ดราม่านางงามระอุไม่เคยได้พัก หลังจากตัวเต็งผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ มิสแกรนด์ลำพูน ปฏิเสธไม่ขอร่วมกิจกรรมดูดวงของกองประกวดต่อหน้า ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของเวที จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงบนโลกโซเชียลกันอย่างล้นหลาม
ล่าสุดวันนี้ (26 เมษายน 2566) บอสณวัฒน์ ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงประเด็นดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ในงานประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 รอบพรีลิม โดยเผยว่า
มันไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตย อย่างที่ทุกคนพูดไปแบบนั้น ประชาธิปไตยการเมืองที่มีผลต่อคนทั้งประเทศ ตัวเองไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ กับประชาชนทั้งประเทศ ระหว่างผมกับเขาใช้คำว่าประชาธิปไตยแบบนี้ ผมว่าตีกันผิดเปล่าๆ แต่นี่มันคือธุรกิจที่เรามีข้อตกลงเหมือนกัน อันนี้เป็นการยืนยันสำหรับข้อกำหนดบางข้อ ซึ่งอันนี้มันคือมาตรฐานของมิสแกรนด์ และน้องอ่านและเซ็นทุกข้อ หากขาดกิจกรรม 2 ครั้ง เราสามารถปลดได้ นี่คือระเบียบการของมิสแกรนด์ทั้งหมด คำว่าประชาธิปไตยคือเราต้องมีสิทธิ์ที่เหมือนคนอื่นเขากัน
เรื่องต่อไปก็คือน้องนับถือศาสนาคริสต์ อันนี้ผมต้องยอมรับว่าผมไม่ทราบ แล้ววันที่ผมประกาศว่ามีเกมนี้ออกมาเนื่องจากว่าเราต้องการที่จะทำกิจกรรมเพื่อเสริมคนดูทางบ้านโดยปกติแล้ว และงานมันจะหมดอีเวนต์แล้ว เราก็เลยขออีกรอบหนึ่ง ซึ่งเราหรือเลือก “แพม เปมิกา” เพราะเขามีความสนุกในเรื่องนี้ มีพรสวรรค์เรื่องนี้ ก็เลยบอกกล่าวให้กับผู้เข้าประกวดทุกคนเรียบร้อย สามารถดูได้จากไลน์กลุ่ม และการโพสต์ให้ทุกคนเข้า
...
ซึ่งขณะนั้นเฌอเอมและทุกคนยังอยู่ที่โรงแรม และเป็นวันที่เราให้นางงามออกจากโรงแรมช้ามาก เพื่อที่จะให้ทีมงานมาเซตระบบของดนตรีและมีการซาวนด์เช็ก ซึ่งเราก็มีเวลาให้น้องพักก่อนออกจากโรงแรม มาประมาณเที่ยงวัน แต่น้องบอกไม่ทราบ แสดงว่าน้องบกพร่องในการอ่านรายละเอียดเพราะใน Facebook และ LINE กลุ่มนางงาม ผมก็เป็นคนแจ้ง ต้องบอกยืนยันว่าเราเป็นคนทำงานมีระบบ ซึ่งในไลน์กรุ๊ปอยู่ทั้งหมด 97 คน ในภาวะฉุกเฉิน ถ้ามีขอแก้ไข หรือมีอะไรสามารถแจ้งผมโดยตรงได้
ซึ่งผมเองก็จะมีการแจ้งไปอย่างชัดเจนอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราต้องการอะไรเราก็จะมีการแจ้งทุกอย่าง เราทำงานเป็นขั้นตอนทั้งหมด และในกลุ่มด้อมน้องรู้เรื่องนี้ทั้งหมดและระดมโหวต พอไลฟ์สดเฌอเอมยังไม่มา ผมเลยสังเกตสีหน้าว่าเดินมาแล้วหน้าหงิก และไม่สนใจใคร ผมก็โฟกัสไปแล้วตรงนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นเราก็ให้ผู้ช่วยเข้าไปถามว่าหนูเป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ผมก็กลับมานั่งที่เดิม ผู้ช่วยผมถึงจะส่งสัญญาณว่าเหมือนน้องจะไม่อยากทำกิจกรรมนี้ และคนดูเยอะมากวันนั้นในไลฟ์สด
พอถึงเวลาน้องเข้ามา ผมก็เริ่มต้นจากการถามน้องว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ซึ่งผมต้องบอกถึงคนที่เป็นคนขยี้ โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์อะไรก็แล้วแต่ ให้ใช้เวลาดูคลิปตั้งแต่ต้นก่อนที่จะใช้วิจารณญาณในการเขียน ซึ่งหลังจากที่ตัวเองบอกว่าตัวเองเป็นคลิป ผมเลยเอะใจว่าทำไมไม่แจ้งผมก่อนหน้านี้ และที่บอกว่าน้องแจ้งทีมงานไปแล้ว แต่ทำไมเค้าไม่แจ้งผม ซึ่งเราก็มีไลน์กันตั้งแต่มาแจ้งก่อนงาน ซึ่งผมก็ตกใจและอธิบายให้ฟังว่าการที่ผมอธิบายมันเป็นความรู้สึกเป็นเรื่องของกฎหมาย จงอย่ามาก้าวก่ายในเรื่องที่เราพูด ซึ่งผมบอกว่าถ้าเป็นผมผมไปได้ทุกศาสนา ผมให้เกียรติทุกที่ และผมก็สอนน้องว่าการที่เราอยู่กับคนหมู่มาก มันต้องทำยังไง และต้องยอมรับว่าเพื่อน 30 คนก็เลือกน้อง
แต่น้องมีสิทธิ์คว้ามงมากที่สุดคนนึง เราจึงต้องการความเคลียร์ว่าจะมาทำงานบริษัทเราใช่ไหม งั้นเราขอนำเสนอความคิดของเราว่ามันเป็นแบบนี้ แล้วผมไม่ได้บอกเลยว่าต้องทำแบบนี้ หรือเป็นการบังคับว่าต้องทำแบบนี้ ถ้าน้องเกิดได้เป็นนักแสดงต้องบวงสรวง หรือต้องไปทำงานกับสปอนเซอร์ในเรื่องของความเชื่อ มันก็จะเป็นปัญหา ไม่ว่างานที่รับไว้มันจะทำไม่ได้ ผมก็เลยถามว่าถ้าจะอยู่ในวงการบันเทิงมันจะต้องคิดอีกแบบหนึ่งว่าอะไรที่มันเป็นการทำเพื่องาน หรือว่าน้องอยากเป็นนักการเมืองก็ต้องทำงานตามกฎหมาย
คือเราก็มองภาพรวม แล้วเราก็บอกว่าถ้าเราทำไม่ได้ และไม่รู้จะไปทางไหนดีแค่นั้นเอง แล้วก็ไปบดขยี้หาว่าไม่ถูกต้อง ไม่อะไรใดๆ ทั้งสิ้น ผมก็ไม่เข้าใจว่าอันนี้เป็นความคิดของผมว่าทำไมผมจะไม่ถูกต้อง เพราะว่าผมกำลังสอนคน เพราะว่าเค้าอยากเดินตามความฝันแต่ว่ามันจะทำยังไงเค้าจะรู้จักวางตัวให้มันเป็นไปได้
ซึ่งผมไม่ได้มองว่าใครละเมิดศาสนา หรือกฎใดๆ ทั้งสิ้น ผมยินดีและประโยคสุดท้ายก่อนที่น้องจะวางไมค์ ผมพูดว่าอะไรไปย้อนดู ซึ่งคนที่พิมพ์ด่าเราว่าผมรู้สึกว่าผมเสียดายกับคำว่าคุณวุฒิที่อยู่ข้างหน้า เพราะว่าศาสนาไหนก็แล้วแต่ ผมก็ยังพูดว่าถ้าอย่างนั้นไม่ต้องดูก็ได้ กลับไปย้อนดูได้ รบกวนช่วยฟังผมด้วย เพราะผมยังพูดว่าไม่ต้องดูก็ได้ ถ้าเป็นคนเข้าใจที่ผมพูดอย่างนั้น จะบอกว่าหนูขอไม่ดู หนูขอโทษพี่ณวัฒน์ด้วยนะคะ หนูขอโทษคนดูด้วยนะคะ และทุกอย่างจะจบลง แต่หนูไม่จบ น้องบอกว่าหนูขอใช้สิทธิ์ในการให้เพื่อนออกมาแทน ซึ่งผมก็รู้สึกว่ามันเป็นเกณฑ์ ถ้าน้องจะมาเพิ่มกติกาเองมันก็เป็นไปไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิ์เหมือนกันทุกคน จะไปเรียกคนอื่นมาพูดไม่ได้ ผมก็เลยบอกว่ามันไม่ได้จริงๆ ก็เลยไปเปรียบเทียบว่าถ้าวันนึงวันใดหนูไม่อยากประกวด และหนูเรียกเพื่อนมาเดินแทนมันก็ทำไม่ได้
...
และที่สำคัญที่สุดคุณเป็นผู้ถามเราเป็นโจทก์ ถ้าทำไม่ได้ไม่เป็นไร มีสิทธิ์ที่จะเลือกที่จะไม่ถาม แต่คุณยังเลือกที่จะอยากทำ แต่ให้เพื่อนมาช่วยทำ มันไม่น่ารัก และยังไม่จบเท่านั้น ยังไม่พออาจจะเข้าใจ เค้ายังบอกว่าขอหนูพูดกับแฟนคลับได้ไหม แต่อันนี้มันไม่ใช่ทอล์กโชว์สำหรับทุกคน เขาก็ยังพูดต่ออีกว่าขอหนูพูดหน่อย อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ผมเลยมองว่าทำไมต้องทุบหลังให้ผมหลังแอ่นขนาดนี้
ผมอยู่ในวงการมาผมไม่เคยเจอเด็กต่อต้าน หรือปฏิเสธ หรือพยายามกระแทกแหกกฎได้เยอะขนาดนี้ ผมเลยบอกว่าไม่ได้ครับ ทุกคนต้องเสมอภาค ถ้าอยากพูดก็ไปพูดในด้อม แต่จะมาพูดตอนนี้ทางแฟนคลับคนอื่นจะมารับรู้อะไรได้ยังไง ผมก็รู้สึกผิดหวัง และรู้สึกว่าถ้าขอโทษมันก็คือจบ ขอโทษสักคำก็ไม่มีก้มหัวสักครั้งก็ไม่มี ไหว้สักทีก็ไม่ได้ เชิดหน้า รุ่นพี่ 2017 ผู้บริหารบริษัทเต็มไปหมด ที่โกรธคือมารยาท และการต่อรองที่มีควรจะต่อรอง ทำไม่ได้ก็จบ
จนกลายเป็นแบบว่าคนที่ไม่รู้ไม่ได้เสพตั้งแต่ต้นจนจบมา เอาประเด็นคริสต์ดูดวงได้ไหมไปขยี้กัน มันไม่ใช่ มันไม่ใช่เรื่องที่ผมไม่อยากให้เขาดู ถ้าคริสต์ดูดวงไม่ได้ ผมสนับสนุน ไม่ต้องดู บอกผมตั้งแต่แรก เขาไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะแสงหรืออะไร นี่เชิดหน้าสะบัด 180 องศา เดินตัวตรงไม่เหลียวแล สิ่งที่เกิดขึ้นนี่คือความไม่น่ารัก เพราะฉะนั้นอย่าเอาเรื่องของการดูไพ่ดูดวง แล้วมันจะผิดหรือไม่ผิด ผมเห็นด้วยครับถ้าดูไม่ได้ก็ไม่ควรดู จริงๆ ทุกคนทุกศาสนาก็ไม่ควรที่จะมา ผมอยากให้ทุกคนที่เคร่ง อย่าให้เขาออกมาประกวดอีกเลยชาตินี้
...
ทุกศาสนาดูดวงคือผิดหมด พุทธก็ผิด แต่ถามว่าคุณจะยืดหยุ่นเพื่อความสุข และผมก็ไม่รู้ว่าเฌอเอมเป็นตอนไหน เพราะผมเห็นเธอเองตั้งแต่เวทีที่แล้ว นุ่งชุดไทยถือดอกไม้ถือธูปเวียนเทียน ซึ่งผมก็รู้จักเขาและเขาก็เคยดูดวงมาก่อนหน้านี้แล้ว ณ วันนี้มาบอกว่าไม่เต็มใจ คนอย่างเฌอเอมไม่เต็มใจทำได้ด้วยหรอ ผมกลับไปดูย้อนหลังผมไม่มั่นใจว่าเค้าศาสนาอะไร และไปที่ลำพูนถ่ายคลิปก็พระธาตุลำพูนก็ยกมือไหว้เอาๆ
ผมมานั่งดูบัตรประชาชนก็เพิ่งไปเปลี่ยนมารุ่นใหม่คือไม่บอกศาสนา เขาและผมไม่รู้จักเขาแต่พฤติกรรม เขามีความเชื่อเป็นพุทธผมยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ผมเคารพทุกศาสนา สิ่งที่ผมพูดผมแค่รู้สึกว่าประหลาดใจในสิ่งที่เคยเห็นมาก่อนกับวันนี้ที่เป็นอยู่เป็นแบบนี้ ผมก็เลยสอนในฐานะที่อยู่ในวงการบันเทิง 25 ปี ในวงการทุกคนทุกศาสนาเยอะไปหมดแต่เค้าอยู่กันได้ ผมกำลังจะบอกว่ามันก็เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และคือหนึ่งในการแสดง เพื่อให้ทุกคนได้มีความสุขและคนที่เค้าจ่ายเงินให้คุณมา คุณไม่ต้องการทำความสุขให้พวกเขาเลยเหรอ และมาถึงจุดนี้จะปรับตัวแบบไหนเราไม่เคยบังคับ แต่เราให้คุณเลือกไม่ต้องดูก็ได้ แต่เค้ายังอยากได้สิทธิ์เพื่อน เตือนอีกครั้งหนึ่งก็ยังคงเรียกเพื่อน
พอน้องขอโทษแล้วและรู้สึกยังไงบ้าง?
เฉยๆ ครับ ผมก็ตกใจเหมือนกันว่าคืออะไร และลองพูดประมาณสองคำก็หายไป ผมก็คุยงานกับลูกน้องต่อ แล้ววิ่งมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมดอกไม้ เค้าก็บอกว่า “ขอโทษนะคะ สอนหนู หนูก็เข้าใจแล้ว หนูจะพยายามปรับตัวค่ะ” ซึ่งตอนนี้พีดีก็ร้องห่มร้องไห้ แฟนคลับเสียใจ ผมก็ไม่สบาย จะปวดขา ผมก็บอกขอการพูดอะไรที่มันได้มากกว่าเอาอะไรเป็นประเด็นไปใช้ มันจริงบ้างหรือไม่จริงบ้าง หรือมันเป็นความเท็จผมไม่ว่า แต่ฟังให้จบ ไปฟังตั้งแต่ต้นแล้วค่อยมาลงข้อมูล เพราะผมไม่อยากให้ทุกคนต้องบาป เอาจริงๆ ผมก็ไม่อยากคุยอะไรแล้ว
...
มีผลต่อการประกวดที่เหลือไหม?
มีอยู่แล้วครับ เพราะที่นี่คือที่รับสมัครงาน เราตัดทุกเรื่องออกไป และดูแล้วคะแนนคงไม่น่าจะเหลือ ซึ่งมีผลต่อการตัดสิทธิ์ในการเข้ารอบ เดี๋ยวผมจะรู้ว่าตอนที่เก็บตัวที่เชียงใหม่ น้องไปบอกพีดีว่าน้องไม่ไป และน้องมาบอกกับทีมงานว่าหนูไม่สะดวก และหนูแจ้งกับพีดีไปแล้ว ซึ่งผมคิดว่ามันไม่สมควร เพราะน้องต้องแจ้งกอง และกิจกรรมที่น้องประกวดร้องเพลงอังกฤษเข้ารอบ 25 คน แต่น้องงอแงบอกว่าขอถอนตัว ผมบอกว่าไม่ได้เพราะเราประกาศไปตั้งสามวันแล้ว แฟนคลับหนูจะรู้สึกยังไง เค้าก็คอยดู คอยเชียร์ เค้าก็งอแง ผมก็เลยสั่งลูกน้องผมไปจัดการน้องให้ขึ้นประกวดต่อ ถ้าคิดจะไม่เอาอีเวนต์นี่ต้องแจ้งตั้งแต่แรก อย่าส่งเทปมาประกวด จนในที่สุดก็อย่างที่ทุกคนเห็น อย่างเมื่อวานน้องมีให้สัมภาษณ์ ทุกคนก็สัมภาษณ์ปกติ แต่น้องบอกว่าน้องไม่สบาย ขอเก้าอี้เป็นการส่วนตัว สิ่งที่น้องไม่ระวังคือการไม่รักษาน้ำใจคน คือมันมีแต่เรื่องเจ็บๆ มานับครั้งไม่ถ้วน