เป็นอีกหนึ่งคู่รักของคนในวงการบันเทิง สำหรับ นก ฉัตรชัย และ นก สินจัย ที่ครองรักกันมานาน 33 ปีแล้ว ซึ่งล่าสุด ทั้งคู่ได้มาเปิดเผยเล่าเรื่องราวชีวิตคู่ที่ไม่ค่อยได้เปิดเผยที่ไหนในรายการตีท้ายครัว ซึ่งพิธีกรได้เล่นเกมถามปุ๊บตอบปั๊บกับทั้งคู่ว่า 

แต่งงานกันมา 33 ปี ขอทดสอบใจกันนิดนึง ถามปุ๊บตอบปั๊บ แต่ถ้าเลือกไปทะเลกับภูเขา 2 จะเลือกไปไหน ซึ่งทั้งคู่ได้ตอบเหมือนกันคือทะเล และเมื่อถามถึงเดตแรกของทั้งคู่ นก ฉัตรชัย ตอบอย่างรวดเร็วว่า ร้านท่านหญิง แต่สำหรับ นก สินจัย บอกว่าจำไม่ได้ 

แต่สมัยก่อนดาราห้ามเป็นแฟนกัน และตอนนั้นก็เป็นพระเอกนางเอกซุปเปอร์สตาร์ด้วยกันทั้งคู่เลย งานนี้ นกหญิงก็ตอบทันทีว่า เขาไม่ได้ห้ามแต่ต้องแอบ แต่เมื่อถูกถามว่าจีบกันอย่างไร งานนี้ นกชายก็โบ้ยว่าต้องถามภรรยาว่าจีบยังไง 

นก สินจัย เลยอธิบายว่า เขาจะบอกว่านกเป็นคนจีบเขา ซึ่งดิฉันไม่ยอมรับ จากนั้น นก ฉัตรชัย ก็อธิบายต่อว่า เขาโทรมาหาก่อน ทำเอาภรรยาต้องรีบบอกว่า ตอนนั้นโทรไปเรื่องงาน งานนี้สามีก็รีบบอกว่า ก็โทรมาเรื่องงานแล้วก็ยังโทรมาอีก และจำได้ว่าผมขับรถไปรับที่บ้านเพื่อไปกินข้าว 

...

และเมื่อมาถึงคำถามของชิ้นแรกที่ซื้อให้กันคืออะไร งานนี้ นก ฉัตรชัย ตอบว่า พวงมาลัยดอกมะลิ ตอนนั้นยังไม่แต่งงาน เป็นดอกมะลิล้วนที่สั่งทำ ส่วนคำถามที่ถามว่าบอกรักกันล่าสุดเมื่อไหร่ นก สินจัย หัวเราะก่อนตอบคำถามนี้ว่า ปีแรก 

จากนั้นพิธีกรถามต่อว่า เวลาที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน เวลาจะง้อกันแค่กาแฟถ้วยเดียวก็จบเลย งานนี้ นกหญิง ตอบแบบขำๆ ว่าเขาใส่ยาอะไรก็ไม่รู้ และนกชายก็พูดขำๆ ติดตลกอีกว่า ใส่ยาอะไรเลิกหงุดหงิดซะที ซึ่งงานนี้ฝ่ายสามีก็ใส่น้ำผึ้งเข้าไป นี่คือวิธีง้อของนกชาย ส่วนนกหญิงนั้นไม่มีวิธีง้อสามี

เมื่อถามว่าเคยงอนกันนานสุดกี่วัน ก็ได้รับคำตอบที่ทำให้ทุกคนตกใจไม่น้อยว่า ทั้งคู่นั้นงอนกันนานเป็นปี ซึ่ง นก ฉัตรชัย บอกว่างอนชั่วกัปชั่วกัลป์ ไม่พูดด้วย ไม่มองหน้า อยู่แบบไม่มีตัวตน พิธีกรจึงถามว่าไม่อึดอัดเหรอ นก สินจัย ก็ตอบว่า เดี๋ยวเขาก็มาง้อ 

และเมื่อถามถึงความสวีต ทั้งคู่ก็บอกว่าชอบไปขับรถเล่นกันไปเรื่อยๆ 2 คน ช่วงโควิดก็ขับรถไปรอบกรุง ขับรถเล่น มันมีความสุข แต่บางทีก็เหมือนโดนหลอกมาดูโลเกชั่น 

จากนั้นพิธีกรถามถึงเคล็ดลับครองรักของทั้งคู่ ซึ่ง นก ฉัตรชัย ได้บอกว่า จริงๆ มันไม่ง่ายเลย การที่จะอยู่ด้วยกัน แล้วเกิดเรื่องขึ้นมาและเป็นเรื่องใหญ่ มันจะก้าวได้หรือไม่ได้ มันก้าวไปคนเดียวไม่ได้ มันต้องก้าวไปพร้อมๆ กัน ถ้าจะแยกก็ต้องแยกกันแล้วหาทางเพื่อกลับเข้ามาเจอกัน คุยกัน เพื่อก้าวข้ามไปด้วยกัน 

และ นก สินจัย ก็เสริมต่อว่า ทุกปัญหาไม่ได้มีสูตรแก้ตายตัว แล้วแต่สถานการณ์แล้วแต่คู่ อย่างของเราทำไมไม่คุยกันเป็นปีๆ คือถ้าคุยเลยมันอาจจะพัง

แต่ถ้าไม่คุยเลยก็อย่างที่พี่นกชายบอกคือต่างคนต่างเดิน เรารู้ว่าเราต้องใช้เวลาก็เลยต้องใช้เวลา ให้ทุกอย่างมันผ่อนคลายไปด้วยตัวมันเอง ทุกอย่างต้องปรับไปตามสภาพของคน 2 คนและสิ่งแวดล้อม 

...