อดีตพระเอกช่องมากสี กัสเบล พีรกร ที่วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรก หลังมีข่าวเป็น LGBTQ ประกาศแต่งงานกับแฟนหนุ่มมหาเศรษฐีชาวอิตาลี ที่อายุห่างกันกว่า 20 ปี บอกเลยว่าสามีรัก สามีหลงหนักมาก ถึงขนาดมีเครื่องบินส่วนตัวเลยทีเดียว ผ่านทางรายการ "คุยแซ่บ show" ทางช่อง One31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

กัสเบลออกจากวงการไปอยู่ต่างประเทศ และล่าสุดหลายคนช็อก เพราะเขาแต่งงาน และแต่งงานกับมหาเศรษฐีชาวอิตาลี อายุห่างกัน 20 ปี ตอนนี้แต่งมากี่ปีแล้ว?
กัสเบล : ตั้งแต่เริ่มเดต แต่งงาน ทั้งหมดรวมๆ 3 ปีแล้ว ช่วงก่อนโควิด แล้วแต่งงานช่วงระหว่างโควิด

มีการขอแต่งงานถึง 2 ครั้ง?
กัสเบล : ครับผม คือครั้งแรกผมเขินมาก เราไปโรงแรมอยู่กลางภูเขา ที่นิวยอร์ก ก็เหมือนภาคเหนือของเรา แล้วมีร้านอาหาร คือเรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องโดนขอแต่งงาน แต่เราไม่รู้ว่าวันไหน เพราะเราไปลองแหวนมาแล้ว พอไปเสร็จปุ๊บช่วงนั้นโควิดเขาไม่ค่อยให้นั่งกันเยอะ แต่ก็มีคนเต็ม เขาก็คุกเข่าขอแต่งงานตรงนั้น เราก็ตกใจ เพราะเราไม่ได้เตรียมตัวเลย แล้วทุกคนแบบเซย์เยสๆ มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้น แต่ก็เซย์เยสไปตั้งแต่รอบแรก แล้วเหมือนรูปมันไม่ค่อยสวย เราอยากได้รูปสวยๆ เขาขออีกครั้ง ครั้งที่สองเกิดขึ้นบนเครื่องบินส่วนตัวของเขา

...

บนเครื่องบินครั้งที่สองไม่มีคนเลย?
กัสเบล : ไม่มีคนเลย เราเลยไม่รู้สึกตื่นเต้นมากเท่าไหร่ เลยแลกแหวนกันบนเครื่อง ลงมาถ่ายรูปกันหน้าเครื่องบิน

จุดเริ่มต้นไปเจอกันได้ยังไง?
กัสเบล : ตอนนั้นผมไปอยู่นิวยอร์ก ไปเรียนแล้วเราก็ต้องทำงานด้วย เพราะเราไม่อยากใช้เงินเก่าของเรา แล้วค่าใช้จ่ายที่นั่นมันสูงมาก ก็เลยไปทำร้านอาหารไทย เขาก็เหมือนเป็นลูกค้า แรกๆ เราก็เทคแคร์เขา เหมือนเขาเริ่มมาบ่อยขึ้น ทุกอาทิตย์ แล้วกินเมนูเดิมๆ

เขามีทีท่าว่าเขาจีบไหม?
กัสเบล : ก็มีครับ เขาถามว่าวันนี้เป็นยังไง เหนื่อยไหม แต่ฝรั่งสไตล์เขาจะเป็นคนกินอาหารเดิมๆ พอเขามาเราก็รู้แล้วว่าเขาจะกินอะไร เหมือนเขาชอบในความที่เราจำเขาได้ด้วย

เราจะรู้ว่าเขาชอบไหมจะดูที่การวางทิป?
กัสเบล : สมมติอาหาร 100 เขาก็วาง 100% เลยครับทุกครั้งเลย ครั้งแรกคิดว่าเขาคงเอาเงินทอน หรือขอแลกแบงก์ ก็เอาแบงก์ไปให้เขา เขาบอกเอาไปเลย

ตอนนั้นรู้จักเขาไหม หรือรู้จักเขาแค่ลูกค้าในร้านอาหารของเรา?
กัสเบล : แรกๆ รู้จักเพราะลูกค้า หลังๆ เริ่มแลกเบอร์กัน

ทำยังไงถึงได้ไปออกเดตกัน?
กัสเบล : ช่วงนั้นกัสกลับมาที่ไทย แล้วพอดีเขาต้องมาภูเก็ตเหมือนกัน แต่เขาปวดหลังหรือปวดขาสักอย่างก็เลยไม่ได้มา ก็เลยบอกว่า เดี๋ยวยูมานะ ฉันจะพายูไปภาคเหนือของนิวยอร์ก ไปอัปสเตตอีกรอบ คือเราบินถึงนิวยอร์ก 2-3 วัน เขาก็มารับไปเที่ยว

ไม่ลังเลเลยเหรอ?
กัสเบล : ไม่ลังเลครับ

ก่อนหน้านั้นมีเดตก่อนไหม?
กัสเบล : ไม่มีครับ คนนี้คือคนแรกที่เราคุยแบบจริงจัง แต่คนอื่นก็มีเข้ามา แต่เรารู้สึกว่ามันเฟกกี้อเมริกันสไตล์

เป็นไง?
กัสเบล : ตื่นเต้น ตื่นเต้นเพราะเขาด้วย เพราะสถานที่ด้วย เหมือนเราอยู่นิวยอร์ก เราไม่ค่อยได้ออกไปภูเขา ไปอะไรแบบนี้ เหมือนเขาพาเราไปเปิดโลก เรารู้สึกว่าไม่ได้ไปถ้าไม่มีรถขับออกไป หรือนั่งรถไฟออกไป

เวลาไปออกเดตกันรู้สึกไหมว่าคนนี้ตรงใจมากๆ เลย?
กัสเบล : ก็ตรงใจครับ เพราะว่าความเป็นอิตาเลียน เขาจะมีความโรแมนติกสูงมาก เขาจะมีดอกไม้ มีของที่ทำให้เรารู้สึกว่าว้าว

การที่เขาอายุห่างจากเรา 20 ปี มีผลไหม?
กัสเบล : ปกติกัสเป็นคนชอบคนอายุเยอะ ชอบมีเพื่อนอายุมากกว่า เหมือนเราอยากจะโต อยากจะมีมุมมองที่มันเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เราเลยรู้สึกว่าง่ายกับการที่จะเปิดใจกับเขา

พอเริ่มคบกันก็เริ่มเปิดตัว มีการโพสต์ภาพในอินสตาแกรม พอเปิดแล้วกระแสเป็นไงบ้าง?
กัสเบล : ทุกคนก็ช็อก แล้วก็เริ่มเปิดตัวจริงๆ กัสเริ่มเปิดตัว 14 กุมภาพันธ์ เพราะเรารู้สึกว่าเขาให้เราคุยกับพี่เขา น้องเขา เขาพาเราไปรู้จักกับเพื่อนเขา ลงเราในโซเชียล สไตล์อเมริกันคือถ้าเขาคิดว่าคนนี้ใช่ เขาจะเริ่มเปิดตัวเรามากขึ้น ก็เลยรู้สึกว่าอยากให้เกียรติเขาเหมือนกัน เราเลยโพสต์ช่วงวาเลนไทน์

...

ฟีดแบ็กจากฝั่งครอบครัวเขาเป็นยังไง?
กัสเบล : เขาก็แฮปปี้ครับ เพราะว่าทุกคนอยากให้เขามีใครสักคน เพราะเขาก็อายุเยอะในระดับหนึ่ง

แล้วฝั่งเราล่ะ ทั้งแฟนคลับ ครอบครัว กระแสเป็นยังไงบ้าง เอาแฟนคลับก่อน?
กัสเบล : รูปที่กัสลง ทุกคนก็เข้ามาแสดงความยินดีเป็นในทางบวกประมาณ 90% น้อยมากที่มีแบบไม่ดี เพราะช่วงนั้นกัสรู้สึกว่า LGBTQ ในเมืองไทยมันเริ่มโอเพ่นขึ้นเยอะ

แต่พ่อไม่แฮปปี้?
กัสเบล : พ่อไม่แฮปปี้ครับ เหมือนเขาก็รู้แหละว่ากัสเป็นอะไร เพราะเขาเลี้ยงเรามา

แต่พอเปิดแบบนี้เขาไม่แฮปปี้?
กัสเบล : เพราะเราไม่ได้บอกเขาเลยว่าเราจะเปิด แต่คือเขาไม่เคยคุยกับแฟนกัสด้วย

เขาไม่แฮปปี้เพราะเราเปิดแบบนี้ หรือเขาไม่แฮปปี้เพราะเราไม่มีโอกาสพาแฟนเรามาเจอพ่อ?
กัสเบล : กัสว่าเขาไม่แฮปปี้เพราะด้วยเพื่อนร่วมงานสมัยนั้นของเขาเข้ามาถาม เป็นอารมณ์สังคมคนไทยที่แบบเฮ้ย...ลูกเป็นเกย์เหรอ ลูกคบผู้ชายเหรอ มันทำให้เขาตั้งรับไม่ทันกับการที่จะต้องตอบคำถาม ทั้งๆ ที่ตัวเองเขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นยังไง

สุดท้ายพ่อเข้าใจไหม?
กัสเบล : เข้าใจครับ เพราะว่าเหมือนกัสพยายามทักหาเขา ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบแชต กัสแบบเอาแล้ว โกรธกัสแน่ๆ เลย กัสเลยพิมพ์ความรู้สึกไปเลย ถ้าเกิดกัสทำอะไรให้ไม่สบายใจ หรือสิ่งที่กัสเป็นมันทำให้ลำบากใจ กัสอยากจะบอกว่าสิ่งที่กัสทำ กัสตัดสินใจดีแล้ว แล้วกัสก็ทำทุกอย่างดีหมดแล้ว

อะไรทำให้เขาเปลี่ยนใจรับโทรศัพท์?
กัสเบล : ก็น่าจะข้อความอันนั้น เขาก็โทรมาบอกไม่เป็นไร เพราะเขารู้ว่าเราเหนื่อยมามาก เขาแค่ตั้งตัวไม่ทัน

...

กัสเป็นคนที่รักพ่อมาก?
กัสเบล : รักครอบครัวมากครับ เราไม่ได้ต้องการให้คนรอบข้าง หรือคนทั้งหมดบนโลกเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็น แต่เราแค่ต้องการคนที่เขารักเรา เรารักเขา เขาเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็นไม่ว่าเราจะเป็นอะไร กัสรู้สึกว่ามันโคตรมีความสุข

สมมติถ้าพ่อดูอยู่ อยากบอกอะไรกับพ่อ?
กัสเบล : รักพ่อมากนะครับ อยากให้พ่อดูแลตัวเองดีๆ อยากให้ไปเที่ยว เขาไม่ยอมไปเที่ยวที่นิวยอร์ก เพราะเขาไม่อยากนั่งเครื่องบินนานๆ แต่วันนี้กัสอยู่นี่แล้ว เดี๋ยวจะดูแลทุกอย่างเองครับ

ตอนนี้คุณแม่ไม่อยู่แล้ว ถ้าคุณแม่ดูอยู่ อยากบอกอะไรคุณแม่บ้าง?
กัสเบล : กัสว่าสิ่งที่กัสทำให้เขา ทุกคนเห็นว่ากัสดูแลแม่ดีขนาดไหน กัสว่าเขาน่าจะสัมผัสได้ว่ากัสรักเขามาก

กัสกับแฟนห่างกัน 20 ปี มันมีปัญหาเรื่องสวีต เรื่องบนเตียงไหม?
กัสเบล : ก็มีคนถาม ต้องบอกก่อนเราห่างกันมาก ด้วยวัฒนธรรมด้วย อายุด้วย ออริจินัลเขาเป็นอิตาเลียนแล้วมาอยู่อเมริกา แล้วเราเป็นไทย ความหลากหลายทางวัฒนธรรมมันเยอะมาก แรกๆ ก็ลำบาก ด้วยความที่คนไทยมีความขี้งอน เอาแต่ใจ เขาจะไม่เก็ตตรงนี้ แต่พอถามเรื่องเซ็กซ์บนเตียงเป็นยังไง เราจะบอกได้เลยว่าแซ่บมาก ไม่งั้นกัสไม่เลือกคนนี้นะ

เห็นบอกมีความตื่นเต้นและแอดเวนเจอร์มากๆ?
กัสเบล : ใช่ครับ มีสตอรี่ บางทีรู้หน้าไม่รู้ใจ บางทีก็จะมีอุปกรณ์บ้าง แบบสร้างสตอรี่ขึ้นมา

ต้องมีการละครไหม?
กัสเบล : ใช่ ต้องมีการละคร เพราะเขารู้ว่าเราคือนักแสดง เขาก็ยิ่งชอบ คือมันไม่ถึงกับห้องเชือด มันคือห้องนอนนั่นแหละครับ เขาก็จะมีกุญแจมือ แต่ไม่ถึงกับแส้นะ แต่ก็สไตล์นั้น แต่หลังๆ ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว เหมือนต่างคนต่างยุ่ง

...

ตอนที่เขามากินข้าวที่ร้าน เรารู้ไหมว่าเขาคือมหาเศรษฐี?
กัสเบล : ไม่รู้ครับ ส่วนใหญ่เขาจะกินผัดไทย ปอเปี๊ยะ หมูสะเต๊ะ แค่นั้น

แล้วเรามารู้ตอนไหนว่านี่คืออภิมหาเศรษฐี?
กัสเบล : รู้ตอนเคาต์ดาวน์ เขาพาไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง เราเดินตามเขาไป ทุกคนทักเขาเหมือนเขาคือเซเลบคนหนึ่ง

เหมือนเจ้าของร้าน?
กัสเบล : ตอนแรกเราไม่คิดว่าเป็นเจ้าของร้าน คิดว่าเขามาบ่อย แล้วเขาก็มีที่ของเขา คือปีใหม่ที่นั่นทุกร้านอาหารต้องจอง ถ้าไม่จองคือไม่ได้เข้า เพราะมันเต็มหมด เขาก็พาไปกินข้าว ร้านอยู่ที่ไทม์สแควร์ แล้วบอกว่าร้านฉัน แต่ไม่ใช่ที่เขา เขาเช่าเอา แล้วปกติไทม์สแควร์ต้องไปรอตั้งแต่ 11 โมงเช้าไรอย่างนี้ แต่เขามีตำรวจพาไปเลยตอนประมาณ 5 ทุ่ม 45 แล้วเราก็เดินไปอยู่ตรงไทม์สแควร์เลยแบบเอ็กซ์คลูซีฟมากๆ มันทำให้เรารู้สึกว่าตื่นเต้นมากๆ ทุกอย่างที่เขาเซอร์ไพรส์เรามันทำให้เรารู้สึกโห

อย่างนี้เราชอบไหม?
กัสเบล : เราชอบเขาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะว่าด้วยการเทคแคร์เขาหลายๆ อย่าง มันทำให้เรารู้สึกว่าคนนี้น่ารักดี ไปรับไปส่งตลอด โดยที่เราไม่รู้อดีตเขามาก่อน

พอมารู้ก็ยิ่งบวกๆ เข้าไปใหญ่เลย?
กัสเบล : ก็ยิ่งบวก เลเวลอัปเลย

เขาเปย์หนักมาก?
กัสเบล : ก็ให้ของขวัญวันสำคัญ ให้ดอกไม้ตลอดเวลา

แฟนห่างกัน 20 ปีแล้วเขารวยมาก คนคิดว่าเพราะเงินหรือเปล่า รักเงิน หรือรักคน?
กัสเบล : จริงๆ รักคนมากกว่า เพราะเหมือนก่อนที่เราจะเจอเขา พอเราไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเราก็ต้องทำงาน คนที่นั่นเขาไม่ชอบอยู่บ้าน ทุกคนออกไปทำงาน แต่อาจจะทำน้อยวันหน่อย

เอาเป็นว่าทุกวันนี้แฮปปี้แล้ว?
กัสเบล : แฮปปี้มากครับ

จริงไหมที่ชีวิตเราลงตัวมากจนหันหลังให้วงการบันเทิง ฉีกสัญญาเลยไหม?
กัสเบล : ไม่เชิงฉีกสัญญาครับ พอกัสไปอยู่นั่นสัญญาก็ยังคอนตินิวอยู่จนมันหมดไปเอง

แต่เราก็ไม่ต่อ?
กัสเบล : ไม่ได้ต่อครับ

จากนี้เป็นต้นไปจะเป็นนิวยอร์กเกอร์แล้ว?
กัสเบล : ก็คงจะเป็นนิวยอร์กเกอร์ครับ คือชีวิตที่วางแพลนกับเขาไว้คือเราอยากอยู่ที่นี่ 6 เดือน ที่นั่น 6 เดือน เพราะเขาก็ต้องดูธุรกิจเขา แล้วเราก็อยากทำธุรกิจที่ไทยด้วย

เวลามาเมืองไทยอยู่ไหน?
กัสเบล : ส่วนใหญ่อย่างที่กัสกลับมา กัสจะอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ แล้วจะกลับไปหาพ่อที่ต่างจังหวัด แต่พอเขามาจะพาเขาไปหัวหิน

ตกลงพ่อได้เจอหรือยัง?
กัสเบล : เดี๋ยวเจอคืนนี้ครับครั้งแรก แต่วิดีโอคอลคุยกันตลอด.

ชมคลิป