ตุ๊กตา อุบลวรรณ โพสต์แชร์ประสบการณ์สามีหนุ่ม ได้ป่วยเป็นโรคโปรตีนรั่ว ทำให้ตัวบวม ขาบวมจนเดินไม่ได้ และน้ำหนักพุ่งขึ้นมาเกือบ 100 กิโลกรัม แถมยังกินอาหารแบบปกติแทบไม่ได้เลย เจ็บปวดและทรมานอย่างมาก แต่สุดท้ายอาการดังกล่าวได้หายไป เพราะลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง 

"เรื่องจริงที่อยากบอก กว่าจะเป็นชินขาเรียวในวันนี้ หลายคนไม่เคยรู้ว่าพี่ชินไม่สบายมาตลอดตั้งแต่ปี 2014 นางเป็นโรคโปรตีนรั่วในปัสสาวะ หรือฉี่ออกมาเป็นฟอง ลักษณะฉี่เป็นฟองเบียร์และฟองไม่หายไป ส่งผลให้ตัวบวมมาก น้ำหนักพี่ชินขึ้นไปเกือบ100 กิโล พี่ชินเดินแทบไม่ได้จะเจ็บไปหมด

เวลาเอานิ้วจิ้มไปที่เนื้อจะบุ๋มลงไปเลยและไม่คืนตัวกลับมาเหมือนเดิม พี่ชินจะกินอาหารที่มีรสชาติเค็มไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว อาหารต้องทำกินเองและต้องไม่ใส่น้ำปลา ซีอิ๊วหรือเกลือเลย ต้องกินอาหารจืดๆ เท่านั้น คิดดูว่าถ้าเป็นเราและต้องกินแต่อาหารจืดๆ จะเป็นยังไง

และต้องกินไข่ขาวต้มวันละ 10 กว่าลูกเพื่อทดแทนโปรตีนที่รั่วออกไป ทำอย่างนี้เป็นปีๆ ไข่ขาวเปล่าๆ จะแหวะแค่ไหน อาหารก็จืดๆ จะเลี่ยนแค่ไหน กินอาหารนอกบ้านก็ไม่ได้ กินขนมที่ชอบก็ไม่ได้

...

พี่ชินต้องกินยากดภูมิวันละ 13 เม็ด ช่วงนั้นนางไปไหนก็ลำบากเดินก็ไม่สะดวกออกไปนอกบ้านก็มีแต่คนทักว่าชินอ้วนขึ้นมากนะ นางจิตตกมาก จากคนเคยรูปร่างปกติกลายเป็นคนอ้วนมาก กินอะไรก็กินไม่ได้เลย เพราะอาหารหรือขนมทุกอย่างก็ล้วนแต่เค็มทั้งนั้น

พี่ชินสู้มากและพยายามสูงมาก นางอดทนและต่อสู้กลับโรคที่ไม่มีวันรักษาหายขาด คุณหมอบอกว่าโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้แค่ประคับประคองให้ไม่กลับมาเป็นหนักอีก และต้องกินยารักษาไปตลอดชีวิต

พี่ชินกลับมาเป็นโปรตีนรั่วหนักๆ ถึง 4 ครั้ง พอกินยารักษาจะดีขึ้น ก็กลับมาเป็นอีกซ้ำๆ พี่ชินฮึดสู้และหันมาพยายามออกกำลังเพื่อต่อสู้กับโรคและเพื่อสุขภาพจะได้ดีขึ้น และหวังว่าจะลดการกินยาสเตียรอยด์น้อยลงให้ได้ เพราะการกินยามากๆ ไม่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนก็รู้

จากวันนั้นถึงวันนี้ 8 ปีผ่านมา พี่ชินกินยาเหลือแค่วันละ 1 เม็ด หมอบอกว่าสุขภาพนางดีขึ้น โปรตีนก็ไม่รั่วแล้ว จะบอกว่าทั้งหมดมาจากการออกกำลังกาย และพยายามเลือกการกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายจะเยียวยาทุกอย่างจริงๆ ค่ะ

หวังว่าเรื่องราวของพี่ชินจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนหันมาเริ่มออกกำลังกาย วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดีนะคะ อย่างน้อยก็เพื่อสุขภาพของเราเอง เพราะโรคภัยต่างๆ มันจะเกิดขึ้นได้โดยบางที่ก็ไม่มีสาเหตุ และหลายโรคก็รักษาไม่หายขาด

รู้ค่ะว่ามันยาก โดยเฉพาะการต่อสู้กับความขี้เกียจ ความเครียดหรือความไม่มีเวลา แต่ถ้าคุณทำมันได้และแบ่งเวลาให้เป็น ยอมตื่นเช้าขึ้น ตั้งเวลาอย่างชัดเจน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆ ที่คิดว่าทำไม่ได้หรอก และผลลัพธ์จะออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ

ถ้าคุณรักตัวเองให้เป็น และถ้าคุณมีคนที่คุณรักต้องดูแล คุณยิ่งต้องแข็งแรงให้มาก เพื่อที่คุณจะได้อยู่ดูแลคนที่คุณรักได้ดีที่สุด เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ".

...

...