ทำเอาลุ้นและโล่งอกไปกับความรักของสาว มะปราง-อลิสา ขุนแขวง กับแฟนหนุ่ม โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ หลัง มะปราง โพสต์รูปครบรอบ 5 ปี และเผยปมลึกๆในใจ เมื่อซินแสดังเคยทักตั้งแต่คบกันปีแรกว่าทั้งคู่จะต้องเลิกกันก่อน 5 ปี ทำเอา มะปราง นอยด์มาตลอด จนพอครบ 5 ปี เหมือนได้ปลดล็อกคำสาป มะปราง เล่าเรื่องนี้วันไปฟิตติ้งละครเรื่อง “ฟ้า/ทาน/ตะวัน” โดย CHANGE2561 ทางช่องอัมรินทร์ทีวี 34 ว่า

“จำได้ว่าปีแรกที่คบกันเราไปดูหมอดูจีนซินแส แต่จริงๆตอนนั้นไปดูสีรถทะเบียนรถแต่เราดันไปถามเรื่องความรัก เค้าก็ขอเวลาวันเดือนปีเกิด ดูดวงว่าเออเนี่ยเราสองคนไม่ใช่คู่กันนะ จะเลิกกันก่อน 5 ปี ตอนนั้นก็ทักต่อหน้าแม่เค้าด้วยนะคะ เราก็ตกใจคิดว่าเราก็ชินกับการดูดวงแล้วนะ แต่ว่าพอได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกนอยด์เหมือนกัน เก็บเรื่องนี้มานานก็ลุ้นอยู่ตลอดว่าจะรอดมั้ย จะมีเหตุการณ์อะไรทำให้เรามีปัญหากันมั้ย ก็พยายามทำทุกวันให้มันดีที่สุด ถ้าสุดท้ายมันผ่านมาได้เราก็รู้สึกว่าบางทีบางเรื่องในดวงก็เป็นเรื่องจริง บางเรื่องก็ไม่เกิดขึ้นจริง ก็แล้วแต่วิจารณญาณ”

แล้วที่ผ่านมามีเรื่องใหญ่ๆที่ทะเลาะกันมั้ย? “จริงๆการทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าเรื่องใหญ่เลยไม่มีนะคะ”

เก็บคำทักของซินแสมาตลอด 5 ปีเลยเหรอ? “ใช่ค่ะ ไม่เคยบอกใครเลย เพราะว่าทุกครั้ง บางทีคนทักคู่รักดาราเดี๋ยวก็เลิกกัน เอาจริงๆถามว่าเชื่อมั้ยเราก็เชื่อ เพราะมันก็เป็นจริง เราก็เห็นมาตลอด แต่มันก็เป็นเรื่องปกติที่บางคนจะไปกันรอด บางคนก็ไปกันไม่รอด เราก็คิดว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น เราก็ยอมรับชะตากรรมนั้น ถ้าเกิดไม่เกิดขึ้นเราก็คิดว่า เฮ้ย มันผ่านไปได้”

...

ตอนไปดูเค้ามีวิธีแก้ให้มั้ย ทำยังไงถึงจะประคับประคองให้มันผ่านไป? “ไม่มีค่ะ คือบอกไม่ใช่เลย แล้วซินแสนะเค้าบอกว่า ทางจีนถ้าบ้านใครเชื่อมากๆคือเลิกกันเลยนะคะ เค้าก็จะไม่ไปต่อกันเลย แต่ทางโอบเค้าไม่ได้เชื่อเท่าเรา แต่เราอะเป็นผู้หญิงดูดวงมันคิดว่าจะทำยังไงดี เขาก็บอกว่าอย่าไปคิดมาก”

แล้วระหว่างนี้ได้คุยกับโอบมั้ยเรื่องหมอดู? “หนูว่าเค้าไม่ทักเรื่องนี้เลย เพราะเค้ารู้ว่าเราเครียด จริงๆแล้วเค้าก็ไม่พูดถึงเลย คือใช้ชีวิตกันปกติ หมอดูก็บอกว่าถ้าคบกันถึง 5 ปี ก็ให้พากันมาดูที่นี่อีกรอบนึง”

แล้วไปอีกไหม? “ไม่ไปค่ะ ไม่ไป เพราะว่าความรักจริงๆมันก็อยู่ที่เรากำหนดนั่นแหละ”

อะไรทำให้คู่เราผ่านมาได้? “มันเป็นความที่เข้าใจกันแล้วก็อยู่ด้วยกันได้ รู้สึกว่าคู่เรามันไปด้วยกันได้ ณ ตอนนี้”

ตอนที่หมอดูทักเราคิดมั้ยว่าจะไปต่อหรือหยุด? “คือตอนนั้นเราก็คิดนะตัวเราอะไปต่ออยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ไม่รู้ว่าทางบ้านเค้ายังไง เพราะมีเชื้อจีน เราก็ไม่รู้ว่าทางบ้านเค้าซีเรียสกับเรื่องนี้มากแค่ไหน เราก็เลยคิดว่าถ้าเค้าบอกให้เราเลิกกันก็คงต้องตามนั้น แต่เค้าก็ไม่ได้พูดอะไร ทางแม่เค้าก็น่ารักมาก ไม่ได้พูดอะไรเลย”

เป็นเรื่องคาใจเรามาตลอด 5 ปี แล้วบอกโอบมั้ยว่าเราคาใจ? “ไม่ได้บอก ก็คือคุยกันวันแรกตั้งแต่ดูเสร็จเค้าก็รู้แล้วว่าเราเครียดมากจริงๆ เค้าก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่อยากจะไปย้ำเตือนด้วย”

คือมีเสริมอะไรมั้ย? “เสริมหมดเลย ตอนนี้เน้นเสริมอย่างเดียว ไม่ดูแล้วค่ะ (หัวเราะ)”

แล้วนอกจากซินแสคนนี้มีไปเช็กดวงกับคนอื่นเพิ่มเติมมั้ย? “ไม่ค่ะ ไม่มี จะดู เกี่ยวกับเรื่องงานปกติ จะไม่ถามเรื่องความรัก”

จะไม่ดูเรื่องความรักอีกแล้ว? “ถ้าเจอหมอดูคนไหนเค้าพูด เราก็ฟังได้ แต่ก็จะพยายามไม่เอาใจไปผูกมาก แล้วมันจะเครียด ไม่ใช่เราไม่เชื่อนะ เรื่องงานหรืออะไรต่างๆก็บอกให้เปลี่ยนอะไรเราก็เปลี่ยน เรารู้สึกว่าเราเป็นคนเชื่อ”

เราเสริมอะไรมาบ้าง? “ก็เน้นสี เห็นสีชมพู รถหนูเองค่ะ ถ้าเราเกิดวันศุกร์สีชมพู สีฟ้า มันจะส่งเสริมทุกอย่างของเรา เราก็เลยจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู ทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็จะชมพู ฟ้า เหลืองบ้าง มันก็จะมีหลายสิ่งที่เหมาะกับเราในแต่ละด้าน คือหนูดูเชี่ยวชาญเหมือนกันเนอะ (หัวเราะ)”

แสดงว่าทุกวันจะออกจากบ้านก็ต้องแต่งตามตารางสี? “ปรินต์แปะเลยค่ะ ปี 2565 ก็คือต้องอัปเดตใหม่ คือปีที่แล้วจำได้เลยว่าจันทร์อังคารเหลืองดำไม่ได้เลย ปีนี้ก็จะเยอะหน่อย”

ทริปยุโรปในรอบสองปีเป็นยังไงบ้าง? “มันก็เป็นบรรยากาศที่แบบเหมือนเราไม่ได้ไปมานาน ก็ตื่นเต้น ก็พยายามที่จะถ่ายรูปให้เยอะที่สุด เพราะว่าไม่รู้ว่าเราจะได้ไปอีกเมื่อไหร่ กลับมาก็ต้องทำงาน เราก็เลยไปก็ถ่ายรูปถ่ายวิดีโอไว้เยอะเลยค่ะ อย่างสวิตเซอร์ แลนด์ เราไม่เคยไปเราก็ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆที่นั่น ไปขึ้นเขาถ่ายรูปสวยๆ ส่วนปารีสเราก็ไปทานอาหารไปใช้ชีวิตปกติ”

...

คู่เรากับคู่แกงส้ม-ดาว ใครหวานกว่ากัน? “เค้าหวานกว่าเยอะ เค้างุ้งงิ้งกันสองคนตลอดเวลา ของเราไม่ค่อย ส่วนมากจะแยกไปกันสองคนมากกว่า ต่อหน้าคนอื่นไม่ค่อยกล้า”

หลังจากผ่านมา 5 ปีที่หมอดูทักวันนี้รู้สึกยังไงบ้าง? “ก็ดีขึ้นหลายระดับเหมือนกันนะคะ เราก็ใช้ชีวิตตามปกตินั่นแหละ ก็เชื่อในสิ่งที่ดีต่อไปแล้วเดี๋ยวสิ่งดีๆมันเกิดขึ้นเอง”.