• 18 ปีในวงการบันเทิง สุดกดดัน ถูกสวยไม่สวยเล่นละครไม่ได้เรื่อง
  • เจอปัญหาอารมณ์ที่แปรปรวนจากงานแสดง
  • สุดน้อยใจโดนคนด่าเป็นดาราหิวแสง

ถ้าเอ่ยถึงชื่อของ เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ เธอคือนางเอกเจ้าน้ำตาคนหนึ่งของวงการบันเทิง เพราะในสมัยที่ยังอยู่กับช่อง 7 บทดราม่าเจ้าน้ำตา น่าสงสาร เธอจะได้รับอยู่เสมอ 

จากวันแรกจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 18 ปีแล้ว ที่ เบนซ์ ปุณยาพร ทำงานอยู่ในวงการบันเทิง สร้างความสุขและรอยยิ้มให้แฟนๆ ในละครหลายสิบเรื่อง

ซึ่งล่าสุด เจ้าตัวได้เคลียร์คิวเพื่อมาพูดคุยอัปเดตชีวิตของตัวเองให้ได้ฟัง และเล่าเรื่องราวชีวิตที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเบื้องหลังชีวิตที่ดูสวยหรูของ เบนซ์ ปุณยาพร เธอนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง 

โดนด่าจนท้อเกือบถอดใจ

18 ปี ในวงการบันเทิง ไม่ใช่น้อยๆ จากวันแรกจนถึงวันนี้ วงการบันเทิงให้อะไรกับชีวิตของเบนซ์บ้าง งานนี้นักแสดงสาวได้เปิดใจบอกเล่าเรื่องราวและสิ่งที่ได้เจอให้เราฟังว่า 

"18 ปีในวงการบันเทิงของเบนซ์ สิ่งที่เบนซ์ได้เจอมาตลอด 18 ปี มันทำให้เบนซ์โตขึ้นมากค่ะ ทำให้เบนซ์มีความอดทนในการทำงาน ต่อไปถ้าเจออะไรก็ตามที่มันหนักๆ มันก็ทำอะไรเบนซ์ไม่ได้แล้ว เพราะเจออะไรมาเยอะ

ตลอดการทำงาน 18 ปี เบนซ์เจอมาหลายรูปแบบ ไม่เคยเจอทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย อย่างเริ่มตั้งแต่มาทำงาน เล่นละครเรื่องแรก ก็เล่นไม่ได้ คนก็ด่า เล่นอะไร ทำไมเล่นแบบนี้ เบนซ์โดนตำหนิ โดนวิจารณ์ โดนด่ามาตั้งแต่เด็ก ก็เลยเริ่มมีภูมิในการรับมือกับอะไรแบบนี้มาพอสมควร 

และอย่างที่บอกว่าชีวิตเบนซ์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันมีช่วงหนึ่งเบนซ์โดนด่าเยอะมาก จนทำให้เบนซ์มีคำถามกับตัวเองว่า เราเล่นละครไม่ดีเลยเหรอ โดนด่าทุกวันเลย โดนคนด่าคนล้อมาเป็นนางเอกได้ยังไงตัวดำปี๋ ไม่เห็นสวย

...

ตอนแรกที่โดนคนด่าเยอะๆ เบนซ์โกรธมากนะคะ ทำไมด่าทุกวันเลย ด่าว่าไม่สวยบ้าง เล่นละครไม่เก่งบ้าง ชีวิตตอนนั้นมันมีความกดดันเกิดขึ้นทุกวันเลย จนรู้สึกว่าไม่อยากเล่นแล้ว ไม่ไหวแล้ว

แต่พอมาคิดย้อนกลับว่าทำไมเราต้องยอมแพ้กับคำดูถูกของคน พอคิดได้เบนซ์ก็ไปเรียนแอ็กติ้งทุกวัน ดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายให้ตัวเองสวย ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองดีขึ้น พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ 

เบนซ์ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองให้คนยอมรับอยู่หลายปี พอเริ่มได้ยินคำชม เก่งขึ้น สวยขึ้น ทุกคนยอมรับในฝีมือการแสดงของเราตอนนั้นใจมันฟู กำลังใจมันมา มันรู้สึกดีมากๆ แฮปปี้มากๆ เป็นกำลังใจที่ทำให้เบนซ์อยากจะทำงานต่อไปอีก"

เริ่มอิ่มตัวกับการแสดง

และเพราะ เบนซ์ ปุณยาพร ทำงานในวงการบันเทิงมา 18 ปีแล้ว งานนี้เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่า ชีวิตในการเล่นละครของเธอนั้นเริ่มอิ่มตัว เริ่มมีความตันในบทบาทที่จะได้รับ และเธอก็วางแผนชีวิตเอาไว้เกี่ยวกับการทำงานในวงการบันเทิงให้เราฟังว่า 

"เอาจริงๆ 18 ปีในการทำงานในวงการบันเทิงมันเยอะมาก นานมาก แต่เบนซ์ก็ยังมีงาน มีคนเอ็นดูส่งงานให้ แต่เบนซ์วางแพลนชีวิตตัวเองเอาไว้ จะเริ่มทำธุรกิจ และอยากทำงานพิธีกร

เพราะเบนซ์ยอมรับว่าเล่นละครจนรู้สึกตัน รับบทมาหมดแล้ว และรู้สึกว่าตัวเองควรถอยออกมาบ้าง แต่ไม่ได้ทิ้งนะคะ อยากจะลองเปลี่ยนบทบาทให้ตัวเองบ้าง

เวลาที่เริ่มรู้สึกอิ่มตัว เล่นละครแล้วตันๆ เบนซ์ก็จะไปหาครูสอนแอ็กติ้ง เขาช่วยได้ ด้วยการล้างความรู้สึก ให้โจทย์ในการทำงานมาใหม่ อยากจะบอกเลยว่า การทำงานในวงการ การเป็นนักแสดงมันไม่ง่ายอย่างที่หลายคนคิด มอง และเข้าใจ"

ความน่ากลัวของอาชีพนักแสดง 

จากนั้น เบนซ์ ได้เล่าให้เราฟังถึงอาการที่เธอต้องเจอหลังจากที่มาเป็นนักแสดง โรคทางความรู้สึกที่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับคนในวงการ ซึ่งเบนซ์เคยเป็นถึงขั้นไปนั่งร้องไห้กับครูสอนแอ็กติ้ง

"หลายๆ คนมองว่าอาชีพนี้ทำงานง่าย รายได้ดี เราไม่ได้มาพูดๆ บทแล้วกลับบ้านนะคะ ลองมาเล่นเองแล้วจะรู้ ถ้ามองแล้วเห็นว่าชีวิตเราดูสวยหรู ซึ่งมันก็จริง แต่ขั้นตอนในการทำงานมันไม่ใช่แบบนั้น 

นักแสดงต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน ซีนแรกที่เล่นคือร้องไห้ มีใครอยากตื่นเช้ามาแล้วร้องไห้เลยบ้างมั้ย ทำงานตั้งแต่ตี 5 จนถึง 4 ทุ่ม วันนึงถ่าย 30 กว่าซีน ต้องเปลี่ยนอารมณ์ไปเรื่อยๆ มันไม่ใช่เรื่องง่าย 

...

เบนซ์เคยสลัดคาแรกเตอร์ตัวละครออกไม่ได้ ซึ่งบอกตรงๆ ตอนแรกไม่คิดว่าตัวเองจะเป็น คิดว่าตัวเองจะสลัดมันออกได้ แต่บางครั้งเราสลัดมันไม่ออก บางทีรู้สึกตัวว่า ทำไมเหวี่ยงจัง รู้สึกว่าตัวเองมีภาวะจิตใจที่ไม่ปกติ ก็พยายามไปผ่อนคลาย ไปคุยกับครูแอ็กติ้ง เล่าให้เขาฟังในความรู้สึก

และเบนซ์เคยจิตตกถึงขั้นไปนั่งร้องไห้กับครูว่าไม่อยากเล่นละครแล้ว เพราะไม่ไหวแล้ว อยากออกจากวงการ มันเหนื่อย ท้อ อาชีพนักแสดงต้องทำการบ้าน อ่านบทไปก่อน บางบทที่มันเครียดมาก เราก็ไม่หลุดจากมัน อารมณ์แปรปรวน

อาชีพนักแสดงมันก็มีความอันตรายในอาชีพนะคะ บางทีถึงขั้นที่ทำให้เราเป็นคนเซนซิทีฟได้เลย นั่งๆ อ่านข่าวเจอข่าวเศร้าร้องไห้ได้เลย จนรู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้า ป่วยรึเปล่า คนเป็นนักแสดงเราต้องเปิดทุกอย่าง"

น่าน้อยใจโดนด่าดาราหิวแสง

และนอกจากอาการทางอารมณ์ที่สลัดออกจากตัวละครไม่หลุดแล้ว งานนี้การเป็นคนในวงการบันเทิง ที่อยู่หน้าแสงสี ยังถูกคนด่าว่าง่ายๆ อีกด้วย ยิ่งคำว่า หิวแสง ยิ่งทำให้ เบนซ์ ปุณยาพร รู้สึกน้อยใจที่ถูกคนมองแบบนี้ โดนเบนซ์เผยความรู้สึกกับคำๆ นี้ให้เราฟังว่า 

...

"การทำงานเบื้องหลังก็ว่ายากแล้ว เบื้องหน้านักแสดงยังจะมาโดนคนด่าว่าหิวแสงอีก การที่เราทำอะไรบางทีเราไม่ได้หิวแสง แต่เราก็โพสต์นั่นโพสต์นี่ของเราไป แต่มันไม่ถูกใจคน คนก็มาด่ามาว่า

เอาจริงๆ ถ้าเบนซ์หิวแสงเบนซ์ทำตั้งแต่อายุ 18 แล้วค่ะ ชีวิตช่างน่าน้อยใจ แต่เบนซ์ก็พยายามคิดบวก เราห้ามความคิดคนไม่ได้ โลกโซเชียลทำให้คนได้เข้าใกล้เรามากขึ้น พอจะทำอะไรที่ไม่ถูกใจใครสักคนก็เป็นประเด็น เป็นดราม่าขึ้นได้

อย่างตอนนี้ เบนซ์ก็เสียใจและน้อยใจที่คนหาว่าเบนซ์หิวแสง ถ้าใครรู้จักเบนซ์จริงๆ เบนซ์เป็นคนแบบนี้ แต่อาจจะเป็นเพราะจังหวะนรก พอลงรูปก็เป็นประเด็น อย่างตอนนั้นที่โพสต์รูปกับพี่สงกรานต์ เตชะณรงค์ ก็โดนด่า

เราห้ามคนอื่นไม่ได้จริงๆ ก็คิดในทางที่ดีว่าตัวเองปัง (หัวเราะ) มองในแง่บวกเอา แสดงว่าคนสนใจเรา เขาก็เลยพูดถึง เบนซ์ไม่ได้หิวแสง เบนซ์ไม่เคยหิว และเบนซ์มีแสงอยู่ตลอดเวลา เพราะทุกอย่างมันมาเอง"

 

นักแสดงอิสระเปลี่ยนชีวิต

จากนั้น เราถาม เบนซ์ ปุณยาพร ถึงความรู้สึกหลังจากที่เธอได้ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ มันมีความอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ รับงานอะไรก็ได้รึเปล่า งานนี้นักแสดงสาวบอกกับเราว่า 

...

"พอเบนซ์เลือกมาเป็นนักแสดงอิสระ รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นเยอะมาก ได้เล่นบทที่ไม่เคยได้เล่น ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองไปเยอะมาก เมื่อก่อนเบนซ์ไม่เคยได้เล่นบทแรงๆ แซ่บๆ เลย เพราะตอนนั้นเบนซ์อยู่ในช่อง การที่อยู่ในช่อง ผู้ใหญ่ส่งบทอะไรมาก็ต้องเล่น

แต่พอตอนนี้เบนซ์เลือกได้ มีบทหลากหลายส่งมาให้ได้เล่น เบนซ์ก็เลือกบทที่ตัวเองสนใจ แต่ก็ยอมรับว่าพอมาเล่นแซ่บๆ ร้ายๆ แบบนี้ ก็ทำให้กลับไปเล่นบทเรียบร้อย ร้องไห้ เป็นน้องจืดก็น่าจะกลับไปได้นะ

เพราะแฟนๆ ก็คงอยากจะเห็นเรากลับไปเล่นแบบนั้นบ้างหลังจากที่ได้ดูเบนซ์แบบแซ่บๆ ไปแล้ว (ยิ้ม) เบนซ์เป็นนักแสดงอาชีพ เบนซ์ทำได้หมด เล่นได้หมดทุกบทบาทอยู่แล้วค่ะ"

ไม่ยึดติดบทนางเอก

จากนั้นเราถาม เบนซ์ ปุณยากร ต่อว่า เพราะต้องมาเป็นนักแสดงอิสระหรือเปล่า ถึงทำให้เบนซ์ไม่ได้เล่นเป็นนางเอกแล้ว ต้องมาเล่นบทแซ่บๆ ร้ายๆ งานนี้นักแสดงสาวจึงเล่าเรื่องจริงของวงการบันเทิงให้เราฟังว่า

"เบนซ์รู้สึกว่า นางเอกมาเล่นร้ายเยอะมาก และทุกคนก็ไม่ได้ยึดติดกับคำว่านางเอกแล้ว ตัวแม่ๆ ตัวใหญ่ๆ เขาก็มาเล่นร้ายกันเยอะนะ เล่นร้ายจนนางร้ายจะตกงานกันหมดแล้ว

ตอนนี้คนดูละครเปลี่ยนไป เมื่อก่อนจะเป็นอารมณ์แบบนิยาย ทุกอย่างต้องเพอร์เฟกต์ ละครสุดๆ ขาวเป็นขาว ดำเป็นดำ ไม่มีตรงกลาง แต่ตอนนี้ทุกช่องทุกค่าย เขาเอาความเป็นมนุษย์มาใส่ในตัวละคร คนก็เลยอิน ก็เลยชอบ 

เราต้องตามโลกให้ทัน ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไป วงการละครก็ต้องเปลี่ยนตาม เบนซ์เล่นละครทำงานมา 18 ปี เมื่อก่อนมันก็คือละคร ละครน้ำเน่าที่ทุกคนเรียก นางเอกต้องเรียบร้อย ผ้าพับไว้ นั่งร้องไห้ นางร้ายก็มาตบๆ ไม่สู้

แต่ปัจจุบัน เขาเอาความเป็นมนุษย์ ความมีชีวิตจริงๆ มาเล่นกันมาขึ้น ขอบคุณคนเขียนบท ผู้จัด ผู้กำกับ ที่เอาความจริงของมนุษย์ ชีวิตจริงๆ มานำเสนอเป็นละคร แต่สุดท้าย มันไม่ใช่แค่ความสนุก ความแซ่บนะ แต่มันมีแง่คิดอยู่ในนั้นทุกอย่าง สิ่งที่ตัวละครทำก็มีผลกรรมที่จะได้รับของแต่ละตัวละคร"

ไม่อายทำกินขยันไลฟ์สดขายของ

และอีกเรื่องที่ เบนซ์ ปุณยาพร ถูกหลายคนแอบตำหนิ ถึงการขยันทำงานของเธอเอง ที่ทำงานทุกอย่าง ทั้งธุรกิจความงาม ไลฟ์สดขายเสื้อผ้า ไม่รักษาภาพความเป็นนางเอกหรือนักแสดง ซึ่งเรื่องนี้เบนซ์อธิบายให้คนที่คิดแบบนั้นได้ฟังว่า 

"พอมาเจอโควิด และยุคนี้ด้วย งานละครเราถูกบีบ และเบนซ์อยากจะปิดบ้านให้ได้ เราก็ต้องหาเงิน เพราะเบนซ์เคยบอกไว้แล้วว่า งานในวงการบันเทิงไม่ได้ยั่งยืนอย่างที่เราคิดไว้ เราก็ต้องมีอาชีพเสริมเอาไว้อย่างที่ดาราหลายคนทำกัน

และยุคโควิดงานละครมันเลื่อนไปเรื่อยๆ แต่เราก็ยังมีภาระที่ต้องจ่าย ผ่อนบ้าน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ก็ต้องขยันต้องทำนู่นทำนี่ เบนซ์ห้ามความคิดใครไม่ได้ เราต้องเดินไปข้างหน้า

ถ้าคนที่มองการกระทำของเราเป็นสิ่งที่ดี เบนซ์ก็ขอบคุณ แต่ถ้าคนเขามองว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ดีเบนซ์ก็ห้ามเขาไม่ได้ ซึ่งเบนซ์ก็เสียใจที่เขามองเบนซ์อย่างนั้น แต่ห้ามไม่ได้จริงๆ (ยิ้ม)"

พลิกบทบาทเล่นแซ่บถูกใจแฟนละคร 

และตอนนี้ เบนซ์ ปุณยาพร กำลังมีผลงานละครเรื่องล่าสุดอย่าง ร่านดอกงิ้ว กับทางช่อง 8 ที่เป็นกระแสกับการพลิกคาแรกเตอร์ของเธอมาเล่นร้ายๆ แซ่บๆ จนคนอินกันทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่ง เพนนี หรือ เบนซ์ ได้เปิดใจเล่าถึงความรู้สึกหลังละครออนแอร์ให้ฟังว่า 

"เบนซ์ไม่ได้เล่นร้ายนานแล้ว พอกลับมาเล่นเรื่องนี้ ด้วยเนื้อหาของบท ตัวนักแสดงที่เล่นด้วยกัน ทุกคนส่งหมดเลย เบนซ์ก็ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนด้วยที่ช่วยส่งอารมณ์ให้ 

อย่างพี่ออย ธนา เคยร่วมงานมาแล้ว พอเข้าซีนด้วยกันก็เลยง่าย เพราะไม่รู้สึกเกร็ง ส่วนพี่ยุ้ย จีรนันท์ ไม่เคยร่วมงานกันเลย แต่พี่ยุ้ยน่ารักมาก เพราะส่งอารมณ์ อินเนอร์มาเต็มไปหมด มันเลยทำให้เบนซ์เล่นสุดได้เหมือนกัน เรื่องนี้เบนซ์เลิฟพี่ยุ้ยมาก ขอบคุณพี่ยุ้ยมากๆ 

ส่วนเรื่องเลิฟซีฟ ก็ร้อนแรงจัดหนักสมชื่อเรื่องค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เบนซ์เล่นเยอะขนาดนี้ ที่รับเล่นเรื่องนี้ เพราะเนื้อหาของละครที่ไม่เคยเล่น และรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนคาแรกเตอร์บ้างในสิ่งที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ก็เลยรับและเล่นเต็มที่จริงๆ

และพออ่านบทในเรื่องเบนซ์ต้องเลิฟซีนกับพี่ออยแค่คนเดียว ก็เลยโอเค มันไม่ได้เล่นเลิฟซีนกับหลายคน ยังอยู่ในลิมิตของการรับงานของเบนซ์ค่ะ"

แม้จะถูกแฟนละครด่าหนัก แต่งานนี้กลับทำให้นักแสดงสาว เบนซ์ ปุณยาพร ยิ้มกว้าง ดีใจที่ผลงานละครเรื่องนี้ทำให้แฟนๆ อินจัดว่า 

"คนด่าเต็มไปหมดเลย แต่ไม่เสียใจค่ะ (หัวเราะ) ดีใจมากที่ทุกคนชอบ และไม่คิดว่าการพลิกบทบาทของเบนซ์จะถูกใจคนดู จากที่เมื่อก่อนเบนซ์เล่นเป็นนางเอกจืดชืด ร้องไห้อย่างเดียว มาเปลี่ยนเป็นนางเอกร้ายๆ บ้างก็สนุกดีค่ะ

เริ่มติดใจกับบทแซ่บๆ ร้ายๆ รู้สึกสนุกดี มันเหมือนได้เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนชีวิต เป็นอะไรที่สนุกดี อย่ามาเรียกน้องจืดนะคะ ต้องเรียกเบนซ์ว่าน้องต้มยำกุ้ง (หัวเราะ) คนรอบข้างก็ตื่นเต้นกับละครเรื่องนี้ของเบนซ์ แม้ก่อนหน้านี้จะเคยเล่นแซ่บๆ มาบ้าง ร้ายแบบเด็กๆ

แต่เรื่องนี้มันคือชีวิตคนจริงๆ เป็นเรื่องของสามีภรรยา คนก็เลยยิ่งอิน คนรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวละครนั้นๆ เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว ทุกคนก็อยากจะเป็นเพนนี ถ้ามีผัวแบบนี้ก็ต้องจัดการแบบนี้แหละ คนเลยอินเข้าไปใหญ่ 

ยังไงเบนซ์ก็ฝากแฟนๆ ติดตามชมละครเรื่องร่านดอกงิ้ว ด้วยนะคะ เพราะเรื่องนี้มันสะท้อนชีวิตของคนจริงๆ ในสังคมเรา มีข้อคิดค่ะ ไม่ได้มีแต่ความสนุก ความแซ่บ นักแสดงทุกคนเต็มที่กับเรื่องนี้จริงๆ ทีมงานก็ตั้งใจทำงานกัน พวกเราฝากละครเรื่องนี้ด้วยนะคะ มาดูกันว่า บทสรุปของทุกตัวละครจะจบลงแบบไหนกันนะคะ"

ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา

กราฟิก : Anon Chantanant