เป็นกระแสร้อนๆ แรงๆ ข้ามวันอีกครั้ง กับซีรีส์เกาหลีใต้ที่ฮอตระดับโลก สควิดเกม Squid Game เมื่อ กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาเตือนถึงความรุนแรงในสควิดเกม ที่อาจทำให้คนดูเกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ แต่ก็โดนชาวเน็ตสวนกลับไปตรงๆ จากพฤติกรรมหลายๆ ครั้งของ คฝ. ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่มีความรุนแรงเกินเหตุกับผู้ชุมนุม หรือกรณีของ โจ้ ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตตำรวจยศใหญ่ ที่แสดงความรุนแรงมากต่อเหยื่อ อย่างเห็นได้ชัดๆ
สควิดเกม Squid Game ซีรีส์ดังเด่น นำโดย อีจองแจ รวมถึงทีมนักแสดงเล่นได้โดน ยังมีซุป'ตาร์หล่อโคตร กงยู มาขโมยซีนเล่นรับเชิญ เป็นคนชวนๆ ให้คนมาเล่นเกมด้วย
สควิดเกม Squid Game มีอะไรน่าคิดน่ารู้ มากกว่าความสะใจ ความรุนแรงที่ซีรีส์ สควิดเกม Squid Game ได้สะท้อนหลายแง่มุมให้กับคนดู บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยกับ ณ๊อบ ศฐาณพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ผู้บริหารบริษัท ณ๊อบโปรดักชั่นส์ Nob Productions เป็นอีกคนที่ตามติดบันเทิงเกาหลี มานานหลายสิบปี และทำงานหลายอย่าง เช่น เป็นโปรดิวเซอร์-ผู้กำกับหนัง-ซีรีส์ และเป็นอาจารย์พิเศษ สอนเกี่ยวกับด้านภาพยนตร์ ให้มหาวิทยาลัยดังด้วย
...
ณ็อบ ศฐานพงศ์ บอกเลยว่า สควิดเกม Squid Game ซีรีส์ได้เล่าประเด็นทางสังคม ที่มีการแบ่งชนชั้น เช่นเดียวกับหนังเกาหลี ที่ได้รางวัลออสการ์ เรื่องพาราไซต์ Parasite ชนชั้นปรสิต สังคมที่มีคนรวยสุดขีด มีคนที่ต้องหาเช้ากินค่ำ คนเป็นหนี้สิน รวมทั้งการจัดลำดับชั้น ความไม่เท่าเทียมในสังคม
แม้ผู้จัดการเกมต้องการสร้างสังคมในอุดมคติ ที่มีแต่ความเท่าเทียม แต่ผู้จัดการเกมยังคงอยู่ในลำดับชั้นสูงสุด และเป็นผู้ปกครอง มีการแบ่งเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมกฎ ที่เหมือนผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นลำดับยศ หน้ากากพิเศษตำแหน่งใหญ่สุด หน้ากากสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม ไล่ลงมา เหมือนตำรวจที่ไทยเราจะมียศต่างๆ ซึ่งการจะได้ยศต่างๆ ของตำรวจไทยนั้น ได้มาเพราะความรู้ความสามารถจริงๆ จากการทำงานหรือไม่ และมีที่มาที่ไปอย่างไร พวกเราคงรู้เห็น รู้ดีกันอยู่แล้ว
สควิดเกม Squid Game ซีรีส์ยังแสดงให้เห็นการทุจริตคอร์รัปชัน ที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป แม้กระทั่งผู้จัดการเกม ลงมาเล่นเกมด้วยตัวเอง ซึ่งเหมือนจะเป็นเรื่องไม่ปกติ แต่ที่เป็นปกติไปแล้วในสังคม
บันเทิงเกาหลีทั้งหมด ซีรีส์ หนัง เคป๊อป K-POP เป็นซอฟต์พาวเวอร์ Soft Power ที่ทรงพลังมากๆ สร้างมูลค่าเพิ่มทั้งทางตรงและทางอ้อมได้มหาศาล อธิบายเพิ่มกันหน่อยกับคำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ Soft Power คือการขยายอิทธิพล การเปลี่ยนแปลงความคิด การทำให้ผู้คนมีส่วนร่วม หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้อื่น โดยไม่ได้ใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญ ส่วนคำว่า ฮาร์ดพาวเวอร์ Hard Power คือการใช้อำนาจต่างๆ บังคับให้ทำตาม เช่น อำนาจเศรษฐกิจ อำนาจทางการทหาร เพื่อบีบบังคับให้ประเทศต่างๆ ต้องยอมปฏิบัติตามสิ่งที่เราต้องการ
ถ้าจำกันได้ ละครไทยเรื่องบุพเพสันนิวาส ก็เป็นซอฟต์พาวเวอร์ soft power ที่ดีเลย มีกระแสมากๆ ทำให้คนอยากแต่งชุดไทย ไปตามรอยละคร ไปเที่ยวตามโบราณสถานต่างๆ โดยไม่ต้องมีคนสั่ง!
กับสควิดเกม Squid Game คงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ สำหรับอุตสาหกรรมคอนเทนต์เกาหลี Content แต่ซีรีส์เรื่องนี้ น่าจะเป็นกรณีศึกษา ให้กับอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทย ในยุคการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ต้องถ่ายทำแบบนิวนอร์มอล New Normal เมื่อการถ่ายทำมีข้อจำกัดทางด้านสาธารณสุข เป็นความท้าทายของผู้สร้างซีรีส์ที่ต้องออกแบบงานสร้าง ความคิดสร้างสรรค์ให้เข้ากับยุค ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผู้สร้างอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทย ยังติดกับกับดักอยู่ 2 อย่าง
...
1. กับดักความคิด ที่ต้องประหยัดงบประมาณการสร้าง ด้วยงบประมาณที่มีจำกัด ทำให้ผู้สร้างปัจจุบัน ต้องคิดงานที่ประหยัดเงินมากที่สุด
2. กับดักความคิด ที่ไม่ก้าวข้ามเรื่องของการท่องเที่ยว (Film Tourism) ประเภทเยี่ยมชมหรือตามรอยสถานที่ โดยพยายามโยงฉากสถานที่โดยไม่มีเหตุผล เพราะมองว่าอาจจะได้การสนับสนุนจากภาครัฐ หรือหน่วยงานใดๆ
ทั้ง 2 กับดักนี้เอง เป็นปัจจัยสำคัญมากๆ ที่ทำให้อุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยยังพัฒนาไปได้ช้า.
