เรียกว่ากำลังเป็นขาขึ้นของ เอม วิทวัส และ จ๊ะ นงผณี ที่รับงานร้องเพลงจนคิวยาวแทบไม่มีเวลาพัก เพราะไปร้องเพลงร้านไหนก็ทำเอาแฟนๆ ติดอกติดใจสุดๆ
ล่าสุด ได้เจอ เอม วิทวัส ที่มาร่วมงาน HYPE (ไฮป์) เปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในประเทศไทย ก็ไม่พลาดที่จะอัปเดตเรื่องการรับงาน และความสัมพันธ์กับ 2 เพื่อนซี้อย่าง จ๊ะ และ พิมรี่พาย ที่เจอกันครบแก๊งเมื่อไหร่ ต้องสนุกสนานมีอะไรมาฟาดฟันกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งเอมก็ได้เล่าให้ฟังว่า
เป็นนักร้องดังแล้ว?
อย่าใช้คำว่านักร้อง ตอนนี้มีแต่คนเรียก ให้ใช้คำว่าดีว่า (หัวเราะ) จริงๆ มันเป็นเพียงแค่การโชว์ คือเรากับจ๊ะ โชว์มาด้วยกันเฉยๆ เริ่มจากที่เชียงใหม่ก่อน หลังจากนั้นคนก็ชอบ เขารู้สึกว่าเคมีเรามันตรงกัน เล่นกันแล้วเขารู้สึกสนุก เลยจ้างเราไปโชว์
ก็มียาวมาเรื่อยๆ กับ จ๊ะ-เอม ทัวร์คอนเสิร์ต จริงๆ จะมีวงเดี่ยวจ๊ะ วงเดี่ยวเอม แล้วก็มีจ๊ะ-เอมรับงานคู่ด้วย พอมีงานคู่เยอะเข้า เลยต้องเบรกงานเดี่ยวกันก่อน คนคงชอบที่เห็นเราพังบนเวที ราคางานคู่เราก็น่ารักๆ จ้างไปคุ้มแน่นอน เพราะเล่นเกินเวลาตลอด คนดูจอยเราก็เล่นไปเรื่อยๆ แถมไม่ไหว
...
โชว์เรามีซ้อมกันมั้ย?
มีซ้อมค่ะ ส่วนมุกคือสดบนเวที ฟิวส์เหมือนเราไปเล่นกับเพื่อนมากกว่า เอม กับ จ๊ะ ไม่ได้แพลนไว้ว่าวันไหนเราจะเล่นมุกไหนกัน แล้วมุกไม่ได้ซ้ำกันเลยสักวันนึง เหมือนเราคุยเล่นกับเพื่อนเราบนเวที แต่มีไมค์เข้ามาด้วยเท่านั้นเลย สดหมดทุกอัน บางทีเนื้อเพลงก็สด เพราะจำไม่ได้ (หัวเราะ)
สลับกันร้อง?
อย่าใช้คำว่าสลับ เพราะเหมือนเอมร้องอยู่คนเดียว มันผลัดกันมากกว่าค่ะ
พอมาคู่กันก็พากันปัง?
ก็โอเค เราไม่ได้มองว่าเรามาคบกันเพื่อได้งาน มันเป็นการที่เราเป็นเพื่อนกันแล้วไปทำงาน ถ้าเราคบกันเพื่องาน เพื่อผลประโยชน์ เดี๋ยวก็แตก เราก็ช่วยกัน เกื้อหนุนกัน แต่ช่วงไม่เกื้อหนุนกันมันก็มี ตอนเป็นข่าวตอนนั้นมันก็มีค่ะ แต่ไม่ได้โพสต์ (หัวเราะ)
ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี เราวางแผนกันไว้ยังไงบ้าง?
เอาที่สนุก เอาที่เราจอย ถามว่าเหนื่อยมั้ยมันก็ยังไม่ถึงกับลากเลือด เป็นอะไรเราก็แค่กินยา แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่าเขาจะจ้างเราถึงเมื่อไหร่ แค่นั้นเลย เราก็จบได้ เราไม่ได้ถึงขั้นเปิดคอนเสิร์ตระดับโลก ทุกวันนี้ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นนักร้อง เหมือนไปทำงาน ไม่สนุกกับเพื่อนมากกว่า เราไม่ได้อยากดัง ไม่อยากดังแล้วอยากทำงานไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะต้องดังไปทำไม
ทำวงให้ใหญ่ขึ้น?
ทำทำไม (หัวเราะ) วงเดียวที่จะตั้งคือวงเหล้า
เห็นในคลิปแต่ละที่ที่ไปโชว์คือสุดกันมาก?
บางทีมันก็เป็นคอนเทนต์มากกว่า คือเราก็เมา เราก็จอยกับทุกงาน คือมันมีคลิปเราไปออกสื่อไง พอมากๆ เข้าคนมองว่าเอม-จ๊ะ ดื่มหนักจังเลย เป็นห่วงสุขภาพมาก แต่คนที่ไม่ออกสื่อคือตั้งวงกันตั้งแต่เช้าเลยนะ มันเลยกลายเป็นว่าถูกมองทำไมดื่มกันหนัก เรื่องจริงมันคือการแสดงค่ะ เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงบนเวที
ลงบ่อน้ำเละเทะกัน?
ต้องถามจ๊ะเลยอันนี้ เราพูดแล้วว่าเราไม่ลงนะ เพราะอีกวันเรามีงาน ก็อุ้มลงไปเลย จนวันนั้นต้องใส่กางเกงในร้องเพลง แล้วก็ใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ ยืนร้องเพลง อีกวันไปนครปฐม มีสระอีกบอกไม่ลงนะ อุ้มเหมือนเดิม ก็จอยๆ เป็นคอนเทนต์ร้านมากกว่า คือเสื้อผ้าแห้งไม่ทันแล้ว เดินตูดบิดด้วย จ๊ะมันเป็นอีตัวแสบ เจอมันแล้วไม่กล้าเมาอีกเลย
เบรกเพื่อนบ้างมั้ย?
ก็บอกตลอด เอาจริงๆ ต้องระวัง เพราะสระว่ายน้ำบางร้านมันมีเศษแก้ว มันเป็นเรื่องของอันตราย จริงๆ จ๊ะกับเอมไม่ได้เป็นคนกินหนัก แต่เป็นคนคออ่อนกันทั้งคู่เลย ชอบจอย ชอบฟังเพลง ชอบแสงสี แต่ไม่ได้กินหนัก เอาจริงๆ 2 แก้วก็ยิ้มหวานแล้ว ไม่กินเมาขนาดนั้น
กับรายการยูทูบกับพิมรี่พาย-เอม-จ๊ะ?
เจอกัน 3 คนก็พังทลายกันหมด มีแต่คนอยากจะมากินเหล้ากับเอม จ๊ะ พิม เหลือเกิน ดูสนุกมีแต่เสียงหัวเราะ แต่ในกลุ่มไลน์ที่คุยกันคือมึง เราเครียดเนอะ เราไปนั่งกินข้าวกันเฉยๆ มั้ย
เพราะบางทีอยู่ด้วยกันไม่ได้คุยอะไรกันเลย นั่งกันเงียบๆ มองหน้ากัน ปรับทุกข์กันมากกว่า มันมีความเครียดเหมือนกันนะ พิมขายของ เอม จ๊ะทำงานทุกวัน เรา 3 คนแทบไม่มีเวลาเจอกันด้วยซ้ำ บางทีก็คิดถึงกัน ด่ากันเป็นคอนเทนต์มากกว่า
...
ด่ากันแรงมาก?
มันจะมีเพื่อนกันที่บอกวันนี้เธอสวยจังเลยจ้ะ ไปซื้อเสื้อผ้าที่ไหนมา ไม่มีหรอกแบบนั้น สวยแค่ไหนเพื่อนก็ด่า สวยที่สุดเพื่อนก็ด่า เพื่อนก็บอกตลกอยู่ดี เราด่ากันไม่มีทะเลาะกัน คนไม่ด่ากันทะเลาะกันเยอะแยะไป เราเป็นเพื่อนกัน เรารู้ว่าอะไรที่เราพูดได้พูดไม่ได้มากกว่า ด่าไปเลย ด่าไปซะให้จบๆ ได้โอกาสด่าแล้วก็ด่าไปเลย ลุยเลย มันจะไปเก่งกว่าเราได้ยังไง
เครื่องด่าของใครแรงกว่ากัน?
จะเป็นตัวตั้งตัวรับมากกว่า เราจะเป็นจิกกันตลอด พิมจะเป็นสายแว้ด จ๊ะจะเป็นคนนั่งงง อีนั่นจะเป็นมึนๆ งงๆ บางทีแยกกันถึงบ้านแล้วเพิ่งจะรู้ว่าเมื่อกี้เพื่อนด่ากัน ไม่ค่อยรู้เรื่อง