เพราะตอนนี้หัวใจของพระเอกหนุ่ม อาเล็ก ธีรเดช ไม่ว่าง เพราะกำลังศึกษาดูใจกับนางเอกสาวร่วมช่องอย่าง โบว์ เมลดา ซึ่งต้องบอกเลยว่า โลกใบนี้สีชมพูสุดๆ
ล่าสุด ได้เจอหนุ่มอาเล็กที่เดินทางมาโปรโมตละครเรื่อง เกมปรารถนา เลยไม่พลาดที่จะอัปเดตเรื่องของความรักกับสาวโบว์ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เปิดเผยว่า
มีโปรเจกต์อะไรถึงเปลี่ยนสีผม?
ไม่มีครับผม เพราะไม่มีอะไรทำ ถึงต้องไปทำสีผมครับ ช่วงนี้ว่าง ยังไม่มีเปิดกล้องอะไร ไม่เคยกัดสีผม ก็เลยลองครั้งแรกในชีวิต ทำมาแล้วก็ผมเสียดีครับ แล้วก็จัดทรงง่าย แค่เสียนะ มันก็เปลี่ยนลุคเรา ทำอะไรที่ไม่เคยทำ ก็เปลี่ยนบ้าง มันสนุกดีครับ
ฟีดแบ็กจากคนรอบข้างเป็นยังไงบ้าง?
ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่จริงๆ จะชอบสีดำมากกว่า แค่ถ้าเพื่อนๆ หรือวัยรุ่นอยู่ก็จะโอเค ไม่มีเรฟเฟอร์เรนซ์ครับ เราแค่ไปบอกพี่ก้อง Hive Salon ว่าอยากกัดสีผม
เขาก็เรียกไปหา แล้วก็เลือกสีนี้ให้เลย จริงๆ มันคือสีเทาครับ แต่ว่ามันเริ่มหลุดแล้ว เป็นสีเหลืองๆ น้ำตาลๆ นิดหนึ่ง หล่อไหม (ยิ้ม) ทำมาตั้งแต่ปีใหม่แล้วครับ
โบว์ เมลดา ว่ายังไงบ้างกับสีนี้?
จริงๆ เล็กแต่จะทำสีเฉยๆ แต่โบว์บอกว่าไหนๆ ทำแล้วก็กัดไปเลย จริงๆ กะกัดแค่รอบสองรอบ เพราะคนขู่ไว้เยอะ ว่ามันแสบนะ แต่ไหนๆ ทำแล้วก็เอาให้สุดไปเลย (เชื่อโบว์?) เขายุยงเราก็โอเค เป็นคนขี้ยุอยู่แล้วไง
เพิ่งไปเที่ยวทะเลมาด้วยกันเป็นไงบ้าง?
ไปแสมสารครับ เป็นทะเล ก็ไปเช้า-เย็นกลับ แล้วก็ไปหัวหิน 3 วันครับ ไปกับแก๊งเพื่อนๆ ของเล็ก น้องก็ไปด้วย
พาน้องไปเปิดตัวกับเพื่อน?
...
จริงๆ ก็พาไปเจอเพื่อนมาหลายรอบแล้วครับ ไปกินข้าว ไม่ใช่ไปเปิดตัวหรอก ทริปนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษครับ ก็สนุกดี น้องเขาเป็นคนที่ตลกร่าเริง เข้ากับทุกคนได้ง่ายอยู่แล้ว ก็แฮปปี้ดี
เวลาไปเที่ยวด้วยกัน ไม่ลงรูปคู่กันเหรอ?
คือเราแค่ไม่ได้อยากให้คนมาโฟกัสขนาดนั้น เราก็ไปเที่ยวปกติของเรา แล้วเราก็ไม่ได้ไปปิดบัง ว่าเราห้ามให้ใครรู้นะ ว่าเรามาด้วยกัน แค่เราไม่ได้อยากไปประกาศให้โลกรู้ ว่าฉันไปด้วยกันนะ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้ปิด เราก็แค่ใช้ชีวิตของเราครับ
เป็นสายที่ไม่ชอบลงรูปคู่กันใช่มั้ย?
คืออย่างที่บอก ไม่ได้อยากให้คนมาโฟกัสในเรื่องของความสัมพันธ์ หรือความรักของน้องมากเท่าไร เพราะเขางานเยอะ คนชื่นชมพวกเรา อันนี้เป็นสิ่งที่พวกเราขอบคุณมากๆ แต่ก็อยากให้ติดตามและชื่นชมผลงานเราด้วย เป็นแบบนั้นมากกว่า
เพราะฉะนั้นเล็กเลยรู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องลงรูป และยังไม่ถึงเวลาที่เราจะต้องประกาศ หรือตะโกนให้ทุกคนรู้ ว่าเราไปด้วยกัน ไม่ได้อยากให้คนมาโฟกัสโมเมนต์ที่เราอยู่ด้วยกันขนาดนั้น เลยไม่ได้ลงรูปคู่
แต่ถามว่าเราถ่ายมั้ย เรามีถ่ายอยู่แล้วแหละ แต่เราไม่ได้ลง เพราะไม่อยากให้คนมาโฟกัสขนาดนั้น แต่เราก็ไม่ได้ปิดบัง ว่าเราไปไหนมาไหนด้วยกัน
วันที่จะลงรูปคู่ ต้องเป็นวันที่สถานะชัดเจน ใช้คำว่าแฟนแล้วหรือเปล่า?
ไม่รู้เลย จริงๆ คือเมื่อไหร่อยากลงก็นะ แต่ว่า ณ ตอนนี้ อยากให้โฟกัสที่ผลงานเราเป็นหลักก่อนดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่า ตอบแบบนี้คือจะไม่ให้คนไปสนใจเรื่องนี้ มันเป็นไปไม่อยู่แล้ว ก็เข้าใจ อย่างที่บอก เราเองทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตปกติ ไปไหนมาไหนเราก็ไม่ได้ปิดบัง
น้องมีขอมั้ย ว่าอย่าเพิ่งลงรูปคู่ตอนนี้นะ?
ไม่มีเลยครับ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจกัน ว่าทั้งคู่อยากให้คนโฟกัสที่ผลงานของพวกเรามากกว่า
หรือที่ยังไม่ลง เพราะกลัวกระแสดราม่า?
ไม่กล้วเลยครับ เล็กเชื่อว่าเราทั้งคู่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ต่อให้มีดราม่า มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนชอบหรือไม่ชอบ มันเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ทุกวันนี้จากที่เห็น เพราะเราเองก็เข้าไปส่องแฮชแท็กชื่อตัวเองบ้างอยู่แล้ว เวลาเราเห็นคนเข้ามาชื่นชม มาเอ็นดูคู่เรา ก็ขอบคุณมากจริงๆ
แต่ว่าอย่าเพิ่งกดดันให้พวกเราประกาศ หรือว่าเปิดตัวเลยครับ พวกเราเองยังอยากใช้ชีวิต อยากจะเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ แบบไม่มีความกดดัน คิดว่ามันดีกว่า
...
แล้วใกล้จะขยับสถานะไปถึงคำว่าแฟนหรือยัง?
ความสัมพันธ์มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ เราเรียนรู้กันมาได้ 4-5 เดือนแล้ว ทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นสเตปของความสัมพันธ์ทั่วไป เหมือนกับของทุกๆ คน มันก็จะมีช่วงที่เราไม่ได้เรียนรู้แค่นิสัยแล้ว แต่เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้ถึงเบื้องลึกของอีกฝ่ายหนึ่ง
ซึ่งมันก็อาจจะไม่ได้สวีตอย่างเดียว ไม่ได้แฮปปี้อย่างเดียว มันมีเรื่องที่เราต้องทำความเข้าใจกันมากขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดี เล็กรู้สึกว่าเราต้องรู้ทั้งเรื่องที่ดี เรื่องที่แฮปปี้และไม่แฮปปี้ของเขา ตอนนี้มันค่อนข้างไปถึงขั้นที่จริงจังมากขึ้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ครับ ตอบไม่ได้หรอก ว่ามันใกล้หรือยัง
แล้วส่วนที่ไม่แฮปปี้ มันเป็นเรื่องใหญ่มั้ย เขาจะแก้ให้เราได้ หรือเราจะแก้ให้เขาได้มั้ย?
มันเป็นเรื่องธรรมดาครับ แค่ในช่วงแรกๆ ของการคุยกัน ทุกอย่างมันจะดูสวยหรูไปหมดแหละ ในความคิดเล็กนะ คนจีบกันใหม่ๆ มันก็มุ้งมิ้งไปหมด
แต่ว่าพอถึงจุดหนึ่ง ที่เราจริงจังกับความสัมพันธ์ มันคงไม่ได้มีแค่โมเมนต์มุ้งมิ้งเนอะ มันก็ต้องเรียนรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย เรียนรู้ความคิดความอ่าน ประสบการณ์หรือสิ่งที่เขาเจอมา ทุกๆ อย่างมันต้องเรียนรู้กัน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันก็จะไม่มุ้งมิ้งแล้ว จะเป็นการจริงแล้ว
เราคบกับใคร ก็มักจะมีดราม่าโจมตีตลอด เรารู้สึกมั้ยว่าทำไมเราไม่ง่ายเหมือนคู่อื่นเลย?
จริงๆ กับน้องเนี่ย เล็กไม่โดนโจมตีเลยนะ เท่าที่เล็กเสพข่าว เรารู้สึกขอบคุณคุณผู้ชม คุณผู้ดู และแฟนๆ ทุกคนที่สนับสนุนคู่เรา แต่เล็กรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่เล็กหรอก
การที่เราโตมาถึงอายุเท่านี้แล้ว เจออะไรต่างๆ มามากมาย เลยรู้สึกว่าการที่เราจะมีใครสักคน หรือการที่คนสองคนจะมาคบกัน มามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มันจะไม่ได้มีแต่ความสวยงาม
...
ทุกอย่างมันคือประสบการณ์ แต่ตอนนี้โชคดีที่เราสองคนยังมีแต่ประสบการณ์ดีๆ ด้วยกัน เล็กก็เลยแฮปปี้ แต่ชีวิตคู่มันยากอยู่แล้วเล็กว่า
วาเลนไทน์แรกของเรา มีคิดไว้บ้างหรือยัง?
อันนี้กดดันสุดกว่าทุกคำถามเลย คือเรารู้สึกว่าวันวาเลนไทน์ วันสำคัญเหล่านี้มันคือวันที่เราจะแสดงความรัก ความปรารถนาดีให้กับอีกคนคนหนึ่ง วันวาเลนไทน์ วันแม่ วันพ่อ วันเกิด วันอะไรเนี่ย
ซึ่งเล็กรู้สึกว่ามันเป็นวันธรรมดาวันนึงแหละ มันก็สำคัญตรงที่เราสามารถแสดงได้เป็นพิเศษก็มีแหละ แต่วันนี้วันที่ 3 กดดันมาก อันนี้กดดันสุดเลย
แสดงว่ามีคิดๆ ไว้แหละ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นในรูปแบบไหน?
เรียกว่ายังไม่ลงเอย (หัวเราะ)
รู้มั้ยว่าหลายคนจับตาดูคู่เรา รอดูว่าจะออกมาเป็นยังไง?
ก็โฟกัสคู่อื่นด้วยนะครับผม สิ่งที่สำคัญคืออย่าเอาไปเปรียบเทียบกัน
กลัวไปเปรียบเทียบอะไร?
เป็นเรื่องธรรมดาไง มันต้องมีการเปรียบเทียบว่าอุ๊ยคนนั้นทำให้คนนี้แบบนั้น คนนั้นทำให้คนนี้แบบนี้ ทำไมอาเล็กทำแค่นี้อะไรแบบนี้ กดดันมากเลย แต่อยากทำนะ ไม่ใช่ไม่อยากทำ กดดันแต่ก็อยากทำให้เขาแฮปปี้
...
คิดไว้ว่าจะเป็นการให้ของขวัญหรือว่ายังไง?
โบว์เขาต้องดูสัมฯ อยู่แล้วมั้ย ผมบอกก็โป๊ะอ่ะสิ
โบว์เขามีพูดมั้ยว่าอยากได้อะไรหรือเปล่า?
เขาก็ไม่ได้บอกหรอกครับ น้องก็ไม่ได้บอกว่าอยากได้อะไร หรืออยากไปไหน ไม่ได้บอกเลย แต่ว่าวันที่ 14 วันวาเลนไทน์ตรงๆ เรามีแพลนด้วยกันอยู่แล้ว เราไปงานวันแต่งเพื่อนครับผม แต่ว่ายังไม่ได้แพลนถึงว่าของเราจะยังไงดี
ควงน้องไปงานแต่งเพื่อน ถือว่าเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วใช่มั้ย?
ไม่เห็นแปลกเลย คือเล็กพาน้องไปเจอเพื่อนๆ จนตอนนี้โบว์กับแฟนเพื่อนๆ สนิทกันมากกว่าเล็กสนิทกับเพื่อนๆ แล้ว แล้วเดี๋ยวที่ไปงานแต่งก็ไปด้วยกันแบบเป็นแก๊ง คือรู้จักกันหมดแล้ว เล็กก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการเปิดตัวอะไร แค่ไปงานแต่งด้วยกันเฉยๆ
ให้เขาไปรับช่อดอกไม้หรือเปล่า?
แล้วแต่ คือมันก็เป็นกิจกรรมสนุกๆ ในงานแต่ง ถ้าเกิดอยากเล่นก็ไปเล่นไปร่วมได้ ไม่ได้ว่าอะไร
ถ้าเกิดรับได้ขึ้นมา เราก็ยุ่งเหมือนกันนะ?
อย่าทำให้ผมกดดันมากกว่านี้ได้ไหม (หัวเราะ)
พอคนเชียร์เยอะๆ แล้วเราเคยมานั่งคุยกันมั้ยว่าทำไมคนถึงอะไรขนาดนี้?
อันนี้พูดกับพี่ๆ ตรงๆ เลยว่า คือจริงๆ น้องเขาเป็นคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แค่นี้ไม่เห็นเป็นไร คิดแบบนี้ใช่มั้ย แต่ตัวเรารู้สึกว่าเราเจออะไรมาเยอะ เรารู้สึกว่าเราโตกว่าแหละ
เรารู้สึกว่ามันต้องรอบคอบมากขึ้น เพราะว่าอีกอย่างหนึ่งน้องเป็นผู้หญิงด้วย แล้วการจะทำอะไรต่างๆ แล้วยิ่งตอนนี้น้องฮอตมาก ขยับตัวทีหนึ่งคนก็สนใจ คือยิ่งอยู่ที่สูง เราไม่อยากให้น้องต้องเจอคำพูดที่ไม่ดี หรือเจออะไรที่ไม่ดีจากในโซเชียล หรือจากคนอื่นๆ
เพราะฉะนั้นอะไรที่รอบคอบได้ อะไรที่เราไม่เสี่ยงได้ เราก็เลือกทำตรงนั้นดีกว่า ก็คอยคุยกันเรื่องพวกนี้ด้วยแหละครับ ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้ตัวน้องและตัวเราต้องมาเสียชื่อเสียงเพราะเรื่องแบบนี้
ความที่โบว์ฮอตมาก และอาเล็กเป็นหนุ่มคนเดียวที่พิชิตใจน้องได้ มีหนุ่มหลายคนอิจฉา?
ผมว่าผมก็ฮอตเหมือนกันนะ (ยิ้ม)
เราคิดว่าเรามีไม้เด็ดอะไรที่พิชิตใจสาวคนนี้ได้?
ต้องถามโบว์มั้ยอ่ะ พิชิตได้แล้วเหรอ ต้องถามน้อง แต่เราจริงใจครับ
ด้วยความที่น้องสนิทตัวติดกับคุณแม่มาก เวลาจะไปไหนน้องก็ต้องขออนุญาต หรือพูดคุยกับคุณแม่ให้สบายใจมั้ย?
จริงๆ ก็คือบอกตลอดครับผม อย่างที่พี่ๆ รู้แหละว่าน้องจะตัวติดกับคุณแม่ อยู่กับคุณแม่สองคน และเวลาจะไปไหนมาไหน ก่อนหน้านี้ก็คือจะไปด้วยกันไปด้วย
แต่ช่วงนี้เหมือนน้องทำบ้านอยู่ คุณแม่ต้องไปคุมช่างบ่อย แม่จะฝากน้องกับเราบ้าง วันไหนแม่ยุ่งมาก แล้วถ้าวันไหนเล็กว่างมารับน้องไปส่งที่กองหน่อยได้ไหม ถ้าเราว่าง เราก็ไปใหม่
แม่มีฝากอะไรเราเป็นพิเศษมั้ย มีห่วงอะไรโบว์เป็นพิเศษ?
ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ห่วงสุดก็คงเป็นเรื่องอย่าให้น้องกินเยอะนะ (หัวเราะ) เป็นเรื่องที่แม่พูดบ่อยที่สุดจริงๆ
เรียกว่าเข้ากับคุณแม่น้องได้ดี?
ไม่รู้ว่าใช้คำนั้นได้ไหมอ่ะ ก็คือไม่ได้มีปัญหาอะไรอ่ะครับผม เราเองก็เคารพ แล้วก็ด้วยความที่บางทีก็เกรงใจเพราะปกติแม่อยู่กับน้องตลอด แล้วเราไปพาน้องออกมาจะไปไหนมาไหนแม่ก็จะรู้ตลอด ไม่ใช่แค่ฝั่งน้อง ฝั่งผมก็ด้วย ไปไหนมาไหนก็บอกพ่อแม่ตลอด
ความคาดหวังกับความรักครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง เพราะเราก็โตขึ้นเรื่อยๆ แล้ว?
เราก็ต้องคาดหวังอยู่แล้ว แต่ว่าคือตัวเราเองก็โตขึ้นเยอะด้วย ความคาดหวังของเรามันจะมีความโตขึ้นของเรามาอยู่ในความคาดหวังด้วย เราจะไม่ใช่แค่แบบ โอ๊ยเธอ ฉันรักเธอ เธอรักฉัน วันนึงเธอเลิกกับฉันฉันตายสิ
แต่เรารักกันเราจูงมือไปด้วยกัน เราต้องมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราต้องเป็นเซฟโซนให้อีกฝั่งหนึ่งให้ได้ เรียนรู้รู้สึกว่าการเป็นคู่ชีวิตมันแทบจะต้องเป็นทุกอย่างให้กัน เพราะฉะนั้นมันต้องใช้เวลามาก แล้วก็ความคาดหวังมันก็คงมี แต่เราทั้งคู่ต้องมีสติในความสัมพันธ์ครั้งนี้
สำหรับอาเล็กมองเรื่องการแต่งงานหรือยัง คิดเรื่องการแต่งงานไว้บ้างหรือยัง กับตัวเองเลยไม่ได้ต้องมองว่าเป็นโบว์ หรือว่าใคร?
จริงๆ ก็คิดครับ ก่อนหน้านี้คือช่วงที่เล็กโสด ก็เคยสัมฯ แบบนี้ แล้วเล็กก็พูดว่า เพื่อนทั้งแก๊งเล็กเนี่ยเราเป็นคนเดียวที่ไม่มีใครคุยด้วย พอมาตอนนี้เรามีคนคุยด้วย เพื่อนๆ ก็แต่งงานกันไปจะครบแก๊งแล้ว (หัวเราะ)
คือตัวเราเองก็ไม่คิดแหละ เล็กเชื่อว่ามันเป็นวัยเนอะ 32 แล้วปีนี้จะ 33 เป็นวัยที่ถ้าคนที่อยากมีครอบครัวมันก็คงเป็นอะไรที่ต้องคิดแล้ว แต่ว่าก็ยังรู้สึกว่าเรายังไปได้อีกไกลครับ ยังรู้สึกว่ายังไม่ต้องตอนนี้ก็ได้ ไม่รีบ แต่ถามว่าคิดไหม คิดแน่นอน
อยากให้เจ้าสาวเป็นคนนี้มั้ย?
โอ้โห..เล็กเป็นคนที่เวลาคบใคร เล็กกล่องไปถึงแบบนั้นอยู่แล้ว ไม่เคยคิดว่าจะต้องคนนี้เดี๋ยวก็เลิก ไม่เคยคิดแบบนั้น เป็นคนที่คบกับใครก็มองถึงอนาคต
ชอบตรงไหนของโบว์?
"น้องเป็นคนน่ารัก ก่อนหน้านี้เราเห็นแต่มุมที่โพซิทีฟ มุมน่ารักสดใสของเขา คือก่อนหน้านี้ไปนานๆ ก็รู้สึกว่าเขาทำให้เรากระชุ่มกระชวยสนุกสนานสดใสขึ้น พอเราเห็นมุมอื่นก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า มันก็มีอีกหลายอย่างที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจ".