เรียกว่าเป็นฟ้าหลังฝนสำหรับอดีตนักแสดงหนุ่ม เควิน ฌ็อง โดนาท์ เลยทีเดียว โดยหลังจากที่เจ้าตัวเคยถูกจับในคดียาเสพติด นำไปสู่การตัดสินจำคุก 18 ปี 11 เดือน และได้รับการอภัยโทษ 3 ครั้ง จนเหลือโทษจำคุก 10 ปี ซึ่งอดีตนักแสดงหนุ่มอยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี นานกว่า 6 ปี 7 เดือน ก่อนจะพ้นโทษออกจากเรือนจำตั้งแต่ 23 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยยังต้องติดกำไล EM

ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat
ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat

ล่าสุด เควิน เปิดใจกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ว่า ออกมาตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. 2564 หลังอยู่ข้างในมา 6 ปี 7 เดือน ตอนออกมาวันแรกรู้สึกโล่ง เพราะจะได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ได้กลับมากอดแม่กอดพ่อ กลับมาอยู่ในสังคมที่เคยอยู่มาก่อน ตอนอยู่ข้างในไม่ได้เจอใคร ตอนนี้กลับมาใช้ชีวิตเริ่มต้นใหม่ เหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง พอออกมาก็รู้สึกว่า กรุงเทพฯ แค่เราไม่ได้อยู่ไม่กี่เดือนก็เปลี่ยนไปเยอะ เราไปอยู่ข้างในตั้ง 7 ปี ออกมาก็เห็นว่าเปลี่ยนไปเยอะ ตอนนี้เป็นโลกของโซเชียล ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะ ไม่ใช่แค่บรรยากาศข้างนอก สังคมก็เปลี่ยนไปด้วย

...

พอออกมา 2-3 อาทิตย์ สิ่งที่ต้องปรับตัวอย่างแรกคือเรื่องการใช้ชีวิตในช่วงโควิด นอกจากนี้ยังมีผู้จัดละครที่ติดต่อเข้ามา แต่ด้วยตอนนี้ผมใส่กำไล EM เลยยังไม่สามารถกลับไปอยู่กรุงเทพฯ ได้ในตอนนี้ อีกทั้งสถานการณ์โควิดด้วย ก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ซึ่งมีทางบริษัท Change 2561 ของแกรมมี่ และก็ช่อง 7 ติดต่อเข้ามา แต่ยังถ่ายไม่ได้อยู่ดี ส่วนถ่ายรายการทีวีก็ลำบาก ตอนนี้ก็ขออยู่กับพ่อแม่สักพักนึง ปรับตัวให้ได้ 100% แล้วค่อยกลับมาสู้กับงานเต็มที่ อีกไม่นานคงจะได้ถอดกำไล EM ตอนนี้ทางผู้ใหญ่กำลังเดินเรื่อง

ในส่วนบทละครที่ติดต่อเข้ามา เควินบอกว่าในส่วนแกรมมี่มีติดต่อบทพระเอก ทางช่องวัน 31 ส่วนช่อง 7 ตอนนี้เขาบอกว่าให้สแตนด์บายไว้ก่อน เพราะตอนนี้ยังเปิดกล้องไม่ได้ ให้เอาบทไปอ่านก่อน แต่ไม่ใช่บทพระเอก แต่เป็นบทรอง ตอนนี้ผมสนใจกับทุกอย่าง ตอนอยู่ข้างในรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าแค่ไหน อะไรที่มีคนเอามาให้เรา เราก็รับไว้ก่อน

ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat
ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat

เมื่อถามว่ารู้สึกยังไงที่ได้รับโอกาสดีๆ เควินบอกว่า “รู้สึกดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสผมอีกครั้ง อาจเป็นว่าคนเคยติดตามผลงานของผม อยากติดตามต่อ แต่อยู่ดีๆ หายไปเลย ตอนนี้ก็กลับมาอีกครั้ง เขาอยากให้โอกาสเรา เรายินดีที่จะได้รับ และพิสูจน์ว่าคราวนี้ผมจะไม่พลาดเหมือนตอนที่ผมโดนจับครับ”

ถามว่าการอยู่ในเรือนจำที่ผ่านมาให้อะไรกับชีวิตบ้าง เควินตอบว่า “อย่างแรกทำให้ผมรู้จักตัวเองมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนเป็นคนที่ใจร้อน ตามใจตัวเองอย่างเดียว แต่ตอนนี้ผมใส่ใจเรื่องคนอื่นมากกว่า ไม่ใช่แค่ตัวเราแล้ว ที่แน่ๆ คือผมเข้าใจชีวิตมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เข้าใจชีวิตในแง่บวกครับ บางทีเราชอบคิดลบ บางครั้งไม่ได้อย่างใจต้องการ ตอนนี้เรารู้ว่าชีวิตมันเป็นยังไง เราผ่านชีวิตที่ตกต่ำมาอย่างที่สุดแล้ว ตอนนี้อะไรก็ได้จริงๆ แค่เราได้อยู่ข้างนอก อยู่กับพ่อแม่ มีงานทำ ก็ดีใจแล้ว ก็อยากกลับมาทำงานเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตแบบง่ายๆ ครับ”

กับชีวิตช่วงที่ป่วยโควิดในเรือนจำ เควินเล่าให้ฟังว่าทุกคนที่เรือนจำติดโควิดกันหมด ช่วงแรกก็ตกใจเพราะว่าเป็นสิ่งที่เรือนจำพยายามป้องกันมาปีกว่าๆ อยู่ดีๆ ก็เข้ามาระบาดอย่างรวดเร็ว ไม่ถึง 3 อาทิตย์ก็ติดกันหมดทุกคน ตอนนั้นอาการของผมไม่รุนแรง อาจจะเป็นไข้นิดหน่อย ปวดหัว จมูกไม่มีกลิ่น เวลากินอาหารรับรู้ว่าเค็ม เผ็ด หวาน แต่ความหอมในอาหารก็หายไป ก็ใช้เวลากักตัวในแดนทั้งหมด 21 วัน ผมติดรอบสุดท้าย ทุกคนติดหมดแล้ว

ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat
ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat

...

ถามว่ากลัวมั้ยก็กลัว เพราะดูข่าวมา มีคนเชื้อลงปอด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ตอนที่ผมโดนมาแล้วมันเหมือนไข้หวัดใหญ่ ไม่น่ากลัวเหมือนที่คิด แต่ผมเห็นใจคนที่เชื้อลงปอด ต้องใช้เครื่องออกซิเจน โชคดีที่ผมไม่เป็นอะไรหนักมาก แต่ก็น่ากลัวตรงที่ติดต่อได้ง่ายมาก อยู่ด้วยกันแป๊บนึงก็ติดกันหมดเลย ถึงใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่เวลากินข้าวอาบน้ำก็ต้องเจอคนอื่นและไม่ได้ใส่หน้ากากตอนนั้น ถือเป็นประสบการณ์

อีกหนึ่งประสบการณ์ในเรือนจำคือการเป็นบาริสต้า เควินเล่าว่าตอนนั้นฝึกวิชาชีพบาริสต้าในเรือนจำเป็นความรู้ติดตัวกลับบ้าน ซึ่งตอนนี้ผมจะเปิดร้านกาแฟที่พัทยา ตอนนี้ก็ไปดูทำเล ก็ทำไปก่อนเพราะไม่ได้ไปไหน ไม่อยากเป็นภาระกับพ่อแม่ เลยช่วยกันทำกับญาติพี่น้อง เปิดเองกับครอบครัว ถามว่าทำไมถึงเลือกฝึกเป็นบาริสต้า เพราะเป็นอาชีพนึงที่ผมเห็นว่าใครๆ ก็ทำได้ เป็นโอกาสให้ผมได้สัมผัสกับโลกภายนอก ก็เลยต้องจับโอกาสให้ได้ ก็ได้ทำงานนอกเรือนจำ มันดูน่าสนใจ และเป็นโรงเรียนสวนดุสิตที่มาสอน ซึ่งเป็นโรงเรียนอันดับต้นๆ ของประเทศ

พอฝึกจริงๆ ไม่ได้ยาก แต่กาแฟเป็นสิ่งที่มีรายละเอียดนิดนึงในการชง มันมีวิธีของมัน มันสนุกตรงนี้เพราะเราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ก็มั่นใจฝีมือตัวเองเต็มร้อย จะชงขายเองแน่นอน ตั้งใจทำเอง ก็คิดว่าจะเป็นรูปร่างเร็วๆ นี้ เพราะคนแนะนำว่าถ้าจะทำอะไรก็ทำไปเลย อย่าไปรอ อย่าไปคิดมาก ตอนนี้ทุนมีน้อยก็ทำไว้ก่อน ผมอยู่พัทยาก็ทำได้เลย อีกไม่นานได้เห็นแน่นอน ตอนนี้กำลังดูอุปกรณ์ต่างๆ สถานที่ สูตรก็มีอยู่แล้วก็ทำได้เลย

ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat
ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat

...

อีกหนึ่งอย่างที่เควินได้มีโอกาสทำคือการช่วยเหลือสังคม เควินบอกว่าจุดเริ่มต้นคือมีเพื่อนชวนมา ช่วงนี้ว่าง จะไปบริจาคอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเห็นตั้งแต่อยู่ข้างใน คือเคยมีผู้มาบริจาคกับผู้ต้องขัง รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์ที่เอามาให้ เป็นอะไรที่ผมซาบซึ้งจริงๆ ที่ได้เห็นน้ำใจคนไทยเวลาลำบาก ซึ่งผู้ต้องขังอยู่ในฐานะของคนที่ตกต่ำมากที่สุด คนอาจมองข้าม มองว่าไม่ดี แต่ในช่วงโควิดก็เห็นน้ำใจที่คนซื้อของมาให้เราตอนที่เราลำบาก ผมก็คิดว่าผมอยากทำแบบนี้เหมือนกัน

พอได้รับแล้วก็อยากไปทำตาม แล้วพอเพื่อนชวนไปแจกอาหารที่พัทยา พอผมมาเห็นภาพพัทยา ณ ปัจจุบัน มันเหมือนคนละโลกไปเลย ไม่เหมือนเดิม คนตกงานเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโรงแรม การบริการ แล้วไม่สามารถกลับไปอยู่บ้าน ต้องไปนอนข้างถนน ข้าวไม่มีกิน ผมเลยคิดว่าจะไปบริจาคอาหารทุกอาทิตย์เลย ไปทุกวันเสาร์ พอได้เป็นผู้ให้ เรามีความสุขที่เห็นคนมีข้าวกิน ก็ทำเท่าที่ผมมีกำลัง เพราะตอนนี้งานก็ยังไม่ได้มา

หลังจากนี้ก็มีแพลนว่าจะไปทำช่องยูทูบกับพี่โกบอย (ธนวัฒน์ ชาวสมุทร) และนิกกี้ ณฉัตร โดยนิกกี้กับโกบอยจะเป็นคนสนับสนุน ไปอยู่กับบริษัทของเขา แต่ทำช่องของตัวเองเลย และจะมีการแจมทำรายการด้วยกัน ตอนนี้ผมเพิ่งออกมา คาแรกเตอร์ต่างๆ ยังไม่กล้าแสดงออกมาเต็มร้อย ยังไม่กล้าแสดงออกแบบฟรุ้งฟริ้งหรือทะลึ่งๆ ส่วนคอนเทนต์ที่อยากทำก็เกี่ยวกับกีฬาเอ็กซ์ตรีม สิ่งที่อยากทำมาก่อนแต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำ คิดว่าต้องไปตามความฝันของตัวเอง กำลังคิดคอนเซปต์อยู่ เดี๋ยวจะปรึกษากับพี่โกบอย

ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat
ขอบคุณภาพจากไอจี @kevin__donat

...

นอกจากนี้เควินเล่าว่าตอนนี้มี Tik Tok เป็นของตัวเอง เพิ่งเปิดได้ 1-2 อาทิตย์ มีคนติดตาม 8000 กว่าคน ยอดวิวแสนกว่าแล้ว คนไปดูเยอะ ก็มีคลิปแนวตลกๆ เต้นนิดนึง มีลิปซิงก์บ้าง เราเป็นคนเฮฮาอยู่แล้ว แรกๆ ก็รู้สึกเขิน แต่สัญชาตญาณเมื่อเจอกล้องก็เลยทำได้อยู่แล้ว ในส่วนช่องยูทูบก็น่าจะเร็วๆ นี้ น่าจะอีก 1-2 เดือน

เควินเล่าต่อว่าพอได้กลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว หลังไม่ได้อยู่กับพ่อแม่มาหลายปี ก็รู้สึกสบายใจ มีความสุข ส่วนสิ่งที่อยากทำเพื่อท่าน ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะออกจากบ้านกับพ่อแม่ไม่ค่อยได้ในช่วงโควิด ก็เลยอยู่บ้าน ช่วยทำบ้านนิดหน่อย ทำหน้าที่ของลูก ใช้ชีวิตอยู่ด้วย อยู่ในบ้านก็ทำกิจกรรมด้วยกัน ส่วนแฟนๆ พอทราบข่าวว่าออกจากเรือนจำก็มาให้กำลังใจเยอะ เขาเห็นใจเราที่ผ่านชีวิตประสบการณ์แบบนี้มา และตอนนี้ได้กลับมีความสุขอีกครั้งในโลกภายนอก ก็รู้สึกซาบซึ้ง คนไม่ได้ดูว่าเราเป็นนักโทษมา เขาไม่รังเกียจขนาดนั้น

ปิดท้ายเควินบอกว่า “ผมเคยทำผิดมาก่อน ผมไม่สามารถไปบอกคนอื่นว่าอย่าไปทำนะครับ แต่อยากให้เอาเรื่องราวในชีวิตผมจากที่เคยมีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน เงินทอง ชื่อเสียง แต่พอไปยุ่งกับสิ่งไม่ดีทำให้ทุกอย่างดับได้ ผมอยากจะฝากบอกว่าให้คิดดีๆ ก่อน ความสุขมีได้ในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่ต้องไปเล่นยาหรือติดปาร์ตี้มากเกินไป มีกิจกรรมเยอะแยะมากมายที่สามารถทำได้ครับ ส่วนแฟนๆ ทุกคนที่ติดตามและให้กำลังใจ ผมสัญญาว่าผมจะไม่หายไปไหนอีกแล้ว และรอติดตามผลงานของผมด้วย คงอีกไม่นานครับ ไม่ว่าจะเป็นทางยูทูบหรือฟรีทีวีครับ”.