น้อยคนที่จะรู้ว่านักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี กอล์ฟ เบญพล เชยอรุณ มีเรื่องเศร้าที่อยู่ในใจไม่เคยลืมมา 30 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยเรื่องราวนี้อีกครั้งในรายการ โต๊ะแชร์มหาชน 

ซึ่งเรื่องเศร้านี้เป็นตอนที่คุณพ่อเพิ่มพล เชยอรุณ ผู้กำกับดังในอดีตถูกยิงเสียชีวิตและเป็นข่าวดังในอดีต ซึ่งเจ้าตัวเล่าความรู้สึกในตอนนั้นให้ฟังว่า

เรื่องเศร้าก็เป็นตอนที่คุณพ่อเสีย คุณพ่อไปแบบปุบปับ คุณพ่อเสียมา 30 ปีแล้ว คุณพ่อโดนลอบยิง ตอนนั้นผมอายุ 20 ย่าง 21 ตอนนั้นคุณพ่อไปอยู่เชียงใหม่ ไปเตรียมทำเอนเตอร์เทนให้กับกาดสวนแก้ว มีสวนสนุก มีโรงภาพยนตร์ ถ้าเปิดก็จะใหญ่มาก คุณพ่อไปเป็นมันสมองให้ที่นี่ 

แต่ผมไม่รู้เรื่องมันเป็นยังไงนะ เขาก็เลือกว่าจะเคลียร์มันสมองออก เขาก็เลยมายิงคุณพ่อเรา เราก็ตกใจเลย เพราะถ้าคนในวงการบันเทิงจะรู้ดีว่าคุณพ่อเฟรนด์ลี่มาก เรียบร้อย พูดน้อย จู่ๆ พ่อโดนยิงเราก็ตกใจมาก ตอนนั้นผมยังวัยรุ่นอยู่ ยังเล่นดนตรีกลางคืนอยู่เลย เล่นตามผับ 

อยู่ๆ เพื่อนวิ่งมาบอกว่าพ่อโดนยิง ตกใจมาก แต่ตอนนั้นข่าวยังไม่บอกว่าเสีย บอกแค่ว่าโดนยิง ผมก็กลับบ้าน พอถึงบ้าน แม่บอกว่าข่าวออกบอกว่าเสียแล้ว เราก็ทำตัวไม่ถูก เพราะช่วงที่พ่อเสียเป็นช่วงรอยต่อชีวิต เป็นช่วงที่ผมอยู่ในวงการเพลงแล้ว ก่อนพ่อจะเสียพ่อทำอัลบั้มเพลงให้ชุดนึงแล้ว 

...

กำลังเลือกว่าจะไปทำเพลงหรือช่วยคุณพ่อทำภาพยนตร์เพราะว่าก่อนคุณพ่อจะเสีย นั่งรถไปด้วยกัน พ่อเอามือมาแตะขาแล้วบอกว่า ขอได้มั้ย เลิกร้องเพลง มากำกับหนังกับพ่อดีกว่า ผมอยู่ในช่วงที่กำลังจะบินไปเชียงใหม่เพื่อไปเป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้คุณพ่อ อีกสักเดือน 2 เดือน หนังจะเปิด

ทำตัวไม่ถูกเลย คุณพ่อเสียไป เสาหลักก็ไม่มี หลังจากที่พ่อเสีย ทั้งบ้านมีเงินอยู่แค่ 3 หมื่น ตอนนั้นพังขนาดเก็บตัวอยู่ในห้อง แม่เล่าให้ฟังว่า พอกลางคืนก็จะลงจากห้องมาจุดธูปหน้าบ้านถามพ่อ ให้พ่อมาบอกว่าใครทำพ่อ เป็นแบบนี้อยู่นานมาก แต่ผมจำไม่ได้ 

แล้วมารู้ตัววันที่จุดธูปถามพ่อว่าแล้วผมต้องทำยังไงต่อ มันงง ไปไม่ถูก พ่อช่วยมาดลบันดาลใจหน่อยว่าจะทำยังไงดี แล้วเช้าวันนั้นก็คิดได้ว่า พ่อไม่อยู่ แต่แม่ยังอยู่ ถ้าไม่ออกไปทำมาหากินจะอยู่กันยังไง ผมเลยตั้งสติได้ ก็เลยคุยกับแม่ ผมไม่เรียน ไปทำงานหาเงินดีกว่าเพราะต้องดูแลแม่ 

ก็เริ่มไปสมัครตามกองถ่ายที่เป็นเพื่อนพ่อ มาขอเล่นหนัง เขียนบท ทำเบื้องหลัง แต่ก็ไม่ได้ ไม่มีใครให้ ก็กลับมาจุดธูปบอกพ่ออีกรอบว่าไปยาก ทำตัวไม่ถูก อยู่ๆ ก็สมัครไปที่กันตนา ที่ที่เราไม่ได้สนิท แล้วเขาก็เรียกให้ไปเล่น ก็ได้เริ่มจากตรงนั้น ชีวิตตอนนั้นพังไปเลย 

ปัจจุบันคดีของพ่อก็ไม่ได้ตามแล้ว หลังจากที่พังอยู่ปี 2 ปี ผมก็เริ่มปล่อยวาง ก็เป็นอโหสิกรรม ไม่รู้ ไม่รับรู้อะไรแล้ว ใครทำอะไรก็รับไปอย่างนั้น ก็คิดว่าสวรรค์เขามาตามตัวพ่อกลับไป คิดแบบนี้ดีกว่า สบายใจ