล่อยปละละเลย 

- วันว่างที่ไม่มีงาน เขาก็ไม่คิดจะอยู่กับลูกกับเมีย ก็เลือกที่จะไปเที่ยวถึงเช้า เลือกที่จะไปกับคนอื่น วันไหนที่ว่าง คิดว่าจะอยู่ด้วยกัน พาลูกเมียไปกินข้าวนอกบ้าน แต่เขาก็เลือกที่จะไปบาร์เกย์ บาร์โฮสต์ จะไม่ให้เราคิดได้ยังไง

- เวลากลับบ้าน เราก็ชวนไปกินข้าวบ้านญาติ แต่เขาก็ไม่ไปบอกจะไปกินคาเฟ่ มันคือความอัดอั้นตันใจ ที่เราอยากจะมีความสุขกับผัว กับครอบครัว ซึ่งเรามีเวลาอันน้อยนิด แต่คุณก็เลือกที่จะไปอย่างนั้น ถึงแม้เราจะบอกว่าไม่เป็นไร ไปโลด แต่ในใจมันรู้สึก 

- แล้วบางทีเราอยากให้แวะไปหาลูกที่บ้านป้า แต่เขาก็ไม่ไป ไปโฟกัสที่ธุรกิจ ทั้งๆ ที่ลูกอยู่ใกล้ๆ ไปหาแป๊บเดียวก็ได้ แต่เขาไม่ไป

- ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นความผิดพลาดของเรา ที่เราน้อยใจ สะสมมาเรื่อยๆ เลยทำให้เราพลาดที่เราไปคุย และรู้สึกดี แค่นั้น

- ยืนยันไม่ได้มีเรื่องชู้สาว เพราะเราก็มีศักดิ์ศรี มีลูกมีผัว 

...

- แต่สิ่งที่เขาไลฟ์สดไป มันสื่อออกไปว่าเราไปเอากับคนอื่น ไปนอนกับคนอื่น ที่จริงมันไม่ใช่อย่างนั้น 

- ซึ่งเรื่องทั้งหมด เราคุยกันแล้ว และไม่คิดว่า บิ๊ก จะโพสต์ เพราะเราคิดว่าที่จะไปมัลดีฟส์ 3 วัน ทุกอย่างจะดีขึ้น มีเวลาอยู่กันมากขึ้น น่าจะปรับความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งเราเตรียมซื้อเสื้อผ้าไว้แล้ว เลยแชตไปหาเขา แต่เขาบอกว่าไม่อยากไปแล้ว ก็เลยตามใจ เพราะเราก็มีส่วนผิดของเรา 

- คนเรามันไม่มีใครดี 100% หรอก 

- และคนที่คอมเมนต์ก็ไม่ได้ดี 100% ต่างคนต่างผิดพลาดกันทั้งนั้น 

- ไม่ได้อยากให้ใครมาเห็นใจ แต่เราพูดในมุมของเรา อยากชี้แจงว่า เราไม่ได้ไปเล่นชู้ หรือไปนอนกับผู้ชาย 

- มันไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรง เราคุยกันแล้ว แต่ก่อนที่จะโพสต์ทำไมถึงไม่คุยกันก่อน

- ส่วนเรื่องที่เราโพสต์ถึงองค์กร ถ้าเราโพสต์และไลฟ์สดไป มันกระทบทุกอย่าง 

- ตอนนี้คือไม่มีใครที่ไม่ด่าฉัน

- เสียใจตรงที่ว่า เป็นอะไรทำไมไม่คุยกันก่อน ว่าจะเอายังไงกับเรา เราจะไปต่อกันยังไง แต่อยู่ดีๆ ก็โพสต์ ก็ไลฟ์ แล้วคิดว่ามันจะมองหน้ากันได้เหรอ ลูกก็อยู่ตรงนั้น

...

- ตอนนี้ก็มีผลไปยังผู้จัดงาน กระทบต่อองค์กร ทุกคน และทุกอย่าง 

- ในสิ่งที่ผิดพลาดเราขอโทษ เราคุยกันแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ได้คุยเลย และเขาเป็นคนพูดเองว่าไม่อยากให้มีผลกระทบใดๆ ต่อองค์กร แต่เขาเลือกที่จะไลฟ์สด และเราจะมองหน้ากันติดเหรอ ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ 

- ที่จริงก็ไม่ได้อยากพูด มันเหมือนสาวไส้ให้กากิน ประจานครอบครัวตัวเอง แต่ถ้าเราไม่พูด คนก็เข้าใจผิดต่างๆ นานา และโยงเรื่องนั้นนี้ แต่ในเมื่อเรื่องมันลามมาถึงขนาดนี้ ก็ต้องมาพูด 

- มันไม่มีใครมาแทนที่เขาได้อยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น แต่คนก็ตีความในโพสต์และไลฟ์สด เราเลยต้องออกมาพูดในส่วนของเรา 

- ในวันที่เราคุยกันเคลียร์กัน บิ๊กก็เข้าใจ แพรวก็เข้าใจว่าปัญหามันเกิดจากอะไร แต่ไม่รู้ใครไปยุยงส่งเสริมให้ออกมาเป็นแบบนี้ พอเราเห็นโพสต์ก็งงว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้

- ตอนนี้ยังไม่ได้ให้คนนั้นออก ในเรื่องของการทำงาน มันเป็นส่วนของการทำงาน และคิดว่าถ้าเขาต้องออกตอนนั้น คนในวงก็เกิดคำถามว่าทำไม และตอนนี้วงเรากำลังไปได้ดี ก็อยากให้มันดำเนินต่อไป 

- อีกอย่างเราจะให้เขาออกปุบปับไม่ได้ เพราะมันหาคนมาแทนไม่ทัน และการทำงานเราจริงจัง เราไม่อยากให้มีผลกระทบอะไร ก็พยายามประคองและคุยกัน แต่เหมือนแบบต้องเดี๋ยวนี้ๆ แต่ไม่ได้ 

- เมื่อวานแทนที่จะได้เป็นวันพักผ่อนสบายๆ กลับกลายเป็นว่าทำไมถึงมาทำลายกันแท้ และไม่คิดถึงความดีที่เราเคยมีให้กันเหรอ ฉันไม่มีความดีอะไรเลยเหรอ ที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยทำอะไรผิดพลาด คนเราผิดพลาดกันได้ แต่ฉันก็ไม่ได้ไปทำชั่วขนาดนั้น 

- ตอนนี้อยากพูออะไรพูดเลย มันไม่มีอะไรที่จะเสียแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ให้พูดถึงความดีที่มีให้กันบ้าง 

...

- เห็นมั้ยถ้าเราได้พูดแล้วมันจะไม่จบ แต่ถ้าเราไม่ได้พูดอะไรเลย คนก็หาว่าเราไปเอากับคนนั้นคนนี้ แต่อย่างน้อยๆ เราก็ได้พูดแล้วว่า มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันก็มีศักดิ์ศรีของฉันอยู่ 

- จบไลฟ์นี้ เป็นไลฟ์สุดท้าย และจะไม่พูดอะไร 

- ขอบคุณสำหรับคนที่ให้กำลังใจให้เรา เป็นกำลังใจให้ครอบครัว บางคนก็รอซ้ำเติม รอเหยียบ หรือเมนต์อะไรที่ทำร้ายจิตใจ ก็จะพยายามหลีกเลี่ยง เพื่อการทำงาน ลูกน้อง วง และลูก ถ้าเราไม่ทำงาน ผลกระทบก็คือเราก็ต้องดูแลลูก 

ด้าน นิลุย ผู้จัดการส่วนตัวของแพรวพราวและบิ๊ก ก็บอกว่าเรารักทั้ง 2 คน ก็พยายามสานสัมพันธ์ให้แล้ว แต่ตอนนั้นบิ๊กเขาก็พูดรู้เรื่อง แต่พอมาเมื่อวานไม่รู้เขาเป็นอะไร รักทั้งบิ๊กทั้งแพรว ไม่อยากให้เลิกกัน อยากให้เข้าใจกัน ก็พยายามปรับ ค่อยๆ ปรับกัน ไม่อยากเสียใครไป 

ซึ่งขณะที่ แพรวพราวกำลังไลฟ์อยู่นั้น ทางด้าน บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า "จบไลฟ์นี้ขอพูดเหมือนกันนะครับ เป็นครั้งสุดท้าย และจะจบเรื่องนี้ครับ ขอแยกย้าย".

คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิง” เพิ่มเติม