• แบงค์ อาทิตย์ จากนักแสดงช่อง 3 สู่การเป็นพระเอกช่อง 7
  • อยู่ช่อง 3 เล่นละครไม่ได้เรื่อง ถูกเปลี่ยนตัวกลางคันอยู่เสมอ
  • ยอมทำงานในวงการบันเทิงเพราะรายได้ดี 

ต้องยอมรับว่าชื่อของ แบงค์ อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ตอนนี้กลายเป็นพระเอกของช่อง 7 ที่น่าจับตามองไม่น้อย เพราะพระเอกหนุ่มคนนี้มีผลงานละครอย่างต่อเนื่อง และบทบาทที่ได้รับนั้นล้วนเป็นบทที่ดี บวกกับความตั้งใจทำงานเลยทำให้แบงค์ได้รับโอกาสที่ดีจากผู้ใหญ่ในช่องอยู่เสมอ 

และหลายคนน่าจะจำกันได้ว่าก่อนที่ แบงค์ อาทิตย์ จะได้มาเป็นพระเอกแถวหน้าของช่อง 7 อย่างทุกวันนี้ เขาต้องผ่านเรื่องราวในการทำงานของวงการบันเทิงมามากมาย ในสมัยที่แบงค์นั้นยังเป็นนักแสดงอยู่ช่อง 3 ถ้าหากในวันนั้นตัดสินใจไม่ไปต่อ วันนี้ก็จะไม่มีพระเอกชื่อ แบงค์ อาทิตย์ ประดับวงการ 

วันนี้เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์พระเอกหนุ่มคนนี้ผ่านทางวิดีโอคอล ซึ่งพอถึงเวลานัดหมาย เราก็ได้กริ๊งกร๊างโทรหากัน ซึ่งปลายสายของเราวันนี้หล่อเนี้ยบทะลุจอออกมาเลย 

เป็นนักแสดงที่ได้รับโอกาสที่ดีจากผู้ใหญ่ช่อง 7 

เพราะอย่างที่รู้กัน แบงค์ อาทิตย์ ย้ายจากการเป็นนักแสดงของช่อง 3 มาทำงานที่ช่อง 7 ซึ่งตอนที่แบงค์ย้ายมา ก็ค่อนข้างที่จะมีกระแสไม่น้อย 

และเมื่อมาอยู่ช่อง 7 แบงค์ก็ได้รับโอกาสดีๆ จากผู้ใหญ่ในช่อง มอบละครและบทดีๆ ให้เล่นอยู่เสมอ รู้สึกตัดสินใจไม่ผิดใช่มั้ยที่ย้ายมาเป็นนักแสดงที่ช่องนี้ ซึ่งพระเอกหนุ่มตอบเราว่า 

"ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ช่อง 7 ค่อนข้างเยอะ ได้รับบทดีๆ โชว์ฝีมือทางการแสดงหลายเรื่อง 5 ปีที่ผ่านมา ผมได้เล่นหลายค่ายมาก หลายเรื่องมาก บทดี ดีใจมากมันเป็นโอกาสที่ผู้ใหญ่ให้มา ถ้าเราไม่ได้โอกาสเราก็ไม่ได้โชว์ฝีมือให้แฟนละครได้ดูกัน" 

...

ถามจริงๆ ตอนนี้พอได้มาเป็นพระเอกของช่อง 7 กดดันหรือเครียดบางมั้ย เพราะคำว่าพระเอกหลายคนจะคาดหวังหลายๆ อย่างจากตัวเรา แบงค์ยิ้มและตอบคำถามนี้ว่า 

"ทุกวันนี้ผมยังไม่คิดว่าตัวเป็นพระเอกช่อง 7 เลย ผมคิดแค่ว่าผมเป็นนักแสดงคนหนึ่ง แต่ก็รู้สึกดีใจและขอบคุณที่ช่องไว้ใจและให้โอกาสผม ให้ผมได้รับบทเด่นและบทนำ 

ซึ่งต้องยอมรับว่ารู้สึกกดดันที่ได้รับบทนำ เพราะเราต้องเป็นตัวดำเนินเรื่อง แต่ทุกอย่างจะผ่านไปได้ถ้าเราตั้งใจและทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายมาให้ดีที่สุด

ส่วนความเครียดช่วงแรกๆ ผมเป็นนะ แต่หลังๆ เริ่มปล่อยวาง เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ เพราะเรื่องเรตติ้งมันเป็นสิ่งที่เหนือการควบคุมของเราไปแล้ว"

จากนักแสดงช่อง 3 มาเป็นพระเอกช่อง 7

แต่กว่าจะมาเป็น แบงค์ อาทิตย์ พระเอกของช่อง 7 ในวันนี้ พระเอกหนุ่มคนนี้ก็ผ่านเรื่องราวความผิดหวังในเรื่องของงานแสดงมาค่อนข้างเยอะ แคสต์ละครไม่ได้ เคยถูกเปลี่ยนตัว เราจึงถามแบงค์ตรงๆ ว่า เคยท้อบ้างหรือไม่ ซึ่งแบงค์ตอบกับเราแบบไม่อายว่า 

"ถ้าตั้งแต่สมัยที่อยู่ช่อง 3 ผมแคสต์ละครก็ไม่ได้ เคยวางตัวไว้แล้วก็ถูกเปลี่ยนตัว บางครั้งฟิตติ้งไปแล้วก็มีการเปลี่ยนตัว ถ่ายไปแล้วเปลี่ยนตัว ถ่ายไปได้สักพักเปลี่ยนตัว ผมโดนมาครบเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเกิดจากตัวเราเอง ที่ตอนนั้นเล่นละครไม่ดีเลย

เพราะผมไม่เข้าใจวิธีการเล่นละครเลยครับ ไม่รู้ว่าจะต้องเล่นยังไง แต่จุดที่ทำให้ผมเริ่มรู้ว่าการแสดงคืออะไร ก็ตอนที่เล่นเรื่อง คิวบิก และ สุดแค้นแสนรัก ตอนนั้นทำให้ผมรู้ว่าการเล่นละครคืออะไร แต่ก็ต้องยอมรับว่า ช่อง 3 ให้โอกาสผมเยอะมากเหมือนกันนะครับ แต่ว่าตอนนั้นผมทำไม่ได้เอง 

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ ผมมีครูแอ็กติ้งช่วยสอนการแสดงผมไม่ต่ำกว่า 10 คน (หัวเราะ) เพราะเล่นละครได้แย่มาก ตอนที่อยู่ค่ายบอรดคาซท์ของพี่หน่อง อรุโณชา ก็ไม่ทิ้ง หาครูมาสอนแอ็กติ้งให้ผม แต่ผมไม่เข้าใจกับมันจริงๆ

ยอมรับว่าตอนที่โดนเปลี่ยนตัว ก็มีความรู้สึกท้อนะ บอกกับตัวเองว่าถ้าย้ายมาอยู่ช่อง 7 แล้วยังมีงานน้อยอยู่ก็คงไม่ใช่ทางก็คงต้องเปลี่ยน แต่พอมาอยู่ช่อง 7 ผู้ใหญ่ก็ให้โอกาส และให้งานผมมาเรื่อยๆ"

...

อยากเป็นนักแสดงไม่ใช่รับเล่นแค่บทพระเอก 

แบงค์ อาทิตย์ เล่าความปรารถนาของตัวเองในอาชีพนักแสดงให้เราฟังว่า ใจจริงเขานั้นอยากจะเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ ไม่ได้อยากเป็นแค่พระเอก อยากจะเล่นละครต่อไปเรื่อยๆ อยากจะเล่นทุกบทบาท 

"ถ้าวันหนึ่งผมไม่ได้เป็นพระเอกแล้ว แต่ผมก็ยังขอเป็นนักแสดงอยู่นะ ถ้ามีโอกาสได้เล่นละครจนถึงอายุ 40-50 ผมก็อยากเล่น ไม่ได้จำกัดตัวเองว่าจะต้องเล่นแต่บทพระเอก พอไม่ได้เล่นแล้วจะเลิก

จากนั้น แบงค์ เล่าให้เราฟังต่อว่า "ผมเคยไปขอช่องเล่นบทๆ หนึ่งแต่ช่องไม่ให้เพราะว่าบทนั้นไม่ใช่บทพระเอก ซึ่งผมก็ยังเสียใจอยู่ที่ไม่ได้เล่นบทนั้น (ยิ้ม) บทมันดีมาก แต่ไม่ใช่บทพระเอก

ผมบอกกับช่อง 7 เรื่องนี้เอาไว้ตั้งแต่เซ็นสัญญาครั้งที่ 2 แล้วว่า ผมเล่นบทอะไรก็ได้ที่ดูเหมาะสม ผมบอกกับผู้ใหญ่อย่างนี้ เพราะผมไม่ได้มาช่อง 7 เพื่อเป็นพระเอก แต่ผมมาเพื่อเป็นนักแสดง

ตอนที่ผมมาช่อง 7 ครั้งแรก จะมีคำถามที่ถูกถามเสมอว่า ที่มาช่อง 7 เพราะเขาจะให้เป็นพระเอกใช่มั้ย ซึ่งผมไม่ได้ต้องการแบบนี้อยู่แล้ว ผมแค่อยากเล่นละคร อยากเป็นนักแสดง อยากพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง

ถามว่าเสียใจมั้ยที่คนมองว่ามาช่อง 7 เพราะอยากเป็นพระเอก ไม่ทำให้ผมเสียใจเท่ากับที่ผมไม่ได้เล่นบทที่ผมอยากเล่นเลย (หัวเราะ)"

...

ยอมเข้าวงการบันเทิงเพราะรายได้ดี

จากนั้น แบงค์ อาทิตย์ ก็ได้ยอมรับกับเราว่า ที่เริ่มต้นที่อยากเป็นนักแสดงเพราะเงิน ยอมรับว่ามันรายได้ดี แต่สุดท้ายพอได้ทำไป เห็นผลงานของตัวเอง มีคนชื่นชมในฝีมือการแสดง เป้าหมายเริ่มเปลี่ยน

เริ่มอยากได้บทที่ท้าทายมากขึ้น อยากให้คนดูชอบและอินไปกับบทที่เล่น อยากให้คนรอดูละครที่เล่น มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก และรู้สึกเฉยๆ กับการที่ถูกเรียกว่าพระเอก ก่อนหน้านี้แม้จะเริ่มต้นด้วยความไม่ได้รักในอาชีพนี้ แต่ตอนนี้มีความรักในอาชีพนี้แล้ว

ถูกมองเป็นหนุ่มขี้เต๊ะ

เพราะลุคภายนอกของ แบงค์ อาทิตย์ ดูเป็นผู้ชายแบดบอยนิดๆ แต่ตัวตนจริงๆ ของแบงค์เป็นแบบไหน งานนี้พระเอกหนุ่มถึงกับหัวเราะและหันไปถามคนที่นั่งใกล้ๆ ตัวเองว่า "ผมดูเป็นคนแบดๆ เหรอ" ซึ่งงานนี้แบงค์ก็ยอมรับกับเราว่า ถูกคนมองว่าหยิ่ง ขี้เต๊ะ 

"ผมอาจจะดูหยิ่ง ด้วยตาผม แต่จริงๆ ผมเป็นคนขี้เล่น ขี้คุยมาก แต่ถ้าผมไม่รู้จักใครผมก็ไม่กล้าคุย ผมจะนิ่ง แต่จริงๆ ไม่มีอะไร เจอคนมองว่าหยิ่งเยอะจนเป็นเรื่องปกติ

...

แต่จริงๆ ผมไม่ได้เต๊ะ แต่เราแค่มีสเปซและไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวยังไง เลยสร้างกำแพงขึ้นมาก ผมเจอคำพูดนี้บ่อยจนเป็นเรื่องปกติ 

และผมก็พยายามปรับตัว พูดคุยกับคนอื่นเยอะขึ้น ยิ้มเยอะขึ้น ตอนนี้ดีขึ้นแล้วนะ แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน หนักกว่านี้อีก (หัวเราะ)"

กล้าทำธุรกิจไม่กลัวการล้มเหลว 

นอกจากการเป็นนักแสดงแล้ว งานนี้ แบงค์ อาทิตย์ ก็ยังชอบการทำธุรกิจ ซึ่งพระเอกหนุ่มเคยทุ่มเงินก้อนใหญ่เปิดกิจการร้านอาหารเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งแบงค์เผยถึงเหตุผลที่เลือกจะทำธุรกิจให้เราฟังว่า 

"ผมชอบทำธุรกิจ ก็เลยอยากจะลองทำในสิ่งที่ชอบ จะประสบความสำเร็จหรือเปล่าก็ไม่เสียหาย แต่อยากลองดู ผมก็ไว้ใจงานในวงการ ถ้าเรายังรักษาฝีมือและพัฒนาตัวเองในทุกๆ วัน ก็สามารถทำงานต่อไปได้เรื่อยๆ 

แต่ผมอยากทำธุรกิจ ก็ลองทำ กิจการแรกคือร้านซูชิ ใช้เงินทุนก้อนใหญ่มาก ช่วงแรกๆ ก็ดี แต่พอเจอโควิด ผมคำนวณดูแล้วน่าจะไม่ไหว ก็เลยต้องปิดตัวไปก่อน มันคือประสบการณ์ อย่างน้อยครั้งหนึ่งเราเคยได้ทำมัน 

ถ้าเรามัวแต่กลัวว่าจะล้มเหลว เราคงไม่ได้ทำอะไรสักอย่างที่อยากทำ ถ้าไม่กล้า ก็คงอยู่แต่ในกรอบกะลา ไม่สามารถออกไปเจออะไรใหม่ๆ ได้แน่นอน

ส่วนธุรกิจตัวอื่นๆ ผมก็มีวางและคิดเอาไว้ แต่จะทำในช่วงนี้คงไม่เหมาะสมเท่าไรที่จะทำในตอนนี้ แต่ถ้าจะทำผมคงทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร เพราะผมคิดว่า อาหารอร่อยอยู่ที่ไหนคนก็ไปกิน

ซึ่งตัวต่อไปผมอาจจะทำก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เพราะผมชอบกิน แต่ยังไม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างนะครับ แค่คิดแพลนเอาไว้คร่าวๆ"

สกุล แฟนสาวที่พาแบงค์ออกจากกะลามาเจอโลกกว้าง

แม้จะเป็นพระเอกแต่ แบงค์ อาทิตย์ ก็เปิดตัวอย่างชัดเจนว่าตอนนี้กำลังศึกษาดูใจกับ สกุล กัญญาภัค โดยงานนี้พระเอกหนุ่มบอกกับเราว่า ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป การเปิดตัวว่ามีแฟนไม่ได้ทำให้ความนิยมในตัวของแบงค์ลดลงแต่อย่างใด 

"ความรักกับสกุลก็ราบรื่น ลงตัวดีมากครับ แต่ต้องบอกก่อน ตลอดเวลาที่ผมมีแฟนมา ผมไม่เคยเปิดตัวเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ลองเปิดตัวดีกว่า (ยิ้ม)

ซึ่งผมไม่ได้ห่วงว่าการที่เป็นพระเอกเปิดตัวแฟนแล้วเรตติ้งจะตก แต่ผมรู้สึกว่าอยากให้เกียรติแฟนผม และเชื่อว่าคนสมัยนี้เขาเปิดรับอะไรมากขึ้น

ผมอายุ 30 ปีแล้ว การที่จะมีคนรู้ใจมันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เลย ไม่ได้อยากจะมาปิดบัง บอกว่าตัวเองโสด ไม่ได้คุยกับใคร ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ยิ่งเราแสดงความรักต่อคนที่เขาไว้ใจเรา ก็เป็นอะไรที่น่ารักนะ 

เคยมีคนบอกผมนะว่าถ้าเปิดตัวแฟนระวังจะไม่ได้เป็นพระเอกนะ ผมไม่สนใจเลยนะ และช่องก็ไม่ได้มองว่าภาพการมีแฟนจะเป็นปัญหานะ เวลาผมเล่นกับนางเอกคนไหนก็มีเคมีในการเล่นละคร แล้วสกุลเขาก็สนับสนุนผม โพสต์ละครของผมด้วย 

เมื่อก่อนผมเป็นคนไม่ชอบออกไปข้างนอก ไม่เข้าสังคม ชอบอยู่กับบ้าน มีมุมมองชีวิตที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ทำงานเสร็จก็กลับบ้าน ไม่ค่อยมีเพื่อน แต่สกุลพาผมออกไปเจอโลกกว้าง

ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ออกจากกะลา ออกมาเจอโลกกว้าง เลยทำให้มุมมองชีวิตตอนนี้กว้างขึ้น เมื่อก่อนผมเก็บตัว มีกำแพงเยอะมาก ไม่ค่อยชินอยู่กับคนเยอะๆ

คือเมื่อก่อนผมเป็นเด็กเล่นเกม ไม่ค่อยได้เจอผู้คน อันนี้คือข้อเสียของผม แต่เขาพาผมออกไป ตอนนี้โลกผมกว้างมาก จนบางทีผมต้องบอกสกุลว่า พักบ้างเถอะ อยากอยู่บ้านแล้ว (หัวเราะ)"

ความลับที่ไม่เคยบอกใคร

เราถาม แบงค์ อาทิตย์ ขำๆ ว่า ถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจไปต่อกับเส้นทางในวงการบันเทิงแล้ว วันนี้แบงค์น่าจะทำอะไรอยู่ ซึ่งแบงค์หัวเราะและบอกกับเราว่า 

"ปกติผมไม่เคยบอกใครเลยนะว่าที่บ้านทำอาชีพอะไร เพราะแม่สั่งเอาไว้ว่าห้ามบอกใครนะ ตอนแรกผมก็คิดว่าบ้านเราทำธุรกิจผิดกฎหมายหรือเปล่า แม่ถึงไม่ให้บอกใคร (หัวเราะ) 

ถ้าวันนั้นตัดสินใจไม่เล่นละคร ตอนนี้ผมก็คงดูแลกิจการอู่สิบล้อของที่บ้านที่ราชบุรี (หัวเราะ) ขายทรายให้สนามกอล์ฟ

ผมอยากจะสารภาพว่า สกุลมักจะว่าผมเสมอว่าทำไมไม่เคยบอกนักข่าวว่ารู้จักกับพี่หนึ่ง สุริยนต์ เพราะบ้านผมขายทรายให้เขามาเกือบ 10 ปี

แต่ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้ ซึ่งสกุลก็ด่าผมเสมอในเรื่องนี้ ที่ผมไม่พูด หรืออธิบายอะไรเพราะผมคิดว่ามันดูเป็นเรื่องเป็นราวไป เดี๋ยวคนจะหาว่าแต่งเรื่อง

แต่พอผมไม่พูดคนก็คิดไปต่างๆ นานา ซึ่งมันเป็นนิสัยของผม มีเรื่องอะไรผมไม่ค่อยพูด วันนี้ก่อนออกจากบ้าน เขายังโทรมาบอกว่า ถ้านักข่าวถามให้พูดไปตามตรง ไม่ต้องเงียบอีกด้วย (หัวเราะ)" 

ผลงานเรื่องล่าสุด 

และตอนนี้ แบงค์ อาทิตย์ กำลังมีละครเรื่องใหม่ล่าสุด คฑาสิงห์ ที่เจ้าตัวได้รับบทนำ  ซึ่งพระเอกหนุ่ม เล่าให้เราฟังว่า "เรื่องนี้เป็นบทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน เป็นแนวบู๊ผสมไสยศาสตร์ เวทมนตร์ ความยากของเรื่องนี้ผมต้องเชื่อเกี่ยวกับเรื่องคุณไสย ไสยเวท

ต้องมีจินตนาการออกมาว่าจะออกมาเป็นอย่างไร มันห่างจากตัวผมมาก และต้องบู๊แอ็กชั่นอีก มันก็มีความยากเข้าไปอีก ซึ่งผมต้องจินตนาการมันออกมา มันคือความยากของเรื่องนี้ 

พอรู้ว่าจะต้องเล่นละครแนวนี้ ผมก็ต้องศึกษา โดยเฉพาะบทบู๊ เพราะเป็นบู๊แนวใช้ร่างกายต่อสู้ เรื่องนี้ผมต้องทำการบ้านหนักมาก ซึ่งก็มีผิดคิวบู๊บ้างแต่ไม่ร้ายแรง 

ส่วนเรื่องเรตติ้งผมไม่กดดัน ไม่เอามาใช้กับการทำงาน เพราะผมตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่และดีที่สุดแล้ว เพื่อให้แฟนละครสนุกกับละครที่ผมเล่น

หลังจากละครออนแอร์ไป กระแสตอบรับก็ดีนะครับ แฟนๆ บอกไม่เคยเห็นผมเล่นแนวนี้ ก็แปลกตาดี เรตติ้งก็ถือว่าดีครับ (ยิ้ม) 

และในเรื่องนี้ผมต้องถอดเสื้อโชว์รูปร่างด้วย ตอนถ่ายเขินมาก เพราะไม่เคยโชว์มาก่อน (หัวเราะ) แต่พอได้เล่นละครแนวนี้ก็สนุกดี ได้เล่นบทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน 

ยังไงผมก็ฝากแฟนๆ ติดตามละครเรื่อง คฑาสิงห์ ด้วยนะครับ เป็นละครที่ไม่ได้มีแค่บู๊สนุกๆ ไสยศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสอดแทรกเรื่องราวการปกครองบ้านเรื่องที่ไม่เป็นธรรม คนดูจะได้ติดตามว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะจบยังไง คนไม่ดีจะต้องได้รับผลกรรมยังไง ผมและทีมงานฝากละครเรื่องนี้ด้วยนะครับ"

ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา

กราฟิก : Varanya Phae-araya