ยังมีเรื่องราวให้คนสนใจและติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวของ พิมรี่พาย พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ที่ในวันนี้มานั่งให้ มดดำ คชาภา พิธีกรฝีปากกล้าถามถึงดราม่าล่าสุดที่เกิดขึ้น
ซึ่งเปิดเรื่องมา มดดำ คชาภา ก็ถาม พิมรี่พาย ตรงๆ ว่า กล้าพูดถึงคนได้เงินเดือน 1.4 หมื่น กล้าพูดถึงการต่อคิวบัตรอิออน ไม่เคยจนมาก่อนเหรอ
ก่อนจะพูดต่อว่า มดดำนั้นเคยพูดกับทุกคนเลยว่าคอยดูนะ ยิ่งพิมรี่พายสูงมากเท่าไหร่ ก็จะเหลิง แล้วก็จะตก ซึ่งในระหว่างที่เธอขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นให้เหนื่อย ขึ้นให้จบแล้วกลับมาทบทวน เขาเรียกว่าช่วงอะไรรู้มั้ย ช่วงสะดุ้งไฟ ถ้าภาษาชาวบ้านคือตื่นห_อย
วันนี้สะดุ้งให้เต็มที่ เพราะตัวมดดำเองนั้นก็เคยปากหมาวิจารณ์คน ด่าคนไปทั่ว ทัวร์ก็ลงบ่อย แต่สิ่งที่ไม่กล้าคือการเปรียบเทียบคน
แล้วสิ่งที่พิมรี่พายทำอยู่ อยากฟังจากปากจริงๆ ว่าสมองวันนั้นคิดอะไรถึงได้พูดออกไป พูดถึงคนเงินเดือน 1.4 หมื่น พูดถึงการต่อคิวบัตรกดเงินสด คิดอะไร ไม่เคยจนมาก่อนเหรอ ทำไมไปพูดอย่างนั้น
...
งานนี้ พิมรี่พาย ก็ชี้แจงว่า เธอนั้นมีวิธีพูดกับคนที่พูดดี เวลาใครพูดดี อุดหนุนจะเรียกว่าเพื่อนรัก แต่ใครพูดจาไม่ดี มีวิธีรับมือแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน อ่านทุกคอมเมนต์ที่เห็น วันนั้นจะจัดการคนที่คอมเมนต์ ด่าคนนั้นคนเดียว
แต่มีคนหลายหมื่นคนร่วมฟังด้วย บางคนเขารู้สึกว่ามันกระทบ อยากบอกว่าไม่ได้มีเจตนาจะด่าว่าใคร ยอมรับว่าผิดคือไม่ได้เอ่ยชื่อของคนที่มาเมนต์ว่า ก็เลยกลายเป็นแบบนั้น แต่เจตนาไม่ได้จะไปว่าใคร เพราะเธอไม่ใช่คนอย่างนั้น
ไม่ได้จะไปดูถูกใคร แค่จะด่าคนนั้นคนเดียว ซึ่งคนในไลฟ์ 5 หมื่นคนตอนนั้นเข้าใจดี แต่คนที่ไม่ได้ดู ข่าวตัดไปแต่ผม เหตุไม่ได้ตัด ถึงบอกด่าได้ไม่เป็นไรถ้าไม่ได้ยิน แต่ถ้าได้ยินด่ากลับแล้วต้องรับให้ได้ แล้วเวลาเล่าเรื่องช่วยเล่าตั้งแต่ต้นด้วย
จากนั้น มดดำ คชาภา ถาม พิมรี่พาย ต่อว่าจากที่เคยมีคนดูเป็นแสนๆ วันนึงคนดูเหลือหมื่นกว่าคน เสียเซลฟ์ จิตตก รับไม่ได้กับที่คนดูไลฟ์น้อย ตกต่ำ พิมรี่พายตกต่ำ ใช่หรือไม่ งานนี้เจ้าตัวก็ได้ตอบว่า
แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังก็ตอบคำถามของมดดำว่า ชีวิตเธอนั้นเคยตกต่ำที่สุดคือการเดินขายของตามตลาดนัด เดินขายของตามตรอกซอกซอย
ชีวิตพิมเกิดมาก็ตกต่ำเลย เพิ่งมาขึ้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา อย่ามาพูดว่าพิมตกต่ำ เพราะคุณไม่เคยรู้เลยว่าเราจน ตกต่ำมาขนาดไหน และเธอก็ไม่อนุญาตให้ใครมาชี้หน้าบอกหรือมาคอมเมนต์ หรือจะเขียนอะไรก็ได้ว่าเธอตกต่ำ เธอไม่ยอม
จากนั้น มดดำ คชาภา ตามต่อว่า เอาตรงๆ เลยนะเหลิงขึ้นมั้ย งานนี้ พิมรี่พาย ตอบกลับทันทีว่า ตัวเองไม่เคยเหลิง เป็นคนเดิม พิมรี่พายดังเพราะความมั่น ที่โดนด่าทุกวันนี้ก็เพราะปากเป็นเหมือนเดิมนี่แหละ
ถ้าทำแบบคนอื่นๆ ทำไมจะทำไม่ได้ แต่เป็นคนเดิม ยังพูดจาผิดพลาด ยังพลาดพลั้ง พูดอะไรไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไม่ดูสถานการณ์ พูดไปเรื่อย จนโดนด่า
และ มดดำ ได้ถาม พิมรี่พาย ต่อว่า บางคนบอกเครียดสะสมอันนี้จริงหรือเปล่า พิมรี่พายก็ยอมรับกับมดดำตรงๆ ว่า เครียดจริงๆ ไม่โกหก
วันไหนเครียดก็บอกลูกค้าว่าเพื่อนวันนี้สุดมากเลย เครียดมาก วันไหนจะเป็นไงก็แล้วแต่ ก็จะบอกสิ่งที่รู้สึก ไม่ใช่รายการทีวี จะให้มาคีฟลุค คิดอะไรก็พูดออกไปอย่างนั้น
สำหรับยุคนี้ใครไม่เครียดบ้าง เงินหายาก หุ้นตก คริปโตพังมาก ข้าวยากหมากแพง ไหนจะต้องจัดการ 20 ปัญหาให้ได้ภายใน 1 วัน ลูกน้องมี 3 พันคน ต้องมีงานทุกวัน ถ้าไม่มีงานเข้าเนื้อ
ต้องบริหารกำไรให้ได้ ถูกต้องแล้วที่ต้องเครียด ทุกคนเป็นหมด เขาเรียกว่าสภาวะของไตรมาสแรก 3 เดือนแรกมันจะเงียบ ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบ ของ 3-4 โกดังสุดลูกหูลูกตา 60-70 ล้านชิ้น ขายอยู่คนเดียวจะไม่ให้พิมเครียดได้ยังไง มันก็เครียดปกติ มันไม่แปลก เข้าใจมั้ย
...
จากนั้น มดดำ คชาภา ถามต่อว่า พอมีดรามาเดี๋ยวก็ไปสร้างภาพว่าเป็นคนดี ช่วยเหลือสังคมต่อ ซึ่ง พิมรี่พาย ตอบคำถามนี้ต่อว่า เธอนั้นทำมานานแล้ว วันนี้ก็ยังทำปกติ แต่มาช่วงหลังโดนด่า แล้วก็เอาเรื่องเก่ามาโยงกัน
บางทีก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับตัวเอง มาเขียนในคอมเมนต์ว่า อุ๊ย โดนด่าครั้งนี้ประกอบโซลาร์เซลล์รอแล้วมั้ง มันทำมา 3 ปีแล้ว ซึ่งจะบอกว่าก็จะไม่หยุดทำ แล้วมาบอกว่าทำสร้างภาพกลบสิ่งที่ทำเสียหาย มันกลบกันไม่ได้ ผิดก็ส่วนผิด ทำก็ส่วนทำแต่ยืนยันว่าจะทำต่อไป
ก่อนจะเล่าต่อว่า เธอนั้นเป็นคนสองร่าง ร่างนึงสู่สุดใจเลยนะ ไม่ยอม อีกฝั่งนึงก็สู้เหมือนกัน แต่สู้ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อยากจะแบ่งปัน
อยากจะบอกว่าอาจจะเป็นตัวร้ายในสายตาคนหลายคน ใครจะว่าก็ว่าไป แต่ในวันนึงที่ยังมีค่ากับใครสักคนแม้จะแค่คนเดียวก็จะทำต่อ
ไม่สนใจ คนเราก้าวเดินอยู่ทุกวัน มันจะไม่มีผิดบ้างเลยเหรอ ก้าวเยอะมันก็ผิดเยอะ ถ้าดูแล้วว่าสิ่งที่ทำผิด พิมก็ขอโทษ การที่ขอโทษมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
มดดำ คชาภา ถามต่อทันทีว่า เวลาขอโทษสำนึกจริงๆ ซึ่ง พิมรี่พาย ก็ตอบทันทีว่า รู้สึกสำนึกทุกครั้งที่ยกมือไหว้ขอโทษ ร้านมันใหญ่ คนเลื่อนผ่านเป็นล้านๆ คน แล้วจะให้ไปถูกใจใครหมดได้ยังไง
จากนั้น แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ก็เผยความรู้สึกต่อว่า แค่รู้สึกว่าเป็นคนที่รับปัญหาแบบเดียวกัน ปัญหาหุ้น เงินเฟ้อ มะนาวแพง คือเงินได้เท่าเดิมแต่ของแพง
ปัญหาพวกนี้มันทำให้ดำรงชีวิตยากมาก ทุกคนเครียด ในภาวะแบบนี้มันต้องให้กำลังใจกัน วันนี้คนดูหมื่นเดียวหรือจะเหลือสัก 30 คน พูดให้กำลังใจกันนะไม่ใช่มาซ้ำเติมกัน แต่ก็ขออภัยจริงๆ ถ้ายกตัวอย่างอะไรไปแล้วทำสะเทือนใจ ขอโทษจริงๆ
...
ทำไมถึงรู้ว่าเงินเดือน 1.4 หมื่น มันลำบาก ทำไมถึงยกตัวอย่างว่ายืนต่อคิวกดเงินสดแล้วมันลำบาก ทำไมต้องแบกมาม่า พวกนี้เธอนั้นผ่านมาหมดแล้ว
สิ่งที่มันเกิดขึ้นมันสมควรแล้ว สังคมขัดเกลาให้เป็นตัวเธออย่างในทุกวันนี้ พิมรี่พายเมื่อหลายปีก่อนที่เพิ่งเอาโทรศัพท์มาหัดขายของ พูดคำด่าคำ พูดจาฟังไม่ได้เลย ทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปในทางที่อยากจะเป็นคนดีขึ้นเพราะสังคม
จากนั้น พิมรี่พาย ยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้ตัดสินคนตามจำนวนเงินที่มี แต่ตัดสินคนตามความคิด และคำพูดที่มันออกมา คนกลุ่มนี้ต้องโดนด่า
ก่อนที่มดดำจะพรั่งพรูความรู้สึกของตัวเองที่มีออกมาว่า วันนี้จะขอสอนในฐานะพี่สอนน้อง อย่าให้ความเก่งมาทำร้ายตัวเอง ซึ่งทำเอา พิมรี่พาย ถึงกับ ยกมือไหว้ พร้อมกับพูดคำว่า เธอนั้นจะเก็บคำนี้ไว้
...