เป็นคุณพ่อลูก 4 แล้ว สำหรับพ่อ บีม กวี ตันจรารักษ์ หลังจากที่ภรรยา ออย อฏิพรณ์ ได้คลอดลูกฝาแฝดผู้หญิง พร้อมตั้งชื่อว่า น้องอัยวา-อัญญา ซึ่งตอนนี้ทั้งพ่อบีมกับแม่ออยแทบไม่ได้นอน ต้องช่วยกันเลี้ยงลูกทั้ง 4 คน แต่ก็มีความสุขทั้งคู่ เพราะตอนนี้ได้กลายเป็นครอบครัวใหญ่แล้ว
ล่าสุดได้มีโอกาสเจอ บีม มาร่วมงานเปิดตัว Big C App PLUS ณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ ชั้น 3 เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องของลูกสาวฝาแฝด พร้อมกับเคลียร์หลังจากมีเรื่องดราม่าขอดาวจากแฟนคลับในไลฟ์
ได้นอนมั้ย?
“ก็ดูตาผมแล้วกัน ไม่ได้นอนเลย คือถ้าเปรียบเทียบกันจริงๆ ออยคือหนักมาก ไม่ได้นอนเลย แต่เป็นอะไรที่มันเจือไปด้วยความสุขแหละ ช่วงนี้ผมก็รับหน้าที่ นอนกับลูกชาย เล่นกับลูกชาย ดูแลเขา”
อย่างก่อนหน้านี้พี่ธีร์กับพี่พีร์เขาเรียกร้องหาแม่มั้ย?
“ถึงแม้คุณแม่จะโฟกัสกับลูกสาว เราก็ยังมีเวลาให้อยู่ดี กลางวันเราก็อยู่ด้วยกัน เพียงแต่ว่าตอนกลางคืนเราแยกกันนอนเท่านั้นเอง ที่แยกการนอนเพราะตอนกลางคืนเขาลุกมาดื่มนมเท่านั้นเอง เพราะไม่งั้นเดี๋ยวลูกชายจะตื่นมาด้วย การนอนเขาจะผิดเพี้ยนไป เราก็คิดว่าแยกกันนอนดีกว่า
เราก็พูดไปตรงๆ เลยครับว่า หม่ามี๊ต้องดูแลเบบี๋นะ เขาก็เข้าใจครับ เพราะว่าธีร์กับพีร์เป็นเด็กที่พูดง่าย แล้วเราก็สอนให้เขามีเหตุผลมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้เขาจะแสดงออกว่าเขาอยากเอาแต่ใจบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เข้าใจ”
...
ก็ถือว่าเขาปรับตัวได้ดี?
“ดีมากๆ เลยอ่ะ ผมรู้สึกว่าเขาเป็นอภิชาติบุตรมาก (หัวเราะ) เลี้ยงแบบเข้าใจง่าย”
ดีใจมั้ยที่ลูกทั้ง 4 คนรักกัน?
“ก็ยังไม่รู้ว่า 2 สาวโตขึ้นไปแล้วจะเป็นยังไง คือผมกับออยก็คุยกันว่าทำไมเราถึงมีลูกตั้ง 4 คน คือเราชินกับการที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีน้อง 4 คน ออยก็มี 4 คน ผมก็มี 4 คน ก็เลยมากัดฟันทำกันให้ได้ ก็เลยอยากให้ ธีร์-พีร์ แล้วก็ อัยวา-อัญญา เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
ส่วนชื่อลูก อัยวา-อัญญา คือตอนแรกเราตั้งไว้ 2 กรุ๊ป แล้วมาเป่ายิงฉุบกัน คือผมอ่ะพูดตรงๆ เลยตอนนั้นที่เป่าแค่รู้สึกว่าอยากให้ออยชนะ แต่ผมก็ยังชนะมาอีก แล้วเราก็พูดก่อนแล้วด้วยว่า ถ้าการชนะครั้งนี้ไม่ใช่เอาแต่ชื่อที่เราชอบนะ แต่จะมีการเลือกชื่อได้ แต่สุดท้ายตอนที่อยู่ในห้องคลอด ออยเขาก็พูดมาบอกว่า ด้วยบรรยากาศ หรืออะไรก็ไม่รู้ ก็ให้ชื่อลูกเป็นชื่อที่เธอชอบแล้วกัน ผมมีความรู้สึกว่าแม่เขามีความเสียสละมากๆ แล้ว ก็เลยอยากให้ตามที่เขาตั้งใจ”
หรือเป็นเพราะน้องเป็นผู้หญิง เพราะพีร์-ธีร์ เราเป็นคนตั้ง?
“จริงๆ ชื่อที่ผมเลือกก็เป็นชื่อที่ออยตั้งนะ ออยคิดหมดแหละ เพียงแต่เรามาคิดกันว่าจะใช้ชื่อไหน แล้วผมมีความเห็นว่าชื่อจริง 3 พยางค์ กับ 4 พยางค์ ผมชอบมากกว่า รู้สึกว่าเป็นชื่อที่มันพอดี ผมรู้สึกว่าชื่อผมเองกวี มันสั้นไปหน่อย เราอยากให้ชื่อมี 3 พยางค์ แต่แม่เราตั้งขึ้นมาเนอะ ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร แล้วเกาหลีก็ชื่อ 3 พยางค์ (หัวเราะ)”
บวกลบตัวเลขแล้ว ปังเลยใช่ไหม?
“ออยเขาก็เลือก หรือวิธีการเขียนไม่ว่าจะเป็น 4 พยางค์ หรือ 3 พยางค์ ก็เป็นชื่อที่บวกเลขออกมาแล้วดีถูกใจคุณแม่เขาอยู่แล้ว (ชื่อจริงอะไรบ้าง ความหมายยังไง?) อัยย์วาริณ กับ อัญญ์ญาริณ ประมาณว่าสายน้ำแห่งปัญญา ชื่อความหมายจะใกล้ๆ กัน ก็เพราะแหละ ผมชอบ”
แยกออกแล้วใช่ไหมว่าใครคือใคร?
“จริงๆ อัญญาเขาจะแก้มกลมๆ อัยวาเขาจะหน้าเรียวๆ ส่วนที่ว่าใครหน้าเหมือนพีร์-ธีร์ ยังไม่มีใครรู้หรอกครับ ต้องสัก 3 เดือนครับ แต่เมื่อวานนี้แม่เขาไปเจอรูปตอนเบบี๋ก็เอามาเทียบว่าคล้ายคนไหนระหว่างอัญญาหรืออัยวา แต่เขาคล้ายอัญญา คือหน้ากลมๆ ก็หวังว่าเขาโตมาจะสวยเหมือนแม่ (พีร์-ธีร์แยกออกไหม?) ตอนนี้แค่จำชื่อได้ก็เก่งแล้ว ก็น่าจะแยกได้นะ”
เข้าห้องคลอดครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง?
“ผมไม่เคยเข้ามาก่อนเลย คราวที่แล้วคลอดเสร็จเรียบร้อยถึงเรียกผมเข้าไป ครั้งนี้เข้าไปด้วย มันตื่นเต้นมากเลย แล้วผมกลัวเลือด กลัวเลือดก็ส่วนหนึ่ง แต่ไม่อยากเห็นอะไรไม่ดีของแฟนเรา ว่าน่ากลัวแล้วติดตา รู้สึกหลอนอะไรแบบนี้ แต่ผมว่าการที่คุณพ่อได้เข้าไปอยู่ตรงนั้นด้วยมันดีนะ มันดีต่อความรู้สึกของภรรยาและของตัวเองด้วย แล้วจะรู้สึกว่าคนที่เป็นแม่เขาต้องผ่านอะไรที่มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเสียสละมากๆ”
“พออยู่ตรงนั้นก็รู้ได้เลยว่าต่อไปนี้เราต้องทำดีกับเขาให้มากๆ (รักภรรยามากขึ้น?) ครับ ผมว่าเป็นแผนของออยแน่ๆ ที่ให้ผมเข้าไปอยู่ตรงนั้น เขาเลยพูดว่านี่แหละที่ให้เธอเข้าไปด้วย คือผมไปอยู่ตรงนั้นผมก็ร้องไห้ออกมา ผมงงมาก บรรยากาศมันทำให้ร้องไห้ออกมา นี่นั่งคิดยิ่งจะร้องเนี่ย (เป็นภาพจำ?) ใช่ยังจำอยู่เลยเนี่ย (หัวเราะ?)”
...
4 คนพอหรือยัง?
“พอแล้วครับ ไม่รู้ว่ารู้กันไหม จริงๆ ยังมีตัวอ่อนเหลืออยู่ แล้วออยด้วยความเป็นแม่ เขาก็ไม่อยากให้ตัวอ่อนแช่อยู่ แต่ผมรู้สึกว่าเอาน่า แค่นี้ก่อน คือเลี้ยงลูกสมัยนี้มีความอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องการเงิน เวลา ความพร้อมต่างๆ คือ 4 คนตอนนี้ก็ครบพอจากที่เราตั้งใจไว้แล้ว เราอย่าเพิ่งแบกอะไรให้หนักกว่านี้”
ออกจากห้องคลอดเลี้ยวเข้าห้องทำหมันเลยไหม?
“ยังไม่ได้ทำครับ ไม่ได้ทำอยู่แล้ว เพราะว่าคิดว่าด้วยวิธีธรรมชาติก็จะยากแล้ว และผมคงไม่ไปซุกซนที่ไหน คิดว่าอย่างนั้น เชื่อมั่นในตัวเองหลังจากที่ต้องเข้าห้องคลอดกับคุณแม่มาแล้ว (หัวเราะ)”
ขอถามเรื่องดราม่าหน่อย ขอดาวจากไลฟ์?
“อ๋อ คือจริงๆ ดาวนี้ในเฟซบุ๊กมีการส่งดาวให้ และเขาจะแจกให้ทุกคนฟรีอยู่แล้วคนละ 75 ดวง เราก็เลยคิดว่าดาวนี้หลายคนอาจจะไม่ได้เอาไปทำอะไรอยู่แล้ว เราก็เลยบอกว่าถ้าไม่ได้ไปส่งให้ใคร หรืออยากส่งให้เราก็ได้อย่างนี้ครับ บางทีคนเห็นอาจจะรู้สึกว่าเราพูดเยอะไปหรือเปล่า แต่ถ้าไม่พูดเขาก็ไม่รู้กันนะ (หัวเราะ)”
...
นอยด์ไหมเจอแบบนี้?
“ก็นิดนึง คือบางทีก็เป็นเรื่องที่เราต้องดูแลครอบครัว คือบางอย่างผมไม่ได้ไปรบกวนคนอื่น เราไม่ได้ทำให้คุณแย่ลง คือเฟซบุ๊กเขาก็แจกให้ทุกคนอยู่แล้ว เขาก็ต้องการที่จะสนับสนุนการไลฟ์ หรือการโพสต์ใดๆ ในแพลตฟอร์มของเขา ถ้าเผื่อเราสามารถได้ผลประโยชน์จากตรงนั้นได้ ผมก็คิดว่าไม่ผิดที่จะทำก็เลยทำ
แค่ถ้าการที่ทำแบบนั้นทำให้คนที่ดูรู้สึกไม่ดี ผมโอเคนะที่คุณจะไม่ดูแล้วก็ผ่านไปเลย ถ้าพูดถึงมุมผม ผมต้องดูแลครอบครัวบางทีผมก็ต้องพูด ก็เป็นรายได้อย่างหนึ่งครับ”
คิดไหมทำอะไรก็เป็นดราม่า?
“มันก็…จะเรียกว่ายังไงดี จะพูดแบบตลกๆ นะ แต่ก่อนผมทำอะไรก็ไม่เป็นหรอกดราม่า แต่พอเริ่มมีคนสนใจมันก็เริ่มดราม่าเอง ก็เข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งว่ามีคนสนใจ”
คุ้มค่ากับการที่ต้องแลกไหม?
“อย่างที่บอกครับ ถ้าไม่ชอบก็ผ่านไปก็ได้ เราไม่ได้อะไรตรงนี้เลย อย่างไลฟ์พอเวลาเราน้อยลง อย่างช่วงนี้ก็จะน้อยลง เพราะว่าเหนื่อย เหนื่อยมากจริงๆ เลี้ยงลูกด้วย ผมก็สังเกตตั้งแต่ช่วงท้องแก่ๆ ว่า เมื่อก่อนไลฟ์ได้ทุกวัน เรามีเวลาอยู่กับเด็กช่วง 4-5 โมงเย็น ก็อยากแชร์บรรยากาศของเรา
...
แต่ช่วงนี้น้อยลงมากเพราะไม่มีเวลาเลย ถ้าเผื่อมันเหนื่อยมากเราก็ไม่ทำก็ได้ แต่ว่าคนที่เขาเข้ามาเขาก็จะบอกว่า คิดถึงมากเลย อยากพูดคุย ในคลิปวิดีโอธรรมดาก็ไม่รู้สึกเหมือนที่ไลฟ์ ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยว่าจากนี้ไปอาจจะน้อยลงด้วยเหนื่อยจริงๆ”
ไปร่วมงานแต่งของ แดน-แพทตี้ เป็นยังไงบ้าง?
“บรรยากาศงานก็เป็นแบบอบอุ่น เป็นครอบครัว เป็นงานเช้า ผมก็ถามแดนนะว่าทำไมไม่มีงานฉลองเหรอ เอาซะหน่อยมั้ย เพราะว่าตั้งใจว่าจะร้องเพลงในงานคอนเสิร์ต อาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ต้องมี แต่ว่าเขาเป็นสายธรรมะ เข้าวัดทำบุญ”
ไม่มีเหรอ?
“อันนี้ต้องไปถามแดนอีกทีหนึ่ง เขาบอกว่าก็คงไม่มีแล้วพี่บีม วันนั้นมีเข้าเฝ้าพระสังฆราช ขอพร แล้วก็มีทำบุญ ถวายสังฆทาน เห็นว่าเขาไปทานข้าวกับครอบครัว”
เขาได้จดทะเบียนสมรสกันวันนั้นเลยมั้ย เพราะเห็นหลายคนพูดว่ามีจดทะเบียนสมรสด้วย?
“เอ้าเหรอ เดี๋ยวผมโทรถามเลยมั้ย (บีมหยิบโทรศัพท์โทรหาแดน แต่แดนไม่ได้รับสาย) เอาเท่าที่รู้มั้ยครับ ผมว่ายังไม่น่านะครับ เท่าที่ไม่รู้ก็อาจจะไม่น่า แต่ผมก็ไม่รู้ (หัวเราะ)”
แต่เราก็เป็นป๋าเหมือนกัน เพราะมอบซองหนักอึ้งให้กับน้อง?
“คือหลายคนอาจจะคิดว่ามันเยอะ แต่จริงๆ มันไม่ได้เยอะอะไรขนาดนั้นนะครับ ตอนแรกตั้งใจจะไปช่วยงานเฉยๆ แล้วก็คิดว่าจะเก็บใส่ซองงานเลี้ยงกลางคืน ซึ่งพอไปถามก็ไม่มี ก็เลยไม่ได้จัดเต็มเลย และไม่ได้เตรียมเงินไปด้วย จะโอนให้ก็ดูมันยังไงอยู่ แต่ว่าก็เอาเงินสดที่มี เทหมดหน้าตัก แต่ก็บอกน้องไว้ ถ้าเผื่อมีงานหรือมาเจอกัน แต่ความตั้งใจของเรา เราอยากให้จำนวนหนึ่งซึ่งมากกว่านั้น”
หลักแสนเลยมั้ย พี่แดนบอกไว้?
“หูย พี่แดนเขาก็พูดไปเรื่อย อาจจะหนาๆ เป็นแบงก์ร้อยทั้งปึก แบงก์ยี่สิบทั้งปึกก็ได้”
มีแนะนำน้องมั้ย ในฐานะที่เราเป็นรุ่นพี่?
“วันนั้นก็อวยพรไปครับว่า ทะเลาะกันน้อยๆ ซึ่งแพทตี้กับแดนก็บอกว่า ไม่ทะเลาะกันเลยได้มั้ย ก็ลองดู ได้ (หัวเราะ) คือมันเป็นความตั้งใจนะ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนมันต้องมีเรื่องที่แบบว่าต้องกระทบกระทั่งกัน แต่ว่าเราต้องใช้ความอดทน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ต้องใช้ความเข้าใจกัน เป็นแฟนมันก็อีกอย่างหนึ่ง อยู่ด้วยกันมันก็อีกอย่างหนึ่งครับ”
ได้เห็นน้องชายเราแต่งงานมีครอบครัวรู้สึกยังไง?
“รู้สึกว่าดีใจมากๆ แล้วก็คิดไปถึงเพื่อนอีกคนเลย ถ้าเกิดว่าเราได้อยู่ด้วยกันมันคงจะดีมากเลยนะ แล้วเราก็เห็นแพทตี้มานานแล้วนะครับ ก็ไม่คิดว่าสุดท้ายเขาจะลงเอย และเป็นคู่ที่เข้ากันได้แบบนี้”
เขาบอกว่าจะแซงหน้าพี่บีมด้วย?
“ก็วันนั้นให้ลูกอวยพร บอกว่าจัดไปเลย 5 คน จะได้รู้ว่าเป็นยังไง เขาก็บอกอยู่ครับ ผมก็เชียร์เขาคิดว่าการมีลูกมันเติมเต็มครอบครัวนะ แล้วในมุมมองเรา ผมมองว่าก็ทำให้ชีวิตสมบูรณ์ เพราะผมผ่านมาทั้งตอนที่มีและไม่มี เวลาผมมองเขา ก็เห็นว่าเขาถ่ายทอดอะไรในตัวของผมกับของออย พอเรามีแล้วมีความสุข ก็อยากให้คนอื่นมีความสุขไปด้วย”.
