เป็นอีกหนึ่งพยานสำคัญในคดีนักแสดงสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เสียชีวิตจากเหตุพลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับ โบ สุรัตนาวี ภัทรานุกุล หรือ โบ TK หลังจาก กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ให้การว่า เป็นผู้ที่ขอให้มาช่วยประสานงานในการช่วยเหลือ แตงโม นิดา พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต โดยหลังจากที่โบเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 มี.ค. 2565 เพื่อให้ปากคำอยู่นานกว่า 5 ชม. ล่าสุดโบก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก
โดยในการสัมภาษณ์ โบบอกว่าวันนี้มาให้การในฐานะพยานของน้องแตงโม ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว รวมถึงเพื่อนพี่น้องคริสตจักร แฟนคลับ ญาติสนิททุกคน แตงโมเป็นคนที่อยู่ในสังคมบันเทิงมานาน เรารู้สึกผูกพัน การสูญเสียเขาไปเป็นเรื่องใหญ่มาก โบสนิทกับน้อง โบเสียใจมากๆ วันนี้มาให้การตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขอบคุณผู้ให้การช่วยเหลือ ทั้งคนที่โบติดไปในวันเกิดเหตุ ขอบคุณบีม ศรัณยู พี่เปิ้ล นาคร พี่จูน พี่เจ เจตริน ฯลฯ ขอบคุณอาสาสมัคร ขอบคุณกู้ภัยที่พยายามให้ร่างน้องขึ้นมาได้
...
จากนั้นโบเล่าถึงเรื่องที่ตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง เริ่มจากว่าน้องกระติกโทรหาโบแจ้งว่าแตงโมตกน้ำ ตอนนั้นโบตกใจมากๆ ทำอะไรไม่ถูก ก็ถามข้อมูลบางอย่างว่าเกิดขึ้นยังไง แต่ไม่ขอลงรายละเอียด ก็โทรตามทุกคนที่พูดถึงเมื่อกี้มาให้การช่วยเหลือ จนถึงเวลานึงก็คิดว่ากระติกโอเคมั้ย เนื่องจากกระติกกับแตงโมอยู่ในคริสตจักรแห่งความสุข โดยปกติเวลาใครในคริสตจักรมีปัญหาส่วนใหญ่ก็โทรหาโบอยู่แล้ว เรื่องแตงโมเป็นอะไรที่ช็อกมาก ไม่ควรเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเขา
พอไปถึงที่ท่าเรือ NBC ก็เจอกับทุกคนที่อยู่ในข่าว โบอยู่ที่ท่าเรือ NBC ทั้งคืน หมายถึงว่าอยู่จนถึงตี 3 หลังจากนั้นโบเป็นคนขับรถแตงโมไปส่งกระติกที่บ้านเนื่องจากเขาดูช็อก ขับรถไม่ไหว ถามว่าทำไมไม่ไปท่าเรือพิบูลสงคราม ตอนแรกกระติกส่งโลเกชันที่นั่นมา แต่พอจะถึงเขาบอกว่าคนเยอะมาก นักข่าวเยอะ อย่าไปเลย โบก็โอเค
ส่วนเรื่องคุยกันในไลน์ที่แนะนำว่าไม่ต้องพูดว่าฉี่บนเรือ เนื่องในตอนนั้นกระติกโทรศัพท์บอกโบว่าตัวเขาไม่ได้เป็นคนเห็นเหตุการณ์ แต่เป็นอีกคน โบจึงบอกเขาไปว่าแล้วทำไมเราถึงต้องพูดว่าไปฉี่ล่ะ คือเขาควรพูดความจริงในสิ่งที่เขาเห็นเท่านั้น ไม่ควรพูดว่าเขาไปฉี่ นั่นคือไม่ใช่เรื่องจริงที่เขาเห็นเอง อย่างที่สองแตงโมเป็นคนที่รักษาภาพลักษณ์ตัวเองมากๆ เวลาโบโพสต์แล้วแท็กไอจีเขาไป แค่เขาอ้วนนิดนึงเขาจะส่งมาบอกว่าลบรูปนี้เหอะ อ้วนว่ะ โบไม่อยากให้เขาต้องถูกจินตนาการเหมือนที่เกิดขึ้นจริงๆ โบไม่อยากให้มีภาพนั้นเกิดขึ้น
แต่มีคนนึงในเรือไปออกรายการ แล้วใช้ข้อความตอนที่โบยังไม่รู้เรื่องอะไร รู้แค่จากกระติก ไปบอกว่าโบแนะนำไม่ให้พูดความจริง แต่เขาเลือกพูดความจริง โบถามหน่อยคุณเห็นเหตุการณ์จริงๆ ว่าแตงโมปัสสาวะรึเปล่า แล้วคุณพูดแบบนั้น นั่นคือความจริงเหรอ โบก็คิดว่าสังคมน่าจะคิดเหมือนโบว่าคุณก็ไม่ได้พูดความจริงเหมือนกัน ต่อมาโบไปอยู่ท่าเรือ โบเห็นเหตุการณ์หลายอย่าง แต่ขอไม่พูดในตอนนี้
ด้านทนายความของโบบอกว่าให้โบตอบคำถามเฉพาะในเรื่องความเข้าใจผิดของสังคม โดยไม่กระทบกับเนื้อคดี เพราะคดีความไม่ได้ยุติที่สื่อหรือเสียงพูดของประชาชน แต่คดีความยุติที่ศาล ถามว่าทำไมคุณโบเพิ่งให้การวันนี้ โบชี้แจงว่าโบได้รับข้อมูลตั้งแต่แรก โบเป็นคนแรกๆ ที่กระติกโทรหา โบมีข้อมูลที่เขาพูด แต่โบพอเห็นคำให้การ ที่เขาไปออกรายการทีวี คำพูดต่างๆ ของเขา บางอย่างมันขัดแย้งกับสิ่งที่โบรู้ได้ยินมา โบรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง โบเลยรอให้เขาพูดให้จบ เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะออกมาพูดความจริง
ถามว่าทำไมต้องมีทนาย เนื่องจากคดีนี้ทุกคนจับจ้อง ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นคนมีชื่อเสียง มีฐานะ เป็นคนที่มีสังคมในระดับนึง โบคิดว่าการที่จะพูดอะไร โบอยากได้ความมั่นใจว่าคำพูดจะไม่ถูกบิดเบือน ไม่ย้อนกลับมาทำร้ายโบได้ ก็ขอบคุณทนายปริญญาและสำนักทนายความด้วยที่มาให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
จากนั้นก็เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถาม กับคำถามว่าเขาฉี่จริงมั้ย โบไม่อยู่เหตุการณ์ ไม่สามารถพูดได้ ไม่รู้จริงๆ ส่วนเรื่องประเด็นเรื่องความเป็นญาติ เรื่องคุณเบนซ์ พริกไทย วันอังคารมีเพื่อนโบส่งรูปเบนซ์ที่ถ่ายในงานแต่งงานญาติของโบ ตอนนั้นโบคิดว่าเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว ก็ไม่รู้สึกอะไร เราก็ถ่ายรูปคู่กันและโพสต์ไอจี แต่ที่บอกว่าเป็นญาติ โบเพิ่งรู้วันอังคาร เขาโทรมาแต่โบไม่ได้รับ
...
แล้วคุณแม่โบแคปหน้าจอที่คุยไลน์กับพี่ชายคุณแม่แล้วบอกว่าถ้ามีเบอร์นี้ให้รับด้วย เป็นน้องชื่อเบนซ์ โบก็ถามคุณแม่ว่าเราเป็นญาติเขาเหรอ เขาบอกว่าเป็นลูกเฮียอ๋า คือพี่ชายคุณแม่ แต่เขาเลิกกันตั้งแต่เด็ก แล้วแม่เขาพาเบนซ์ออกไป แล้วคุณแม่ของเบนซ์ไปแต่งงานกับตำรวจและเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่นั้นมา คุณเบนซ์ก็เพิ่งรู้ตอนโตแล้วว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ อยากบอกตรงนี้ว่าโบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องน้องเขย ไม่มีตรงนั้น
เมื่อถามว่าจากคำพูดที่เล่าให้โบฟังแต่สวนทางกับที่ไปออกรายการ ถามว่าผิดเพี้ยนเยอะมั้ย ส่วนตัวโบคิดว่าเยอะ ถามว่าผิดจากที่พูดเลยมั้ย บิดเบือนแล้วกัน ถามว่าวันนั้นไปถึงกี่โมง โบไปถึงประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ข้ามวันแล้ว เจอทุกคนอยู่ในอาการตกใจ ช็อก ถามว่ามีลักษณะเมามั้ย ถ้าถามโบ หน้าแดง เสียงดัง โวยวาย เสียงแหบ ขออนุญาตไม่พูด
ถามว่าถ้าบิดเบือนแล้วเราได้คุยกับกระติกมั้ย โบบอกว่าจริงๆ โบเป็นคนพาเขามาที่โรงพักด้วย เอาเป็นว่าโบอยู่กับเขาจนให้การเสร็จ หลังจากนั้นไม่ได้คุยกับเขา บอกตามตรงรู้สึกเสียใจ โกรธ แต่ก็ยังรักเขา ถ้าเขากลับใจ เลือกพูดในสิ่งที่เขารู้จริงๆ เราก็จะช่วยกัน จากนั้นเขามีการติดต่อหาโบและขอโทษที่ทำให้โบมีส่วนเกี่ยวข้อง มาวุ่นวายเพราะเขา โบบอกเขาไปคำเดิมว่ากระติก The truth will set you free สัจจะจะทำให้คุณเป็นไท ความจริงของคุณเท่านั้นที่จะปกป้องได้ เขาส่งสติกเกอร์ร้องไห้มา ถามว่าเขาพูดไม่หมดหรือพูดไม่จริง โบบอกว่ารับปากกับตำรวจไว้ ถ้าเป็นคดีไม่ขอพูด แต่ยอมรับว่าเสียความรู้สึก
...
ถามว่าวันเกิดเหตุ นอกจากโทรหาหลายคนแล้ว พอทราบความจริงได้โทรหาพิธีกรรายการบ้างมั้ย โบบอกไม่มี ตอนไปถึงสิ่งที่โบบอกคือถามว่าโทรหาเบิร์ดรึยัง โทรหาแม่รึยัง เขาบอกว่ายัง โบบอกแล้วว่าให้เขาโทร ส่วนเหตุผลก็ตามที่เขาพูด จากนั้นนักข่าวให้เล่าถึงตอนที่กระติกโทรหาครั้งแรก โบเล่าว่าตอนเขาโทรก็บอกว่าพี่ โมตกน้ำ หาคนช่วยหน่อย โบก็ถามว่าตกยังไง เกิดไรขึ้น ส่วนตรงนี้ขอให้เป็นเรื่องคำให้การ
ถามว่าทำไมกระติกโทรหา อย่างที่บอกว่ามีอะไรคนในคริสตจักรจะโทรหาโบหมด แล้วปกติแตงโมจะโทรปรึกษาโบ กระติกจะมีพี่อีกคนเป็นที่ปรึกษา แล้วกระติกเขารู้ว่าโบสนิทกับโม ถามว่าวันที่ไปอู่เรือ ได้คุยกับโรเบิร์ตมั้ย โบบอกว่าได้ทัก เนื่องจากกระติกบอกว่าเขารู้จักพี่ชายโบด้วย แล้วโบพูดกับเขาคำแรกว่ารู้รึยังว่าพี่ชายโบติดโควิด เขาก็ทำหน้าเบลอๆ ไม่รู้เรื่อง แล้วเขาก็อ๋อ นี่น้องโบเหรอ เราไม่รู้จักเขามาก่อน ในที่เกิดเหตุ 5 คน โบรู้จักกับกระติกคนเดียว ส่วนเรื่องสังคมโซเชียลจับผิดว่าคนมาขอขมาคุณแม่แตงโมเมื่อวันก่อนไม่ใช่โรเบิร์ต ทราบเรื่องนี้มั้ย โบไม่ทราบ
...
ถามว่าเหตุผลที่กระติกบิดเบือนข้อเท็จจริงบางอย่างในรายการ ข้อเท็จจริงของคำที่บิดเบือน เขาให้เหตุผลไหมว่าทำไม โบบอกว่าไม่ได้บอก โบพูดในส่วนของโบ ส่วนเขาจะพูดอะไรนั่นคือส่วนของเขา ถามว่าได้ถามเขามั้ยว่าทำไมต้องบิดเบือน ตั้งแต่โบให้การก็ไม่ได้คุยกับเขาเลย พอรู้ว่าเขาพูดอะไรก็ไม่ได้คุยกับเขาอีก ไม่ได้คุยว่าเขาจะพูดอะไรด้วยซ้ำ สาเหตุที่ทำให้แตงโมเสียชีวิต โบไม่รู้ ถามว่าคิดว่าเขาจะไปปัสสาวะท้ายเรือไหม โบไม่ออกความคิดเห็น ขอให้โฟกัสข้อเท็จจริงมากกว่า ขอไม่พูดในข้อคิดเห็น ในคำให้การโบพูดในสิ่งที่โบเห็นและเจอด้วยตัวเอง ที่มาให้การไปวันนี้ก็หวังว่าจะให้ความยุติธรรมกับแตงโม
ถามว่าประเด็นที่กระติกบิดเบือน ใช่เรื่องการปัสสาวะหรือไม่ ส่วนนี้เป็นเนื้อคดี ขอไม่ตอบ ส่วนตอนไปส่งกระติกก็มีพูดคุยกันแต่ไม่สามารถบอกได้ โบให้การไปหมดแล้ว ส่วนคำบอกเล่าของกระติกในวันแรก เราเชื่อมั้ย ตอนแรกที่เขาโทรมาโบเชื่อ แต่พอโบไปถึงท่าเรือ โบก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่าง ตอนที่เขาเล่าเหตุการณ์บนรถมีสีหน้าเครียดมั้ย เขาเครียดมาก ช็อก น้ำตาคลอบ้าง ถามว่าไม่กลัวเหรอที่ไปเจอคนแปลกหน้าในตอนนั้น ตอนนั้นเพื่อนตกน้ำ ถ้าไม่ไปเป็นเรื่องแปลกมากกว่า
ที่แอนนาบอกว่ากระติกพูดกับแอนนาว่าแตงโมทิ้งภาระไว้ สำหรับโบคิดว่าเป็นภาระมั้ยที่ต้องมาชี้แจง โบคิดว่าถ้าโบได้เห็นได้พบอะไรที่มันต้องพูด โบไม่คิดว่าเป็นภาระอะไร ส่วนคนอื่นบอกว่าเป็นภาระก็เรื่องของเขา ส่วนเรื่องถามว่าถ้ากระติกตกน้ำ คิดว่าแตงโมจะลงไปช่วยมั้ย โบตอบไม่ได้ แต่แตงโมที่โบรู้จัก เขาไม่ได้คิดถึงตัวเองก่อนเลย ถามว่าตอนอยู่บนรถ กระติกโทษตัวเองมั้ยว่าไม่ได้ดูแลโมให้ดี โบบอกว่าพูด
เรื่องที่เป็นคนแรกที่โพสต์รูปของแตงโมเพื่อให้คนช่วยตามหา แต่คนอื่นไม่โพสต์ โบได้ส่งรูปแตงโมใส่ชุดสายเดี่ยวให้กรมเจ้าท่า ให้บีม พอข้ามวันคุณบีมส่งข้อความเสียงมาตอนเวลา 14.37 น. โดยถามว่าไม่มีภาพของโมใส่เสื้อโอเวอร์โค้ตเหรอ จะได้ส่งให้สื่อเองเลยว่าเป็นชุดจริงๆ ที่ต้องค้นหา ไม่งั้นคนก็หาแต่ชุดขาว อันนี้สำคัญมาก ซึ่งหลังจากที่บีมส่งมา โบก็ไปขอรูปจากกระติก จริงๆ อยากได้รูปที่บีมบอก พอเขาส่งรูปนี้ โบรู้สึกว่ามันต้องรีบ โบก็เลยโพสต์บอกไปว่าอยู่ที่ท่าเรือ เพื่อให้เขามั่นใจว่าโบอยู่ในเหตุการณ์
ถามว่ากังวลมั้ยกับการให้สัมภาษณ์ เพราะโบเป็นพยานปากสำคัญ และบอกว่ากระติกบิดเบือน กลัวการถูกคุกคามมั้ย โบบอกว่าเอาเป็นว่ากังวลและเครียด มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น โบไม่สนว่าใครจะว่าอะไรโบ สิ่งที่โบเห็นความสำคัญตั้งแต่แรกคือตามหาแตงโมให้เจอ อย่างที่โบบอกว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสม ถามว่าทำไมไม่ออกมาก่อนหน้านี้ โบเห็นคำให้การของเขา ถ้าที่เขาให้สัมภาษณ์ตรงกับที่เขาบอกโบ โบจะไม่รู้สึกอะไร แต่ยังไงโบก็ต้องให้การอยู่ดี ที่บอกว่ามีเหตุการณ์บางอย่างคืออะไร โบบอกว่าบอกไม่ได้ แต่ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้ง จากนั้นทนายบอกว่าเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่ไม่ทราบว่าจากใคร แต่มันมีเหตุการณ์เกิดขึ้น เป็นส่วนสำคัญในคดีหรือไม่ไม่ทราบ เลยเลือกไม่ให้พูดออกไป
กับคำถามว่าคดีนี้มีอิทธิพลมั้ย อันนี้แล้วแต่สังคมตัดสินแล้วกัน ถามว่าวันที่อู่เรือ กระติกสวดมนต์มั้ย โบเป็นคนนำอธิษฐานตามความเชื่อ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขามีชีวิตหรือไม่ แต่โบรู้ว่าพระเจ้าอยู่กับเขาแน่นอน ถามว่าจะดูแลตัวเองเรื่องความปลอดภัยหากมีการคุกคามยังไง อยากให้ช่วยดูแลยังไง โบบอกว่าคิดว่าก็กังวล คนไทยทุกคนดูแลกันอยู่ โบเชื่อว่าไม่ทิ้งกัน
ถามว่าคิดว่าคำให้การวันนี้จะทำให้คดีจบลงเร็วมั้ย โบบอกว่าไม่สามารถพูดได้ว่าคดีจะจบลงยังไง เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ แต่ก็เชื่อมั่นในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ถามว่าสบายใจขึ้นมั้ย บอกตามตรงว่าไม่ ถามว่าตอนกระติกไปรายการโหนกระแสกับตอนที่อยู่บนรถ ตอนร้องไห้คืออารมณ์เดียวกันมั้ย โบตอบว่าไม่ถึงขนาดนั้น ก่อนถามว่าพูดถึงรายการโหนกระแสใช่มั้ย โบดูทุกชอต โบไม่ค่อยพอใจ
ส่วนเรื่องที่แอนนากับฮิปโปบอกว่ากรณีเหตุการณ์นี้ยังไม่ฝังใจเชื่อ อยากให้ออกมาพูดความจริง ถามว่าคิดยังไง โบบอกว่าก็คิดเหมือนกันว่าควรพูดความจริง ไม่ว่าฐานะทางสังคมยังไง ทุกคนควรได้รับความยุติธรรม ถึงแม้เขาไม่มีชีวิตแล้วก็ตาม ปิดท้ายถามว่าอยากบอกอะไรกระติก โบบอกว่าก็พูดเหมือนเดิมคือความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องเราได้.