ออกมาตั้งโต๊ะเปิดใจแถลงข่าวข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับนักร้องสาว จอย บียอนด์ และ แหวดศรี นครสวรรค์ น้องสาว ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ หลังเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตในงานวันเกิดกำนัน จังหวัดสุพรรณบุรี แต่กลับถูกตลกดังด่ากราดไล่ลงจากเวที ไม่ให้ขึ้นแสดง ทำให้เกิดความอับอาย และได้แจ้งความไปก่อนหน้านี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อยากให้เล่าเหตุการณ์วันนั้น?
จอย : วันนั้นจอยไปงานวันเกิดของผู้ใหญ่ท่านนึงที่จังหวัดสุพรรณฯ จะมีคิวขึ้นร้องเพลงหลังจากวงใหญ่ลง ตอนแรกถ้าไปก่อนจอยอาจได้ขึ้นก่อน ทีนี้เขาบอกว่าคิวจอยหลังสุด วันนั้นจอยก็ไปถึง 2-3 ทุ่ม ขณะที่เราจะขึ้นร้องเพลง ก็มีพิธีกรตลกคนนี้มาขวางทางหน้าบันได ก็ทำกิริยาหน้าตาไม่ค่อยยิ้มเท่าไร ก็สวนไปสวนมา แล้วก็ชี้หน้า พูดจาถ้อยคำเหมือนหยาบคาย ข่มขู่ กระโชกโฮกฮาก เสียงดัง ตะโกน ทำให้คนบริเวณนั้นหันมามองเราให้เกิดความอับอาย เราไม่อยากที่จะร้องเพลงแล้วประมาณนั้น เสียใจ อยากร้องไห้ อยากกลับประมาณนั้น หนูก็เลยกลับไปที่รถ หนูจะกลับบ้าน พี่ผู้ใหญ่ที่จะให้หนูไปร้องเซอร์ไพรส์กำนัน เขาไปตามหนู บอกว่ายังไงก็ต้องร้อง แต่หนูร้องไม่ได้ มาขึ้นกันแบบนี้ มาชี้หน้าหนู หนูก็อาย เขามาใช้ถ้อยคำกิริยา พอพูดมากๆ ก็เหมือนจะโผเข้ามา พี่อีกคนล็อกตัวไว้ มันรู้สึกกลัวพี่เข้าใจไหม หนูจะกลับบ้าน แล้วพี่ผู้ใหญ่เขาก็ไปตามหนูที่รถ เขาบอกว่ายังไงก็ต้องร้อง ที่หนูได้ร้องเพราะว่าพี่เขา (กำนัน) ไปไล่
...
เขาด่าว่าอะไรเรื่องถึงบานปลาย?
จอย : (ชูนิ้วกลาง) แบบสัตว์เลื้อยคลาน ของผู้ชาย ของลับ มึง อีเหี้- มึงอี มันเหมือนคนที่ทะเลาะกันมานานมาก เหมือนเราไปทำความแค้นกับเขาอะไรขนาดนั้น ด้วยความที่มึนเมา ดื่มน้ำเปลี่ยนนิสัยเข้าไป ก็เลยมีความโมโห เนื่องจากว่าก่อนที่เขาจะด่าหนู มีผู้ใหญ่คนนึงชี้หน้าหนูบอกว่านี่เหรอ จอย บียอนด์ หนูก็เลย ค่ะ หวัดดีค่า เขาก็ จอย บียอนด์ ใช่ไหม มีปัญหากับน้องกู ก็เลยทำให้เขามีพลังในวันนั้น หนูรู้สึกเหมือนหนูโดนรุม เพราะเป็นพื้นที่เขา แล้วหนูทำอะไรผิด หนูจะไปร้องเพลง แล้วยังไงคะ หนูต้องอายต่อหน้าผู้คน หนูไม่รู้เรื่อง
เหตุผลที่เขาด่าเรา ไม่ให้เราขึ้นเวที ตามที่เรารู้สึกไหม?
จอย : โดยปกติเขาจะเป็นคนที่มีปัญหากับทุกคน แล้วชอบไปพูดลับหลัง ใช้คำพูดเรียกคนว่า ไอ อี พอหนูเจอคำว่า อี เราก็คิดว่าสิ่งที่เราดีด้วย เราไม่คบกันดีกว่า ก็เลยไม่คุยกับเขามาประมาณ 2 ปี แล้วคนที่หนูใช้ชื่อลงบันทึกเอาไว้ก็โดนเขาว่าเหมือนกัน รวมกับหลายๆ คน คนที่ดีกับเขาโดนหมด เราก็เลยไม่ยุ่งกับเขากัน บังเอิญคนนั้นคนนี้คุยกัน โดนเหมือนกันเหรอพี่ น้องโดนเหมือนกันเหรอแค่นั้น เราก็เลยไม่คุยกัน เวลาที่เราไปไหนกับพี่ๆ บุคคลท่านนี้ เวลาถ่ายรูปอาจทำให้เขาเกิดแรงบันดาลโทสะ ทำให้หมั่นไส้อันนั้นหนูไม่ทราบ ทีนี้พอไปเป็นพื้นที่ของเขาปุ๊บ มันก็เกิดมีพาวเวอร์ มีแรงขึ้นมา เราไปคนเดียว ก็เลยโดนก่อน
ที่ให้สัมภาษณ์เหมือนหนังคนละม้วน เหตุการณ์นี้คนมองว่าเข้าใจผิดกันหรือเปล่า เพราะมีการเปลี่ยนคิวกะทันหัน เป็นแหวดศรีขึ้น เป็นจอยขึ้น ตอนนั้นกำนันที่เป็นเจ้าภาพอยู่ เขาทำหน้าที่อยู่ก็เลยไม่สามารถเบรกได้ ก็เลยส่งสัญญาณให้แหวดศรีว่าอย่าเพิ่งขึ้น ก็เลยเกิดเรื่องกัน?
จอย : ความเป็นจริงจากปากจอย และจากปากบุคคล ให้ฟังจากจอยคนเดียว ส่วนตัวเขา เขามีสิทธิปฏิเสธ เพราะจากที่หายเมาอะไรก็พูดได้ แต่บุคคลที่หนูเอามาในวันนี้ เป็นคนที่มีตัวตนและเป็นคนที่อยู่ในงาน เพราะฉะนั้นเขามีสิทธิที่จะปฏิเสธ จะพูดอะไรก็ได้ แต่หนูจะร้องก่อนวงใหญ่ขึ้น เพียงแต่ว่าคิวใหญ่ลง เขาสลับคิวไปสุดท้าย ก็มีการซาวนด์เช็กเปลี่ยนใหม่ ในช่วงที่ซาวนด์เช็ก ท่านกำนันก็เลยขึ้นไปร้องเพลงก่อน แต่เขาทราบแล้วว่าร้องแค่ 3 เพลง แล้วเขาจะลง เขาเป็นระดับผู้ใหญ่จังหวัด เขาจะลงเพราะมีคิวร้องเพลงต่อจากเขา แต่ไม่รู้คุณเป็นใคร คุณไม่ให้ดิฉันขึ้น อะไรประมาณนี้มันก็เลยเกิดเหตุปฏิเสธนายเขา ซึ่งมันไม่ใช่
แล้วเขากีดกันจริงไหม?
จอย : กีดกันจริง ด้วยคำพูด กิริยาทั้งหมดหมดเลย ด่าทอต่อว่า (ไม่ให้เราขึ้น?) ไม่ให้ขึ้น จนพี่ผู้ใหญ่ไปเรียกหนูที่รถว่าต้องขึ้น พี่จะขึ้นได้ไง เดี๋ยวเขาจัดการเอง อาจมีคำพูดที่เสียงดัง ไม่มีด่าทอ ไม่มีใครด่าเขาเลย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการกระทำ ทะเลาะวิวาทไม่ใช่นะคะ เป็นคนที่โดนกระทำ เพราะฉะนั้นที่หนูมาพูดวันนี้ หนูโดนกระทำให้เกิดความอับอาย
ตามข่าวบอกมีการจะเข้ามาทำร้าย?
จอย : ใช่ๆ เพราะเขามีการพุ่งตัว (ทำท่าพุ่งตัว) ในความหมายของผู้ชายที่เมาแล้วฮึกเหิมอยากจะเข้ามา จะเข้ามาตบตี มาผลัก มาแกล้งทำ ตอนนั้นหนูรู้สึกว่าหนูหวาดกลัว จากผู้ใหญ่ท่านนึง จากเขา จากความอาย อยากร้องไห้ อยากกลับบ้าน หนูคิดแค่นี้
ยืนยันว่าเขาเมา เพราะเขาบอกว่าดื่มแต่ไม่เมา?
จอย : หนูถึงบอกว่าความจริง หนูพูดวันนี้เป็นความจริงทั้งหมด หนูมีสำนวนของคดีความ เพราะฉะนั้นหนูไม่เอาตัวหนูไปพูดโกหก แต่เขาพูดเขาไม่มีหลักฐานอะไร แต่หนูพูดหนูมีหลักฐานบุคคล หนูพูดความจริงค่ะ เพราะหนูอยู่ในเหตุการณ์ หนูเป็นคนถูกกระทำ ไม่จำเป็นต้องพูดโกหก หรือพูดไปมาไม่ให้มีน้ำหนัก ทำเพื่ออะไร หนูแค่รักษาศักดิ์ศรีในวันนี้ที่หนูโดนกระทำ และอยากเรียกร้องสิทธิสำหรับผู้ที่เป็นศิลปิน หรือเป็นดารา ถ้าเกิดเราไปร้องเพลงแล้วรู้สึกว่าโดนแบบนี้จะทำให้เราหวาดกลัว หนูก็รู้สึกว่าอยากให้เรียกร้องสิทธิให้ตัวหนูและศิลปินทั่วไป
...
อีกคนที่ถูกพาดพิงคือคุณสมชาย เดินไปต่อว่าเขา ไปกันท่า?
จอย : คือไม่ได้เดินไปต่อว่า แต่อันนี้ไปตัดตอนในส่วนของตัวเอง เรื่องราวเกิดจากตรงนี้ปุ๊บ แล้วท่านผู้ใหญ่ไปบอกเขาว่า ถ้าทำแบบนี้ออกไปจากงานเลย อันนี้เป็นตอน 2 แต่เขาไปเอาตอน 2 ไปเป็นตอน 1 ไม่มีใครที่ไม่เมาแล้วจะไปด่าคน คนที่มีสติสัมปชัญญะ เขาจะไม่ทำแบบนี้
ที่เขาบอกว่าส่งสัญญาณมือว่าอย่าเพิ่งร้อง?
จอย : ทุกคนทราบค่ะ ว่าอย่าเพิ่งขึ้นเพราะซาวนด์เช็กยังไม่เสร็จ ก็แค่เดี๋ยวค่อยขึ้นนะ การที่บอกว่าเพิ่งขึ้น กับไมงานนายกู มันต่างกันนะพี่ กิริยาแบบนี้เป็นกิริยาที่มีความยิ่งใหญ่ (เรียกว่ากร่าง?) ประมาณแบบนั้น เขาจะบอกว่าเมา ไม่เมา เขาพูดได้ แต่คนทุกคนเห็น ตรงนั้น 20-30 คน และบางท่านหนูไม่รู้จักแต่เขาถ่ายคลิปไว้ แล้วถ้าเกิดว่ามันมีคดีขนาดนี้ ถ้าส่งหลักฐานให้ได้ก็ส่งมาที่จอยได้เลยนะคะ เพราะไม่ได้มีวงจรปิด เป็นเวทีโล่งแจ้ง แล้วไม่รู้ว่าตรงเราจะไปมีเรื่องกับเขาทำไม มันเป็นเหตุชุลมุน ไม่มีคลิป ไม่ใช่เรื่องของการเตรียมการ
เขาบอกว่าก่อนหน้านี้เหมือนมีเรื่องกันมาก่อน?
จอย : ความรู้สึกเขาอาจจะคิดว่ามีเรื่อง แต่ความรู้สึกหนู หนูรู้สึกว่าคนแบบนี้หนูจะไม่ยุ่ง มันคนละมุมกัน เขาโกรธเรา เขาผิดใจของเขาคนเดียว ไม่ใช่หนูไปทะเลาะกับเขา หนูไม่เคยทะเลาะกับเขา เป็นเรื่องที่หนูจัดงานและหนูให้อีกคนนึงไปเป็นเป็นพิธีกร เพราะว่าเขาไปเป็นพิธีกรและเขาไปไถตังผู้ใหญ่ของหนู เขาขึ้นไปมอบกระเช้า เขาบอกว่าเขาเป็นพิธีกรตลก เขาก็ต้องได้ตังค์เหมือนกัน เหมือนเราต้องทำให้เขาจ่ายเงิน เหมือนหลอกผู้ใหญ่เสียตังค์ หนูก็เลยบอกโอเค งั้นงานต่อไปไม่ต้องมา เขาอาจจะมีความโกรธแค้น อันนี้หนูไม่ทราบ
...
เลยเคืองกัน?
จอย : สำหรับเขาอันนี้หนูไม่ทราบ แต่สำหรับหนู หนูไม่คิดอะไร
ความสนิทสนม?
จอย : รู้จักกันมา 10 กว่าปี ก็เคยทำงานร่วมกัน เขาเป็นพิธีกร หนูก็เป็นนักร้องธรรมดา แต่ความยิ่งใหญ่ตรงนี้หนูไม่ทราบ
แหวดศรีเข้ามาห้ามเลยโดนไปด้วย?
จอย : เขาเป็นคนที่โดนด่าก่อน เพราะเขาเป็นคนพาหนูมา เขาจะเข้าไปห้าม เขาก็โดนด่าก่อนคนแรก ถ้อยคำที่หยาบคายหนักกว่าหนูอีก
เขารู้ว่าพี่จอยจะมา?
จอย : จริงๆ หนูไม่รู้เลยว่าการที่เราจะไปร้องเพลง จะต้องเจออะไรหรือว่าเขาอยู่ เราเคยไปเจอกันก่อนหน้านี้หนึ่งงาน เขาบอกว่าเดี๋ยวพบกับ จอย บียอนด์ ครับ เขาลงไปหนูก็สวนขึ้นมา คนไม่พูดกันมันก็คือแค่นั้น แต่ไม่คิดว่าทำไมงานนี้ถึงยิ่งใหญ่ ไม่ทราบเหมือนกัน
พี่ฮายบอกว่าปกติเขามีพฤติกรรมแบบนี้?
จอย : หลังจากที่เขาเมา ตรงนั้นหนูไม่ก้าวล่วง เพราะว่าหนูไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้น เอาในกรณีนี้หนูเนาะ แต่โดยปกติที่เขาบอกกันมา พอหายแล้วก็บอกว่าไม่ได้ทำ
หลังจากเหตุการณ์เขาก็เลยกลับ?
จอย : พี่เขาบอกว่าถ้าจะสร้างความวุ่นวายให้กลับไป ไม่งั้นหนูจะไม่ได้ขึ้น เพราะว่าเขาขวางบันไดอยู่ (ที่เขากลับเพราะสมชายให้เขากลับ?) หนูก็ต้องขึ้นไปโชว์ ความรู้สึกในความสนุกมันจ๋อยอะ แต่ว่าเราก็ต้องขึ้นไป เพราะคนที่เขาอยู่หน้างานเขาก็ไม่ทราบว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไร หนูก็เต็มที่ของหนู ก็ 70-80 อาจไม่ได้ฟูมาก
แจ้งความเรียบร้อย?
จอย : ใช่ค่ะ วันรุ่งขึ้น เพราะว่าหนูต้องกลับเลย เพราะว่าต้องไปที่สุพรรณบุรี
แจ้งความต้องการอะไร?
จอย : เขาทำอุกอาจต่อหน้าสาธารณชน ในสถานะที่หนูเป็นศิลปิน หนูเป็นนางเอก ตายแล้ว หนูก็เป็นนักธุรกิจด้วย มันไม่สมควรมีเรื่องที่จะต้องโดนด่าต่อหน้าคน ถ้ายกหูมาเราอาจจะไม่ถือ แต่นี่เขารู้ว่ามีประชาชนและเขาก็ยังจะด่า หนูจะทำให้เป็นตัวอย่าง ว่าทำแบบนี้กับทุกคนมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นหนูจะต้องดำเนินคดีที่สุด
...
แจ้งความข้อหาอะไรบ้าง?
จอย : แจ้งข้อหาแค่ที่เพราะว่าเราตรงนี้ ส่วนจะได้ข้อหาอะไรบ้างหนูยังไม่ทราบ คือหนูไม่ได้คิดว่าเป็นการเตรียมตัวอะไรเลย มันเกิดจากความว่า เฮ้ย กล้าด้วยเหรอ
รวมกลุ่มไปแจ้งไหม หรือว่าไปของจอยคนเดียว?
จอย : จริงๆ นักร้องท่านอื่นไม่มี เพราะว่าเป็นวงใหญ่ แล้วก็เป็นหนู แต่ว่าน้องๆ ที่เป็นแดนเซอร์และพี่ๆ ที่เป็นนักดนตรีที่เขาอยู่ตรงนั้นเขาไปด้วย แต่ว่าเขาไปเฉยๆ น้องแหวดไปเป็นพยาน เพราะน้องแหวดโดนก่อน
ที่ไปแจ้งความไว้ตอนนี้ถึงไหนแล้ว?
จอย : เขาเรียกวันที่ 19 เวลา 9 โมง ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา มีสิทธิปฏิเสธได้ค่ะ แต่ว่ามันอยู่ในรูปแบบของตำรวจ ซึ่งหนูก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำยังไง
เราอยากให้เขาได้รับบทเรียนยังไงบ้าง?
จอย : อันดับแรกก็คือความผิดที่กระทำต่อที่สาธารณชน ทำให้คนอื่นเขาอับอาย อันนี้ต้องไปเรื่องของกฎหมาย ไม่มีใครอยากให้ใครต้องเป็นอะไรขนาดนั้น ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่ว่าความอายของคนมีขีดจำกัด บางคนอายแค่นี้ บางคนอาจจะไม่รู้สึก แต่บางคนเขาด่าไม่ได้ เขามีหน้าที่การงาน เราเป็นหัวหน้าคน มาชี้หน้าด่าแบบนี้เราบริหารธุรกิจไม่ได้แล้ว
มันกระทบชื่อเสียงเรา?
จอย : ใช่ค่ะ เพราะส่วนนึงหนูเป็นศิลปิน แต่ส่วนนึงเหมือนเป็นเจ้าของธุรกิจ ถ้าทำแบบนี้คือใครก็ด่าได้ เหมือนเป็นการเรียกร้องสิทธิกลับคืนมา จะทำกับทุกคนไม่ได้ เขาท้าทาย เขาไม่ขอโทษ เขาไม่ทำ เขาไม่ผิด
ได้คุยกับพี่ฮายไหม เขาบอกไม่โอเค?
จอย : หนูไม่ได้คุยกับเขาโดยตรง แต่เขาทราบเรื่องจากใครหรือเปล่า หนูไม่ทราบ มันเป็นธรรมชาติที่ไม่ต้องโทรหาใคร เหมือนที่เขาทำ หนูจะไม่โทร หนูเอาคนที่อยู่ตรงนั้นจริงๆ หนูไม่ต้องโทรหว่านล้อมใคร ว่าให้ตอบแบบนี้ หนูไม่มีการเตรียมการ
แหวดศรีว่าไงบ้าง?
แหวดศรี : ตอนแรกไม่ติดใจนะพี่ เพราะเขาโทรมาขอโทษหนูแล้ว หนูก็คุยกับพี่จอย คุยกับเขาแล้วว่า พี่โทรมาขอโทษหนูแล้วก็จบที่หนู แต่ถ้าส่วนของพี่จอย พี่จอยจะให้หนูไปเป็นพยาน หนูก็ต้องไป แต่ถ้าพี่จะโกรธ ไม่คบหนู อันนี้แล้วแต่พี่นะ ขอบอกว่าถ้ามึงไปเป็นพยาน กูก็มีพยานนะ หนูก็บอกว่าแล้วแต่พี่สิ เขาบอกว่าพยานของเขาเดี๋ยวนายกหาให้ จะเอาสักกี่คนล่ะ 20 คน 100 คน เขาก็หาได้ในงานนั่นแหละ หนูก็บอกว่าแล้วแต่ หนูไม่รู้ว่าเขาจะเบ่งหรืออะไร แต่เขาพูดกับหนูแบบนี้
รู้นิสัยใจคอเขาไหม?
แหวดศรี : รู้ค่ะ แต่หนูไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้ หนูไม่เคยเจอใครทำกับหนูหนักขนาดนั้น แต่ที่หนูไม่แจ้งความเพราะหนูเห็นเขาเป็นพี่ชาย แต่นี่เป็นพี่สาวหนู หนูก็ทิ้งไม่ได้ หนูก็เอาเขามาแล้วหนูก็ทำงานกับเขาด้วย หนูก็บอกว่าหนูไม่ทิ้ง หนูก็เสียใจ หนูพาพี่ไปเจออะไร หนูยังงง ตอนที่เขามาด่าหนูก่อน ขอผลักหนูก่อนแล้วหนูก็ถอยออกมา แล้วหนูก็บอกพี่จอย พี่อยู่หลังหนูไว้ ไม่มีอะไร เดี๋ยวหนูเคลียร์เอง