ดีเจเผือก พงศธร ที่วันนี้จะมาเปิดเผยเรื่องที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน กับประเด็นติดตลก ทำคอนเทนต์ดูถูกผู้หญิง พร้อมเปิดเผยความรักกับภรรยาคนสวยที่คบกันมายาวนานกว่า 10 ปี ที่เจ้าตัวบอกเลยว่าเป็นตำนานดอกฟ้ากับหมาวัด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31 

ทำไมน้องลูกครับถึงดังมากในโลกโซเชียล?
"เขาเป็นเด็กที่ความจำดี เท่าที่ผมได้ถามมาเขาเป็นขวัญใจคนออกกอง เนื่องจากว่าลูกจ๋าจะชอบลงสตอรี่ของลูกครับช่วง 4 ทุ่ม ก่อนเขานอน ซึ่งเวลานั้นคนที่ออกกองจะเหนื่อยล้ามาก แล้วก็อยากเลิกกองกันเต็มที ผมได้คุยกับฝ่ายเสื้อผ้าเยอะมาก เขาได้ดูทำให้เขาหายเบื่อ หายง่วง ก็เยอะที่คอยตามดู"

ทำไมถึงชื่อลูกครับ?
"ก็มาจากชื่อแม่ครับ แม่ลูกจ๋า ผมก็อยากให้ชื่อลูกเหมือนกับชื่อแม่"

น้องเป็นคนที่มีความจำเรื่องตัวเลข อักษร ดีเกินเด็กปกติ?
"ผมไม่รู้ว่าจะเกินเด็กปกติหรือเปล่า แต่ว่าผมค่อนข้างประหลาดใจกับสิ่งที่เห็นเหมือนกัน"

ได้ไปคุยกับคุณหมอไหม ทำไมเขาถึงจำได้เยอะขนาดนี้?
"ตอนนี้เริ่มจะเขียนแบบยึกยือๆ เป็นตัวอักษรได้แล้วครับ เขาจะหลงไหลในตัวอักษรและตัวเลขมาก ด้วยความที่เขาดูคลิปด้วยมั้ง ยูทูบที่สำหรับเด็ก สอนออกเสียง"

...

เผือกบอกว่าห้ามใครบอกว่าลูกเก่ง ลูกฉลาดเหรอ?
"คือพยายามคุยกันเองกับลูกจ๋า เราเลี่ยงที่จะไม่บอกเขาแบบนี้ดีกว่า ผมไม่อยากบอกเขาว่าเขาฉลาด ผมว่าโตไปอาจจะมีผลลบกับเขา คือฉลาดหรือไม่ฉลาดเรายังไม่รู้ แต่เท่าที่เห็นความจำดีมากๆ"

ตอนนี้ลูกครับ 2 ขวบ 7 เดือน เลี้ยงง่ายไหม?
"เลี้ยงง่ายมาก แต่ตอน 4 เดือนมันยาก ยากทั้งเขาและเราสปอยล์เขาด้วย พอมาที่บ้าน วันแรกที่อุ้มกลับบ้านร้องจนถึง 8 โมงเช้า"

แต่กว่าจะมีน้องลูกครับได้พยายามมา 2 ปี ?
"2 ปีครับ สุดท้ายใช้วิธีอิ๊กซี่ครับ เด็กหลอดแก้ว แต่โชคดีที่ครั้งเดียวติด แต่ลูกครับนี่ผ่านการปั้นมาตั้งแต่กระบวนการธรรมชาติ นับวัน นับคืน ฉีดเชื้อตามสเตปเลย สุดท้ายมาเป็นวิธีอิ๊กซี่ ครั้งเดียวติด"

อยากมีคนที่ 2 ไหม?
"ตอนนี้ที่ตัดสินใจ คุยกับลูกจ๋าน่าจะคนเดียวแล้วครับ คือถามว่าไม่อยากได้ลูกสาวเหรอ ผมกลัวว่าอาจจะตึงเกินไปสำหรับสังคมตอนนี้หรือเปล่า เราก็อยากทุ่มเทให้กับเขาไปเลย ไม่รู้ว่ามี 2 แล้วจะเป็นยังไง เราก็พอใจกับครอบครัวเท่านี้ ไปไหนมาไหน มันสะดวก สบาย ลูกจ๋าก็ยังทำงานได้ ผมก็ยังทำงานได้ มันไม่มีใครที่ต้องตึงมาก"

ดีเจกับ AE ที่ตึกเขามีกฎว่า ดีเจกับ AE พิธีกร หรือดารา ห้ามคบกัน?
"คือกฎมันไม่ได้เป็นลายลักษณ์อักษรตอนเราเซ็นสัญญาว่าห้ามคบ AE"

เท่าที่รู้มาก็คบไปคบมาได้งานไปถึงต่างประเทศ?
"เคยได้ไปต่างประเทศ"

ตอนนั้นจีบเล่นๆ ไหม?
"คือสนามนี้เราไม่หวัง มันเป็นอีกลีกหนึ่งที่เราไม่เคยลงลีกนี้อยู่แล้ว คนอื่นสมมติไปงานคลื่น เขาก็จะใส่เสื้อคลื่น นี่มาเดรสดำ สะพายชาแนลใบนึง เราก็หูวว....นี่เหรอ AE ใหม่ ดูแพง ซึ่งตอนนั้นในคลื่นมันรวมวัยรุ่นพุฒ พุฒิชัย, เป๊ก เปรมณัช ช่วงนั้นทุกคนกำลังฮอตมาก แล้วเราเป็นไอ้เผือก"

ตอนนั้นไปจีบชนะหัวใจเขาได้ยังไง?
"มันผ่านเวลากันยาวนานเหมือนกันนะ มันมีช่วงที่หมาหยอกไก่ ใช้ความตลกเข้าว่าแต่ก็ไม่ได้จริงจัง เรารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ลีกของเรา ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่เราคบหา แต่เราชอบแนวแบบโอ้โห...อยากเด็ดดอกฟ้า มันต้องลองดูสักที"

ที่เขาบอกว่าดอกฟ้ากับหมาวัดจริงเหรอ?
"เรื่องจริงครับ ผมเป็นหมาวัด ก็เลยไม่ได้จริงจัง หมาหยอกไก่ หยอกๆ กัน พอมันจะเริ่มจริงจัง จังหวะเวลาไทมิ่งก็ยังไม่ลงตัว ผมเองก็ยังไม่ได้เคลียร์กับคนเก่า เขาเองก็มีคนที่คุยใหม่ มันก็มีช่วงที่แยกย้ายกัน เราก็รู้สึกว่าไม่น่าใช่

...

ตอนนั้นเผือกเป็นคนบอกเลิกกับจ๋า?
"มันเหมือนไม่ได้บอกเลิก มันเหมือนไม่ได้เริ่มต้น พอมันจะเริ่มจริงจัง ไม่ได้หยอกกันแล้วนะ เราเบรกกัน ผมหนีเลยครับ พอเริ่มรู้สึกไม่ใช่เล่นๆ แล้วผมก็แยกเลย ตัดไฟแต่ต้นลม ไม่เอาดีกว่า ก็แยกกันไป"

แล้วย้อนกลับมาได้ยังไง?
"สุดท้ายผมก็โสด ผมก็ไม่รู้ว่าเขายังไง แต่ก็ยังอยู่ในคลื่น แต่ว่าเราก็เลี่ยงที่จะไม่เจอกันตลอด จนมีวันหนึ่งผมไปงานคลื่น คลื่นจะเลือกดีเจคนหนึ่งไปถ่ายรูปให้ลูกค้า ผมก็ไปแล้ววันนั้นเป็นลูกค้าของเขา เขาก็ตามไปดูลูกค้า

แต่ทีนี้บรรยากาศพอมาเจอกัน เอาเลี่ยงไม่ได้ มันก็ตึงๆ ผมเองก็วางฟอร์มไม่เล่นแล้ว พอเสร็จงานผมก็ขับรถกลับบ้านมาติดตรงแยกปทุมวัน มีรถคันข้างๆ มาจอด มองไปคือลูกจ๋า ร้องไห้ในรถคันข้างๆ ผมก็เลยโทร.หาว่าเป็นอะไร เขาก็เหมือนว่าทำไมมันต้องขนาดนี้ มันจะคุยกันไม่ได้เลยเหรอ หลังจากนั้นมันก็เลยเป็นเหมือนการปลดล็อก ไทมิ่งเราเองก็ไม่ได้ติดค้างอะไรแล้ว ก็เลยได้ศึกษากัน"

พอมาเจอที่บริษัท ในออฟฟิศไม่ค่อยคุยกันนะ เขาจะแอบไปเจอกันที่บันไดหนีไฟ?
"จริงครับ ด้วยความที่อยู่ต่างชั้นกันด้วยครับ เรา 38 AE จะ 36 ระหว่างเดินมันก็หาจุดร่วมตรงกลาง ต้องเจอที่บันไดหนีไฟ เพราะเราใช้ลิฟต์ไม่ได้ครับ มันห่างโซนกัน ต้องเดินบันไดหนีไฟ แล้วตอนที่เริ่มคบหากัน เราก็จะมีประเพณีแลกอมยิ้มกัน วันศุกร์เราจะนัดกัน ก็จะเริ่มมีคนระแคะระคาย แป๊บเดียวก็ถึงพี่ฉอด"

...

พอคบกันแล้วบอกกับเพื่อนว่าเชื่อไหมกูคบไม่เกิน 6 เดือนหรอก?
"นั่งจัดรายการอยู่บอกโบว์เลย เต็มที่ให้ 6 เดือน ขอลองครั้งหนึ่งในชีวิต เราจะดูแลดอกฟ้าได้นานสักแค่ไหน คือตอนนั้นเราเป็นดีเจ เรื่องงานก็ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้มีหนังเปรี้ยงป้าง โปรไฟล์ชีวิตน่าเบื่อมาก ไม่เที่ยวกลางคืน กลับบ้านเล่นเกม มันเป็นชีวิตคนน่าเบื่อ

หรือตอนคบกันแรกๆ เขาจะไปเที่ยว ฟาลลาเบลล่า วิธีการพอเราเข้าไปมันไม่ใช่เลย นี่ไม่ใช่ที่ของเราเลย แล้วเขาก็เห็น ทุกครั้งผมก็ไปส่งเขา 2-3 ทุ่ม ไปส่งแล้วผมกลับบ้าน ตี 1 ขับรถออกไปรอรับ ผมรู้สึกว่ามันต่างกันมากเลยนะ

เขาเป็นคนที่สอนให้ผมจ่ายเงินเพื่อสิ่งที่เรียกว่าชาแนลเนี่ยครั้งแรกในชีวิต เป็นใบเล็ก 50,000 ก็ซื้อให้เขา ทั้งชีวิตไม่คิดว่าจะต้องมาซื้อ จ่ายเงินทำไม แล้วมันใบเล็กมาก ตอนนั้น 50,000 บาท เงินหมดบัญชีเลย แต่เขาแฮปปี้มาก"

ตอนนั้นเผือกคิดว่า 6 เดือนไม่รอด แล้วตอนนั้นอะไรที่ทำให้ผ่านวิกฤติได้?
"มันเหมือนคนสองคนที่มาเจอกันจริงๆ พอศึกษากันจริงๆ เขาไม่ได้เป็นไฮโซอะไร เป็นคนธรรมดาคนนึง แบล็กกราวนด์ครอบครัวเรากลายเป็นว่าเหมือนกันจนไม่น่าเชื่อ เป็นครอบครัวใกล้เคียงกัน เสียคุณแม่จากโรคมะเร็งเหมือนกันตั้งแต่เด็ก

คุยกัน มันเข้าใจกันหมดเลย กลายเป็นว่าเหมือนเขาคือเราในหลายๆ มุม ความใจร้อน ความเอาแต่ใจ เวลาทะเลาะกันต้องชนะ เถียงกันยังไงก็ได้ เรามีวิธีเถียงจนเราชนะ พอเจอคนนี้ใช้วิธีเดียวกับเราเลย เราก็เลยเห็นข้อเสียเราในตัวเขา ทำให้เราเข้าใจ ทุกอย่างมันค่อยๆ ปรับ เขาดึงลง เราเพิ่มขึ้น มันค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ"

...

นานไหมถึงแต่ง?
"5 ปี"

อยากจะบอกอะไรกับคนที่คิดว่าเราเป็นหนูตกถังข้าวสาร?
"เราช่วยกันเกี่ยวข้าวมากกว่า เขาเจอผม เขาก็ได้รับการปลูกฝังว่าเราต้องทำงาน เราต้องดูแลตัวเองได้นะ เพราะฉะนั้น เขาก็ดูแลตัวเองได้ ผมก็ดูแลตัวเองได้ มันก็เลยช่วยกันดูแลครอบครัว"

ลูกจ๋าดูหวาน แต่ตัวจริงดุมาก?
"ดุมาก เนื่องจากว่าเราหยอกกันจนได้เรื่อง เขาก็เลยรู้สึกว่ามันมีโอกาสที่เราจะไปทำเล่นๆ แบบนี้กับใครเขาบอกว่าเขาไม่ได้ไม่ไว้ใจเรานะ เขาไม่ไว้ใจคนอื่น เวลาไปเล่นละคร เลิฟซีนไม่ได้เลย

ตอนนั้น ไอซ์ อภิษฎา เข้าฉากกับผม เป็นคู่พระ-นางกัน ในบทมันต้องจุ๊บหน้าผากกัน คนเขียนบทเลี่ยงให้ผมแล้ว จุ๊บหน้าผากมันไม่ได้หวานชื่น ผมก็ไม่มั่นใจกับหน้าผากนี้ อาจจะโดนแน่ๆ จากหน้าผากผมก็เลื่อนลงกลางกระหม่อม ไม่ได้มีความพิศวาสอะไรเกิดขึ้นในซีนเลย"

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ?
"เขาไปเห็นทีหลัง ผมว่าเป็นประเด็นนี้มากกว่าที่ผมไม่ได้บอกเขาว่าวันนี้มีซีนนี้นะ แล้วเขาไปเห็น เรื่องใหญ่สิครับ เขาบอกว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมถึงไม่บอก ทำไมถึงไม่ให้เกียรติเขา โอเคหลังจากนี้ก็โนเลิฟซีนไปเลยดีกว่า"

เกี่ยวก้อยจับมือไหม?
"ตอนนั้นใช้ไหว้มากกว่า ไม่ค่อยได้เกี่ยวก้อยกันหรอก"

เป็นผู้ชายกลัวภรรยาไหม?
"กลัวครับ กลัวเขาอารมณ์ไม่ดีครับ ทำยังไงก็ได้ขอให้เขาตื่นมาอารมณ์ดี บ้านมันมีความสุข"

ดราม่าที่เป็นจุดเปลี่ยนในวงการบันเทิงของเราเลย?
"เกิดขึ้นในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร มันแบ่งเป็น 2 ช่วงหลักๆ ช่วงแรกเป็นรายการบ้าๆ บอๆ ที่ช่วยคนแก้ปัญหา เน้นตลก แล้วมันค่อยๆ จริงจัง จนมาถึงทุกวันนี้กลายเป็นซีเรียสไปแล้ว แล้วช่วงที่เปลี่ยนผ่าน เราได้รับสายนึง เป็นสายจากค่ายทหาร แล้วน้องมาปรึกษา

น้องเป็น LGBTQ บอกว่าต้องเข้าไปเกณฑ์ทหาร แล้วเวลาอาบน้ำเขาไม่ค่อยสบายใจ เขาโทร.มาทำไงดีพี่ เราจับเสียงตอนนั้นสายนี้เล่นได้ น่าจะสนุก ก็หยอกล้อกับเขา ในเชิงแบบว่าใครๆ ก็อยากไปตรงนั้น เราก็เล่นไป

ทีนี้พอจบรายการวันนั้นก็เริ่มมีคอมเมนต์ที่ไม่เห็นด้วยในสิ่งที่ผมพูด แล้วก็ ณ วันนั้นเป็นดราม่าครั้งแรกในชีวิตที่เราเคยเจอ ตั้งหลักอยู่ 1 อาทิตย์ วันนั้นทำให้ผมรู้เลยว่าพุธทอล์ค พุธโทร ไม่ใช่รายการบ้าๆ บอๆ อย่างที่เราทำกันมาแล้ว หลายคนต้องการฟังเราในเชิงจริงจังนะ เป็นรายการที่เป็นที่พึ่งของคนนะ อาทิตย์ต่อมาผมขอโทษ ผมบอกในสิ่งที่ผมตั้งใจ แล้วเปลี่ยนวิธีดำเนินรายการเลย"

คอมเมนต์อะไรแรงสุด?
"เขาบอกว่าเราเหยียดเพศ ซึ่งจริงๆ ผมเอ็นดูมากๆ ใครที่สนิทกับผม ผมเล่นกับผู้หญิงไม่ได้ ผมจะไปเล่นกับลูกสาวทั้งหลาย ผมจะไม่โดนอะไรจากภรรยา ผมรู้สึกว่าผมเป็นอย่างนี้ มันเลยรู้สึกว่ามันใจร้ายกับเรา เราเอ็นดูมากด้วยนะ ก็เลยชี้แจง การดำเนินรายการก็เปลี่ยนไปเลย แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก"

นอยด์มากขนาดไหน เห็นบอกว่ามันเป็นจุดที่แย่ในชีวิตการทำงานเลย?
"เราเป็นคนค่อนข้างไม่อยากเจอฟีดแบ็กไม่ดี โห...คราวนั้นมันดราม่า ทุกวันนี้มันก็เปลี่ยนไปแล้ว เราก็เรียนรู้กันไป แล้วมันทำให้เราเติบโตขึ้นภายในวันเดียว".