มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการประกวด มิสเอิร์ธ 2022 (Miss Earth 2022) แล้ว โดยการประกวดรอบไฟนอลจะถูกจัดขึ้นที่ Okada Manila Resort Casino กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันนี้ (29 พ.ย. 2565) โดยตัวแทนสาวสวยสวมสะพายไทยแลนด์ สปาย ชวันภัสร์ คงนิ่ม มิสเอิร์ธไทยแลนด์ 2022 ก็เดินทางมาเก็บตัวทำกิจกรรมกองประกวดที่ประเทศฟิลิปปินส์นานกว่า 17 วัน ร่วมกับเหล่าสาวงามมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ได้โอกาสอันดีมาร่วมให้กำลังใจ สปาย ชวันภัสร์ ถึงประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งหลังจากสปายเก็บตัวทำกิจกรรมกองประกวดเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2565 นางงามสาวก็ได้มีโอกาสมาพบปะสื่อมวลชนที่มาร่วมทำข่าวที่ Okada Manila Resort Casino กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งเปิดใจถึงการประกวดครั้งนี้ด้วยสีหน้าที่สดใส

โดย สปาย ชวันภัสร์ เล่าถึงการประกวดครั้งนี้ว่า “มาทำกิจกรรมกองประกวดวันนี้วันที่ 17 แล้วค่ะ จากทั้งหมด 18 วัน พรุ่งนี้ (29 พ.ย. 2565) วันไฟนอลแล้ว อย่างแรกเลยกินเยอะเพราะว่ากิจกรรมเยอะมาก เราก็เหนื่อยด้วย สนุกด้วย เราก็เลยพยายามเอ็นจอยกับทุกอย่าง แล้วก็ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันเยอะมากๆ ค่ะ

...

ถามว่าการเก็บตัวเราได้พัฒนาอะไรในตัวเองเพิ่มขึ้นไหม พัฒนาเรื่องการพูดค่ะ เมื่อก่อนเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด เดี๋ยวนี้พูดเยอะขึ้นเพราะว่าเราอยากรู้จักเพื่อนมากขึ้น อยากรู้จักประเทศอื่นๆ มากขึ้น เราก็เลยพยายามพูดคุยกับเขา เพื่อที่จะได้พัฒนาสกิลเราด้วยในเรื่องของภาษาอังกฤษ เพราะว่าเรารู้ว่ามันก็ยังสำคัญอยู่ ก็พยายามคุยกับหลายๆ ประเทศที่จะได้ซึมซับว่าวิธีการพูดของเขาเป็นยังไง วัฒนธรรมเขาเป็นยังไงค่ะ ทำให้เราได้รู้จักคนเยอะค่ะ

ส่วนเพื่อนสนิทในกองประกวด ที่สนิทๆ จะมีโคโซโวค่ะ แต่ว่าโคโซโวเนี่ยเขาจะใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก เราก็เลยคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษด้วย แล้วสปายก็มีพอมีความรู้เรื่องฝรั่งเศสด้วย เราก็เลยก็เลยพยายามให้เขาสอนด้วยค่ะ แล้วก็มีเฮติก็พยามช่วยกันอยู่ตลอด แล้วก็มีดีอาร์คองโกค่ะ แล้วก็จะมีอิรักด้วย เป็นรูมเมตกันก็จะคุยกันเยอะมาก ทุกวันค่ะ เหมือนกับว่าอิรักเป็นรูมเมตแบบออฟฟิเชียลค่ะ ถ้าเกิดว่าได้ไปโรงแรมที่ต้องนอน 2 คนเราก็จะนอนกับอิรัก แต่ถ้าบางโรงแรมที่ต้องนอนหลายคนก็จะมีหลายๆ ประเทศมารวมกัน”

เมื่อถามถึงความพร้อมในการประกวดครั้งนี้ สปายบอกว่า “ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ วันแรก 100 เปอร์เซ็นต์ยังไงวันนี้ก็ยัง 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม จริงๆ มันเกินค่ะเพราะว่ายิ่งใกล้วันเรายิ่งรู้สึกว่ามันต้องสุดให้มากกว่านี้ ถ้ามันทะลุกำแพงได้ก็ให้มันทะลุไปเลย เพราะว่าอันนี้มันอาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของสปายที่ได้มาสวมสายสะพายไทยแลนด์แบบนี้ นี่ก็คือตำแหน่งที่สูงที่สุด แล้วก็ในชีวิตหนูฝันว่าอยากเป็นตัวแทนประเทศไทย เราก็ได้ทำแล้ว เพราะฉะนั้นทุกโอกาสที่มาถึงเราก็รีบทำให้เต็มที่ที่สุด เพื่อที่ถ้าเกิดเรากลับมามองดูอีกครั้งหนึ่ง เราต้องไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง

ส่วนจุดแข็งของเรา สปายเป็นคนที่มองบวกตลอดค่ะ เหตุการณ์ต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นอะไรก็แล้วแต่ ความผิดพลาด เรามักจะเห็นว่ามันมีข้อดีเสมอ อย่างเช่นวันแรกที่เรามาถึงที่ฟิลิปปินส์เราโดนส่งไปผิดโรงแรมหลายๆ ชั่วโมงโดยที่เราไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เราก็ยังรู้สึกว่าจริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่ดีนะที่เราได้เจอปัญหาเพราะว่าเราได้รู้ว่าสำเนียงการพูดของฟิลิปปินส์เป็นยังไง เพราะเราต้องประสานงานกับกอง เราก็เลยปรับตัวได้เร็วขึ้น แล้วก็ได้รู้จักกับทีมงานมากขึ้นค่ะเพราะเราต้องประสานงานกับเขา

...

ถามว่ามีท้อบ้างไหม ถ้าพูดตามตรงหนูเป็นคน หนูก็ต้องมีบ้างนะ บางทีเราก็มีความรู้สึกน้อยใจด้วย เพราะว่าการเก็บตัวของเราแบ่งเป็นกรุ๊ป เราก็มีบางวันที่เพื่อนคนอื่นออกไปทำกิจกรรมแต่เราอยู่ที่โรงแรม เราก็แบบทำไมถึงเป็นแบบนี้ คือเรามาที่นี่เพราะว่าเราอยากออกมาทำกิจกรรม อยากไปถ่ายรูปสวยๆ ลงรูปสวยๆ โชว์คนอื่นบ้างค่ะ มันก็มีที่เราคิด แต่รู้สึกว่าไม่เป็นไร เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเมื่อไรที่เรามีโอกาส เราก็ต้องรีบแสดงให้เค้าเห็นเลยว่าประเทศไทยอยู่ตรงนี้ จะบอกว่าหนูจุดแข็งของตัวเองอีกอย่างหนึ่งว่าหนูเป็นคนที่ตัวสูงมาก แม้กระทั่งที่อยู่กับคนอื่น เราก็เลย โอเค ไหนๆ เราก็ไม่ค่อยมีรูปลงแล้ว ฉันสูง ฉันก็จะทำให้ตัวเองเนี่ยสูงขึ้นไปอีก เพื่อที่เขาจะได้เห็น ก็ยอมไม่ได้ เราจะยอมให้ใครมาแกงเราก็ไม่ได้”

เมื่อถามถึงเรื่องที่นางงามรุ่นพี่ ใบตอง จรีรัตน์ เพชรโสม ได้ตำแหน่ง Miss Earth Fire 2021 เมื่อปีที่แล้ว ถามว่ากดดันหรือไม่ สปายตอบว่า “กดดันค่ะ กดดันมากด้วย เพราะว่าจริงๆ แล้วตั้งแต่มาถึงที่นี่ แฟนคลับฟิลิปปินส์รู้จักประเทศไทยดีมาก แล้วก็รู้ดีว่าประเทศไทยเป็นสายแข็งขนาดไหน ก็มีถามด้วยค่ะว่าปีที่แล้วเขาได้มงไปแล้วเราจะทำยังไง เราก็เลยบอกว่าทุกๆ วันหนูเต็มที่ที่สุด เขานัดกี่โมงหนูมาคนแรก เก็บคะแนนให้หมด ณ ตรงนี้ เขาสั่งให้ทำอะไรหนูทำตาม มีกฎอะไรเราทำตามทุกอย่าง แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องเพอร์ฟอร์ม เรารักเพื่อนแต่เราก็เอาเพื่อนไว้ข้างหลังก่อน เพราะว่าเราก็ต้องสู้เพื่อประเทศเรา เราก็พยายามทำทุกอย่างให้เค้าเห็นว่าเรามาด้วยความตั้งใจจริงๆ แล้วก็ทุกเรคคอร์ดเราไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจเลย ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงต่อจากนี้ ก็ไม่เสียใจค่ะแต่ว่าถ้าได้มงกลับไปก็จะดีมากค่ะ”

...

แต่ในระหว่างการเก็บตัวทำกิจกรรม สปายสามารถคว้าเหรียญทองแดงในการประกวดรอบชุด Beach Wear ที่ Estancia De Lorenzo ถือเป็นเหรียญทองแดงแรกของสปายจากเวทีนี้ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “จริงๆ กรุ๊ปสปายจะมีแข่งรอบลองกราวด์ เป็นชุดราตรี มีรอบบีชแวร์ แล้วก็จะมีแข่งรวมเป็นรอบชุดว่ายน้ำค่ะ ตอนรอบลองกราวด์เนี้ยเราถ้าเม้าท์ๆ เลยจริงๆ เรามีลุ้นมากเลยนะ แต่ว่าวันนั้นอาจจะยังไม่โดนใจกรรมการเท่าไหร่

พอมาวันบีชแวร์ ตอนแรกเราวางแผนว่าจะใส่ชุดว่ายน้ำค่ะ แต่ว่าพอหันไปเห็นเพื่อน เพื่อนใส่ชุดว่ายน้ำกันหมดเลยเปลี่ยนค่ะ ไปใส่ชุดที่แบบเดินริมหาดเพราะว่ามันชื่อว่าบีชแวร์ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดว่ายน้ำ เราก็เลยขายความแตกต่าง เราไม่ใส่ชุดว่ายน้ำใส่เป็นชุดเดินเล่นริมหาด แล้วก็ตอนเดินเราก็พยายามฟีลๆ ว่าเราอยู่ริมหาด ก็เลยได้รางวัลมา ถามว่าเพื่อนไม่งงเหรอทำไมใส่ชุดนี้ มีค่ะ เพื่อนก็งงว่ายูใส่ชุดนี้เหรอ เพราะว่าตอนแรกที่เราเตรียมมาคือเป็นชุดว่ายน้ำ ชุดว่ายน้ำสีทองที่เป็นรอบแนะนำตัว แต่ว่าเราพอดีเอามาเผื่อก็เลยเปลี่ยนซะเลย”

นอกจากนี้ สปายยังเล่าถึงการเตรียมตัวในชุดราตรี ก่อนจะเผยความเป็นสาวสายมู เพราะก่อนจะบินมาประกวดที่ฟิลิปปินส์ เจ้าตัวก็เดินสายไปมูเรียบร้อยแล้ว โดยบอกว่า “ชุดราตรีเรียบร้อยตั้งแต่บินมาที่มะนิลาแล้วค่ะ เป็นสีที่ง่ายๆ สบายๆ แต่มีความเป็นควีนอยู่ ถามว่าดูดวงไหม ดูค่ะเพราะหนูเชื่อ วันก่อนบินหนูไปเดินสายมูจนถึงประมาณสี่ทุ่ม กลับมาห้าทุ่มเที่ยงคืนเตรียมกระเป๋าแล้วก็มาสนามบินเลยไม่ได้นอน

...

คือหนูบนทุกทีเหมือนเดิมตอนมงที่ไทย แล้วพอแก้ของที่ไทยเสร็จปุ๊บ ก็บนอันใหม่ต่อ ก็มีเพิ่มๆ มาด้วยที่เขาแนะนำ มีบินไปบนที่พัทลุงมาด้วยค่ะ ทำงานเสร็จตอนบ่ายรีบบินไปพัทลุงแล้วก็กลางคืนกลับมาที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะไปมูแถวชิดลมต่อ ถามว่าอย่างชุดราตรีได้ดูว่าเจ้าที่ชอบสีอะไรไหม เราไม่แน่ใจ เราก็เลยพยายามใช้สีที่มันเป็นเบสิก ให้เขารู้สึกว่าสวย เพราะจริงๆ เราก็สวยอยู่แล้ว”

ปิดท้าย สปาย ชวันภัสร์ ฝากขอกำลังใจจากแฟนๆ ชาวไทยทุกคนว่า “โค้งสุดท้ายแล้วนะคะทุกคน สปาย กองมิสเอิร์ธไทยแลนด์ ทีมของสปาย ครอบครัวสปาย ทุกคนเต็มที่มากๆ อยากจะขอกำลังใจจากทุกคนค่ะ ช่วยเป็นกำลังใจให้สบายด้วยนะคะ ในทุกๆ วันเต็มที่ทุกวัน ตั้งแต่ได้มงที่ไทยมาจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนเลยที่จะไม่เต็มที่แล้วก็หยุดพัฒนา จะบอกว่าพร้อมทิ้งตัวนะคะ แล้วก็อยู่ที่ฟิลิปปินส์ต่อ”.