30 ตุลาคม นี้ ได้ฤกษ์ลงจอแล้ว สำหรับละคร “ณ ขณะเหงา” เรื่องราวของคนพังๆ ที่เคยใช้ชีวิตอย่างเดียวดายและแตกสลาย แล้วต้องกลายมาเป็นคนรู้จักและผูกพันกันในที่สุด ผลิตโดยบริษัท จูเวไนล์ จำกัด ออกอากาศทางไทยพีบีเอส
งานนี้เป็นการประกบคู่กันครั้งแรกที่แฟนๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเคมีเคใจเข้ากันสุดๆ ระหว่าง เอม ภูมิภัทร ถาวรศิริ และ เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ หรือเจนนิษฐ์ BNK48 ที่พร้อมจะแตกสลายไปพร้อมๆ กัน ร่วมด้วย ต๊งเหน่ง รัดเกล้า อามระดิษ, แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ และนักแสดงคุณภาพอีกคับคั่ง กำกับการแสดงโดย เก้า วิรดา คูหาวันต์
แผนการฆ่าตัวตายของซัน (เอม ภูมิภัทร ถาวรศิริ) หนุ่มหล่อผู้มีสภาวะ Asperger และหมกมุ่นอยู่กับการคิดหาวิธีจบชีวิตตัวเองมาโดยตลอดแต่ไม่เคยสำเร็จ และเขาก็ต้องล้มเลิกแผนการนั้นอีกครั้ง เพราะลุงหมอก (พ่ออี๊ด สุประวัติ ปัทมสูตร) เจ้าของร้านกาแฟและห้องสมุดเล็กๆ ชื่อ “Tiny Butterfly” เสียชีวิตกะทันหันต่อหน้าต่อตาเขากลางถนน
ซึ่งรวมถึงใยไหม (เจนนิษฐ์ BNK48) สาวเปรี้ยวนักวางแผนการเงินผู้ชอบความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ และต่อ (แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ที่เพิ่งหนีออกจากบ้านก็บังเอิญอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทั้งสามคนไม่รู้จักกัน แต่ทุกคนเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนกัน ทุกคนจึงไปเป็นพยานให้ปากคำที่โรงพักและจัดพิธีศพให้ชายชราไม่มีญาติผู้นี้ด้วยกัน
...
ซึ่งพอลุงหมอก เสียชีวิตลง เจ๊เมี่ยง(ต๊งเหน่ง รัดเกล้า อามระดิษ) สาวใหญ่แม่ม่ายเจ้าของตึกที่ลุงหมอกเช่าอยู่ ก็ได้ยื่นคำขาดกับต่อที่อาศัยอยู่กับลุงหมอกก่อนหน้านี้ ให้ย้ายออกจากร้านทันทีหลังงานศพเสร็จ เพื่อจะได้ให้ลูกค้าคนอื่นเช่าต่อไป
ต่อพยายามต่อรองกับเจ๊เมี่ยงโดยขอเช่าร้านต่อเอง แต่ด้วยเขายังเป็นผู้เยาว์จึงถูกปฏิเสธ ต่อจึงขอร้องให้ซันช่วยเช่าร้านกาแฟแทนเขา มิเช่นนั้นเขาจะไม่มีที่ไป ซันรู้สึกว่าทุกอย่างผิดแผนไปหมด อยากตายก็ไม่ได้ตาย แถมยังหลวมตัวรับปากช่วยเช่าร้านกาแฟแบบงงๆ ในวันทำสัญญาเช่าร้าน เจ๊เมี่ยงให้ที่ปรึกษาทางการเงินของเธอซึ่งก็คือใยไหมมาเป็นพยานในการทำสัญญาด้วย
ซึ่งใยไหมเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้อยู่แล้ว เธอมักจะพาชายหนุ่มไม่ซ้ำหน้ามานั่งดื่มกาแฟแล้วบอกเลิกที่นี่เป็นประจํา ดูเหมือนเธอจะไม่แคร์ใครสักคนบนโลก แต่แท้จริงแล้วใจเธอมีบาดแผลในอดีตที่ซ่อนไว้ และดูเหมือนเธอและซันจะเข้าถึงกันได้มากกว่าใครๆ ความสัมพันธ์ของพวกเขาทุกคนซับซ้อนผูกพันกันมากขึ้นทุกวัน คนเดียวดายและแตกสลายสี่คนต่างก็เข้ามาเยียวยากันและกันด้วยความรัก แต่มันจะเพียงพอที่จะหยุดซันไม่ให้พยายามจบชีวิตตัวเองได้หรือไม่คงต้องตามลุ้นกัน
เจนนิษฐ์ BNK48 เผยว่า “ตอนรับเล่นเรื่องนี้ค่อนข้างกังวลเหมือนกันค่ะ เพราะบทใยไหมค่อนข้างท้าทายความสามารถมาก เป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนค่อนข้างเยอะพอสมควร
ด้วยปมในอดีตของตัวเองทั้งเรื่องครอบครัว ความรักและเพื่อน ต้องมีการปรับบุคลิกให้ดูโตขึ้น เปรี้ยวขึ้นด้วย ก็ได้มีการปรึกษากับพี่เก้า ผู้กำกับ ในการทำผมสีแดงให้เข้ากับความเป็นใยไหม
ในเรื่องนี้นอกจากแสดงแล้วนั้น หนูยังได้โชว์ฝีมือในการวาดภาพด้วย ซึ่งภาพวาดในเรื่อง รวมทั้งโลโก้ร้าน Tiny Butterfly หนูก็เป็นคนออกแบบเอง ดีใจมากๆ ค่ะที่พี่เก้าผู้กำกับเลือกนำไปใช้ ถือว่าได้พัฒนาตัวเองมากๆจากเรื่องนี้ การทำงานร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆ
โดยเฉพาะพี่เอม ก็รู้สึกขอบคุณมากๆ ที่ช่วยเหลือ ส่งอารมณ์ให้หนูเข้าถึงตัวละครได้ง่ายขึ้น โชคดีมากๆ ที่ได้เล่นเรื่องนี้ เพราะแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่เราเริ่มเปิดใจรับฟังใครสักคน อาจกลายเป็นการช่วยเหลือที่มากขึ้น อยากให้ทุกคนได้ดูจริงๆ ค่ะ”
แม็ค ณัฐพัชร์ เล่าว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้ทำอะไรหลากหลายมากครับ ทั้งเป็นบาริสต้าชงกาแฟ ที่ต้องไปเวิร์กช็อปกันอย่างจริงจังกับพี่เอมก่อนเปิดกล้อง เป็นนักแสดงละครใบ้ ที่ก็ต้องไปเรียนหลายรอบกว่าจะทำได้ ยังต้องเล่นกีตาร์ร้องเพลงอีก
...
ซึ่งอันนี้ผมไม่เคยทำมาก่อนก็ฝึกกันสดๆ เลย เป็นการทำงานที่สนุกมาก ได้พัฒนาตัวเองในหลายๆ รูปแบบ และในส่วนบทบาทของต่อเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ต้องการค้นหาตัวตน บทค่อนข้างยากครับ แต่ผมก็ตั้งใจมากอยากทำออกมาให้ดีที่สุด
ก็ได้พี่เก้า ผู้กำกับ และพี่เอม รวมถึงพี่ต๊งเหน่ง ช่วยทำความเข้าใจบท รับส่งอารมณ์กันอย่างดี จนทุกอย่างผ่านมาได้อย่างสวยงาม เป็นผลงานอีกเรื่องที่ผมรู้สึกภูมิใจและอยากให้ทุกคนติดตามว่าคนพังๆ เหล่านี้ เขาจะมาผูกพันกันได้ยังไง
แล้วคนดูจะได้อะไรมากกว่าความสนุก อิ่มเอมไปกับความเป็นไปของทุกตัวละครแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจ การมีส่วนร่วม การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ช่วยเหลือกันในสังคม”
เก้า วิรดา ผู้กำกับ เล่าว่า “ณ ขณะเหงา เราตั้งใจทำให้เป็น เป็นละครดราม่าอุ่นหัวใจ ที่ว่าด้วยเรื่องของความเหงา ของคนเหงาที่บังเอิญมาพบกันในเมืองใหญ่ ตัวละครทุกตัวมีบาดแผลบางอย่างซุกซ่อนในจิตใจแตกต่างกันไป แต่ว่าทุกคนก็ต้องฮึบไว้ แล้วเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไป
ไม่ว่าแต่ละคนจะเป็นอย่างไร แต่ว่าสิ่งที่พิเศษคือคนที่มันแตกสลายจากต่างที่มา ต่างสิ่งที่มันพังมารวมอยู่ในสถานที่หนึ่ง แล้วก็ต่างคนต่างเยียวยาซึ่งกันและกัน
โดยเราตั้งใจอยากให้ละครเรื่องนี้เป็นเสมือนคู่มือการจัดการความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างกันของคนในสังคม การเคารพ ให้เกียรติและยอมรับความต่างของกันและกัน อีกทั้งหวังว่าละครเรื่องนี้จะเป็นเครื่องมือในการป้องกัน ดูแลเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้ใครต้องจากไปก่อนเวลาอันควร ฝากติดตามกันด้วยนะคะ”
ติดตามชมละคร “ณ ขณะเหงา” ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง www.vipa.me และติดตามความเคลื่อนไหว เบื้องหลังกองถ่ายสนุกๆ ได้ที่ Facebook Fanpage: ละครไทยพีบีเอส หรือ JUVE9 และที่ www.thaipbs.or.th
...
