- เจนิส เจณิสตา จากเอ็กซ์ตรา ขึ้นแท่นเป็นนางร้ายสุดฮอต
- มีความมั่นใจ คิดว่าเก่ง ถูกเลือกให้เล่นละคร สุดท้ายผู้กำกับปลดกลางอากาศ
- อินจัดในตัวละครจนนอนไม่หลับ ต้องดื่มไวน์และยานอนหลับช่วย
เป็นนางร้ายน้องใหม่มาแรงสุดๆ สำหรับ เจนิส เจณิสตา พรหมผดุงชีพ สาวหมวยสวยเซ็กซี่ ที่มีผลงานละครออกมาให้ได้ชมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องบอกเลยว่า ผลงานแต่ละเรื่องของสาวเจนิสนั้นถูกแฟนๆ พูดถึงไม่น้อยกับฝีไม้ลายมือในการแสดงสุดแซ่บซี้ดของเธอ
วันนี้เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์นางร้ายน้องใหม่คนสวย ซึ่งต้องบอกเลยว่าสาวเจนิสนั้นมาพร้อมความสดใสสุดๆ แม้จะทำงานแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน เพราะมีละครที่ต้องถ่ายทำอยู่หลายเรื่อง แต่วันนี้เธอก็ให้คิวสัมภาษณ์กับเรา
หลังจากที่พูดคุยทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาทำงาน ซึ่งสาวเจนิสนั้นก็พร้อมที่จะตอบคำถามเรื่องราวการทำงานและชีวิตของเธอให้เราได้ฟัง
จากเอ็กซ์ตรามาเป็นนักแสดงหลัก
ซึ่ง เจนิส เจณิสตา เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นในการเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงของเธอว่า เริ่มจากการเป็นเอ็กซ์ตรา แล้วค่อยๆ ได้โอกาสมาเป็นนักแสดงหลักว่า
"จากเอ็กซ์ตราตอนนั้นก็งงว่าดังแล้วเหรอ ตอนแรกไม่ได้อยากเป็นนักแสดงตั้งแต่แรก มีโอกาสเข้ามาทำงานตอนนั้นเล่นเรื่องเมีย 2018 แล้วเริ่มมีงานให้รีวิวสินค้าเข้ามา
เลยทำให้รู้สึกว่าการเป็นดาราเงินมันมาง่าย ก็เลยขอทุ่มเทและเต็มที่ให้กับมัน ว่าจะไปได้สุดแค่ไหน ไปได้ไกลแค่ไหน หลังจากนั้นก็เต็มที่กับอาชีพนี้
พอได้เงินจากอาชีพนี้ ก็รู้สึกบูชาอาชีพนี้นะ เห็นว่าตัวเองมีความสามารถ ลองศึกษา ลองเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ลองตั้งใจมากๆ ทำการบ้าน
...
สุดท้ายตอนนี้ก็ชอบอาชีพนักแสดง ชอบมากๆ และรู้สึกอินกับการแสดงมากๆ เพราะเราได้เรียนรู้ชีวิตของคนอื่น ได้สังเกตว่าเขามีความคิดและทัศนคติเป็นอย่างไร
ส่วนตัวคิดว่าอาชีพนี้ทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น คนอื่นชอบมาปรึกษาหนู ขอมุมมองในอีกมุมที่คนอื่นเขาไม่มอง ไม่คิดกัน ทำให้หนูรู้สึกรักในอาชีพนี้"
ดังแล้วยังเหมือนเดิม ไม่อาบน้ำ-ใส่ชุดนอนไปเดินห้าง
เพราะเริ่มมีชื่อเสียง มีงานแสดงอย่างต่อเนื่องแทบไม่ได้พัก งานนี้เราเลยถามเจนิสว่า รู้สึกกดดันมั้ยที่ในวันนี้กลายเป็นนางร้ายมาแรง ขายดี แฟนๆ คาดหวังในผลงานของเจนิส งานนี้นักแสดงสาวบอกกับเราว่า
"ไม่กดดันค่ะ เพราะตอนที่ทำงานหนูก็โฟกัสอยู่แค่ที่งาน ไม่ได้คาดหวังหรือกดดันว่าตัวเองจะต้องทำให้ได้ หนูทำงานแบบสนุกไปกับงาน ไม่ได้คิดต่อว่ามันจะเป็นยังไง ทำตรงนี้ตอนนี้ให้ดีที่สุดพอ (ยิ้ม)"
แล้วเจนิสเคยคิดมั้ยว่าตัวเองจะกลายเป็นนางร้ายที่หลายคนยอมรับในฝีมือ หลายๆ คนยกนิ้วให้ในความแซ่บด่าไฟแลบของเจนิส งานนี้นางร้ายสาวหัวเราะและตอบว่า
"หนูอยู่ในจุดนั้นแล้วเหรอ (ยิ้ม) บางทีก็ไม่รู้วันรู้คืนเลยค่ะ (หัวเราะ) คือทำงานหนักมาก ทำงานเยอะมาก เลยไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ในจุดที่เป็นนางร้ายที่ทุกคนพูดถึงได้ยังไง
แต่ดีใจนะคะที่คนชื่นชอบผลงานของเรา มันคือผลกำไรจากการตั้งใจทำงานของตัวเราเอง แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองดังแล้ว
อย่างตอนไปเดินห้าง วันหยุดหนูจะชอบใส่ชุดนอน ไม่แต่งหน้าไปกินข้าว ไปเดินห้าง เพราะเชื่อว่าไม่มีคนจำได้ แต่เชื่อมั้ยว่ามีคนมอง คนมาทัก เขาจำได้ (ยิ้ม)
ก็พอรู้ว่ามีคนพอจะรู้จักเราบ้างแล้ว แต่ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม กินข้าวข้างทางได้ ไม่อาบน้ำ ใส่ชุดนอนไปเดินห้าง เพราะมันเหนื่อยเกินไปถ้าเราจะต้องมาแต่งหน้าแต่งตัวทุกครั้งที่ต้องออกไปข้างนอก วันหยุดก็อยากจะเป็นตัวเอง อยากจะแต่งหน้าแต่งตัวแค่ตอนที่ไปทำงานเท่านั้นก็พอค่ะ"
เพราะความมั่นคิดว่าเก่ง ถูกผู้กำกับปลดกลางอากาศ
เพราะชื่อเสียงเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว งานนี้เลยทำให้ เจนิส เจณิสตา มั่นใจในตัวเองไม่น้อยว่าเก่งไม่น้อย และยิ่งมั่นใจเมื่อถูกจิ้มให้เล่นละครโดยไม่ต้องแคสต์บท แต่สุดท้ายเพราะความมั่นนั้นกลับทำให้เจนิสรู้ตัวดีว่ายังต้องพัฒนาฝีมืออีกมาก ซึ่งเจนิสเล่าให้ฟังว่า
...
"เห็นอย่างนี้ หนูมีจุดเปลี่ยนในชีวิตนะ ตอนนั้นเป็นพลอยใส ในเมีย 2018 และได้รับบทนึงโดยที่ไม่ต้องแคสต์เลย ผู้กำกับจิ้มมาเลย
พอไปถึง อ่านบทหน้ากอง ตอนนั้นมั่น เพราะแคสต์โฆษณามาก่อน ก็คิดว่าตัวเองเก่ง เสร็จปุ๊บ ผู้กำกับบอก พูดอะไรทำไมมันไม่ออกทางแววตาเลย ไหนลองยั่วสิ ยั่วแบบไม่ทำหน้ายั่ว
นี่ก็งง ยั่วจากข้างในทำยังไง เล่นไม่ได้ เขาทำอารมณ์ก่อนก็ทำไม่ได้ จนเขายกซีนนี้แล้วให้กลับบ้านไปก่อน แล้วโทรมาขอเปลี่ยนตัว
นั่นคือความผิดหวังในชีวิตครั้งแรกที่รู้สึกว่าการทำงานในวงการบันเทิงมันไม่ง่ายเลย แล้วทำไมคนอื่นทำได้ แล้วเราทำไม่ได้ กลายเป็นปมในใจ เพราะเรื่องเรียนเราก็เรียนดีทำดีมาตลอด
แล้วพอไปเล่นทำไม่ได้ คนทั้งกองรอเรา หลังจากนั้นก็เริ่มเอาจริงเอาจังกับเรื่องการแสดง และผู้กำกับที่เทหนูก็คือ พี่ฟิวส์ กิตติศักดิ์ เกมรักลวงใจคือเรื่องที่หนูโดนเปลี่ยนตัว (ยิ้ม)
ซึ่งมันคือจุดเปลี่ยนในชีวิตของหนูเลย หลังจากนั้นก็ไม่มั่นแล้ว แต่ล่าสุดเจอพี่ฟิวส์แกก็บอกว่าถ้ามีบทที่เหมาะจะเลือกมาเล่นนะ มันไม่มีอะไรง่าย ต้องแลกมาด้วยความพยายามและเวลามากๆ
คือมาทำงานตรงนี้ต้องทำตัวเป็นฟองน้ำ เพื่อรองรับน้ำทุกอย่าง ทำตัวให้พร้อม เวลาไปทำงานหน้าเซตก็ทำงานให้เต็มที่ สนุกกับมัน แล้วมันก็จะออกมาดี"
...
4 ปีในวงการบันเทิงกับเส้นทางนางร้าย
เจนิส เจณิสตา ใช้เวลาแค่ 4 ปีในวงการบันเทิง ทำงานจนกลายเป็นนางร้ายสุดฮอต ซึ่งเจนิสเล่าให้ฟังว่า เธอนั้นทำงานหนักจนคิดว่าเหมือนเวลาผ่านมาแค่ 4 เดือนเท่านั้น
"เอาจริงๆ นะ ทำงานมา 4 ปี มันเหมือนเพิ่งผ่านมา 4 เดือนเองค่ะ เพราะการที่จะมาอยู่ตรงนี้มันต้องมีมากกว่าความพยายาม ต้องมีความทะเยอทะยานและรักในอาชีพนี้ด้วย ไม่ใช่แค่พอได้มาอยู่หน้ากล้องแล้วจะเกิดได้
แต่สำหรับหนู หนูทุ่มเทและเต็มที่กับมัน และสิ่งที่ต้องแลกมาจากงานและเงินของอาชีพนี้คือ ชีวิตส่วนตัวที่หายไป วันเกิด วันพ่อ วันแม่ เราต้องทำงาน เราไม่มีวันหยุดตายตัวเหมือนอาชีพอื่น บางทีเลิกกองดึก เช้ามืดออกไปทำงานแล้ว
ถึงบอกว่า 4 ปีที่ผ่านมามันเหมือน 4 เดือนเอง เวลามันผ่านไปเร็ว เราโฟกัสกับการทำงาน จนเสียเวลาส่วนตัวมากๆ เลย บอกเลยว่าทำงานในวงการบันเทิงมันไม่ง่ายเหมือนอย่างที่ทุกคนเห็นหรอกค่ะ"
เห็นแรงๆ ร้ายๆ ปากจัดๆ ในละคร หลายคนเลยสงสัยว่าตัวตนจริงๆ ของเจนิสนั้นเป็นเหมือนในละครหรือไม่ งานนี้สาวเจนิสได้เผยนิสัยตัวตนที่แท้จริงของเธอให้ฟังว่า
"ตัวตนจริงๆ ของหนูก็เหมือนวัยรุ่นทั่วๆ ไปค่ะ ไม่ได้แซ่บ หรือว่าเรียบร้อย เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึง ถ้าใครมาแย่งของๆ เรา ก็พร้อมจะเอาคืน (หัวเราะ)
แต่เอาจริงๆ หนูเป็นคนคิดช้านิดนึงนะ เอ๋อนิดนึง สมัยเด็กๆ เพื่อนไม่ชอบ ก็ยังไปคุยกับเขา จนเพื่อนอีกคนต้องมาบอกว่า อย่าไปคุยกับเขา เขาไม่ชอบเธอ เลิกชวนเขาคุยได้แล้ว เขาไม่มองหน้าแกเลย
หนูจะเป็นคนช้าๆ นิดนึง ซึ่งมันเป็นข้อดี และหนูเป็นคนไม่คิดมาก แป๊บๆ ก็ลืม ไม่ได้เป็นคนแรงๆ เพราะมัวแต่คิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี เวลาเจอปัญหา หนูจะกลับบ้านไปตั้งหลักก่อน ไม่ใช่คนพุ่งไปบวก (ยิ้ม)"
...
จากนั้น เจนิส ได้เล่าเรื่องจริงที่มักจะเกิดขึ้นกับอาชีพนักแสดงให้ได้ฟัง ยิ่งเธอนั้นรับบทแรงๆ ร้ายๆ เป็นตัวละครที่ถูกกระทำ ยิ่งทำให้เกิดความเครียดและติดอยู่กับอารมณ์ของตัวละครนั้นๆ จนถึงกับบางครั้งต้องพึ่งยานอนหลับ ซึ่งเจนิสเล่าให้ฟังว่า
"ทุกครั้งที่เล่นละคร บทแรงๆ ร้ายๆ เครียดๆ กลับบ้านไปก็นอนไม่หลับนะคะ มันอินกับตัวละครมากๆ รู้สึกอินไปกับตัวละคร หนูเชื่อว่านักแสดงหลายๆ คนก็เป็นเหมือนกัน
หนูต้องดื่มไวน์เพื่อช่วยให้หลับไป (ยิ้ม) เพราะนอนไม่ได้ หรือบางทีก็กินยานอนหลับเพื่อให้หลับไป เพราะติดและอินอยู่กับตัวละคร บางทีร้องไห้โดยไร้เหตุผล มันกลายเป็นว่าจับอารมณ์ได้เร็วมาก ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรเล็กๆ น้อยๆ เจอพูดแรงนิดนึงก็รู้สึกเสียใจมาก
อารมณ์แบบนี้เป็นแทบจะทุกเรื่องที่ตัวละครที่หนูเล่นมันมีปมเยอะๆ ถ้าตัวละครไหนไม่มีปม เล่นง่ายหน่อย ก็จะไม่เป็นแบบนี้"
อยู่วงการบันเทิงต้องมีมารยาท
เราถามนางร้ายสาวสวย เจนิส ต่อว่า อยู่ในวงการบันเทิงมา 4 ปีแล้ว วงการบันเทิงให้อะไรกับเจนิสบ้าง งานนี้สาวหมวยคนสวยตอบกับเราด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังว่า
"วงการบันเทิงให้เรื่องมารยาท เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับหนู ตั้งแต่เข้าวงการก็ได้เริ่มเล่นฉาก 2 ฉาก เป็นเอ็กซ์ตรา ตัวประกอบ เรารู้ว่าเราอยู่ในจุดไหน ไม่ได้ดังเปรี้ยงข้ามคืน ก็เลยรู้สึกว่าเราทำงาน เราต้องให้เกียรติคนอื่นด้วย
เพราะทุกคนล้วนมีหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่จะไปข้ามหน้าข้ามตา เราช่วยกันทำงาน ทำความเข้าใจกับทุกคน เพราะหนูก็อยากมีวันที่ดีในการทำงาน และก็อยากให้เป็นวันที่ดีของทุกคนที่ทำงานเหมือนกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน
มันคือมารยาทในการทำงานที่ต้องทำร่วมกับคนอื่นกลุ่มใหญ่ เพราะการที่เรามายืนตรงจุดนี้ไม่ใช่เพราะตัวเราคนเดียว แต่มีคนอื่นที่คอยช่วย มาจากทุกๆ คนที่ส่งให้เรามาอยู่ตรงนี้"
เตรียมลาบทนางร้ายขึ้นแท่นนางเอก
โลดแล่นในวงการบันเทิงมา 4 ปี แจ้งเกิดได้เพราะบทร้ายๆ แซ่บๆ แต่งานนี้ เจนิส เจณิสตา ได้บอกกับแฟนๆ ละครว่า เตรียมอำลาบทนางร้าย และก้าวขึ้นเป็นนางเอกละครเต็มตัว ซึ่งเจนิสเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงเฮฮาสนุกสนานสไตล์ตัวเธอว่า
"หลังจากนี้จะไม่เล่นร้ายแล้วนะคะ จะร่ำลาบทร้ายแล้ว (หัวเราะ) เพราะละครเรื่องใหม่กับช่อง 3 เล่นเป็นคู่ 2 และมีเล่นเป็นนางเอกด้วย แต่เป็นนางเอกสู้คนค่ะ
แล้วก็มีละครอีกที่ยังบอกไม่ได้ รวมถึงงานพิธีกรด้วย ปีนึงผ่านไปไวเหมือน 1 เดือน งานเยอะมาก ไม่ต้องจำอะไรแล้วนอกจากบท แต่ที่แน่ๆ จะเลิกเป็นนางร้ายแล้วนะคะ (หัวเราะ)"
เพลงบินใบงิ้ว ผลงานละครเรื่องล่าสุด
และตอนนี้ เจนิส เจณิสตา กำลังมีผลงานละครที่ออนแอร์เรียกกระแสและเรตติ้งอยู่อย่างเรื่อง เพลงบินใบงิ้ว ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สาวเจนิสทุ่มสุดตัวกับการแสดง มีน้อยใส่ล้าน เล่นแบบสุดตัว ซึ่งเจนิสเล่าให้เราฟังว่า
"สำหรับเรื่องเพลงบินใบงิ้ว เรื่องนี้บทก็แซ่บ แต่ในเรื่องก่อนๆ จะรับบทเป็นเมียน้อย แต่รอบนี้เป็นผู้หญิงที่มาก่อน แสงนวลเป็นผู้หญิงที่ทำงานกลางคืน ตอนที่ได้บทมา เราก็ทำความเข้าใจกับบท
ตอนที่เล่นก็ต้องขอบคุณผู้กำกับ เพราะจริงๆ หนูก็ไม่ใช่คนสุดโต่ง เวลาเล่นผู้กำกับก็จะบอกว่าขอแรงกว่านี้อีกได้มั้ย ผู้กำกับจะคอยบอกตลอด พองานที่ออกมาก็เลยถูกใจแฟนๆ
ซึ่งหลายคนจะคิดว่าก็ได้บทแนวเดิม แซ่บๆ เหมือนเดิม แต่จริงๆ ถ้าดูแล้วตัวละครที่หนูได้เล่นจะไม่เหมือนกัน ทุกตัวละครจะมีปมของแต่ละตัว
อย่างในเรื่องนี้ตัวแสงนวลก็ไม่ได้ร้ายๆ แต่เขามีปม เขาอยู่กับผู้ชายคนนี้มาเป็นสิบๆ ปี ก็มีความรักความหวง ความเจ็บปวดอยู่ในตัวละครตัวนี้
และในเรื่องต้องปะทะฝีปากกับดารารุ่นใหญ่ หนูบอกเลยว่าเวลาเจอนักแสดงรุ่นใหญ่ หนูจะไม่เกร็งเลย จะรีบเข้าหาเพื่อให้เขาคายตะขาบมาให้มากกว่า ได้ตะขาบมาเยอะเท่าไรยิ่งดี
อย่างฉากด่าไฟแลบ ไม่ได้เล่นยากเลยค่ะ (ยิ้ม) เพราะมันเป็นอารมณ์ของตัวละคร หนูไม่ได้โฟกัสว่าจะต้องพูดอะไร มันไม่ได้ยากถ้าเราจุดไฟติด
เวลาโกรธจะด่ายังไง เวลาทำการบ้าน หนูไม่ได้ดูซีรีส์นะ แต่จะดูข่าวชาวบ้านๆ ที่เขาตบตีด่ากัน ดูว่าพฤติกรรมคนจริงๆ เขาเป็นยังไง เวลาด่ากัน ตีกันอะไรแบบนี้
ส่วนฉากเลิฟซีน เวลาต้องเล่นฉากเลิฟซีนมันยากมาก ก่อนเข้าฉากต้องไปเข้าห้องน้ำก่อน ไปบิวต์อารมณ์ตัวเองให้รู้สึกว่าเราชอบผู้ชายคนนี้มาก เราหิวเขา ต้องปลุกความแซ่บในตัวออกมา
ซึ่งก็เล่นยากนะ แต่ก็ต้องเล่นให้เต็มที่เพื่อให้จบฉากนี้ไป การเล่นละครมันก็เหมือนการให้บทเรียนกับคนดู มันคือชีวิตคนคนนึง เราถ่ายทอดออกไปคนดูจะได้รับอะไรบ้าง
ยังไงก็ฝากละครเรื่องเพลงบินใบงิ้วด้วยนะคะ เรื่องนี้พวกเรานักแสดงทุกคน ทีมงานทุกคน ตั้งใจกันมากๆ เพื่อละครเรื่องนี้ ไม่ได้มีแค่ความแซ่บ แต่ยังให้แง่คิดกับคนดูแน่นอนค่ะ มาดูกันว่าสุดท้ายแล้วตัวละครแต่ละตัวจะมีบทสรุปยังไง ฝากติดตามกันด้วยนะคะ".
ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา
กราฟิก : Chonticha Pinijrob
ช่างภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์