ออกมาเปิดใจประเด็นดราม่า แบม ไพลิน วงษา อดีตมิสแกรนด์ระนอง 2024 สำหรับ บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล หัวเรือใหญ่ขององค์กรมิสแกรนด์ฯ ณ MGI Hall ชั้น 6 ศูนย์การค้า Bravo BKK (Show CD เดิม) พระราม 9
หลังอดีตนางงามตัวแทนจังหวัดถูกเพจดังแฉความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม ซึ่งมีลูกเมียอยู่แล้ว ขณะเดียวกันฝ่ายหญิงก็ได้ออกมาไลฟ์สดยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ใช่มือที่ 3 และไม่ได้แย่งใครมา
โดย บอสณวัฒน์ เปิดใจว่า "ในกรณีของ แบม ไพลิน น้องได้เข้ามาปรึกษา 2 อาทิตย์ที่แล้ว หลังจากที่รู้ว่าตัวเองมีน้อง หลังจากนั้นเราก็ขอเช็กให้เรียบร้อยว่าเป็นข้อมูลจริงในทุกเรื่อง เอาให้เคลียร์เอาให้ชัวร์ เพราะถ้ามันเป็นอย่างที่เราพูดเราจะได้ไปทางนี้ หรือถ้ามันไม่จริงและมันคลุมเครือเราก็ต้องเช็กให้ดีก่อน เพราะตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้เชื่อว่ามันจะจริงหรือเปล่า
ซึ่งผ่านมาประมาณ 10 วันน้องก็เดินทางเอาผลมาให้ด้วยตัวเอง ซึ่งพอผลชัดเจนและน้องมาขอลาออกมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะเป็นเรื่องของชีวิตที่คุณต้องรับผิดชอบ ซึ่งเราก็เตรียมตัวที่จะประกาศ แต่ผมก็ถามน้องว่าจะให้ประกาศแบบไหนให้แจกแจงมาเลย ซึ่งน้องก็ตัดสินใจแบบแมนๆ ว่าจะประกาศแบบนี้เลย เพราะฉะนั้นสู้กับความจริงและรับผิดชอบในสิ่งที่มี ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับหนูเพราะมันเป็นสิ่งที่ดี และไปดูแลชีวิตให้ดีที่สุด นี่คือบทสรุปที่เราให้ไป
...
ส่วนเรื่องของแฟนน้องผมเพิ่งรู้เมื่อเช้าของวานนี้ และเราให้ลูกน้องเช็ก เพราะเราไม่รู้เรื่องเลยว่า เขามีภรรยาชื่อคุณซี และมีลูก 2 คนมาก่อน ซึ่งเราไม่รู้เลย เพราะน้องไม่ได้บอกเรื่องนี้ส่วนตัว เราตกใจเพราะมันคลุกฝุ่นมาก่อนเมื่อวานนี้มานิดหนึ่ง ซึ่งเราก็คิดในใจว่ามันจะใช่หรอ เพราะน้องไม่เคยพูดแต่ในที่สุดมันก็ใช่ ก็เลยไปดูว่าผู้ชายคือใคร ซึ่งเขาเป็น Marketing ทำแผนการตลาดขายตรงก็ไปดูคลิปเขาเพื่อศึกษาลักษณะ ซึ่งก็ไม่คิดว่าเมื่อคืนเขาจะไลฟ์สด
ส่วนตัวคำว่าเมียหลวงกับเมียน้อย มันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ผมคิดว่าทุกวันนี้มันเป็นเรื่องสาธารณะไปแล้วเพราะมันอยู่บนแพลตฟอร์มสาธารณะ อยากให้กำลังใจคุณซีกับลูกในฐานะอะไรก็ได้ ในฐานะคนดูหรือคนเสพข่าว ซึ่ง 5 ปีอยู่ด้วยกันมันไม่ใช่เวลาน้อยๆ ผมอยากให้กำลังใจไม่ว่าเรื่องที่จะเกิดมันอาจจะไม่ถูกใจกันก็แล้วแต่ แต่ผมต้องให้กำลังใจกับคนที่สูญเสียเวลาไป 5 ปี และต้องดูแลเด็กน้อยอีก 2 คน ซึ่งคนเล็กก็อายุ 7 เดือน
และผมก็เข้าใจแบม แต่คงไม่ให้กำลังใจ ซึ่งมันก็หลังชนฝา ต่อไปก็ไม่ไหวจะถอยกลับไปมันก็ไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่คุณต้องยอมรับกับสถานการณ์กับวิกฤติครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ ถ้าผมแนะนำในที่ผมคุยกับน้องอยู่ แนะนำให้น้องเงียบปล่อยเวลาให้มันค่อนข้างจัดระบบ และเดี๋ยวมันจะเจอทางที่น้อยลงและจะเลือกง่ายขึ้น ส่วนตอนนี้ทางมันกระจัดกระจายตั้งแต่เมื่อคืน และเสียงวิพากษ์วิจารณ์เยอะ และน้องก็ต้องดูแลตัวเองในช่วงนี้ สุขภาพจิตก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งก็เข้าใจ เพราะฉะนั้นอยากให้น้องดูแลตัวเอง ใจเขาใจเรา ต้องเงียบไปก่อนดีกว่าช่วงนี้ แต่ส่วนผู้ชายผมไม่มีความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากว่ารับผิดชอบทุกอย่างและทุกคน
ส่วนตัวคุยกับอิงฟ้ารู้สึกเสียดาย เพราะน้องเขาเป็นคนมีทรงดี และมีฐานแฟนคลับเยอะ ซึ่งมันเหมาะกับแกรนด์ ชีวิตวันข้างหน้าอาจจะพลิกไปเลยอาจจะดีขึ้น อาจจะครึ่งหนึ่งของอิงฟ้าก็ได้ แต่ว่ามันมีเหตุผล นี้ถามว่าเสียดายไหมแล้วก็เสียดายโอกาสที่น้องจะได้ เพราะสำหรับเราไม่มีเขาก็มีคนอื่น แต่สำหรับน้องเสียดาย เพราะครั้งหนึ่งในชีวิต"
