เปิดชีวิตนักแสดง ผู้กำกับ และร็อกเกอร์ใจนักเลงในตำนาน อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง กับชีวิตหลังต้องฝ่ามรสุมป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบนานกว่า 5 ปี เชื่อเป็นโรคเวรกรรม พร้อมเผยความในใจสุดซึ้งถึง แดง ธัญญา ภรรยาคู่ชีวิต ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow Special ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร

5 ปีที่แล้วล้มป่วยเรียกว่าโรค?

อ๊อฟ : หลอดเลือดในสมองตีบ ไม่แตก

แล้วทุกวันนี้เป็นยังไงบ้างพี่?

อ๊อฟ : ก็ดีขึ้น ดีขึ้น แต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ พูดยังไม่ชัด เดินพอได้

แล้วมันไม่มีทางหาย?

อ๊อฟ : มี แล้วแต่อาการของแต่ละคน บางคนก็หายขาดเลย บางคนก็มีอาการที่เห็นภายนอก

ขอย้อนเวลากลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว 16 สิงหา ปี 61 วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?

อ๊อฟ : ไปทำงานตามปกติ ไม่มีอาการอะไรบอกเลย ความคิดเราคือไม่มีสัญญาณอะไรบอกเลย แต่จริงๆ แล้วมี อย่างเช่น ตื่นมาแล้วเวียนหัว นี่เขาเตือนแล้วเราก็นอน แล้วสักพักก็หาย วันที่เป็นมีอาการปวดบ่า ยังบอกลูกสาวเลยว่าพ่อปวดบ่า นวดให้หน่อย ตอนนั้นขับรถอยู่ แล้วก็ไปทำงานตามปกติ อาการมันเหมือนคนเป็นลม เวียนหัว รู้สึกเหมือนเรานอนน้อย แต่มันก็ดีขึ้น ก็คิดว่าไม่เป็นไร ก็ยืนกำกับใหม่ เจริญปุระอยู่ แล้วก็เดินมาที่หน้ามอนิเตอร์ บอกลูกน้องว่าพี่มีอาการคล้ายจะเป็นลม พี่สงสัยขาดโพแทสเซียม ให้กินกล้วยหอม ก็ส่งกล้วยหอมมาให้ พอรับปุ๊ปมันหล่นเลย ลองลุกขึ้นยืนมาอีกแล้วทิ้งตัวลงตู้มเลย บอกลูกสาวว่าพ่อไปละ

...

ไปแล้วของพี่หมายความว่ายังไง?

อ๊อฟ : ตาย (หัวเราะ) พี่เป็นคนไม่ซีเรียสเรื่องความตาย ตอนก่อนนอนพี่จะสมมติว่าตัวเองตาย เรียกว่าหัดตาย แล้วก็คิดอะไรดีๆ ก่อนตาย เราไม่รู้ว่าเราหลับไปแล้วเราจะตื่นหรือไม่

แล้วพาพี่ส่งโรงพยาบาลเลยไหม?

อ๊อฟ : ไปเลย เขาพาอุ้มไปโรงพยาบาลไม่ถึง 5 นาที เพราะโรงพยาบาลอยู่ข้างหน้าแล้วก็ฉีดยาขยายหลอดเลือด สลายลิ่มเลือด

ตื่นมาอีกวันหลังจากเจอหมอแล้วกลัวไหมจะกลับมาไม่เหมือนเดิม?

อ๊อฟ : รู้แล้วว่ามันหายไปครึ่งนึง ยกแขนไม่ได้ เดินไม่ได้

พี่คิดอะไรกับตัวเองบ้างตอนนั้น?

อ๊อฟ : ไม่คิด พักผ่อน (หัวเราะ)

ตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลแล้วตื่นมาเจอพี่แดง พี่แดงพูดกับพี่ว่า?

อ๊อฟ : ไม่เป็นไร เขาชอบพูดคำนี้ อะไรก็ตาม มีเรื่องอะไรก็ตาม คำแรกที่พูด ไม่เป็นไร สิ่งแรกเลยที่บอกกับพี่แดงคือขอโทษเขาที่เราไม่ดูแลตัวเอง เรารู้ตัว ขอเวลาพัก 1 ปี แล้วจะทำงาน แต่พูดแบบไม่รู้เรื่อง พูดแบบเราเข้าใจเอง เพราะยังพูดไม่ชัด ตอนทำงานพี่ก็ยังพูดไม่ชัดเลย แต่พี่คิดว่าการพูดไม่ชัดไม่ใช่หน้าที่เรา เป็นหน้าที่ของคนฟัง (หัวเราะ)

กายภาพลำบากไหม?

อ๊อฟ : ไม่ครับ ถ้าหากว่าคุณเป็นสโตรก หมอรู้เลยว่าต้องทำอะไรบ้าง ควบคุมอาการที่มันตันอยู่ไม่ให้แตก ควบคุมความดันไม่ให้มี หลังจากนั้นเป็นเรื่องของการฟื้นฟูล้วนๆ คือเข็นรถเราไปนอนอยู่ที่ห้องกายภาพ ถ้าเรารักษามัน ดูแลมัน ฟื้นฟูมัน ดีขึ้นแน่ๆ ผมดีกว่าเมื่อวาน จงเชื่อว่ามันดีขึ้น ถ้าเราปฏิบัติในการฟื้นฟูกายภาพ

ตอนแรกพี่กายภาพทุกวัน?

อ๊อฟ : ทุกวัน แรกๆ อยู่โรงพยาบาล 1 เดือน กับอีก 20 วัน ออกจากโรงพยาบาลนั่งรถเข็นเห็นทางลาด เลยคิดในใจว่าเป็นภาระ ให้เวลาเดือนนึงจะเอาออกไปให้หมด พยาบาลก็ต้องมานอนเฝ้าเราเหมือนกัน เดือนนึงไล่กลับบ้านเลย ครบ 1 เดือน พี่เอาออกหมด ไล่กลับบ้าน เดินไม้เท้าได้ เราก็ไล่พยาบาลกลับ แต่เป็นภาระของเมียและลูก (หัวเราะ)

หลังจากที่เราต้องหัดเดินใหม่ มันเหมือนที่เขาพูดกันไหมว่าก็เหมือนเด็กที่ต้องเริ่มฝึกใหม่?

อ๊อฟ : ไม่เหมือน พี่ยิ่งกว่าเด็ก (หัวเราะ) เด็ก 1 ปี ตั้งไข่ 2 ปี เดินได้ แต่เขาไม่รู้เรื่องว่าขาฉันเดินไม่ได้ แต่เราที่เป็นเรารู้ตัวตลอด นี่ไม่ใช่ 2 ปีนะ จะ 5 ปีแล้ว ต้องเข้าใจว่าเราจะกลับมาเดินได้มันต้องใช้เวลา อาจจะฝึกหนัก เดินเร็ว หายได้เร็ว ถ้าฝึกน้อยก็หายช้าหน่อย วันนี้วิธีคิดคือฉันต้องดูแลตัวเองให้ได้ พี่ชอบเที่ยว สิ่งแรกคือขอไปเที่ยวเมืองนอกได้ ปีแรกพี่ไปญี่ปุ่นเลย

...

กี่เดือนจากที่ล้ม?

อ๊อฟ : ประมาณปีนึง

เวลาพี่ไปก็ปกติเลย ดูแลตัวเอง?

อ๊อฟ : พี่ไม่ชอบเที่ยวแบบเป็นแพทเทิร์นตามตารางของทัวร์ พี่จะเช่ารถแล้วขับไปกันเอง

ตอนแรกๆ ที่เราขยับร่างกายไม่ได้ อารมณ์เหวี่ยงไหม?

อ๊อฟ : น้อยมาก ถามว่าอารมณ์เหวี่ยงไหม มี เราพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนแรกเรายังค้นหาปรัชญาส่วนตัวเราไม่ได้ จะหงุดหงิดมาก มี ยอมรับ แต่ว่าดึงกลับมาให้เร็ว เพราะทั้งหมดนี้เป็นทุกข์หมด เพราะถ้าเรายิ่งไปโวยวาย ยิ่งไปอาละวาด มันเพิ่มทุกข์ธรรมะช่วยได้เยอะ ปกติเป็นคนชอบธรรมะอยู่แล้ว ชอบสวดมนต์ แต่เราไม่มีเวลาไปศึกษา แต่เชื่อไหม ตั้งแต่เป็นสโตรกมีเวลาได้อ่านได้เข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม ตรงนั้นเราเอามาช่วยในเรื่องของความคิด เรื่องของอารมณ์ได้ดีมากๆ

แล้วพี่แดงหมายถึงอะไร ที่บอกว่าเป็นช่วงการเอาคืนของพี่อ๊อฟ?

อ๊อฟ : พี่เป็นคนชอบสะสม ก่อนป่วยพี่ไปดูนาฬิกาที่ร้านเพื่อน ไปเจอนาฬิกากุ๊กกูตัวนึงตัวใหญ่มาก ตัวใหญ่สุดตั้งแต่เคยเจอมา ถามราคาแสนกว่าบาท แม่ขอซื้อ เขาก็บ่น เลยไม่ได้ซื้อ กูป่วยเลย (หัวเราะ) เมียผมก็แอบไปซื้อให้วันเกิด กันยาก็ได้แล้ว (ยิ้ม) แต่มันเป็นอาการของโรคนะ เรียกชื่อน้องสาวเป็นลูกสาว น้องสาวพี่ชื่อแอ๋ว เราเรียกแอ๋วๆ แต่เรียกลูกสาวพี่ แล้วก็เรียกไรเฟิล เรียกเป็นชื่อน้องชาย คงเป็นอาการของโรค แต่โชคดีมากเรียกชื่อเมียไม่ผิด (หัวเราะ)

...

เรื่องความทรงจำพี่มีปัญหาไหม?

อ๊อฟ : มีแน่ๆ ตอนแรกๆ พี่เป็นคนที่สวดมนต์ทุกวัน บทสวดทุกอันลืมหมดเลย พี่แดงต้องเขียนติดไว้ที่ข้างฝา แล้วพี่ก็นอนอ่าน (แล้วมันกลับมาไหม) กลับมา ทุกวันนี้ก็สวดได้ แล้วก็มีอาการที่ประหลาดอยู่อย่าง คือเวลาขับรถคอยจะระแวงไปบอกทางเขา แต่บอกผิด เป็นช่วงแรกๆ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว

แล้วของที่เราสะสมไว้?

อ๊อฟ : จำได้ทุกชิ้น

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมามีท้อไหม?

อ๊อฟ : มันมีบ้าง แต่ความโชคดีของพี่คือการที่เราเข้าสู่ธรรมะหรือว่าธรรมชาติ มันดึงกลับมาได้เร็ว ไม่ท้อ พี่ป่วยพอเดินไม้เท้าได้ พี่ออกแล้ว ไม่สนใจ พี่ไปงานรับรางวัลตั้งแต่ยังพูดไม่รู้เรื่องเลย

หลายคนไม่กล้าแม้แต่เป็นคนปกติ ไม่ได้เป็นนักแสดง ไม่มีคนรู้จัก พอเป็นปุ๊บไม่อยากออกไปไหนแล้ว?

อ๊อฟ : วันเวลาที่เราปกติ เพราะว่าเราหล่อ เราอยากให้เขาชื่นชม แล้วพอเราเป็นอย่างนี้ เราไม่หล่อ เราต้องไม่ออกไปเหรอ ถ้าไม่หล่อก็ออกไปได้ จะเป็นยังไงก็ช่างมัน

โรคนี้เป็นโรคของเวรกรรม พี่อ๊อฟเชื่อเรื่องนี้ไหม?

อ๊อฟ : เป็นโรคของเวรกรรมแน่นอน เวรกรรมในที่นี้หมายถึงกรรมในชาติที่แล้วหรือกรรมในชาตินี้ทั้งสองถูกต้อง กรรมชาติที่แล้วคือเราอาจจะไปทำอะไรมา ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอะไรก็แล้วแต่ กรรมในชาตินี้ก็คือนอนน้อย กินน้ำน้อย เครียดสะสม ความดันไม่ควบคุม ปัจจัยทั้งหมดมีกี่อย่างพี่ทำหมด มันคือกรรมในชาตินี้ที่พี่ทำ

กรรมจากสิ่งที่พี่ทำ แต่ไม่ใช่จากละครกรงกรรมใช่ไหม เพราะพี่กำกับกรงกรรม?

อ๊อฟ : ไม่ๆ ในการผลิตคอนเทนต์ทุกอัน เราทำด้วยจิตใจที่ดี เราไม่ดูถูก เพราะเรามีการบวงสรวงตลอด อย่างพี่ทำเรื่องพญานาค พี่ล้มตอนทำเรื่องนาคี 2 บางคนก็บอกว่าเป็นเพราะอะไรหรือเปล่า เราบวงสรวงใหญ่ด้วย ไม่ดูถูก ไม่ประมาท ทำเต็มที่ที่เราทำแล้ว

...

กายภาพก็แล้ว หาหมอก็แล้ว หมอไสยศาสตร์พี่ก็ไป?

อ๊อฟ : ถ้าพวกคุณเป็นอย่างนี้จะรู้ว่า ความเชื่อต่างๆ มันเข้ามาหมด เราก็ไขว่คว้า ไปรดน้ำมนต์ก็ไป ฝังเข็มก็ไป กินสมองหมูก็ไป สมองหมูกินเยอะมากนะ ต้องฉีดเป็นสเต็มเซลล์

สมองหมูเขาเชื่อว่าอะไร?

อ๊อฟ : ทำจากสมองหมู เพราะสมองหมูจะคล้ายกับสมองคนมากที่สุด พี่ไปให้จนพี่จะร้องอู๊ดอู๊ดแล้ว

คร่าวๆ ตอนนี้รักษามาเท่าไรแล้ว?

อ๊อฟ : หลักล้านแน่นอน เฉพาะตอนออกจากโรงพยาบาลก็กว่าแล้ว

ตลอด 30 ปีที่แต่งงานกันมา มีทั้งสุขและทุกข์ ปลอบใจกันยังไง?

อ๊อฟ : มันอยู่กันจนไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว พี่คบกันก่อนแต่งงาน 8 ปี แต่งงานกันมา 30 กว่าปี เหมือนรู้ใจกัน เราไม่ทำอะไรที่เขาไม่ชอบ เขาก็เหมือนกัน เข้าใจในระดับหนึ่ง ส่วนจะพูดให้กำลังใจกันไหม ก็พอมีบ้างในวันที่อ่อนแอ ก็จะพูดตามสถานการณ์อย่างเช่น ไม่ต้องฟังมาก ไม่ต้องไปคิดมาก แต่พี่แดงจะพูดว่าไม่เป็นไร

ถ้าพี่แดงดูอยู่ตอนนี้ อยากจะบอกอะไรเขา?

อ๊อฟ : 40 กว่าปี ไม่มีวันไหนที่รักน้อยลงกว่าเมื่อวานเลย ไม่มีอะไรที่จะบอก นอกจากรักนะ รักกว่าเมื่อวานนะ ลูกก็เหมือนกัน

มีช่วงที่พี่แดงเขาเครียดไหม ที่ดูแลเรา ช่วยเรา?

อ๊อฟ : มีครับ คือเราขอบคุณเขาอยู่แล้ว บอกเขาเลยว่าไม่ต้องห่วงนะ ปีนึงจะทำงานให้ได้

พี่แดงเครียดจนคิดว่าจะเป็นสโตรกตามพี่?

อ๊อฟ : เวลาเราเป็นอะไร คนไม่สบายไม่ใช่ภาระ ภาระทั้งหมดตกอยู่กับคนรอบข้าง ถ้าคุณไม่อยากเป็นภาระในครอบครัวคุณก็อย่าป่วย ต้องป้องกัน ปรึกษาหมอก็ได้ หาในยูทูบก็ได้ วิธีการรักษา วิธีการดูแลตัวเอง วิธีป้องกันไม่ให้เป็นโรคสโตรก ในนั้นก็มีตั้งเยอะแยะ แต่อย่าเพิ่งไปเชื่อนะ ปรึกษาหมอก่อน

พี่ยังมีความหวังไหม ว่าพี่จะหายเป็นปลิดทิ้ง?

อ๊อฟ : ความหวังมีไว้พุ่งชนเหมือนกับเป้าหมาย แต่ว่าเราจะไปได้มากเท่าไร เต็มที่กับความสามารถของเรา แต่สิ่งสำคัญที่สุด เราต้องอยู่กับมันให้ได้ ความรักในครอบครัวสำคัญที่สุดและสวยงามที่สุด ไม่ต้องไปหาที่อื่น.