ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงที่อยู่ในความสนใจของใครหลายคนในตอนนี้ หลังมีข่าวออกมาว่า อดีตนักมวยชื่อดัง สมรักษ์ คำสิงห์ พ่อของ เบสท์ รักษ์วนีย์ ที่ได้ถูกเด็กสาวอายุ 17 เข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อร้องทุกข์ ถูกอดีตนักมวยกระทำการอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ
ซึ่งทางด้าน สมรักษ์ ก็ได้ยืนยันว่าไม่ได้ขืนใจ ด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย และอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก ไม่มีทางทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน ได้แต่งตั้งให้ทางทนายเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว พร้อมกับเปิดเผยว่า ตนกับภรรยาได้หย่ากันมา 2 เดือนแล้ว
โดยในโลกออนไลน์ได้มีการย้อนบทสัมภาษณ์ระหว่าง สมรักษ์ คำสิงห์ กับภรรยา อ้อย เสาวนีย์ ที่เคยมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ Club Friday Show เมื่อปี 2564 ทั้งคู่ได้มาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตคู่อย่างหมดเปลือก โดยในบางช่วงบางตอน อ้อย เล่าว่า ทั้งคู่อยู่กันก่อนแต่ง ในช่วงที่ไปโอลิมปิก สมรักษ์เคยรับปากว่าถ้าได้เหรียญทองกลับไป จะจัดงานแต่งงานให้

...
จากนั้น สมรักษ์ ก็เล่าต่อว่า หลังจากกลับมา ผู้ใหญ่ก็ไม่แนะนำให้แต่ง เพราะว่าเราอยู่ก่อนแต่งแล้ว มันขัดกับประเพณีในยุคนั้น ตอนนั้นเรื่องแบบนี้มันเซนซิทีฟมาก จนในที่สุดก็ไม่ได้จัดงานแต่งงาน ด้าน อ้อย บอกว่า ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เสียใจมาก เสียใจสะสมมาจนถึงตอนนั้น และ สมรักษ์ ก็ได้แย้งขึ้นมาว่า "แต่จงภูมิใจเถอะ หลายคู่แต่งแล้วก็แป๊บเดียว อันนี้ไม่ได้แต่ง ก็อยู่กันมาจนทุกวันนี้"
จากนั้น อ้อย เคยเล่าว่า "พอมีชื่อเสียงมา สามีมีความเจ้าชู้นับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะได้เหรียญทองก็เจ้าชู้มากเช่นกัน แต่ก็สามารถผ่านมาได้ด้วยสติและความรักที่มีต่อลูกๆ พร้อมยังเผยถึงขนาดที่ว่ามีคนมาจ้างให้หย่าถึง 2 ล้าน หรือแม้กระทั่งโทรมาบอกว่า นอนกับสามีเธอ ก็โดนมาแล้ว
แม้กระทั่งโทรมาบอกว่า นอนกับสามีเธอมาแล้ว หรือแม้กระทั่งจ้างหย่าก็มี ท้องก็มี เราก็บอกว่า นอนก็นอน ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เธอมันคนที่เท่าไรแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนของเราด้วย ถ้าเรายังอยู่ฝ่ายเรา เราก็ไม่กลัว ถามว่าเราขี้หึงมั้ย แต่ก่อนนี่เอาปืนใส่รถไว้เลย ขับรถไปถึงที่เลย ซึ่งเราเป็นคนขี้หึงมาก แต่ดีว่าขับรถไปแล้วมันไม่เจออะไร ถ้าเห็นอะไรคาหนังคาเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไร

ส่วนผู้หญิงที่โทรมาบอกว่าท้อง 2 เดือน เราก็ยังเฉยๆ คิดว่ามันจะท้องได้ยังไง ก็เลยบอกว่าให้ไปตรวจก่อนมั้ย ใจเย็นๆ ไปตรวจ DNA ก่อนเลย ถ้าเขาเป็นพ่อลูกกันจริงๆ คุณก็เอาไปเลย ยกให้เลย แต่ถ้าผู้ชายเขาไปนะ ถามว่าผู้หญิงได้เบอร์มาได้ยังไง ก็คือสมรักษ์เขาไปบอกผู้หญิงว่า ถ้าเบอร์นี้โทรมาอย่ารับสายนะ
จากนั้น สมรักษ์ ก็พูดขึ้นมาว่า "จะท้องได้ยังไงผมใส่ถุงอะ"
เรื่องที่มีคนจ้างหย่า 2 ล้าน ซึ่งเราก็บอกเขาไปว่า 2 ล้านไม่พอหรอก มูลค่าเขาต้องมากกว่านั้น คุณเอาไปคุณคุ้ม เราก็บอกว่าสัก 10 ล้านได้อยู่นะ
คือผู้หญิงพวกนั้นเขาพูดเยอะ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ชายด้วย ถ้าผู้ชายยังเลือกเราอยู่ เราก็มีความมั่นใจไปตอบโต้ อย่าไปคิดเลยว่าเราจะเลิกกัน แต่ถ้าเราคิดว่าจะเลิกแล้ว เราจะไปอยู่คนเดียว เราเลิก แต่ถ้าเลิกกันแล้วเราคิดอยากจะแต่งงานใหม่ เราอย่าเลิกดีกว่า เพราะว่าเราไม่รู้ว่าผู้ชายที่เราจะไปเจออีก เขาจะดีหรือไม่ดี
แล้วอีกอย่างเขาเป็นพ่อของลูก เรามองว่าให้เขาอยู่กับลูกเรา เป็นพ่อของลูกเรามันอบอุ่นดีอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรเลย เพียงแต่ว่าเวลาที่เขาออกนอกลู่นอกทาง เราก็ตบๆ เข้ามา เพราะว่ามันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว

...
แล้วเราก็บอกเขาว่าต่อให้เลิกกันยังไง หรือต่อให้เธอย้ายเอาของออกไปจากบ้าน อะไรที่เป็นสมบัติของเธอมันมีอยู่ชิ้นเดียว คือ ทะเบียนสมรส แล้วอยากจะไปมีเมียใหม่ ไปมีเลย แต่ทะเบียนสมรสฉันกอดไว้ มันคือความสะใจของคนที่เป็นเมียหลวง เพราะคนที่เป็นเมียน้อยมันอยากได้อย่างเดียวเลยคือ ทะเบียนสมรส
เมื่อถามว่า ตอนนี้สมรักษ์หยุดเจ้าชู้หรือยัง อ้อย บอกว่า ตอนนี้เบสท์บอกว่าแม่ไม่ต้อง เดี๋ยวเบสท์จัดการเอง แต่จริงๆ ต่อให้ตอนนั้นที่เขาไม่หยุด ผู้หญิงทุกคนก็อยากเป็นหนึ่งคนที่เป็นเมียน้อย ก็คืออยากเป็นเมียหลวงถูกมั้ยคะ ตอนนั้นต้องบอกว่าทะเบียนสมรสอันเดียวเลยค่ะ คือมันจะกำราบคนพวกนี้ไป เพราะเราอย่าหย่า ต่อให้เขาอยากเลิกกับเราแค่ไหน เราก็อย่าหย่า เพราะมันคือความสะใจ แต่เราเคยคุยกันแล้วว่า ถ้ามีอะไรรุนแรง อย่าเอ่ยคำว่าหย่า" ซึ่ง อ้อย เคยพูดไว้ผ่านรายการ Club Friday Show เมื่อ 24 ก.ค. 2564
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ สมรักษ์ คำสิงห์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า เขากับภรรยานั้นได้เซ็นใบหย่ากันแล้วเมื่อ 2 เดือน ก่อนหน้านี้.
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิง” เพิ่มเติม

...