- ทำความรู้จัก มาร์ค ศิวัช หนุ่มหน้าใสเจ้าเสน่ห์ขวัญใจสาวๆ
- หนุ่มหล่อจากเมืองชลที่หลงใหลในเส้นทางวงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็กๆ
- ภูมิใจในความพยายามและความทุ่มเทของตัวเอง
เรียกว่าหล่อ ครบสูตรเลยทีเดียว สำหรับ มาร์ค ศิวัช จำลองกุล ที่แจ้งเกิดจนมีชื่อเสียงโด่งดังจากซีรีส์เรื่อง "Love by chance บังเอิญรัก" มีแฟนคลับติดตามกันเป็นจำนวนมาก
มาร์ค ไม่ได้เพียงแค่หล่อเพียงอย่างเดียว แต่เขายังมีความฝันที่แน่วแน่มาตั้งแต่เด็ก คือการเข้ามาทำงานวงการบันเทิง และก็ไล่ตามความฝันจนประสบความสำเร็จกระทั่งทุกวันนี้
ล่าสุด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่ม มาร์ค ศิวัช บอกเลยว่า ถ้าได้รู้จักตัวตนจริงๆ ของ มาร์ค ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม แฟนคลับที่ติดตามถึงได้หลงรักผู้ชายคนนี้มากขนาดนี้
หนุ่มน้อยที่หลงใหลวงการบันเทิงตั้งแต่เด็ก
"ผมต้องขอย้อนก่อนไปเลยประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว จริงๆ แล้วผมเป็นเด็กต่างจังหวัดครับ ผมเป็นคนชลบุรี ตอนนั้นประมาณช่วง ม.2-ม.3 จะเหมือนกับว่า ผมเพิ่งจะเล่นอินสตาแกรมแล้วลงรูปมั่วๆ แบบเด็กๆ แล้วมีเพจเอารูปไปลงบ้าง ก็มีคนติดต่อเข้ามาครับ ว่าสนใจนะ อยากให้เข้ามาแคสต์งานที่กรุงเทพฯ หน่อย
เลยปรึกษากับคุณแม่ดูว่า เราทำอย่างงี้ดีมั้ย และด้วยคุณแม่เมื่อตอนช่วงวัยประมาณผม คุณแม่เขาก็มีความฝันเหมือนกันว่าอยากอยู่บนจอทีวี เป็นนักแสดง เขาก็เลยสนับสนุนผมครับ พอได้มีโอกาสลองเข้ามาแคสต์งานในกรุงเทพฯ ตอนนั้นก็ผ่านการคัดเลือก
ก็ได้มีโอกาสเล่นซีรีส์ และเล่นมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ครับ ซีรีส์เรื่องแรกผมว่าถ้าผมจำไม่ผิดนะครับคือเรื่อง "I AM YOUR KING ผมขอสั่งให้คุณ" หลังจากนั้นมาก็น่าจะเป็นเรื่อง "Please เสียงเรียกวิญญาณ" หรือว่าไปประกวดเวที Smart Boy ปี 2016 ของช่อง 7 ก่อน อันนี้ผมไม่ชัวร์นะครับ เพราะผมเป็นคนจำอะไรไม่ค่อยได้ เพราะช่วงเวลามันใกล้ๆ กันครับ"
...
ภูมิใจกับความพยายามและทุ่มเทของตัวเอง
"ถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปมั้ย เปลี่ยนไปแทบจะทุกอย่างมากๆ เลยครับ เพราะตอนที่ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด ผมอยากจะทำอะไรก็สามารถทำได้ โดยที่เราไม่ต้องมาห่วงภาพลักษณ์
ซึ่งพอเราเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ตรงจุดนี้ รู้สึกว่าเราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม อาจจะเป็นในสิ่งที่ดีๆ เผื่อวัยรุ่นต่อไปใครที่เห็นจะได้เอาไปทำตามในสิ่งที่ดีๆ ก็มีทั้งเรื่องหลายๆ อย่างที่คุณแม่เขาสอนไว้ มีสติการใช้ชีวิตในทุกเรื่อง"
"แต่ผมภูมิใจมากนะครับ ที่เราทุ่มเทและพยายามมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ต้องขอบคุณตัวเองด้วย แต่ว่ามันอาจจะยังไม่ใช่ที่สุดหรือเป้าหมายของที่สุดที่เราวางไว้ ก็ต้องค่อยๆ ก้าวทีละก้าวต่อไปครับ
จุดสูงสุดที่วางไว้คือจริงๆ ผมอ่ะมีเยอะมาก ผมวางไว้เป็นสเตปค่อยๆ ก้าวขึ้นไป อยากลองเล่นภาพยนตร์ อยากเล่นฮอลลีวูดครับ ค่อยๆ ไต่ไปเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสจริงๆ จะทำให้เต็มที่ที่สุดครับ ถ้าได้รับโอกาสนี้ อยากให้คนทั่วโลกเห็นว่าเรามีความสามารถนะ"
"ตอนนี้ยอดฟอลโลว์ในอินสตาแกรมของผมถึงหลักล้านแล้ว ก็ภูมิใจมากๆ ครับที่แฟนๆ คอยซัพพอร์ตโดยตลอดเลย ตั้งแต่เรื่องแรกๆ จนมาถึงปัจจุบัน ก็ขอบคุณทุกๆ คนจริงๆ ครับ ขอบคุณมากนะครับ"
คุณแม่คือ FC อันดับหนึ่งซัพพอร์ตทุกอย่าง
"ถามว่าที่บ้านภูมิใจมากน้อยขนาดไหน โอ้โห (หัวเราะ) คุณแม่ภูมิใจมากๆ เขาบอกไว้ว่าแม่เขาก็มีความฝันเหมือนกัน เขาอยากมาอยู่ในจอทีวี พอเห็นลูกทำได้ก็เหมือนคุณแม่เขาประสบความสำเร็จในด้านสิ่งที่เขาฝันไว้ เวลามีงานอะไรคุณแม่เขาจะไปดูด้วยตัวของเขาเองเลย เรียกว่าทุกงานเลยดีกว่า
ผมมีพี่ชาย ผมเป็นน้องคนสุดท้องครับ ถามว่าที่บ้านเคร่งครัดกับลูกๆ มั้ย เคร่งครับ เพราะคุณแม่เป็นครู คุณพ่อเป็นทหาร ตอนเด็กๆ เขาบอกว่าจะต้องไปเป็นหมอ เป็นวิศวะ แต่ตอนมัธยมผมตั้งใจเรียนมากๆ เลยนะครับ เพื่อที่จะได้ทำตามความฝันด้วย ตอนเด็กๆ ผมก็ฝันนะว่าอยากเป็นทันตแพทย์ด้วย
แต่พอเราได้มีโอกาสมาเดินในเส้นทางบ้านเทิง เลยรู้สึกว่าในเมื่อเราอยู่ตรงนี้ เราก็ทำตรงนี้ให้เต็มที่แล้วกัน แม้ว่าการเรียนอาจจะดรอปลงไปบ้าง แต่เราก็โอเค เพราะเราพยายามในสิ่งตรงนี้เหมือนกัน
แต่แม่เขาก็ยังเป็นห่วงเหมือนเดิมนะ เพียงแต่จาก 100% อาจจะเหลือประมาณ 80% เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ พี่ชายผมเรียนเกี่ยวกับการบิน ส่วนผมเรียนวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นวัตฯ เรียนเกี่ยวกับการทำภาพยนตร์ครับ แต่ผมเรียนเอกการแสดงด้วยครับ ก็จะตรงกับสายพวกนี้เลย"
...
สายแฟชั่นตัวยง
"จริงๆ แล้วสายแฟชั่นตัวยงอาจจะเป็นเมื่อก่อนด้วย เพราะเมื่อก่อนชอบแต่งตัว แม้ว่าจะไม่ค่อยจะเข้ากันก็เอามาแต่งได้หมด แต่พอช่วงนี้ก็อาจจะเป็นผู้เป็นคนขึ้นหน่อย โตขึ้นหน่อย ดูดีขึ้นหน่อย แฟชั่นก็อาจจะลดลงหน่อย แต่อาจจะมีบ้างแซมๆ เล็กๆ น้อยๆ ไป"
"แต่ตัวตนจริงๆ ผมเป็นคนสบายๆ นิ่งๆ สมมติว่าสนิทกันเลย หรืออย่างเพื่อนสมัยมัธยมก็จะเป็นคนดูกวนๆ ครับ ถามว่าพูดเก่งมั้ยถ้าสนิทกันก็จะพูด ถ้าเป็นเพื่อนก๊วนเดียวกันก็จะพูดเยอะหน่อย แต่ว่าถ้ามาในส่วนของการทำงาน การรีแลกซ์จะสบายๆ มากกว่า"
หายป่วยจากโควิด แข็งแรง 100%
"แข็งแรงเหมือนเดิมครับ แต่จริงๆ ช่วงป่วยโควิดผมก็แข็งแรงนะครับ ตอนที่ป่วยผมมีอาการแค่เจ็บคอเป็นหลักมากกว่า แต่พวกไข้มีแค่วันแรก จากนั้นก็ปกติเลย ไม่ได้ป่วยนอนซมหลายวัน"
"อยากจะฝากถึงทุกคนนะครับ ช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด อยากให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือบ่อยๆ ครับ เพราะว่าเชื้อโรคจะได้ไม่เข้าสู่ร่างกายของเรา ดูแลตัวเองกันด้วยนะครับ พักผ่อนให้เยอะๆ นะครับ สู้ๆ นะครับ"
...
ซีรีส์เรื่องล่าสุด "ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITE ME"
"กับเรื่องนี้มีพี่ๆ ทีมงานเขาแนะนำมาครับ จริงๆ บทของ เอก กว่าจะมาถึงผมก็มีหลายๆ คนก่อนหน้านี้ เพราะจริงๆ เรื่องนี้เวิร์กช็อปกันมาเป็นปีๆ เลยครับ จนสุดท้ายก็มาลงตัวเป็นทุกคนในเรื่องอย่างที่เห็นครับ"
"รู้สึกดีใจที่ได้รับบทนี้ด้วย และรู้สึกสนุกไปกับตัวละครตัวนี้และเรื่องนี้ ด้วยความที่ตัวละครตัวนี้มันมีความฝันที่อยากเป็นเชฟครับ เลยทำให้ผมได้เปิดประสบการณ์อะไรใหม่ๆ ด้วย เช่น การไปเวิร์กช็อปทำอาหาร ซึ่งผมอาจจะไม่มีพื้นฐานด้านนี้มาก่อน เลยทำให้ผมได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยครับ
ถามว่าซีรีส์เรื่องนี้ยากมั้ย ยากครับ ถามว่าปรับเปลี่ยนอะไรมากมาย จริงๆ อาจจะไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากครับ ด้วยคาแรกเตอร์ของเอก บทที่ผมเล่นกับตัวผมจะมีความคล้ายคลึงกัน ในส่วนที่ยากจะเป็นพวกตัวบท ซีนอารมณ์ ซีนดราม่า แล้วก็จะเป็นส่วนของการเป็นเชฟครับ ตรงนี้จะยาก
อย่างที่ผมบอกไปว่าผมอาจจะไม่มีพื้นฐานด้านการทำอาหารหรือการเป็นเชฟ แต่ว่าผมต้องแสดงให้ดูเหมือนว่าผมเป็นเชฟมืออาชีพจริงๆ มันจะยากตรงนี้
ถ้าถามว่าเคยทำอาหารทานเองมั้ย ทำบ้างครับ แต่ไม่ได้มีสกิลเป็นเชฟขนาดนั้น ส่วนการขับมอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร ไม่ได้ยากสำหรับผมเลย เพราะโดยพื้นฐานผมขับมอเตอร์ไซค์เป็นอยู่แล้ว อาจจะง่าย"
"บทของ เอก กับตัวจริงของ มาร์ค จริงๆ มีความคล้ายคลึงมากกว่าความแตกต่างครับ ด้วยอายุที่เท่ากับอายุจริงๆ ของผมด้วย แล้วก็ยังเป็นเด็กมหาวิทยาลัยอยู่ อยู่ปี 3 ขึ้นปี 4 และผมเป็นคนต่างจังหวัดอยู่แล้วด้วย เลยคล้ายคลึงครับผม
ด้วยความคิดพื้นฐานหรือว่าการอบรมเลี้ยงดูจากคุณแม่ ก็คล้ายๆ ตามบทเลย ที่แม่นวลเลี้ยงเอกมาด้วยความอบอุ่น ประมาณนั้นเลยครับ แต่ความแตกต่างก็เป็นในส่วนของเชฟนี้ล่ะครับ"
...
"คาแรกเตอร์ของ เอก เป็นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป ที่มีความฝันว่าอยากเป็นเชฟระดับโลก แต่คุณแม่เขาอยากให้ลูกไปในทางที่ดี ทำงานดีๆ ซึ่งเอกก็รักแม่ ไม่อยากให้แม่ผิดหวัง แต่ความฝันลึกๆ ของเรา เราอยากจะเป็นเชฟ พอเราได้มีโอกาสมาเจอกับร้านอิ่มเอื้อเลยทำให้ความฝันเราเติบโตต่อไปครับ
แล้วก็เป็นพนักงานส่งอาหาร ก็เป็นงานเสริม หาเงินเลี้ยงดูตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยด้วย บทนี้ผมชอบมากๆ เลยครับ เพราะเราได้เปิดประสบการณ์อะไรหลายๆ อย่าง เหมือนตัวซีรีส์เรื่องนี้ได้พาผมไปทำอะไรที่มันนอกกรอบมากๆ ครับ"
ร่วมงาน ซุง กิดาการ ครั้งแรก
"เรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลยที่เป็นเชฟครับ และเป็นการร่วมงานกับพี่ซุงครั้งแรกเลย เจอกันในวันเวิร์กช็อปเป็นครั้งแรกอีกด้วยครับ ซึ่งผมรู้แค่ผมอ่ะเล่นเป็น เอก แล้วผมต้องเล่นกับคนที่เล่นเป็นเชฟ ก็คือ เอื้อ ซึ่งผมไม่รู้นะว่าเป็นใครที่เล่นเป็นเชฟเอื้อ
พอผมเข้าไปในห้องเวิร์กช็อปเจอพี่คนนึงทำหน้าตาเคร่งขรึม ผมว่าคนนี้ต้องเป็นเชฟเอื้อแน่ๆ เลย เพราะว่าจากที่อ่านบทมา เชฟเอื้อ เนี่ย เป็นผู้ชายวัยทำงานแล้ว ด้วยตำแหน่งของเขาเป็นเจ้าของร้าน จังหวะที่ผมเจอพี่ซุงครั้งแรก ก็คิดว่าคนนี้แหละ น่าจะเป็นเชฟเอื้อในสิ่งที่เราคิด แล้วก็เป็นจริงๆ
วันแรกที่เจอกันผมเป็นคนชวนพี่ซุงคุยก่อนครับ เพราะรู้สึกว่าอย่างน้อยจะได้รู้สึกผ่อนคลาย สบายกันด้วย แต่ด้วยความที่พี่เด (เดวิด บีแกนเดอร์ ผู้กำกับ) เขาเป็นคนเวิร์กช็อปแอ็กติ้งให้กับพวกเรา แล้ววันที่ผมเข้าไป ก็เป็นการเจอพี่เดครั้งแรกเหมือนกันด้วย คือผมใหม่มากๆ พี่เดกับพี่ซุงเขาเคยเจอกันมาก่อนแล้ว
แต่พี่เดเขาก็ไม่ละลายพฤติกรรมกันก่อน ไม่แนะนำให้เรารู้จักกันนะ แต่เขาส่งบทให้และเล่นเลย แรกๆ เลยจะมีความเกร็งๆ กันหน่อย แต่ผมก็พยายามชวนพี่ซุงคุย จะได้สบายๆ กันหน่อยครับ"
ขอบคุณทุกการตอบรับจากแฟนๆ
"ตอนนี้ซีรีส์เพิ่งออนไปได้ประมาณ 2EP ผมเห็นจากในสื่อโซเชียลครับ ก็เป็นไปในทางที่ดีครับ ก็ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับฟีดแบ็กการตอบรับทุกอย่างเลย ขอบคุณมากจริงๆ ครับ ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นจะบอกว่า ภาพสวย อาหารน่าทานมากๆ ใครดูตอนดึกต้องหิวแน่ๆ หรือว่าหนังเรื่องนี้จะต้องทำให้ฉันอ้วนแน่ๆ แต่ว่าในส่วนของตัวเนื้อเรื่องและแอ็กติ้งไปในทางที่ดีครับ
เมนูไหนที่ผมชอบเป็นพิเศษเหรอครับ ผมชอบแกงเขียวหวาน เพราะว่าด้วยความที่ปกติผมชอบกินเมนูง่ายๆ พวกแบบผัด ทอด แต่ว่าพอมาเล่นเรื่องนี้ได้ทำเมนูต้ม แกงเขียวหวาน ต้มข่า ซึ่งมันใช้สมุนไพรของบ้านเราเยอะมากๆ ผมชอบด้วย"
"สุดท้ายนี้ผมขอฝากซีรีส์ ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME ด้วยนะครับ ตอนนี้ออนแอร์ไปได้ 2 อีพีแล้ว บอกเลยว่าอีพีต่อๆ ไปสนุกและเข้มข้นมากๆ เลยนะครับ ซีรีส์ของเราย้ำเลยนะครับว่าเป็นซีรีส์ที่กินได้ด้วยนะครับ ถ้าใครดูแล้วหิวก็สามารถเข้าไปในแอปพลิเคชัน Lineman แล้วเสิร์ชคำว่า ร้านอิ่มเอื้อ ก็สามารถสั่งเมนูได้ทุกๆ เมนูที่ทุกคนเห็นในซีรีส์ได้เลยครับ
ฝากน้องเอกไว้ในใจทุกคนด้วยนะครับ ซีรีส์ออนแอร์ทุกวันอาทิตย์ เวลา 22.15 น. ทางช่อง ONE31 และทาง Viu ได้วันเดียวกัน เวลา 23.15 น. พร้อมกับผู้ชมจากทั่วโลก 162 ประเทศเลยครับ แล้วก็ฝากช่องทางการติดตามของมาร์คด้วยนะครับได้ทั้งทางอินสตาแกรมและทวิตเตอร์เลยครับ".
ผู้เขียน : โอ้ว...ซาร่า
กราฟิก : Sathit Chuephanngam