- ยูโร ยศวรรธน์ ฝันเป็นจริง จากเด็กบ้านนอกมาเป็นพระเอกละครช่อง 7
- เล่นละครมาหลายเรื่องแต่ไม่เป็นที่รู้จัก สุดท้อ จนเกือบถอดใจ
- ถูกจับเปรียบเทียบเพื่อนพระเอกร่วมช่อง เข้ม หัสวีร์ ดังเปรี้ยงไม่เท่าเพื่อน
ฮอตแรงแซงทุกทางโค้ง สำหรับพระเอกหนุ่ม ยูโร ยศวรรธน์ ทะวาปี พระเอกจากวิกหมอชิต ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นหนุ่มเนื้อหอมสามีแห่งชาติของสาวๆ ไปเรียบร้อยแล้ว
แต่กว่าจะกลายเป็นพระเอกฮอตที่สาวๆ กรี๊ดถล่มทลายแบบนี้ ยูโรนั้นเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่ปี 2560 และมีผลงานละครเรื่อยมา แต่เพิ่งจะมาแจ้งเกิดเปรี้ยงปร้างจากละครสามีชั่วคืน ที่กวาดเรตติ้งไปอย่างถล่มทลายในตอนนี้
จุดเริ่มต้นของ ยูโร ยศวรรธน์
เพราะความฮอตของหนุ่มยูโร เราจึงคว้าตัวของพระเอกหนุ่มสุดหล่อสามีแห่งชาติของสาวๆ มานั่งพูดคุยกันสักหน่อย เราทักทายกับพระเอกฮอตคนใหม่ของวงการบันเทิง
งานนี้ทำเอา ยูโร ยศวรรธน์ แอบเขินไม่น้อยกับตำแหน่งใหม่ที่ได้รับการอวยยศจากแฟนๆ แบบถล่มทลายทางโซเชียล ซึ่งเจ้าตัวนั้นก็ยิ้มรับกับความสำเร็จของตัวเองหลังจากที่ทุ่มเทให้กับการแสดงละครเรื่องนี้แบบเต็มร้อย
ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ เราก็เริ่มต้นคำถามเบสิกกับพระเอกหนุ่มคนนี้ว่า จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงของยูโรนั้นเข้ามาทำงานตรงนี้ได้อย่างไร งานนี้เจ้าตัวเล่าให้เราฟังว่า
“ผมเข้ามาในวงการได้เพราะผู้จัดการส่วนตัวเห็นจากเฟซบุ๊กครับ แล้วเขาก็ทักผมมาว่าสนใจมาเป็นนักแสดงช่อง 7 มั้ย เพราะทางช่องเปิดออดิชันรับนักแสดง
พอเข้ามากลัวเหมือนกันนะ เพราะช่วง 4-5 ปีที่แล้วมีข่าวเรื่องผู้จัดการดาราออกมา แล้วผมเป็นเด็กต่างจังหวัดก็กลัวว่าจริงหรือเปล่า
...
แต่ผู้จัดการฯ ผมเขาก็มีนักแสดงที่เขาดูแลคือ เข้ม หัสวีร์ แล้วก็เป็นนักแสดงใหม่ของช่องด้วยในตอนนั้น ผมเลยคิดว่าเขาไม่น่าจะหลอกแล้วแหละ ก็เลยเข้ามาออดิชัน ก็ไม่คิดว่าจะได้ แต่พอผ่านไป 2-3 อาทิตย์เขาก็ติดต่อกลับมาว่าได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงช่อง ก็ได้เข้ามาทำงานตรงนี้
จริงๆ ผมเองฝันอยากเป็นนักแสดงตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว เห็นดาราในทีวีอยากเป็นแบบเขาบ้าง แต่ผมเป็นคนต่างจังหวัด การที่จะได้มาเป็นดาราต้องไปเดินสยาม ต้องมีแมวมองมาเจอถึงจะมีโอกาสได้เข้าวงการ ก็เลยคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เป็นดาราหรอก ก็เรียนไปเรื่อยๆ ไม่คิดอะไร พอมีโอกาสเข้ามาจริงๆ ก็เลยรับไว้ (ยิ้ม)”

เด็กบ้านนอกได้เข้าวงการมาเป็นดารา
แต่ต้องยอมรับความเป็นจริง เมื่อ ยูโร ยศวรรธน์ ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เข้ามาเป็นนักแสดงช่อง 7 ก็มีผลงานมาเรื่อยๆ แต่ก่อนหน้านี้คนอาจจะยังไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไร มีความท้อกับการทำงานในวงการบ้างหรือไม่ พระเอกหนุ่มยิ้มและเล่าให้เราฟังว่า
“สำหรับผมดีใจที่มีคนรู้จักขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าผมมีโอกาสได้เล่นเป็นคู่รองจากนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากๆ อย่าง พี่เวียร์ ศุกลวัฒน์, พี่ไมค์ ภัทรเดช ซึ่งก็ได้เป็นคู่สาม คู่สอง ค่อยๆ เลื่อนขึ้นมา
แต่กว่าจะได้ขึ้นเป็นนักแสดงนำผมก็ได้ไปเรียนรู้วิชาของรุ่นพี่มาด้วย และได้ฐานแฟนคลับของพี่ๆ มาด้วยในระดับนึงเหมือนกัน
จากที่เป็นเด็กบ้านนอกธรรมดา พอวันนึงได้มาเป็นนักแสดง ได้มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นก็ดีใจมาตลอดเหมือนกัน ก็ไม่เคยท้อครับ (ยิ้ม)
แต่ถ้าท้อก็คงจะเป็นเรื่องของฝีมือการแสดง มันมีช่วงนึงเป็นช่วงแรกหรือประมาณปีสองปีแรกครับ เป็นความรู้สึกที่รู้สึกแย่มากๆ เพราะว่าผมไม่เคยเรียนการแสดงมาก่อน
อยู่ๆ ได้รับโอกาสมาเป็นนักแสดงมันค่อนข้างยากเหมือนกันกับการที่จะเป็นตัวละครในแต่ละตัว และแสดงออกมาค่อนข้างที่จะแข็งมากๆ
ผมรู้สึกนะว่าผู้กำกับว่าผมแล้วแต่ผมทำให้เขาไม่ได้ ก็รู้สึกท้อเหมือนกัน คือเราอยากทำ เราตั้งใจ แต่ผมว่าการที่เราจะหลุดออกมาเป็นนักแสดงแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็ยาก ผมก็ยังมีบางซีนที่ยังเล่นแข็งอยู่ในบางอารมณ์
ตอนนั้นนั่งดูผลงานตัวเองก็เขินมากๆ แต่ว่าผมก็ดูละครที่ตัวเองเล่นทุกเรื่อง ทุกตอน ผมอยากเก็บเอาข้อผิดพลาดในแต่ละเรื่องมาพัฒนา
ซึ่งสำหรับผมเองก็คิดว่าตัวเองมีการพัฒนาขึ้นในแต่ละเรื่องเหมือนกัน มันก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ว่าประสบการณ์ก็ทำให้เราได้รู้ว่าถ้าทำแบบนี้แล้วไม่ใช่ ก็ต้องไปทำการบ้านเพิ่มครับ”

...
สุดท้อ เล่นละครเป็นธรรมชาติมากไป
เพราะฝีมือทางการแสดงยังไม่เข้าขั้นและยังรู้สึกว่าตัวเองเล่นได้ไม่เต็มที่ ยูโร ยศวรรธน์ ก็บอกกับเราว่า เกือบถอดใจไม่เล่นละครต่อแล้ว เพราะการแสดงไม่ดีเท่าที่ควร
“หลังจากที่ผมท้อกับการแสดงของตัวเอง ผมก็โทร.หาคุณแม่ก่อนเลย บอกแม่ว่าอยากกลับบ้าน ก็เกือบไม่มีโอกาสได้เป็นกษะแล้วครับ (หัวเราะ)
คือช่วงนั้นน่าจะเป็นละครเรื่องที่ 3-4 ที่ผมรู้สึกแย่ เมื่อก่อนช่วงแรกๆ โดนว่าด้วยความที่เป็นคนเฮฮาก็ยังมีฟีลสนุก พอโตขึ้นเริ่มจริงจังมันเป็นอาชีพแล้ว ประมาณเรื่องที่ 3-4 เวลาโดนคนว่าเริ่มกระทบจิตใจ
แล้วพอผลงานออกอากาศไป คนดูหรือแม้กระทั่งเพื่อนๆ หรือใครก็ตามมาพูดกับเรา ตอนนั้นก็ยิ้มให้เขานะ แต่ก็มาพูดกับตัวเองว่าทำไมทำได้แค่นี้ พอไปกองถ่ายก็รู้สึกว่าทำไมเราทำได้แค่นี้ ก็รู้สึกแย่มากๆ
จนต้องโทร.ไปหาแม่ว่าไม่ทำแล้วได้มั้ย แต่ขอทำงานให้จบ คือความรู้สึกในตอนนั้นมันแย่มากๆ ซึ่งผมว่าการที่ผู้กำกับเขาเคี่ยวผมในตอนนั้นดีนะครับ ทำให้ผมมีผลงานออกมาได้ดี
แต่เขาเคี่ยวแล้วแต่ตัวผมเองที่ไม่สามารถทำให้ได้ ตอนนั้นมันดาวน์มากจริงๆ พอบอกคุณแม่ ท่านก็ไม่เชิงให้กำลังใจ เพราะท่านเป็นคนสายบันเทิงเหมือนผม (หัวเราะ)
ท่านก็บอกว่าจะทำต่อก็ทำหรือจะกลับบ้านก็กลับมา ถ้าไม่ไหวจริงๆ แม่ก็ให้กลับ เพราะท่านก็อยู่ต่างจังหวัด ท่านคงไม่อยากเห็นลูกนอยด์ เสียใจ ฟีลว่าถ้าไม่ไหวก็กลับมาหาแม่ได้นะลูก
แต่ระหว่างนั้น ก่อนที่จะถ่ายจบผมก็ไปคุยกับผู้กำกับว่าผมรู้สึกแย่ผมทำตามที่บทละครส่งมาให้ไม่ได้ ก็คุยกันพักใหญ่ แล้วก็มีไปเรียนการแสดงและอะไรต่างๆ เพิ่มเติม
จริงๆ มันอยู่ที่ประสบการณ์ด้วย พอหลังเราเริ่มหาจุดที่เป็นข้อบกพร่อง ข้อเสีย และจุดที่ยังอ่อนอยู่ ก็เจาะๆ ว่ามันคืออะไร ก็ลิสต์ไว้ และต่อไปก็เน้นตรงนั้นว่าทำยังไงให้เป็นธรรมชาติ ที่ไม่ใช่ธรรมชาติแบบต้นไม้ ให้มันเป็นตัวละคร
...
ซึ่งพอเริ่มพัฒนาขึ้น ได้รู้วิธีการแสดง ได้รู้ความรู้สึกของบทจริงๆ ว่าเรียลๆ เป็นยังไง ตัวละครคิดยังไง ก็ได้รู้ เรียนรู้เพิ่มขึ้นในแต่ละเรื่อง (ยิ้ม)
พอผ่านช่วงนั้นมาได้ ก็อยากขอบคุณหลายๆ อย่าง คนรอบข้าง และก็ขอบคุณโอกาสที่ได้เล่นละครสามีชั่วคืน ที่ทำให้ผมมีความสามารถเพิ่มขึ้น
และเป็นผลงานที่หลายๆ คนได้เห็นและชื่นชอบ และทำให้ผมไม่ท้อแล้ว แต่ทำให้ผมอยากทำผลงานต่อๆ ไปให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และอยากพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ ครับ”

ความพยายามเป็นผล แจ้งเกิดอย่างสวยงาม
หลังจากที่ละครสามีชั่วคืนออกอากาศไปแล้วเริ่มได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ทั้งเรื่องเรตติ้งและกระแสโซเชียล จนถือว่า ยูโร ยศวรรธน์ นั้นได้แจ้งเกิดเป็นพระเอกอย่างเต็มตัวและสวยงาม รู้สึกกดดันหรือว่าตื่นเต้นมากกว่า งานนี้พระเอกหนุ่มตอบเราว่า
"ความรู้สึกผมพอได้เห็นฟีดแบ็กจากคนดู มีทั้งตื่นเต้นและกดดันครับ เพราะหลังจากผลงานละครเรื่องนี้ที่มันแจ้งเกิดให้ผมจริงๆ เรื่องต่อไปมันก็จะลำบากผมแล้ว กดดันผมแล้วว่าผมจะสามารถทำได้ดีกว่าเดิมหรือเปล่า จะตกม้าตายหรือเปล่า
...
ผมจะต้องมีความพยายามทำให้ตัวเองมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จะมาอยู่เท่าเดิมไม่พัฒนาก็คงไม่ได้ รู้สึกกดดันเหมือนกันที่คนมองว่าเป็นการแจ้งเกิดพระเอกอย่างเต็มตัว แต่ผมก็จะเต็มที่กับทุกงาน เพราะผมทำการบ้านหนักเหมือนกัน
เพราะละครที่เล่น ก็ต้องอินกับตัวละครให้มากถึงแม้ผมจะยังไม่เก่ง แต่ถ้าได้คุยกับผู้กำกับและเล่นไปในทิศทางเดียวกัน มันจะทำได้ดี และเรื่องต่อไปผมก็จะทำให้มันดีขึ้นกว่านี้ครับ จะเอาความกดดันมาพัฒนาตัวเองครับ (ยิ้ม)"

ถูกจับเปรียบเทียบ เข้ม หัสวีร์
เพราะเป็นพระเอกที่เข้ามาในวงการไล่ๆ กัน มีผู้จัดการคนเดียวกัน งานนี้เลยทำให้หลายๆ คนจับ ยูโร ยศวรรธน์ ไปเปรียบเทียบกับ เข้ม หัสวีร์ ว่าเพื่อนดังกว่า พอมีการเปรียบเทียบ ยูโรกดดันหรือไม่ ซึ่งพระเอกหนุ่มตอบเรื่องนี้ให้เราฟังว่า
“ไม่กดดันครับ ถ้าพูดจริงๆ เข้มเข้ามาก่อนผมและมีโอกาสได้เป็นพระเอกก่อนผมตั้งแต่เรื่องแรก แต่ด้วยความที่เราสนิทกันมากๆ แล้วเขาก็ซัพพอร์ตผมตลอดนะ
เข้มเป็นพระเอกที่มีคนชื่นชอบมากๆ ในระดับนึงเลย แต่เขาก็ไม่เคยทิ้งผมครับ เขาช่วยตลอด คอยสนับสนุนผมตลอดในทุกๆ เรื่อง
ผมไม่เคยรู้สึกว่าเราอ่อนกว่าเขาหรือเราแย่ คือเราไม่แข่งกันครับ ถ้าสมมติว่าวันนึงผมมีเรื่องชื่อเสียงมากขึ้น ผมก็จะไม่แข่งกับเพื่อนเหมือนกัน
"เราทั้งสองคนซัพพอร์ตกันมาตลอดตั้งแต่แรก มีผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกัน คือตอนนี้เป็นเหมือนญาติกันไปแล้ว ก็เจอกันแทบจะทุกอาทิตย์ครับ (ยิ้ม)”

ดังเปรี้ยงเพราะเป็นพระเอกสายมู
เพราะเห็น ยูโร ยศวรรธน์ เดินสายทำบุญไหว้พระกับ เข้ม หัสวีร์ เพื่อนสนิทอยู่บ่อยๆ งานนี้เราเลยแกล้งถามว่า ที่ดังเปรี้ยงปร้างแบบนี้เพราะไปมู ขอพรให้ดังมาหรือไม่ งานนี้เราได้รับคำตอบที่ทำให้ต้องขำเพราะความน่ารักของพระเอกหนุ่มคนนี้
"ผมไปทำบุญแบบโจ่งแจ้งมาครับ (ยิ้ม) ผมเป็นคนชอบทำบุญ เป็นสายนี้อยู่แล้ว ก็ไปทำบุญด้วยกัน เกือบทุกเดือนต้องเข้าวัด บางเดือนก็ไปทำบุญบ่อย ไปไหว้พระ ทำบุญ ขอพร
ก่อนหน้านี้ก็มีไปถ้ำนาคี ถ้ำนาคา คำชะโนด ไปวัดที่กาญจนบุรีมาด้วย ก็ทำบุญ 4 วันติดเลย เมื่อต้นปีก็มีไปนอนวัดถือศีล 8 มาครับ เป็นวันที่ละครออนแอร์
ผมยอมรับว่าก็มีไปขอพรบ้าง เพื่อความสบายใจ ความสามารถมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ว่าเรื่องวาสนา ดวง และโอกาส มันก็ทำให้ผมมั่นใจขึ้น ผมไม่รู้นะว่าจะช่วยได้มากแค่ไหน แต่ถ้ามีความศรัทธาก็เป็นที่พึ่งในความรู้สึกของเราได้ โดยส่วนตัวผมเชื่อในเรื่องแบบนี้ครับ (ยิ้ม)
เวลาไปไหว้พระ ทำบุญ ผมก็จะขอ ขอให้ผลงานละครของเรามีคนชื่นชอบ ประสบความสำเร็จ ก็เป็นความเชื่อและความศรัทธานะ
แต่พอในวันนี้ ผมรู้สึกดีใจ ทุกอย่างมันส่งเสริมกันหมด ทั้งความตั้งใจทำงานของผม การไปไหว้พระขอพร โอกาสต่างๆ มันประจวบเหมาะกันมากๆ ทำให้ทุกอย่างมันดีเกินกว่าที่ผมคาดเอาไว้"

สามีชั่วคืน กระแสแรงแจ้งเกิดยูโร
อย่างที่บอกว่าอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี เล่นละครมาหลายเรื่อง แต่ก็ไม่ดังแจ้งเกิดซะที แต่สำหรับละครเรื่องนี้ สามีชั่วคืน ได้แจ้งเกิดให้กับ ยูโร ยศวรรธน์ ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าถึงความรู้สึกและความตั้งใจให้ฟังว่า
"ผมคาดหวังกับละครเรื่องนี้มากๆ เพราะว่าตอนที่เราถ่ายทำ เราได้คุยและทำความเข้าใจ ผมก็คาดหวังว่ามันจะดี และพอออกอากาศมันก็เป็นไปตามที่คาด และกระแสมันแรงเหนือกว่าที่ผมคาดเอาไว้เยอะมากจริงๆ ผมลุ้นมากๆ เพราะจากที่เคยเล่นละครมา พอมาถึงเรื่องนี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองได้รับโอกาสที่มันดีมากๆ
และต้องยอมรับว่าละครเรื่องนี้ทำให้คนรู้จักผมเยอะมากขึ้น (ยิ้ม) คนติดตามในโซเชียลก็เพิ่มขึ้นเยอะมากๆ เท่าที่ผมอ่านตามคอมเมนต์ในโซเชียล เขาเป็นคนที่ดูพวกซีรีส์ต่างประเทศ
แต่ละครเรื่องนี้ทำให้เขากลับมาดูละคร ผมก็ดีใจมากๆ ที่เขากลับมาชื่นชอบชื่นชมในผลงานละครที่ผมได้เล่น และชื่นชอบในตัวละครที่ผมแสดง มันเยอะกว่าที่ผมคาดเอาไว้ รู้สึกชื่นใจมากๆ เลยครับ
ส่วนเรื่องที่คนชมฝีมือการแสดงของยูโรว่ามีพัฒนาการทางด้านการแสดงดีขึ้น คือละครเรื่องนี้เป็นการบ้านที่หนักมากๆ สำหรับผม เพราะเป็นละครแนวดราม่า และผมไม่เคยเล่นมาก่อน
มันมีความยากมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาผมเล่นแต่แอ็กชัน และเวลาเล่นแอ็กซีนดราม่า ซีนอารมณ์จะเป็นการออกอาวุธ หรือเล่นบู๊มากกว่า
แต่พอมาเป็นเรื่องนี้ ซีนดราม่า อารมณ์ต่างๆ เรื่องนี้ทำให้ผมได้เจออะไรใหม่ๆ และพัฒนาตัวเองได้เพิ่มอีกเยอะขึ้นด้วย พอมีคนเห็นตรงจุดนี้ผมก็รู้สึกดี แต่ผมก็ยังอยากจะเรียนรู้เพิ่มเติมและพัฒนาให้มากๆ ขึ้นไปอีกกว่านี้ครับ
และในเรื่องนี้ผมต้องร้องไห้เยอะ ช่วงแรกอาจจะเป็นคอมเมดี้หน่อย แต่หลังจากกลางเรื่องไปจะเป็นซีนอารมณ์ที่มันจะท้าทายผมมาก ผมเชื่อว่าแฟนๆ จะได้เห็นความพัฒนาทางด้านการแสดงของผมมากเหมือนกัน
จริงๆ ผมอยากขอบคุณผู้กำกับที่คอยสอนและคอยชี้แนะให้วิธีการคิดต่างๆ รวมไปถึงทุกๆ อย่างของตัวละครนี้ที่พี่ เติ้ล ตะวัน จะคุยกับผมตลอดว่ามันเป็นอย่างไร ก็เป็นการสอนที่ดีนะ เพราะมันทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองขึ้น และเป็นตัวละครที่สมบทบาทมากยิ่งขึ้น
ยอมรับเลยว่าพอได้มาเล่นละครดราม่าก็ติดใจ เหมือนได้ทำอะไรที่ท้าทายตัวเอง เพราะว่ามันเป็นเรื่องแรกๆ ที่ผมได้เล่นดราม่า และพอเล่นแล้วทุกคนก็ชื่นชอบ
และก่อนหน้านี้คนอาจจะคิดเหมือนกันว่าผมจะเล่นได้มั้ย และพอผมเล่นได้ ได้รับคำชมผมก็รู้สึกภูมิใจที่ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังในการแสดงของผมครับ

คู่จิ้นใหม่มาแรงของช่อง 7
กับ พิ้งค์พลอย ปภาวดี แฟนละครจิ้นมาก ยูโรรู้สึกอย่างไร มีโอกาสลุ้นจิ้นนอกจอได้หรือเปล่า ซึ่งงานนี้เจ้าตัวได้ตอบคำถามนี้ด้วยอาการสุดเขินว่า
"รู้สึกดีนะที่คนชอบคู่ของเรา เพราะว่าจากที่ผมดูผมยังจิ้นเลย (ยิ้ม) ผมดูละครตัวเองผมยังจิ้น อยากให้เขาเป็นแฟนกันจังเลย กระแสตอบรับดีมาก แฟนๆ ให้การซัพพอร์ตเป็นอย่างดี
ผมดีใจกับกระแสชื่นชอบจากแฟนๆ มากๆ แต่ผมกับพิ้งค์พลอย เราคือเพื่อนกัน (ยิ้ม) อนาคตก็ยังไม่รู้ แต่ตอนนี้คือเพื่อนกันครับผม ผมเขินนะ แต่มันไม่มีอะไร (ยิ้ม) ผมเห็นนะที่แฟนๆ จิ้นกัน เพราะเขาก็อินกับละคร
และผมกับพิ้งค์พลอยเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ ครับ คุยกันได้ตลอด ช่วงที่ถ่ายเราก็คุยกันเล่นกัน พิ้งค์พลอยเป็นผู้หญิงที่น่ารัก เราเลยสนิทกันได้ง่าย และละครเรื่องนี้ถ่ายนานด้วย ยิ่งทำให้เราสนิทกัน วัยใกล้ๆ กันด้วย เลยทำให้สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ ถามว่ามีลุ้นมั้ย ก็รอลุ้นกันไป เป็นเรื่องของอนาคตครับ
ถามว่าเขาตรงสเปกมั้ย (ยิ้มเขิน) พิ้งค์พลอยก็น่ารักดี ในไลฟ์อาจจะเห็นว่าผมคุยเก่งมาก แต่ในสัมภาษณ์ผมไม่เก่งเลย
สเปกผู้หญิงผมชอบคนยิ้มสวย หวานๆ น่ารักๆ และชอบผู้หญิงที่อายุเยอะกว่า เพราะผมเป็นคนขี้อ้อน ผมเป็นคนน่ารัก ผมเป็นสายมุ้งมิ้ง
ถ้ามีแฟนที่อายุมากกว่า ผมก็จะสามารถทำแบบนี้ได้ แต่ถ้ามีแฟนที่อายุน้อยกว่า ผมก็ต้องเป็นผู้นำ ซึ่งผมไม่ใช่สายนี้ (ยิ้ม)
สุดท้ายแล้ว ผมขอฝากละครเรื่องนี้ อยากให้ทุกคนติดตามละครไปจนจบเลยนะครับ เป็นกำลังใจให้ทีมงานและนักแสดงทุกคน
และขอขอบคุณสำหรับกำลังใจทุกอย่างสำหรับละครเรื่องนี้ ขอบคุณทีมงาน ขอบคุณช่อง 7 ที่ให้โอกาสผมได้เล่นเรื่องนี้ ขอบคุณแฟนๆ ที่ชื่นชอบ ฝากด้วยนะครับ".
ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา
กราฟิก : sathit chuephanngam


