เมื่อ เก่ง ธชย ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรก จุดแตกหักในความรักครั้งหนึ่ง พร้อมเปิดเส้นทางสู่การเป็นศิลปินที่ไม่เคยคิดยอมแพ้ ทุ่มเทถึงขนาดเคยโหวตตัวเอง

เคยมีความคิดไหม หรือที่บ้านรู้สึกไหมว่าสิ่งที่เราทำอยู่จะทำมาหากินหรือจริงไม่?
เก่ง ธชย : ไม่เคยมีคำถามนี้เลยครับ แต่ผมเคยได้ยินคนพูดเรื่องนี้บ่อย แต่ผมไม่เคยเข้าไปอยู่ในคำถามนี้ แล้วก็ที่บ้านก็ไม่เคยมีคำถามนี้กับเรา แล้วเราก็อยู่กับความสุข

ในยุคเก่าๆ สมัยเรา เรื่องนี้สำคัญที่สุด เรียนอะไรเพื่อเอาไปทำอะไร บางทีพอเราไปเรียนอะไรนอกลู่นอกทางก็จะมีคนมองว่าแบบเดี๋ยวจบแล้วจะไปทำมาหากินอะไร เพราะเมื่อก่อนอาชีพไม่ได้มีความหลากหลายเหมือนตอนนี้ เคยแบบรักการประกวดมากจนต้องแม้เสียเงินไปประกวด จ่ายเงินโหวตเองก็เอา?
เก่ง ธชย : มันเป็นเหมือนประกวดที่ต้องเสียเงินโหวตตัวเอง เราก็เลยจ่ายเงินเพื่อโหวตตัวเองเข้าไปสองถึงสามหมื่นนะครับ ซึ่งก็ไม่ได้นะครับ จำได้ว่าพอเราไม่ได้ เราก็รู้สึกเสียใจ ทำให้เรารู้ว่าเงินมันมีค่ามาก ก็เลยโทร.ไปบอกแม่ว่าไม่ได้เข้ารอบนะ แล้วถามว่าแม่เหนื่อยไหม แม่ตอบกลับมาว่าแล้วเก่งเหนื่อยไหมลูก เราก็เลยรู้สึกว่าเงินมันซื้อความสำเร็จไม่ได้

...

และมีบางเวทีที่เราไปประกวดมีกรรมการวิพากษ์วิจารณ์บางประโยคออกมาแล้วมันก็ยังอยู่ในใจของเรา?
เก่ง ธชย : พี่ม้าครับ แต่เป็นคำที่ผมยังจำได้เสมอ ผมเข้าไปแล้วผมร้องจบปุ๊บ เขาก็พูดเหมือนผมไม่อยู่ในห้องเลยครับ เขาบอกว่าตัวลีบฉันไม่เอาหรอก คือเราเป็นคนต่างจังหวัด แล้วเราก็ตกใจเลยครับ อะไรเนี่ยเราก็เข้าไปรอบหนึ่งแล้วก็ตกรอบแล้วกลับมานั่งดูตัวเองแล้วว่าต้องขอบคุณพี่ม้าถ้าวันนั้นพี่ม้าให้ความสำเร็จเราเร็วเกินไป มันอาจจะไม่ถูกเวลา เพราะตัวเก่งในเวอร์ชันตอนนั้นเก่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่เวอร์ชันที่ดีที่สุดครับ

เวลาที่เราไม่ได้ มีแอบคิดในใจด่ากรรมการบ้างไหมเอ่ย?
เก่ง ธชย : โอ๊ย ประจำครับ (หัวเราะ) เวลาที่เราไม่ได้ เราก็จะไม่เข้าใจ จะว่าเขาก่อนเสมอ แต่พอเราตั้งสติได้ เราจึงเอาคนที่เขาชนะเราเอาเหตุผลนั้นมาพัฒนาตัวเรา

เคยรู้สึกไหมถ้าเราบอกว่าเราแพ้บ่อยมาก เรารู้สึกว่าพอแล้ว เสียเวลา ไม่เอาแล้ว ประกวดกี่ทีก็ไม่ได้สักที เพราะบางคนกลัวความพ่ายแพ้จนเลือกที่จะพยายามหนี หรือหลีกเลี่ยงการแข่ง?
เก่ง ธชย : เชื่อไหมครับ ไม่เคยเลยครับแพ้เสียใจครับ แต่ไม่เคยพูดว่าไม่เอาแล้ว ก็อีกทุกวันนี้ผมจึงยังแข่งอยู่เลยครับ ผมยังอยากที่จะหาเวทีอยู่แล้ว แล้วเราก็เป็นคนที่ไม่ยึดติดอยู่กับความสำเร็จเก่าด้วยครับ ถึงเราจะเคยได้แชมป์มาแล้ว นั่นเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่คนรอบตัวเก่ง บางที่เขาก็ตื่นเต้นกับเราว่าเราไม่ควรเอาความสำเร็จบางอย่างไปแลกครับ หมายถึงคนรอบตัวเราเขาคิดแทนเราครับ แต่ตัวเก่งเป็นคนที่ไม่ค่อยยึดติดความสำเร็จในอดีตครับ

เราเคยสำเร็จแบบนี้มาแล้วในเวทีนี้มาแล้ว การที่ไปเริ่มต้นใหม่ ไปแข่งใหม่ แล้วไปตกรอบเวทีอื่น มันก็อาจทำให้เราถูกด้อยค่าลง?
เก่ง ธชย : คนรอบตัวส่วนใหญ่เขาคิดแบบนั้นครับ แต่ตัวเราเป็นคนที่ชอบประกวดมากๆ ปัจจุบันก็ยังประกวดอยู่ ผมรู้สึกว่าความสำเร็จ หรือชัยชนะถ้าได้กินสักครั้ง มันจะอยากกินอีกครับ (ยิ้ม)

ส่วนในเรื่องของความรักครั้งหนึ่งที่เป็นครั้งแรกที่เก่งได้อยู่กับเขาด้วยกันยาวๆ ถูกไหม เพราะฉะนั้นจริงๆ มันไม่ได้เป็นเรื่องว่าใครดีไม่ดีด้วยนะ แต่เป็นเรื่องที่ว่าไปคือเหมือนไม่รู้จักกันมากพอในหลายๆ มุม เหมือนบางคนบอกว่าต้องลองอยู่ด้วยกัน?
เก่ง ธชย : แต่มันเป็นแค่แบบ 3 วัน 2 คืน ที่โคตรจะยาวนานมากๆ ครับ

ซึ่งมาถึงปุ๊บความสวยงามของมัลดีฟส์นั้นเราเริ่มต้นด้วยการทะเลาะกันเลย?
เก่ง ธชย : ทะเลาะกันตั้งแต่ถึงเลยครับ แล้วก็เราก็ดูทะเล เราก็ดูฟ้า ดูตั้งแต่ที่มันยังเป็นสวยๆ แล้วฝนมันก็ตกจนฝนหยุดตกแล้วรุ้งมันก็ขึ้นมา คือเราอยู่กันตรงนั้นยาวนานมาก เพราะคือไม่คุยกันเลยครับ คือทะเลาะกันจนไม่คุยกัน แล้วไปนั่งอยู่ข้างหลังห้อง อวสานมัลดีฟส์มากเลย ผมรู้สึกว่าทำไมมัลดีฟส์มันไม่สวยเลย

จริงๆ เราคิดว่าเรื่องมันเกิดขึ้นจากที่คนสองคนต่างกัน ไม่รู้จักกัน ไม่เข้ากัน หรือจริงๆ แล้วเราหงุดหงิดสะสมจากตอนที่เราพูดตรงๆ คือไปหึงหวงเขาล่วงหน้า จากตอนที่เราแค่เห็นเขาไปกดฟอลโลว์กันแค่ตอนที่ฉันหนีไปเข้าห้องน้ำเอง เราเอาทุกอย่างมารวมกันหมด?
เก่ง ธชย : ใช่ครับ (ยิ้ม)

...

เอาจริงๆ นะ การทะเลาะกันเขาหงุดหงิดเรา เพราะว่าเรามัวไประแวงเหรอ?
เก่ง ธชย : มันมีพฤติกรรมบางอย่างน่าสงสัยครับ (แปลว่าเราก็แอบไม่มั่นใจในตัวของเขาอยู่ด้วยเหรอ) ครับ

หรือเราไม่มั่นใจในตัวเขา หรือเราไม่มั่นใจในตัวเอง?
เก่ง ธชย : ผมว่าน่าจะทั้งสองอย่างครับ คือถ้าเขาไม่ผิด เราสามารถเคลียร์กันได้ครับ ความเป็นเขา เก่งรู้สึกว่าเราสามารถคุยกันด้วยเหตุผลได้ครับ แต่ความประหลาดคือปรับโหมดเป็นคนหยาบ ใช้คำพูดรุนแรงเหมือนแกล้งโมโหใส่ ทั้งๆ ที่เรารู้สึกว่าน่าจะเป็นฝ่ายผิด แล้วก็โวยวายด้วยความเป็นเก่ง เราก็รู้สึกว่าไม่เคยมีใครด่าเราขนาดนี้ แต่เขาแบบด่าเราจนเรารู้สึกว่าไม่มีค่าความเป็นคนเลย เขาด่าเราแต่เราไม่เถียงนะครับ ตัวเราเป็นคนที่เถียงคนตลอดเวลาทำงาน ลูกน้องจะรู้ดี เก่งเป็นคนที่ปากจัดมาก ถ้าอยากได้อะไรเราจะแบบสั่งนู่นนี่นั่น แต่ประหลาดมากกับคนนี้ไม่เถียง พอไม่เถียงปุ๊บ มันเหมือนกับมันกดอยู่ข้างในครับ แล้วให้เขาด่าให้เขาด่า มันมีความคิดว่าทำไมมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ทำไมให้เขาลดทอนคุณค่าของตัวเองแบบนี้ 3 วัน 2 คืนทรมานมากครับ แต่จริงๆ ตั้งแต่วันแรกครับ จะยกหูบอกให้เพื่อน พอดีเพื่อนทำงานอยู่ที่สายการบินมัลดีฟส์บอกว่าเดี๋ยวจะไปหาแล้วนะ พยายามหาเรือมารับ คือเราพยายามจะหนีกลับเลย โรงแรมไม่ให้กลับ โรงแรมเขาตกใจเพราะเขารู้เวลาที่เรามา เขาจะเช็กประวัติเราก่อนเขาก็จะรู้ว่าเราเป็นใคร เขาก็ตกใจว่าเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า เขาก็ถามเราว่าเกิดอะไรขึ้น บอกเขาได้ไหม เราก็คิดว่าจะบอกอย่างไรดี (ยิ้ม) ก็บอกไปว่าไม่มีอะไร เกิดเหตุฉุกเฉินนิดหน่อย เราเลยรีบกลับ

แต่แปลกมากเลยในระยะเวลาสั้นๆ แต่ทำให้คนสองคนคุยกันไม่ได้เลย มันไม่มีช่วงที่เย็นลงเลยเหรอในบรรยากาศนั้น?
เก่ง ธชย : ผมไม่ตีกลับนะ มันมีแต่ใส่เข้ามา ผมไม่ได้ไม่เย็นนะครับ แต่สุดท้ายก็อยู่ครบ 3 วัน 2 คืนครับ เราคุยกัน แต่ไม่ได้เป็นบทสนทนาที่โอเค.

...