เปิดใจเล่าถึงชีวิตที่หลงผิดด้วยเสียงที่สั่นเครือ สำหรับนักแสดง-พิธีกรอารมณ์ดี ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด พงศ์สุชาติ หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า อาตุ่ย ที่ได้มาเล่าอุทาหรณ์ชีวิต เคยหลงผิดจนสูญเสียทุกอย่าง ในรายการแฉ

โดย มดดำ คชาภา เล่าก่อนว่า ช่วงหนึ่งอยู่กับอาตุ่ยทุกวัน วันหนึ่งนางหายไปจากชีวิต เชื่อมั้ย ชีวิตนางไม่เหลืออะไรเลย ตอนแรกนางไม่กล้าจะเปิดเผย ก็บอกว่า ถ้ายังไว้ใจกันอยู่ ก็มาเล่าสู่กันฟัง ตอนนั้นใครเตือนก็ไม่ฟัง นางคิดว่านางจะไม่คบกับพวกเราอีกแล้ว เพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิง ครั้งหนึ่งนางหลงผิด 

จะรอวันที่อาตุ่ยอยากจะพูด หลังจากที่ตัดมนุษย์ทุกคนออกจากชีวิต วันหนึ่งเงินไม่เหลือ ต้องไปเอาเงินจากแม่และยืมช่างแต่งหน้า 5 แสน เพิ่งคืนเงิน ซึ่งมดดำบอกว่า หัวเราะให้ได้ตลอด อย่าร้องไห้กลางรายการนะ ก่อนหน้านี้มีคนบอก อยากรวยเหมือนอาตุ่ย ซื้อคอนโดฯ หรูมากอยู่ในกลางเมือง แล้วอาตุ่ยก็หายไปจากชีวิตมนุษย์ทุกคน

ก่อนที่ อาตุ่ย จะเล่าว่า เราก็นึกว่าสิ่งที่เราเคยอยู่ เคยมีความสุข เล่นกับน้อง มาทำงานในวงการบันเทิง ตอนนั้นมันกลายเป็นของที่มันไร้สาระ มันเป็นงานอะไรก็ไม่รู้ เราไม่ควรทำ การทำสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ไม่ควรรับงาน ไม่ควรมายุ่งกับคนพวกนี้ที่ไร้สาระ มันได้ถูกกรอบความคิด แต่เราก็โง่เองด้วย ไม่มีใครจะมากรอบความคิดเราได้นะ ถ้าเราไม่ได้มีวิบากเก่ากับเขา

เมื่อก่อนก็ไปไหนมาไหนกับมดดำ จนวันหนึ่งอาไก่บอกว่าอาตุ่ยเปลี่ยนไป คิดว่าการมาทำงานในวงการบันเทิงมันไร้สาระ อะไรทำให้คิดอย่างนั้น?

การเอาตัวเองเข้าไปรับฟังเรื่องบางสิ่งบางอย่าง แล้วเห็นเป็นชอบ เห็นเป็นเหมาะเป็นสม เห็นเป็นคุณธรรมอันแสนจะสูงส่ง คืองานในวงการบันเทิง จริงๆ แล้วมันสร้างความสุขให้กับคน การถ่ายละคร การทำละคร มันเอาชีวิตคนมาถอดเป็นบทเรียน คนดูจะได้ไม่ต้องมาประสบปัญหาเหมือนกับละครนั้น ถ้าดูให้เป็นมันจรรโลงไง เพื่อนฝูงที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากกันไปวันๆ มันเยียวยาจิตใจเรา บนโลกที่เราอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย เกาะกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน มันเป็นความบันเทิง มันไร้สาระตรงไหน

...

แม้กระทั้งมีแฟนก็ต้องเลิก? 

มีก็ต้องเลิก (หัวเราะ) คือมันขัดขวางการทำคุณงามความดี ขัดขวางเราที่จะรับใช้คุณงามความดี อันนี้ต้องบอกว่า ในคำสั่งสอนของแต่ละสำนัก หรืออะไรต่างๆ นานา คือดีหมดนะ แต่มันอยู่ที่สติปัญญาของเราด้วย เพราะมีบ้างที่เซตอัปตัวเอง เรียนแบบโคลนนิ่งกับสิ่งที่เป็นของจริงของแท้ แล้วเขาก็ชักจูงเราไป ภายในภาพที่เหมือนเป็นของจริงของแท้ ถ้าเราไม่มีสติปัญญาทัน เราก็จะหลงเตลิดไป เหมือนอย่างที่อาเคยเป็น และเสียเวลาในชีวิตเยอะมาก ประมาณ 6-7 ปี

ไม่ใช่ไม่มีคนพยายามเตือน แต่พอเตือนปุ๊บก็ผีบ้า ตาขวางใส่?

คือตาแข็ง ตาขวางเลย อาไก่เคยพยายามจะพูด ก็ไปตาแข็งใส่เขา (เสียงสั่น) จนอาไก่เขาเสียใจ แล้วก็ห่างกันไปเลย ไม่ได้อยากโกรธเขา แต่รู้สึกว่าความห่วงใยมันทิ่มแทง มันขวางเรา หรือถ้ามดดำเตือน เราก็จะรู้สึกว่ามดดำคือพวกมาร พวกคนบาป พวกที่จะชักจูงเราไปในทางที่ไม่ดี เราอุตส่าห์มาดีแล้ว แล้วเหยียดคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ตัวเองดีจัด แย่มากตัวเองในตอนนั้น

จนไม่เหลือใครในชีวิต?

ไม่เหลือ ไม่ใช่เพราะเขาเกลียดชังเรานะ โชคดีที่เป็นแบบไหนคนก็ยังรัก แต่ถ้าเตือนแล้วทำตาแข็งใส่เขา เขาก็เลือกที่จะถอย เขาก็บอกว่าวันหนึ่งถ้ามีสติ ถ้ารู้ตัว แล้วบาดเจ็บมา พี่จะกอดเอาไว้ พี่จะรับเสมอ (เสียงสั่น) ทั้งๆ ที่เคยทำตัวแบบนั้นกับทุกคน แล้วรู้สึกว่าคนไหนที่เราชวนให้ไปฟังในสิ่งที่เราได้รับ แล้วเขาไม่ไป จะโกรธเขามาก มดดำก็ชวน แล้วคิดว่าถ้ามดดำมากับเรา จะดีกว่านี้อีก เรารู้สึกโกรธที่มดดำหัวเราะเยาะ เดี๋ยวจะตกนรก มันอาจจะดีก็ได้ แต่สำหรับอามันสูญเสียไปเยอะ

จนวันหนึ่งไม่เหลืออะไรเลย แม้กระทั่งเงินที่ทำมาที่มีเป็นหลักร้อยล้าน แต่ไม่เหลืออะไรเลย?

ก็รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียอะไรไปเยอะ ขายของมา 13 ปี เก็บเงินเก่งด้วย แต่เราไปทุ่มเหมือนเราเป็นเอฟซี อยากจะทุ่มสปอยล์เอาใจ เอาไปซื้อข้าวซื้อของ พอมานั่งทบทวนตรงนี้นะ ถ้าคนอื่นซื้อเท่านี้ เราจะได้ซื้อแพงกว่ามากๆ ตังค์มันก็จะไปหมดตรงนั้น มันสูญสลายมลายสิ้นไป

เงินที่หามาได้จากการทำงานก็ไม่เหลือเลย แต่ได้รับกลับมาคือหนี้สิน?

ตอนนี้ก็พยายามกลับมาทำงานในวงการบันเทิง แล้วก็ไปโฟกัสการค้าขายมากขึ้น แต่มันก็ยังไปกอบกู้มาไม่ได้มากมาย ยังมีหนี้ติดอยู่หลายสิบล้าน ยังขับรถคันเก่า 6 ปีที่แล้ว แต่งตัวเหมือนเป็นคนชอบสมถะ แต่จริงๆ ไม่มีตังค์จะแต่ง (หัวเราะ)

ทองที่ซื้อเก็บไว้ก็ไม่เหลือแล้ว?

ขายหมดเลย คือมันเป็นเรื่องของความหลงผิด ฉะนั้นคุณผู้ชมอย่าได้วู่วามนะ ว่าเงินทองที่ใส่ลงไปจะทำให้เราได้สติ ได้ปัญญา ได้เป็นคนที่ดีขึ้น ไม่ใช่นะคะ มันอยู่ที่การปฏิบัติตัวของเรามากกว่า

ไม่ต้องติดผู้ชาย ไม่เล่นการพนัน ไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย แต่ไปเชื่อบางสิ่งบางอย่างหมดเกลี้ยง และมีของแถมมาหลายสิบล้าน?

แต่ก็พยายามคิดทุกอย่างในแง่บวก ว่าอย่างน้อยเราก็ได้เป็นอสังหาริมทรัพย์ คิดแบบนี้ไปก่อน เพื่อเป็นแรงใจยืนหยัดในการทำงานจากนี้ไป คิดอะไรบวกๆ แต่สิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ คือความรักที่เกิดขึ้นจากคนที่รักเรา ห่วงเรา เขาต้องผิดหวังแค่ไหน แม่อาอยากจะเตือน อยากจะพูด แต่พอไปแตะ บรรยากาศมาคุ หน้าจะตึง แม่อยากจะเตือนมากๆ แต่สุดท้ายแม่ไม่เตือน เพราะกลัวลูกบาป สิ่งที่เราสูญเสียคือคนที่รักเรา เขาเสียใจ แฟนคลับรู้ คุณผู้ชมทางบ้านรู้และติงอามาด้วย สุดท้ายมานั่งอ่านคอมเมนต์ ถ้าเขาไม่เคยรักเรา เขาจะไม่ผิดหวังในตัวเรา และนั่นคือสิ่งที่เราผิดหวัง มันเสียใจตรงนั้น เรื่องเงินทองที่หายไปมันก็คือเงินทอง แต่ความรักที่หายไปมันเยอะมาก มิตรภาพ

...

จนมีพระบอกว่าเชื่อเรื่องเวรกรรมไหม มันคือเวรกรรมที่ทำกับเขามา? 

เป็นวิบากกรรมที่เราต้องชดใช้เขา

บทเรียนครั้งนี้บอกอะไรกับเราบ้าง? 

ถ้าเราทำมาหาได้ มีสัมมาอาชีพ มีกัลยาณมิตร แต่ใจยังไม่เป็นสุข ยังดีไม่มากพอ นั่นเป็นเพราะตัวของเรา ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเอาเงินไปบริจาคทานจนหมดเกลี้ยง หรือไม่รับงานที่ทำอยู่ ทอดทิ้งทางโลกไป อันนั้นเป็นความหลงผิด

แต่เราจะเป็นคนที่ดีขึ้นได้ เราต้องเห็นความรักของคนที่ห่วงใยเราอย่างแท้จริง เห็นความรักของคนที่ห่วงใยเราอย่างแท้จริง เรารักเขา เขารักเรากลับ เห็นคุณค่าของงานที่เราทำอยู่ในปัจจุบันอย่างมีความสุข ไม่ต้องไปดีกว่าใคร 

เชื่อว่าตัวเองโดนของ วันนั้นเกิดอะไรขึ้น? 

เกิดจากการที่เราอยากมี และเห็นภาพลักษณ์อันดีนั้น เซตติ้งที่น่าเชื่อถือ แล้วที่มดดำถามอันนั้นมันแรงนะ แต่ก็มีคนพูดว่าทำไมเธอหลงจัง ทำไมหลงขนาดนั้น โดนให้กินอะไรหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้จริงๆ เพราะอะไรที่ไม่รู้ก็พูดไม่ได้ แต่เราไม่ปกติจนคนสงสัย ซึ่งถ้าไม่มีหลักฐาน เราพูดไม่ได้.