แค่ต้องออนแอร์ในช่วงสถานการณ์โควิดก็ว่าหนักหน่วงแล้ว แต่ ดวงตาที่ 3 ของผู้จัดฯ หน่อย บุษกร ยังต้องมาชนกระดูกชิ้นโตอย่าง แม่เบี้ย ช่อง 7 ที่พีกขึ้นทั้งเนื้อหาและเรตติ้ง ก็ต้องถือว่าเป็นงานหนักทีเดียว

ตั้งตารอ มิว นิษฐา-เจมส์ มาร์ ได้ฉายเน็ตฟลิกซ์

ดวงตาที่ 3 ถูกจับตามองตั้งแต่ก่อนถ่ายทำ เพราะเป็นการโคจรมาเจอกันของพระนางเบอร์ต้นของช่อง 3 อย่าง มิว นิษฐา และ เจมส์ มาร์ ที่สำคัญเป็นการเจอกันครั้งแรกของคู่นี้ที่แฟนๆ รอมานาน และ เจมส์ เองยังพลิกคาแรกเตอร์มาเล่นคอมเมดี้เรื่องแรกยิ่งน่าติดตาม

จริงๆ การเจอกันของ มิว-เจมส์ คาดหวังว่าจะได้ดูบทที่ฟาดฟัน สาดอารมณ์กันแบบได้โชว์ฝีมือขึ้นหิ้งของทั้งคู่ แต่ไม่เป็นไร คอมเมดี้ก็วัดฝีมือเทพได้ ตั้งตารอดูการสาดมุกโบ๊ะบ๊ะให้ขำกันท้องแข็งแทน

และยิ่งคาดหวังมากขึ้นเมื่อ ดวงตาที่ 3 เป็นละครอีกเรื่องที่ถูกเลือกลงฉายทางเน็ตฟลิกซ์ด้วย แถมมาในจังหวะนี้ต้องบอกว่ากำลังพอดี เพราะเบรกอารมณ์เครียดกันบ้างกับละครแนวผีๆ ฮาๆ แถมแต่ละตัวละครแก๊งฮามีทั้ง แพท ณปภา, อ้น ศรีพรรณ, ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ แค่ชื่อก็รอหัวเราะแล้ว

...

เรตต้ิงเปิดตัวแผ่ว

เปิดเรื่องมาสิ่งที่ต้องชื่นชมเลยคือ ภาพสวยสมมาตรฐานฉายเน็ตฟลิกซ์ เรื่องภาพสวยนี่ยกนิ้วให้ แม้จะขัดใจกับซีจีผี และการแต่งหน้าเอฟเฟกต์ผีบางตอนที่ไม่สมจริง แต่ก็ไม่ถึงกับรับไม่ได้ สตาร์ตตอนแรก ดวงตาที่ 3 เรตต้ิงยังไม่ดีเท่าไร อยู่ที่ 1.9 ผิดคาดเล็กน้อยกับดาราระดับแม่เหล็กอย่าง มิว-เจมส์

EP.2 EP.3 เรตติ้งนอกจากไม่ขยับ ยังตกลงไปอยู่ที่ 1.8 เนื้อเรื่องช่วงแรกแอบรู้สึกว่า ดวงตาที่ 3 ให้น้ำหนักสะเปะสะปะ อยู่ๆ ก็ไปทางผีตลก อีกแป๊บก็ตัดไปทางกุ๊กกิ๊กป๊อปปี้เลิฟพาร์ตอดีตของพระนาง เดี๋ยวก็ตัดไปชีวิตพระเอกที่มีกลิ่นดราม่า บางตอนเดินเรื่องช้า วนลูปอยู่กับมุกที่จะว่าตลกก็ยังไม่สุด พอไม่เข้าเรื่องซะที เลยไม่ทันใจคนยุค 5G เท่าไร บวกกับชน แม่เบี้ย วีกที่เข้มข้นมากๆ 2 สัปดาห์แรกของ ดวงตาที่ 3 เรตติ้งก็เลยยังนิ่งอยู่แค่ 1

มาวีกที่สามของ ดวงตาที่ 3 เข้าพาร์ตปมของนางเอก กับปริศนาว่าเธอใช่ผู้หญิงคนเดียวกับคนในอดีตของพระเอกหรือเปล่า เรื่องเริ่มน่าติดตามขึ้น เรตติ้งขยับขึ้นเยอะทีเดียว EP.4 2.1, EP.5 2.4 ขณะที่ แม่เบี้ย เรตติ้งพุ่งไปที่ 6 ซึ่งต้องบอกว่าในสถานการณ์ตอนนี้และเป็นละครช่อง 3 ที่ไม่ค่อยวัดกันที่เรตติ้งเป็นหลัก ตัวเลขนี้ 2.4 ถือว่าไม่ธรรมดา

วีกที่ 4 ที่กำลังจะออนแอร์ต้องมาลุ้นกันว่า ดวงตาที่ 3 ที่ต้องชนกับสัปดาห์ตอนจบของ แม่เบี้ย เรตติ้งจะร่วงลง หรือจะขยับขึ้นเท่าไร แต่ดูจากกราฟเรตติ้งแล้วน่าลุ้นว่า หลังแม่เบี้ย กระดูกชิ้นโตจบ ในห้วงเวลาที่คนไทยต้องการเสียงหัวเราะ ดวงตาที่ 3 เรตติ้งอาจจะมาก็ได้ เพราะจากตัวเลข 1 ขึ้นมา 2 ในสัปดาห์เดียวก็ต้องบอกว่าความเป็นละครผี ตลก น่าจะถูกปากคนดูไทยตามสูตรอยู่ไม่น้อย

ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ ไม่ทำคนดูติดหนึบ

หนึ่งเรื่องที่สังเกตกับการเล่าเรื่องของละครสองเรื่องของช่อง 3 ที่ลงเน็ตฟลิกซ์แบบ DOB (Date-Of-Broadcast) หรือการออนแอร์ในเน็ตฟลิกซ์แบบวันต่อวันพร้อมกันกับที่ฉายที่เมืองไทย ตั้งแต่ให้ รักพิพากษา มา ดวงตาที่ 3 คือเส้นเรื่องจะมีความเป็นซีรีส์จบในตอนอยู่หน่อยๆ แต่จะผูกเรื่องราวแกนหลักซ้อนไว้ในเรื่องที่ผูกขึ้นมาให้คลี่คลายเป็นตอนๆ ไป

...

ดวงตาที่ 3 จะมีปริศนาของผีแต่ละตัวที่ตัวเอกจะต้องมาช่วยกันคลายปมให้ไปสู่สุคติ ขณะที่ ให้รักพิพากษา ก็แนวเดียวคือคลายปมแต่ละคดีให้จบเป็นเรื่องๆ เคลียร์เรื่องนี้จบเริ่มอีกเรื่องใหม่ โดยมีแกนหลักของเรื่องดำเนินควบคู่ไปด้วย

ก็ไม่รู้เป็นความบังเอิญ หรือว่าต้องทำให้ถูกปากกับแฟนๆ เน็ตฟลิกซ์ประเทศอื่น แต่แอบรู้สึกว่าการเล่าเรื่องแบบนี้ อาจยังไม่ใช่แนวของละครโทรทัศน์ไทย มันยังไม่สนุกพอที่จะตรึงคนดูให้ติดตามแบบตอนต่อตอน เข้าทำนองดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ หากจะมาแนวทางนี้ ความเข้มข้น หรือปมต่างๆ อาจต้องล็อกคนดูในติดหนึบให้ได้มากกว่านี้

หน่อย บุษกร เองก็ยังยอมรับกับไทยรัฐออนไลน์ว่า เรื่องที่หนักใจมากที่สุดในการทำละครคือ การเดาใจคนดู เพราะคนทำละครแน่นอนก็อยากให้คนดูและชอบละครที่ทำ แต่เรื่องความนิยมก็เป็นเรื่องเหนือการควบคุม จะเปรี้ยงไม่เปรี้ยง บางทีก็เป็นเรื่องของจังหวะ เธอจึงไม่เอามากดดันตัวเอง ขอแค่งานออกมาแล้วโอเค เธอก็โอเคกับมัน

...

ยังไม่อยากให้ถอดใจ เพิ่งเริ่มกันไป 5 EP. ยังต้องให้โอกาสดูกันต่อไปยาวๆ อย่างหนึ่งต้องชื่นชมกับคนที่กล้าทำละครที่แหวกแนวดราม่า ตบตี ผัวๆ เมียๆ ที่เรียกเรตติ้งได้แน่นอน มาทำละครสร้างเสียงหัวเราะที่ไม่มีพิษไม่มีภัยเช่นนี้.

เรื่อง : ดินสอเขียนฟ้า
กราฟิก : Sathit Chuephanngam, Chonticha Pinijrob

...