- เค เลิศสิทธิชัย นักเรียนนอกคนดังแชร์ประสบการณ์ในต่างแดน
- Youtube สายคอนเทนต์ที่มีผู้ติดตามในโซเชียลหลักล้าน
- หนุ่มหล่อมากความสามารถ ผันตัวเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่น่าจับตามอง
ถ้าพูดถึงชื่อ เค เลิศสิทธิชัย แฟนๆ ที่ติดตามช่องยูทูบ Kayavine คงรู้จักเขาเป็นอย่างดี เพราะเขาคือยูทูบเบอร์สายคอนเทนต์ชื่อดัง ที่เริ่มต้นจากการทำคลิปแชร์ประสบการณ์การเป็นนักเรียนไทยในอเมริกา และการใช้ชีวิตในต่างแดน จนกระทั่งได้รับเสียงตอบรับอย่างมากมาย และเริ่มเป็นที่รู้จักกันตั้งแต่นั้นมา
ก่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนักแสดง ซึ่ง เค ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เขาเริ่มมีผลงานผ่านตาแฟนๆ จากซีรีส์เรื่องแรกในชีวิต Who are you เธอคนนั้นคือฉันอีกคน กับบทของ กันต์ ที่ออนแอร์ไปแล้วทาง GMM25 และล่าสุดกับผลงานหนังเรื่องแรก DEEP โปรเจกต์ลับ หลับเป็นตาย ที่กำลังออนแอร์ในขณะนี้ทาง Netflix
...
ล่าสุด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ เค เลิศสิทธิชัย ต้องบอกเลยว่า หนุ่มคนนี้มีความสามารถรอบด้านจริงๆ อีกทั้งยังเป็นคนที่เฟรนด์ลี่อีกด้วย พูดจาฉะฉานแฝงไปด้วยแนวคิด สมกับเป็นยูทูบเบอร์สายคอนเทนต์จริงๆ โดย เค ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการมาเป็นยูทูบเบอร์ของตัวเองในครั้งแรกให้เราฟังว่า
จุดเริ่มต้นการทำ Youtuber
"ตอนนั้นผมเรียนอยู่ที่อเมริกา คือ ม.3- ม.4 เรียนไฮสกูลที่ไทย แล้ว ม.5-ม.6 ไปเรียนต่อที่อเมริกา แล้วก็มีคนเข้ามาถามว่ามันแตกต่างกันยังไงที่อเมริกากับไทย ควรไปเรียนมั้ย ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่า เฮ้ย มีคนสนใจเยอะแล้วยังไม่มีใครทำ เลยเป็นโอกาสให้เราได้เริ่มทำยูทูบเปรียบเทียบว่าอะไรที่แตกต่างบ้าง เป็นคลิปแรกที่ทำให้ผมทำยูทูบขึ้นมาครับ ประมาณ 4 ปีที่แล้ว
กระแสตอบรับพอสมควรครับ มีคนให้ความสนใจมาเรื่อยๆ คลิปที่ผมทำก็จะมีหลากหลายแนวตามความสนใจ ส่วนมากจะเป็นคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์นี่แหละครับ เมื่อก่อนจะเน้นการศึกษาเยอะหน่อย ตอนนี้เรียนจบแล้วก็ทำเป็นไลฟ์สไตล์ของผมเอง จริงๆ อยากเรียนต่อ ป.โท ครับ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้เลยพักก่อน
พอหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยที่อเมริกาแล้ว ผมก็กลับมาเมืองไทย ตอนนั้นมันค่อนข้างคาบเกี่ยวประมาณ ปี 3-ปี 4 ก็มีทาง GMM ติดต่อมาบอกว่าสนใจอยากให้มาลองเล่นซีรีส์ ก็ได้ไปเล่นซีรีส์รับเชิญ เขาก็ถามว่าชอบมั้ย เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาเล่นซีรีส์ครับ"
หัวใจหลักของการทำคลิปแต่ละคลิป
"ผมว่ามันมีส่วนผสมหลายอย่างนะ ผมว่าหัวใจหลักก็คือคอนเทนต์แน่นอนครับ แต่เรื่องภาพมันก็ต้องมีคุณภาพด้วย ช่วงนี้มียูทูบเบอร์หน้าใหม่เกิดขึ้นเยอะมาก ก็จะมีการแข่งขันสูงขึ้น แข่งกับช่องนั้นช่องนี้ ผมว่าแค่คอนเทนต์มันอาจจะไม่เพียงพอแล้ว อาจจะเป็นเรื่องของโปรดักชั่นที่ต้องสูงด้วย"
"การคิดคอนเทนต์แต่ละคลิป ถ้าช่วงนี้ก็จะคิดยากนิดนึงครับ เพราะออกไปไหนไม่ได้ ก็จะดูเรเฟอเรนซ์และช่วยกันคิดกับทางทีมด้วย แต่หัวใจหลักของการทำงานคือการพูดคุยกันในทีมและดูเรื่องที่มันน่าสนใจ ณ เวลานั้น หรือเราจะหาเรเฟอเรนซ์จากต่างประเทศบ้างว่าเค้ามีอะไรน่าสนใจ
ส่วนยอดวิวผมว่ามันก็สำคัญเช่นกัน แต่เราก็ไม่สามารถควบคุมได้ว่าคลิปนี้จะมีคนดูมากน้อยขนาดไหน สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือการสร้างคอนเทนต์นี่แหละครับ ถึงแม้บางอันมันอาจจะไม่เวิร์ก เราก็พยายามพัฒนามันเรื่อยๆ ก็ไม่อยากให้คิดว่า คนไม่ดูแล้ว ยอมแพ้ ลองทำออกมาเรื่อยๆ มันก็ต้องมีสักคอนเทนต์แหละครับที่ถูกใจคนดู"
คลิปรับปริญญาในต่างแดน ได้รับความสนใจอย่างมาก
"ถามว่าเคยมีคลิปไหนที่ไม่คิดว่าคนจะสนใจเยอะ แต่สุดท้ายกลับได้รับความสนใจเยอะบ้างมั้ย มีหลายคลิปเหมือนกันครับ ที่ไม่ได้หวังว่าคนจะดูเยอะ เช่น คลิปที่ผมถ่ายตอนรับปริญญาที่อเมริกาครับ เราไม่ได้คิดเลยว่าคนจะดูเยอะ
ด้วยความที่เราก็ถ่ายทำแบบธรรมดา คือตอนนั้นเรายึดตัวเองเป็นหลักว่า เราไม่เคยเห็นใครถือกล้องแล้วขึ้นไปถ่ายตอนที่ตัวเองรับปริญญา แล้วตอนนั้นมีคนมาร่วมรับปริญญาเป็นหมื่นคน ก็รู้สึกว่า ถ้าเราไม่ทำวันนั้นมันก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว เลยตัดสินใจทำ ตอนนั้นคิดแค่ว่าเรากะจะเก็บไว้เป็นความทรงจำของเรา ปรากฏว่าตอนนั้นผลตอบรับเยอะมากๆ ครับ
...
แล้วอีกคลิปคือไปถ่ายกับพี่กิต ทรีแมนดาวน์ ตอนที่ไปออกทัวร์ที่ภูเก็ต ตอนนั้นก็คือไปเพราะพี่กิตชวนไปออกรายการใหม่ของเขา เราก็เลยถือโอกาสสนุกๆ เลยบอกเขาว่า ขอขึ้นเวทีร้องเพลงด้วยได้มั้ย ก็เป็นความคิดแบบสดๆ ณ ตอนนั้นเลย เขาก็ให้ เราก็ทำกันขำๆ ของคืนนั้นเลย ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นประเด็นที่คนให้ความสนใจเยอะมาก
คือทุกคลิปที่ผมทำมันมีความตั้งใจในทุกงานหมดเลย แต่บางคอนเทนต์คนก็ไม่ได้สนใจเยอะ คือตัวผมอาจจะมองว่าคนน่าจะสนใจนะ คือมันเป็นไปได้ยากครับที่จะให้ทุกคอนเทนต์มันปัง อย่างคอนเทนต์แนวนี้เมื่อก่อนคนอาจจะสนใจเยอะมาก แต่พอมาตอนนี้คนอาจจะไม่ได้สนใจแล้ว ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ
ถามว่ามีช่วงที่คิดงานไม่ออกมั้ย มีประจำเลยครับ (ยิ้มตาหยี) คุยกับยูทูบเบอร์หลายคน ทุกคนเป็นหมดครับ อาจจะตันบ้าง คิดไม่ออกบ้าง ต้องมีการพูดคุยกันในทีม หาแรงบันดาลใจจากที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว หรือหาเรื่องราวในอินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นไอเดียต่อยอดของเรา แต่มันมีแน่นอนที่คิดไม่ออก"
...
ดีแล้วที่ตัดสินใจเริ่มทำคลิปในวันนั้น เลยทำให้มีวันนี้
"จริงๆ ถ้าพูดตามตรง ยอดวิวมันทำให้เห็นว่าคนสนใจประเด็นนั้นมากน้อยขนาดไหนครับ แล้วก็เป็นหลังบ้านที่เราสามารถไปเช็กสถิติหรือสแตทต่างๆ ได้ว่าคนดูถึงประมาณไหน แล้วชอบคลิปแนวนี้รึเปล่าหรือไม่ชอบ แล้วยอดวิวก็มีส่วนช่วยในการวิเคราะห์ว่าเราควรทำคอนเทนต์เดิมมั้ย หรือควรเปลี่ยนคอนเทนต์ใหม่"
"ผมรู้สึกตลอดเลยนะว่า ดีแล้วที่คิดจะทำคลิปตั้งแต่วันนั้นเลยทำให้มีวันนี้ ไม่งั้นก็คงต้องไปทำงานอย่างอื่น คือด้วยความที่ผมจบคณิตศาสตร์ประกันภัย ถ้าเราไม่ได้ทำยูทูบ คงไม่มีโอกาสได้มาใช้ชีวิตตามที่เราอยากเป็น อยากไป หมายถึงว่าไปเที่ยวในที่ที่เราอยากไปได้
คือถ้าเรียน คณิตศาสตร์ประกันภัย จบมาก็ต้องมาทำงานตามอาชีพที่ผมเรียนจบมาอยู่แล้ว นั่งออฟฟิศตลอด 6-7 วัน อาจจะอยู่แต่ในห้อง มีคอมฯ หลายๆ จอ ผมว่าชีวิตก็คงแตกต่างกันไปคนละขั้วเลยครับ แต่พอมาทำยูทูบเบอร์ รู้สึกได้เป็นตัวเอง ได้ไปเที่ยวในหลายๆ ที่ ได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ ไม่ต้องแบบตื่นมาแล้วต้องมานั่งฝืนทำงาน อันนี้ตื่นมาได้ทำงานในสิ่งที่เราอยากทำ เป็นในสิ่งที่เราอยากเป็น"
...
"ถามว่า ตอนนี้เข้าวงการบันเทิงแบบเต็มตัวได้รึยัง ผมว่าจริงๆ ผมเข้ามาตั้งแต่ 4 ปีครึ่งที่แล้วที่ผมได้ทำยูทูบครับ ผมว่าวงการบันเทิงมันไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ภาพยนต์หรือแค่หนัง ผมว่าทุกอย่างที่มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแล้ว การที่เราเอาตัวเองไปอยู่ในโซเชียลหรือสปอตไลต์ ผมว่ามันเป็นการเข้าวงการ เป็นคอมมูนิตี้นี้ไปแล้ว เป็นคนที่มีชื่อเสียง มอบความรู้ให้กับสังคมด้วยครับ"
เข้ากับคนง่าย สามารถไปเที่ยวรอบโลกคนเดียวได้
"ผมว่าตัวตนจริงๆ ของผมค่อนข้างตรงกับในคลิปนะครับ ผมเป็นคนที่เฟรนด์ลี่ เข้ากับคนง่ายอยู่แล้ว เวลาไปกองจะไม่มีปัญหาเลยว่าจะไม่มีเพื่อน ผู้จัดการสามารถทิ้งผมไว้ได้เลย เพราะผมเข้ากับคนง่ายอยู่แล้ว ถ้าใครติดตามผมมาแต่แรกๆ
จะเห็นเลยว่าเวลาผมไปเที่ยวต่างรัฐหรือไปต่างเมือง ผมไม่เอาใครไปเลย จะไปหาเพื่อนเอาข้างหน้า เวลาไปไหนเลยไม่ต้องมารอใคร ก็คือเราอยากไปในที่เราอยากไป ถ้าอยากมีเพื่อนก็ค่อยไปหาเอาข้างหน้าได้ (ยิ้ม)"
"ที่บ้านจะค่อนข้างปล่อยครับ ด้วยความที่พ่อแม่ผมจะทำงานหนัก และเราอาจจะอยู่กันคนละที่ตั้งแต่เด็ก คือผมเป็นคนนครปฐมแล้วพ่อแม่เขาเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ พ่อแม่เขาจะอยู่คอนโดฯ ที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก แล้วที่บ้านผมจะอยู่กับพี่น้อง กับอาม่า เวลาอยากทำอะไรเขาก็สนับสนุนอยู่แล้วครับ"
เริ่มต้นไปเรียนเมืองนอกจากการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
"ตอนที่ไปเรียนอเมริกา ตอนนั้นเราดูอเมริกัน มูฟวี่ และดูซีรีส์ด้วย เลยรู้สึกว่าน่าสนใจไปเรียนไฮสกูลที่โน่น และเราค่อนข้างติดเพื่อน ไม่ค่อยเรียนที่ประเทศไทย พ่อแม่ก็เลยบอกว่าแบบนี้ไม่ได้แล้ว
บวกกับเราเห็นโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนพอดี เราก็เลยบอกพ่อว่า ถ้าสอบผ่านขอไปนะ พ่อเขาก็คิดว่าเราไม่น่าจะผ่าน เลยบอกว่าถ้าผ่านเดี๋ยวให้ไป ปรากฏว่าเราสอบผ่าน เลยเป็นที่มาว่า ให้ไปก็ได้ ก็เลยได้ไปเรียนที่อเมริกาครับ
ผมไปอยู่ที่อเมริกาประมาณ 6-7 ปีครับ ไปเรียนตั้งแต่ไฮสกูลจนจบปริญญาตรีที่นั่นครับ กลับมาเมืองไทยได้ประมาณ 2 ปีแล้วครับ ก็อยากกลับไปเรียนต่อ ป.โท ที่โน้นนะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปตอนไหน เพราะผมมองว่าการเรียนปริญญาโทมันไม่ติดอยู่แล้วว่าจะได้เรียนตอนอายุเท่าไร ผมเห็นรุ่นพี่ผมที่เป็นคนญี่ปุ่นกับคนอเมริกันเขาก็เพิ่งเรียนปริญญาโทตอนอายุ 40-50 ครับ ก็อยากจะไปเรียนเหมือนกัน"
"พ่อกับแม่ผมเขาบอกตลอดว่าภูมิใจในตัวผม คือพ่อแม่ยังไงก็ต้องสนับสนุนทุกอย่างของลูกอยู่แล้ว ลูกทุกคน พี่น้องทุกคน พ่อแม่เขาก็ภูมิใจอยู่แล้ว คอยซัพพอร์ตตลอดเลยครับ"
ถ้าไม่ได้เป็นยูทูบเบอร์ คงเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยไปแล้ว
"ถ้าผมไม่ได้เป็นยูทูบเบอร์ ผมว่าผมน่าจะเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแน่เลย ตอนที่เลือกเรียนสายอาชีพนี้เพราะเป็นคนหัวค่อนข้างดี เป็นคนที่ถนัดคณิตศาสตร์ที่สุด คุณพ่อเลยแนะนำสายนี้ ตอนปี 3 ก็ได้ไปฝึกงานสายนี้มา ไปดูก่อนว่าคนที่เป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยเขาทำงานยังไง ทำอะไรบ้าง ได้ไปศึกษางานแล้ว ก่อนที่จะทำยูทูบ"
"ถ้าถามว่า ความฝันของผมคืออะไร ผมว่าผมมีความฝันเยอะมาก อยากทำทุกอย่าง อยากเป็นทุกอย่าง นักบินผมก็อยากเป็น ด้วยสถานการณ์ด้วย อย่างตอนนั้นที่ผมจบ ม.6 ไปสอบเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยการบินก็สอบติด แต่ตอนหลังก็ไม่ได้ตัดสินใจเรียน
เหมือนคนเรามันมีหลายความฝัน เลยคิดว่าถ้ามีโอกาสได้กลับไปเรียนอเมริกา ก็จะไปเรียน Private Pilot License (PPL) ที่โน่น คือผมเป็นคนชอบหาความรู้ในสิ่งที่ชอบมากกว่า ไม่ค่อยชอบนั่งเรียนในห้อง แต่อยากไปสุดในสิ่งที่เราอยากรู้"
"การเข้ามาเล่นหนังเป็นอีกขั้นหนึ่งในความอยากของผมด้วยครับ รู้สึกว่าอยากทำทุกอย่างที่ไม่เคยทำ คือเขาบอกว่า ผมได้เล่นนะ ผมตกลงทันทีเลย ก็เคยไปออดิชั่นหนังเรื่องอื่น หรือซีรีส์เรื่องอื่น เราอ่านบทแล้วเราชอบก็ไปออดิชั่น เราเตรียมใจไปทุกงานอยู่แล้ว ถ้าได้ก็เอา ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร"
"ถามว่าคิดว่าประสบความสำเร็จรึยัง ผมว่าแล้วแต่มุมมองคนนะ แต่ผมว่าก็ค่อนข้าง คือผมมองตลอดว่าถ้าเราพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ ก็คือเราประสบความสำเร็จแล้วนะ ผมก็พอใจนะ แต่คือตัวผมมันมีเป้าหมายหลายๆ อย่าง
เราประสบความสำเร็จในเป้าหมายแรกที่เราตั้งไว้ เราจะอยู่แบบไม่มีจุดมุ่งหมายก็ไม่ได้ เราผ่านอันแรกไปแล้ว เราก็จะมีเป้าหมายใหม่ไปสู่จุดที่ 2 แล้วก็มีต่อไปเรื่อยๆ ผมว่าคนเราถ้าอยู่แบบไม่มีเป้าหมายชีวิตเลย มันจะอยู่แบบไร้จุดหมาย"
หนังเรื่องแรกในชีวิต DEEP โปรเจกต์ลับ หลับเป็นตาย
"ด้วยความที่เป็นภาพยนต์เรื่องแรกก็มีความท้าทายอยู่แล้วครับ โดยปกติเราจะเคยถ่ายซีรีส์มาก่อน พอมาเล่นหนังรู้สึกว่าเหมือนการเล่าเรื่องย่อ แต่ซีรีส์เล่าเรื่องแบบยาวๆ ใช่มั้ยครับ แต่หนังมันเป็นการเล่าเรื่องให้จบภายใน 1-2 ชม. เลยรู้สึกว่ามันก็มีความยากง่ายต่างกัน
แต่แน่นอนฉากที่มันยากกว่าคือฉากที่ต้องเข้าถึงตัวละครมันมีระยะเวลาน้อยกว่า เลยทำให้เราอาจจะต้องทำการบ้านหนักกว่าที่เป็นซีรีส์ครับผม"
"ตอนที่ผมเข้ามาแคสต์ ทีมแคสติ้งเขาบอกว่าทางผู้กำกับเห็นคาแรกเตอร์เราที่อยู่ในยูทูบแล้วอยากได้คาแรกเตอร์ประมาณนี้ ก็คือตัวของ วิน ที่นิสัยเหมือน เค เลยให้เราลองมาแคสต์ดูครับ"
"คาแรกเตอร์ของ วิน เป็นนักศึกษาแพทย์ที่เป็นสีสันของเพื่อน เฟรนด์ลี่ เข้ากับเพื่อนง่าย เป็นนักกีฬาของโรงเรียน ถามว่าตรงกับผมมั้ย ไม่ขนาดนั้น ผมแค่เป็นคนที่เฟรนด์ลี่เข้ากับคนง่าย (หัวเราะ)"
ความแตกต่างของการแสดงและความเป็นตัวเองในคลิปยูทูบ
"ผมว่าการทำยูทูบ มันคือการเป็นตัวเราเอง อยากทำคลิปไหน คอนเทนต์เป็นยังไง สไตล์ไหนก็คือเราเอาตัวเราไปอยู่ในโลกออนไลน์ แต่การที่เราไปเล่นหนังหรือซีรีส์ คือการที่เราเอาตัวละครที่เราไม่รู้จักเข้ามาอยู่ในตัวเราแล้วแสดงออกมา เราเล่นเป็นคนอื่นนอกเหนือจากการเล่นเป็นตัวเราเอง"
"ใช้เวลาในการเวิร์กช็อปประมาณ 3-4 ครั้งครับ ไปเข้ากลุ่ม เข้าถึงตัวละครของแต่ละคน แล้วก็เริ่มเข้าฉากเลย ถามว่าให้คะแนนตัวเองเท่าไรกับหนังเรื่องแรก ผมยังไม่กล้าให้คะแนนตัวเองเลยครับ (หัวเราะ)"
"การที่ผมเคยเป็นยูทูบเบอร์แล้วมาเป็นนักแสดง รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แปลกใหม่และท้าทายมากครับ รู้สึกสนุกไปกับมัน อย่างที่ เค บอกเราเป็นคนเข้ากับคนง่าย ได้ทำงานกับกลุ่มคนที่นอกเหนือจากทีมงานเรา อย่างทีมงานเราก็จะมีตัดต่อ ช่างกล้องคนที่คุ้นเคยกัน แต่พอมาถ่ายหนังก็กลายเป็นว่าได้ทำงานกับคนมากขึ้น รู้จักกันมากขึ้น รู้จักตัวละครมากขึ้น รู้สึกว่าสนุกและท้าทายมากเช่นกันครับ"
"DEEP โปรเจกต์ลับ หลับเป็นตาย เป็นหนังเรื่องแรกของผมเลยครับ ก่อนหน้านั้นผมก็จะเล่นซีรีส์เรื่อง Who are you เธอคนนั้นคือฉันอีกคน แล้วก็จะมีอีก 2-3 เรื่องที่กำลังจะตามมา แต่ช่วงนี้ต้องหยุดถ่ายทำไปก่อน เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาดในตอนนี้ครับ"
"สุดท้ายนี้ผมขอฝากภาพยนตร์เรื่องแรกของ เค ด้วยนะครับ DEEP โปรเจกต์ลับ หลับเป็นตาย ให้ความรู้สึกหลากหลายอารมณ์ครบทุกรสแน่นอนครับ แล้วก็ฝากติดตาม เค ได้ทุกช่องทางโซเชียลมีเดียเลยนะครับ ทั้ง อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก ยูทูบ ชื่อ Kayavine ครับ".
ผู้เขียน : โอ้ว...ซาร่า
กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun
ภาพ : อินสตาแกรม Kayavine