เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ขยันทำงานกันทั้งบ้าน สำหรับคุณแม่สายเซ็กซี่ ฮันนี่ ภัสสร และสามี บี๋ ธีรพงศ์ ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเผยเคล็ดลับมัดใจสามีให้อยู่มัด ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา และเผยคุณสมบัติของผู้หญิงที่จะเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ในบ้าน เพราะลูกชายหนุ่ม อินดี้ อินทัช หล่อมากงานดีไม่ไหว

ตำนานจิกกล้องแตกบนเวทีประกวด?
"เป็นความรู้สึกที่เรามองช่างภาพอยู่บนเวทีเป็นอินเนอร์มองแบบสายตาจดจ้อง ซึ่งก็ได้รางวัลจากเวทีนี้ รวมไปถึงได้ผู้ชายด้วยเป็นตากล้อง เพราะถือว่าเป็นขวัญใจช่างภาพในชีวิตจริงและในตำแหน่งหน้าที่การงาน"

จิกขนาดไหนถึงได้พี่บี๋มา?
"นี่ก็ถือว่าเป็นที่มาของการได้พี่บี๋มาเลยค่ะ เพราะเค้าเป็นช่างภาพที่ชอบถ่ายผู้หญิงเซ็กซี่ ทีนี้ความเซ็กซี่ของผู้หญิงมันก็จะสื่อทางสายตาก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันทางด้านรูปร่าง หลังจากนั้นเราก็เริ่มเข้าวงการเป็นนักแสดงจนกลายมาเป็นนักร้อง"

ตำนานเดินสายโปรโมตด้วยรถถัง?
"งานนั้นน่าจะเป็นงานชายแดน มีรถถังให้ขึ้นไปโปรโมต เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เอาตัวขึ้นไปบนรถถังและเอาหน้ายื่นขึ้นมาผ่านช่องเล็กๆ ซึ่งเราก็ต้องสู้รบกัน ถือเป็นความมหัศจรรย์ของตัวเองมาก ตอนนั้นก็ได้รับการตอบรับดีมาก ถือเป็นภาพจำของเราไปเลย"

...

อยู่ในวงการนานจนเด็กรุ่นใหม่กลัว?
"คือเราเป็นคนไม่ชอบตาดุ แต่ถ้าจะให้นิ่งก็จะดุ คือถ้ามองปุ๊บจะใช้สายตา ซึ่งเด็กก็จะกลัว แต่ส่วนใหญ่เราก็จะได้รับบทบาทเซ็กซี่จนกลายเป็นที่ฮือฮามาก"

เปลี่ยนจากนางงามมาถ่ายแบบเซ็กซี่?
"ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ที่มอบหมายมาว่าให้คาแรกเตอร์ของเราสามารถเล่าเรื่องราวของตัวละครนั้นได้ ทำอันนี้ได้ ทำอันนั้นได้ เราก็ต้องมองภาพลักษณ์ความเป็นไทยของเราด้วยว่ามันทำได้แค่ไหน ส่วนในเรื่องของการถ่ายแบบแฟชั่นเซ็กซี่บอกเลยว่าไม่น่าที่จะโดนว่า พอช่างภาพคือพี่บี๋ และเราจะไม่มีภาพหลุดค่ะ เพราะว่าช่างภาพส่วนตัวอยู่ที่บ้าน"

วิถีคุณแม่สุดแซ่บ?
"ไม่เคยกลุ้มใจเลยที่มีลูกชายหล่อ ดีใจด้วยซ้ำ แต่ส่วนมากคนก็จะพูดถึงกันเยอะ คนเอ็นดูน้องเยอะ และน้องเป็นคนที่ไม่ได้คบหลายคนในเวลาเดียวกัน ถ้าจะคบกับคนไหน น้องก็จะเลิกกับคนนั้นก่อนประมาณนี้"

คุณสมบัติลูกสะใภ้?
"คือจริงๆ ที่ชอบมากคือสวยและทำงานเก่งแบบ หนูแหม่ม สุริวิภา เป็นคนไม่เรื่องมาก อย่าหาเรื่องแดกกันจนทำให้อารมณ์เสีย ซึ่งต้องไปด้วยกันได้และดูแลกันได้ เพราะตัวฮันนี่เองไม่ได้เป็นห่วง หรือวุ่นวายกับชีวิตลูกเลย แต่ว่าเราสามคนที่บ้านต่างแยกย้ายกันทำงาน เราไม่มีผู้จัดการมาประกบ เพราะเราเป็นคนดูแลคิวงานหมดทั้งบ้าน เพราะฉะนั้นลูกต้องคล่องมือในการขับรถไปทำงานเอง หรือเวลาถ้าเค้าจะไปไหนก็ต้องคอยมีคนมาดูแลเค้าได้ ไปดูแลเขาได้ ไปเป็นเพื่อนเขาได้ เราก็จะหายกังวล ซึ่งต้องเข้ากับเขาได้ดี แค่นั้นก็พอแล้ว".