เมื่อคุณแม่ยังสวยที่เปี่ยมด้วยพลังของความรัก ริต้า ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ได้เปิดแบบหมดเปลือกทุกเรื่องราวของชีวิตในเรื่องราวของชีวิต ก็ได้เล่าย้อนเหตุการณ์ในอดีตที่ถูกคนใกล้ตัวที่ไว้ใจโกงเพราะเชื่อใจ สิ่งที่นำมาเล่าเพื่อที่เป็นอุทาหรณ์ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร พร้อมเปิดเรื่องราวชีวิตรักกับ กรณ์ ณรงค์เดช ที่วันนี้มีแต่ความสุข

"จริงๆ แล้ว ริต้า ไม่ได้มีอะไรสวยหรูเพอร์เฟกต์ ดูเป็นกลีบกุหลาบอะไรอย่างนั้นเลยค่ะ เราจะเชื่อใจคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวมากๆ เราจะรัก เราจะเชื่อใจ แล้วเราก็จะเปิดประตูให้เขาเข้ามาในชีวิตเป็นหนึ่งในครอบครัวเรา แต่แน่นอนค่ะ พอมันมีเรื่องของผลประโยชน์มันก็จะมีเรื่องของการโกงกัน ริต้า ก็จะโดนมาตั้งแต่เด็กๆ เลยตั้งแต่ 10 ขวบแล้ว ริต้า ก็โดนมาเรื่อยๆ"

ซึ่งในช่วงตอนที่โดนโกงตอนนั้นมันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่คุณพ่อเองก็ไม่สบาย?

"ใช่ค่ะ มันก็เป็นเหตุการณ์อีกครั้งหนึ่งนะคะ เป็นช่วงที่คุณพ่อป่วย ริต้าก็เพิ่งกลับมาจากเยี่ยมคุณพ่อเลยค่ะ คือ เยี่ยมคุณพ่อเสร็จแล้ว คือช่วงนั้นคุณพ่อป่วย ริต้าจะเดินทางไปเดนมาร์กค่อนข้างบ่อยมากเพื่อที่อยากจะดูแลคุณพ่อให้ดีที่สุด แล้วเสร็จปุ๊บ เป็นวันที่ริต้าเดินทางกลับมานี่แหละต้องกลับมาทำงานนะคะ

...

แล้วกลับมาปุ๊บ คุณอาก็โทรมาบอกว่า ริต้า เนี่ยคุณพ่อทรุดหนักมากต้องเข้าโรงพยาบาลด่วนเลย ซึ่งตอนเราอยู่กับเขายังแข็งแรงดีหมดเลยนะคะ ริต้าเลยเซ็นเอกสารเรียบร้อย จ่ายเช็คเรียบร้อย และพอเซ็นเอกสารที่เมืองไทยเรียบร้อย ริต้าก็เดินทางขึ้นเครื่องวันนั้นเลย

พอคืนนั้นมีคนบอกว่า เขาเขียนเช็คผิดรบกวนให้ริต้า โอนเงินได้ไหม ริต้าอยู่บนเครื่องแล้ว ริต้าจำได้แม่นเลยเขาก็บอกเราว่า รบกวนให้เราโอนเงินให้ได้ไหม เพราะว่าเขาเขียนเช็คผิดจริงๆ อะไรอย่างนี้ค่ะ แล้วริต้าโอนเงินให้เขา แล้วมันเป็นจำนวนหลักสูงมากค่ะ แล้วเขาคนนั้นก็หายไปเลย

แต่จำได้ว่าวันนั้นเราไม่ได้เสียใจ เราไม่ได้คิดเรื่องงานเราเสียใจอยู่เรื่องเดียวว่าบนโทรศัพท์ตอนที่ริต้าจะขึ้นเครื่อง เขาโทรมาบอกว่าคุณพ่อเสียแล้วนะ (เสียงเริ่มสั่น น้ำตาไหล) แล้วตอนนั้นเราเดินทางคนเดียว เราไปคนเดียว เราต้องรีบไปค่ะ ริต้าจำได้ว่าบนเครื่อง ริต้าร้องไห้ตลอดเลย"

จริงๆ เป็นความยากมากนะเพราะรู้ก่อนขึ้นเครื่องด้วย?

"เพราะเรารู้สึกว่าทำไมเราไปไม่ทัน"

แล้วเรามารู้ได้อย่างไรเอ่ยว่าสิ่งที่เราโอนเงินไปกลายเป็นว่าเขาเอาเงินเราไปหมดแล้ว?

"เขาหายไปเลยค่ะ เราตามจับทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าเหมือนกับมารู้ว่าเขาเปลี่ยนชื่อมาหลายรอบ คือที่ริต้าพูดสิ่งนี้เพราะว่า อยากให้คนอาจจะฟังแล้ว ก็อาจจะเรียนรู้จากประสบการณ์ของเราต้องระวังให้มากๆ"

ในช่วงที่ปรับตัวเข้าหาคุณกรณ์ มีทะเลาะอะไรกันบ้างไหมในช่วงปรับจูน?

"ทะเลาะกันหนักมากไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะทะเลาะกันขนาดนี้ แต่ด้วยความที่อย่างที่ ริต้า บอกเลยว่าเรารู้เราเป็นคนอย่างไร เขาเป็นคนที่เป็นผู้ชายที่เพอร์เฟกต์มากๆ แล้วเขาเป็นคนที่เก็บคำพูดมากๆ คุณกรณ์ เป็นคนที่ถูกสอนมาว่า เขาจะไม่พูดอะไรออกมาเพราะว่าคำพูดเนี่ยคืออาวุธ เพราะฉะนั้นเขาจะระวังทุกคำพูดที่จะออกจากปากเขา

อันนี้นะคะ ตอนคบกันแรกๆ มันก็เลยเป็นความที่แบบทำไมคุณไม่พูดอะไรออกมา ชอบไม่ชอบก็ไม่ค่อยพูด คือ เขาเป็นคนไม่ค่อยแสดงออกมาทางคำพูด ในขณะที่ริต้าก็อยากที่จะพูด บางทีไปงอนริต้าตั้งหลายวัน ไม่บอก

แต่พอเวลาผ่านไปพอเขาเริ่มพูด ริต้าบอกว่าริต้าคุยกับเขาซีเรียสมากๆ บอกว่า ริต้าเข้าใจนะว่าคำพูดมันอาจจะมาทำร้ายความรู้สึกริต้า แต่ริต้ารู้สึกว่าถ้าคุณไม่พูดมันกัดกินใจเรามากกว่า คนเรามีอะไร รู้สึกอะไร ไม่พอใจอะไรกันและกันเนี่ย การพูดเนี่ยมันเหมือนมาเคลียร์ใจของเราค่ะ แล้วมันไม่ใช่แค่เคลียร์ใจ มันทำให้เรารักกันมากกว่าเดิมอีก

...

พอเราเข้าใจกันเรารักกันมากกว่าเดิมอีกค่ะ เช่น เมื่อก่อนทะเลาะกันเรื่องริต้าเป็นคนไม่ติดโทรศัพท์เลย อาชีพของเราถ่ายละครค่ะ เราก็เอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าใช่ไหมคะ อ่านบทถ่ายงานอะไรอย่างไร แล้วค่อยมาเช็กอีกที พี่กรณ์ก็จะงงมากทำไมโทรศัพท์มาตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่โทรกลับ เขาก็จะงอนริต้าทุกวัน

จนเขามายอมบอกว่าเนี่ยเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ อ้าว น่าจะบอกเราตั้งแต่แรก เราจะได้ปรับปรุงตัว แล้วเราก็ไม่ได้จะปรับปรุงตัวได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ยังได้อธิบายให้ฟังว่า อาชีพเราไม่สามารถพกโทรศัพท์ได้ หรืออาจจะโทรหากลับช้าหน่อยหรืออะไรอย่างนี้"

คนหนึ่งมีอะไรไม่ค่อยพูด ในขณะที่ ริต้า เองจะเป็นคนที่ชอบอธิบาย เพราะฉะนั้นคู่นี้ก็จะเป็นคู่ที่คนหนึ่งเงียบๆ คนหนึ่งจะพูดเยอะหน่อย?

"ชอบอธิบายมาก แต่ตอนนี้ คุณกรณ์ เขาเปลี่ยนไปแล้วค่ะ ริต้าได้เข้าไปเปลี่ยนเขาเรียบร้อยแล้ว กลายเป็นคนที่พูดเก่งกว่าริต้าอีก ตอนนี้เขาไม่ใช่คนนั้นอีกแล้ว เขาเปลี่ยนไปแล้วค่ะ เขาเป็นคนที่พูดเก่งมาก แล้วก็คุยสนุกมาก เป็นคนตลกมาก คือเหมือนคนละคนกับที่ริต้ารู้จักเลยค่ะ"

...

ริต้าเคยเห็นคุณกรณ์โมโหหรือโกรธสุด หรือเขาเคยเสียงดังไหมในชีวิตนี้?

"ไม่เคยเลยค่ะ และก็ไม่ตะโกนค่ะ เวลาที่เขาไม่ชอบอะไรเขาจะเงียบมากเลยค่ะ เวลาเขาโมโหเขาจะเงียบมาก แล้วคิ้วก็จะผูกกันแบบนี้ค่ะ"

จริงๆ แล้วคุณกรณ์ จะต้องมานั่งคุยตรงนี้ด้วยแต่บังเอิญวันนี้ติดธุระจริงๆ?

"จริงๆ แล้ว คุณกรณ์ ทำหลายหน้าที่มากๆ เลยค่ะ เป็น CEO ของไรมอนแลนด์ด้วยเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์นะคะ เราได้เห็นมุมมองการทำงานหลายๆ อย่างวิธีคิดของเขา วิธีแก้ปัญหาของเขาแล้วเรารู้สึกยิ่งประทับใจในผู้ชายคนนี้"

คุณกรณ์ ดูอยู่แน่นอนวันนี้มีอะไรอยากจะบอกกับคุณกรณ์บ้างเอ่ย?

"ก็มีหลายคนถามว่า เอ๊ะ นิยามความรักของริต้าคืออะไรนะคะ ริต้าพูดได้เต็มปากเลยว่านิยามความรักของริต้า คือ คุณกรณ์

คุณกรณ์คือคนที่ริต้าอยากฝากชีวิตทั้งชีวิตไว้กับเขา แล้วก็อยากจะดูแลชีวิตของเขาให้ดีที่สุด อยากให้เขามีความสุขในทุกๆ วันนะคะ อยากที่จะเข้ามาแบ่งเบาภาระของเขา อยากจะเข้ามาคอยทำให้เขายิ้มได้คอยให้เขามีความสุขนะคะ แล้วก็รัก คุณกรณ์ มากๆ เลยค่ะ"

...

ในทางกลับกันลองมาฟังคุณกรณ์ พูดถึงภรรยาบ้างดีกว่า?

"รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้เขามาเป็นภรรยานะครับ ที่สำคัญมากๆ คือ เรื่องของจิตใจนะครับ คนเราเวลาเป็นคู่กันมันไม่ใช่เฉพาะยามสุขตลอดเวลานะ ยามทุกข์ ยามเราท้อ ยามเราเหนื่อยเราต้องการใครสักคนที่แบบเคียงข้างเราและเป็นกำลังใจให้เราตลอด ซึ่งทำให้เราผ่านพ้นความรู้สึกช่วงนั้นไปได้

และทำให้เรากลับมามีความสุขอีกครั้งหนึ่ง แน่นอนเรื่องงอนกันเป็นเรื่องปกติเราใช้ชีวิตคู่กัน สมัยก่อนตอนเป็นแฟนเวลามีเรื่องอะไรที่เรารู้สึกรบกวนใจเรา เราไม่สบาย ผมจะเป็นคนไม่พูด เพราะผมจะรู้สึกว่าพูดไปเดี๋ยวบางทีมันแบบคำพูดไปแล้วมันไปกินใจกันมากกว่า

แต่ว่าตั้งแต่เราใช้ชีวิตคู่เป็นสามีภรรยากัน เราก็คุยกันแล้วว่าคือมีอะไรเราจะไม่เก็บ เราจะคุยกันหมด ทุกครั้งที่เราได้เปิดใจคุยกันว่าผมไม่ชอบตรงนี้นะ หรือริต้าไม่ชอบตรงนี้เนี่ยมันทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น แล้วความรักมันแน่นแฟ้นยิ่ง

ต้องบอกก่อนเลยว่า Organika นี่ จริงๆ ก็เป็นลูกรักของ ริต้า อีกคนหนึ่ง ช่วงโควิดนี่แน่นอนไม่ใช่แค่ Organika คือผมว่าทุกบริษัททุกห้างร้านกระทบหมด ผมก็เข้ามาช่วยดูเรื่องตัวเลข เรื่องสต๊อกครับ เราก็ทำทุกอย่างผ่านไปด้วยดีนะ ตอนนั้นเราก็อยู่กันสองคน อยู่บ้านสามีภรรยานะก็ช่วยกันคิดกลยุทธ์ ผมก็มาช่วยรีวิว

ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือกำลังใจของกันและกันด้วย คนที่เรารักคนที่ใกล้ตัวที่สุดเนี่ย สิ่งที่เราต้องการที่สุดก็คือ น่าจะเป็นกำลังใจจากคนที่เรารักครับ ในฐานะแม่อันนี้ต้องให้เครดิตเกินร้อยจริงๆ ตั้งแต่ตอนที่รู้เลยว่าท้องเขาอดทนทุกอย่าง (เสียงสั่น) เขาอดทนทุกอย่างเพื่อลูกจริงๆ

ตั้งแต่ตอนท้องนะครับ ก็คือเจ็บปวดเป็นไข้เป็นอะไร เขาจะไม่ทานยา ก็ดูแลตัวเองตลอด แล้วก็ทำการบ้านตลอดว่าช่วงท้องตอนนี้คือ เขาต้องดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อให้ลูกได้ประโยชน์ที่สูงสุดที่สุดครับ แล้วจนลูกออกมาเขาก็เต็มที่กับ กวิณท์ ทุกอย่าง ขอบคุณมากๆ ที่ทำหน้าที่แม่ได้ดีสมบูรณ์แบบมากๆ นะครับ ภูมิใจจริงๆ ที่ กวิณท์ ได้เรียกริต้าว่า แม่ ครับ".