เป็นอีกคู่รักสุดหวานที่ได้ยุติสถานะกันลงเหลือไว้แค่ความเป็นพี่น้อง สำหรับ มัดหมี่ พิมดาว และ สัว ศุภชัย หลังจากที่แต่งงานใช้ชีวิตสามีภรรยากันมา 6 ปี
ล่าสุด มัดหมี่ พิมดาว เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ หลังจากที่เจ้าตัวได้ลดสถานะสามีภรรยากับ สัว ศุภชัย เหลือเพียงพี่น้องกันนั้นว่า
กับข่าวที่ออกมาว่าลดสถานะกับสัว เหลือแค่พี่น้อง?
จริงๆ ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ มันเกิดขึ้นประมาณครึ่งปีมาแล้ว เราสองคนความรักแบบสามีภรรยา มันแค่เปลี่ยนเป็นความรักแบบพี่น้องค่ะ
มีหลายคนถามเรื่องสาเหตุ จริงๆ แล้วมันเกี่ยวกับเวลาและความรู้สึกของทั้งคู่ค่ะ มันเหมือนความรักของสามีภรรยาอิ่มตัวแล้ว เป็นความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย
ใช้เวลานานมั้ยที่ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์คู่รักและลดสถานะลง?
จริงๆ เราใช้ระยะเวลากันเป็นปีแล้วค่ะ ในการที่เราศึกษาและพยายามดูว่าเราจะเดินต่อไปยังไง
...
มีการปรับจูนแล้ว?
ใช่ค่ะ เราก็มีการพูดคุยกันเสมอ แล้วทางสองครอบครัวก็ค่อนข้างที่จะเข้าใจและให้เราตัดสินใจกันเอง แต่เราก็ยังคุยกัน เจอกันเรื่อยๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ไม่ได้โกรธกัน
โอกาสรีเทิร์นกลับมามีมั้ย?
ตรงนี้มัดหมี่ยังตอบไม่ได้ เพราะว่าจริงๆ แล้วปัจจุบันก็ยังไม่ได้ แต่อนาคตถ้าใช่ก็ใช่ค่ะ อย่างที่บอกว่าความรักของสามีภรรยามันจบลง แต่ความรักเป็นพี่น้องมันยังอยู่ แค่สถานะเปลี่ยน ตอนนี้ก็ยังยืนยันแบบนี้ค่ะ
พอมีกระแสการเลิกราออกไป ถูกโยงว่าเกี่ยวกับมือที่สามหรือเรื่องมีลูกหรือเปล่า?
ไม่เกี่ยวเลยค่ะ มันเกี่ยวกับคนสองคนเลยค่ะ เป็นความรู้สึกของทั้งคู่ แต่ถามว่าอยากมีลูกมั้ย มัดหมี่เป็นคนอยากมีลูกเพราะชอบเด็ก ตอนนี้ก็เลี้ยงหลานไปก่อนค่ะ หลานน่ารักมาก (ยิ้ม)
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมีส่วนมั้ย?
คือพี่สัวเองก็เป็นนักธุรกิจ มัดหมี่เป็นศิลปิน ก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนี้ การที่เราอยู่ด้วยกันทุกคนต้องมีสเปซของตัวเองในการที่จะทำอะไรต่างๆ แต่ว่าบางทีมันก็เกิดขึ้นแล้ว ความรู้สึกของทั้งสองคนมันเป็นเหมือนกันค่ะ
ช่วงที่ปรับตัวเข้าหากันครอบครัวมีส่วนช่วยให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมมั้ย?
ก็มีคุยกันนะคะ มัดหมี่ก็คุยกับครอบครัวตัวเอง พี่สัวก็คุยกับครอบครัวเขา เดี๋ยวก็กำลังจะมีนัดกินข้าวกัน ไม่มีปัญหาเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าครอบครัวทั้งสองฝ่ายเคารพการตัดสินใจของเราทั้งสองคนค่ะ ก็เลยไม่ปัญหาใดๆ ที่หนักใจ เพราะมันผ่านมานานแล้วด้วยค่ะ
ระยะเวลาที่คบกัน แต่งงานกันหลายปี?
ถ้ารวมคบกันและแต่งงานก็ประมาณ 7 ปีครึ่งค่ะ ระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ไม่รู้สึกเสียดายเลย และดีใจที่ครั้งนึงได้คบกับพี่สัว เพราะพี่สัวเป็นคนดีมากๆ และครอบครัวพี่เขาก็น่ารักมากๆ ค่ะ
ได้รับกำลังใจเยอะมากๆ?
ตอนแรกตกใจมากที่คนส่งกันมาเยอะมาก ดีใจที่มีคนรักเราเยอะค่ะ ส่งมาเยอะทั้งไดเร็กเมสเสจหรือในอินสตาแกรม
ทำไมถึงยอมเปิดเผยถึงเรื่องสถานะความสัมพันธ์?
มัดหมี่เป็นคนที่ตรงๆ และจะมีพี่นักข่าวมาถามมัดหมี่เรื่องการมีลูก ซึ่งมัดหมี่ต้องตอบว่ามีไม่ได้ (ยิ้ม) เพราะมัดหมี่กับพี่สัวลดสถานะกัน และก็ไม่ได้ปิดบัง มันนานแล้วด้วย
ช่วงที่ต้องยุติสถานะความสัมพันธ์กันแล้วเป็นช่วงที่ตัดสินใจยากมั้ย?
มันก็ใช้เวลานะคะ ทุกอย่างต้องใช้เวลา ก่อนหน้านี้เรารู้สึกว่าเราไม่เหมือนเดิมกันมาสักปีแล้วค่ะ (เฮิร์ตมั้ย) ถ้าเป็นตอนนั้นก็เฮิร์ตมาก แต่ถ้าเป็นตอนนี้สบายใจเพราะว่าคุยกันเป็นพี่น้องกันแล้ว
มูฟออนแล้วหรือยัง?
มัดหมี่ไม่เคยปิดเรื่องความรักกับใจตัวเอง เป็นคนที่จบเรื่องนี้ คุยกันเคลียร์แล้ว มัดหมี่ก็เปิดใจได้แล้ว ปัจจุบันก็มีคนเข้ามาคุยจริง แต่ว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้า ยังไม่มีอะไรมาก มีคนคุยหลังจากที่ยุติความสัมพันธ์กับพี่สัวไปแล้วนะคะ ก็มีคนเข้ามา พี่สัวก็มีคนเข้ามาค่ะ ต่างคนต่างไม่ปิดกั้นค่ะ
...
ณ วันนี้กับสัวยังเป็นพี่น้อง เจอกัน คุยกันได้ปกติเลย?
ปกติมากเลยค่ะ ถ้าดูในอินสตาแกรมพี่สัวมากดไลค์แทบทุกรูปเลยค่ะ (หัวเราะ) และโทร.คุย แต่ก็มีคนถามทำไมไม่ลงรูปในอินสตาแกรมด้วยกันเลย ก็ดีถือว่าค่อนข้างเคลียร์ในการตอบ
ก่อนหน้านี้ก็แอบอึดอัดใจที่มีคนมาถามเรื่องความสัมพันธ์?
ก็นิดนึงค่ะ แต่ว่าตอนนี้รู้สึกโอเคมากๆ เพราะอย่างที่บอกว่าเรื่องมันเกิดขึ้นนานแล้ว และก็ทำให้ทั้งสองคนชัดเจนทั้งสองฝ่าย
ตอนนี้ใช้สถานะโสด?
ใช่ค่ะ ใช้คำว่าเตียงหักไม่ได้นะคะ เพราะว่ามัดหมี่กับพี่สัวไม่ได้จดทะเบียนกันค่ะ เรารับพระราชทานน้ำสังข์ และเข้าพิธีแต่งงาน แต่ไม่ได้จดทะเบียนค่ะ
ตอนนี้ มัดหมี่ พิมดาว มีผลงานอะไร?
กำลังจะทำหนังสั้น ซึ่งเป็นคนกำกับและจะส่งไปประกวด และล่าสุดเพิ่งทำไปและส่งไปประกวดที่เบอร์ลินและได้รางวัลที่เบอร์ลินและอินเดีย และคิดว่าจะทำต่อ แต่อาจจะทำงานเบื้องหลังและเบื้องหน้า ถ้ามีงานอะไรดีๆ เข้ามาก็อยากทำ อยากกลับมาเล่นละคร หรือกลับมาทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองรักค่ะ
...
เตรียมจะคัมแบ็กวงการบันเทิง?
ใช่ค่ะ พร้อมคัมแบ็ก และอยากเล่นเอ็มวีนะ (หัวเราะ) ส่วนงานละครก็อยากจะกลับมาเล่นค่ะ พร้อมคัมแบ็กวงการบันเทิงนะคะ
