หลังจากที่ คริส คริสโตเฟอร์ เบญจกุล อดีตนักแสดงอนาคตไกล ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน จากการลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่ถนนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ส่งผลให้ตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่างกายไม่ปกติ ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการต่อสู้ชีวิต ต้องมาขายน้ำส้มวิ่งหนีเทศกิจทั้งที่ขากะเผลก ซ้ำก่อนหน้านี้ก็ได้นำเงินเก็บมาลงทุนทำธุรกิจกับภรรยาแต่ก็เจอพิษโควิด จนทำให้เงินเก็บก้อนสุดท้ายหายวับไปกับตา ต้องเป็นหนี้เป็นสิน
หลังจากที่เรื่องราวของ คริส ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้ยื่นมือเข้ามาให้ความเชื่อเหลือ ช่วยสนับสนุนคริสและภรรยา ช่วยอุดหนุนน้ำส้มอย่างต่อเนื่อง จนทำขายไม่ทัน โดยขณะนี้คริสสามารถปลดหนี้สินได้บางส่วนแล้ว สร้างความดีใจให้กับทั้งคู่เป็นอย่างมาก ซึ่งคริสกับภรรยาก็ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยอุดหนุนและเป็นกำลังใจให้

"จากเหตุการณ์ครั้งนี้เราดีใจมากเลย เหมือนเป็นการย้อนว่ายังมีคนจำคริสได้เยอะมาก คนให้ความช่วยเหลือเราเยอะมาก คือน้ำส้มที่ไหนก็มีขายในประเทศไทย แต่เขาอยากอุดหนุนเรา โดยที่เขาอาจจะไม่ได้อยากดื่มน้ำส้มหรอก แต่เขาอยากจะช่วยเหลือเรา พูดง่ายๆ คือเธอไม่ต้องพูดมากได้ไหม เธอเอาหมายเลขบัญชีมา คือเราไม่กล้าที่จะรับ ก็ขอเป็นการที่ช่วยอุดหนุนเราจะดีกว่า"
...
"ขายของดีมากๆ มีออเดอร์สั่งเข้ามาทุกวัน จนเรารับสายตอบไลน์ไม่ทัน ถ้าเรามัวแต่รับโทรศัพท์ก็จะทำของไม่ทันอีก ฟีดแบ็กดีมากๆ ต้องขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจให้ บางคนก็ไม่อยากจะซื้อของ แต่จะให้เงินเลยก็มี มีเยอะมาก ต้องขอบคุณจริงๆ แต่เราอยากจะทำงานแลกกับเงินมากกว่า อยากให้ทุกคนได้ทานน้ำส้มได้ทานน้ำผลไม้ของเรา เมื่ออร่อยก็จะได้กลับมาซื้ออีก"
"ก่อนหน้านี้พอมีข่าวออกก็จะขายดี แต่จะขายดีในปริมาณที่เราทำทัน และพอข่าวซาก็จะขายของได้ตามปกติ แต่ในการลงข่าวครั้งนี้มันพลิกชีวิตไปเลย ก็ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ เราควบคุมไม่ได้เลย ออเดอร์มาจากทุกจังหวัดของประเทศไทย
แม้แต่ภาคใต้ไกลๆ อย่าง นราธิวาส ยะลา ก็มีมา ซึ่งเราตั้งรับไม่ทัน รับโทรศัพท์สายแทบไหม้เลย (หัวเราะ) คือตั้งแต่มีชีวิตมา 40 กว่าปีโทรศัพท์ไม่เคยมีสายเข้าตลอดขนาดนี้ รายได้เยอะขึ้นมาก มากตามที่เรามีแรงทำได้เพราะทำไม่ทัน หนี้สินที่มีอยู่ตอนนี้ก็สามารถขายของนำเงินไปใช้หนี้หมดไปแล้วบางส่วน แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว
ขอบคุณทุกๆ คนที่ให้ความช่วยเหลือ ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส ขอบคุณท่านทูตพิรุณ (น้ำตาคลอ) ท่านให้โอกาสเอาน้ำส้มไปขายที่ร้าน ตรงนี้ก็จะได้เก็บไว้เป็นค่าเช่าบ้านในแต่ละเดือน และพอมาตอนนี้รายได้มันก็เพิ่มขึ้น เราก็มีเงินไปปลดหนี้".
