เป็นอีกหนึ่งคู่พี่น้องของคนในวงการบันเทิง สำหรับ ยิปซี คีรติ และ ยิปโซ อริย์กันตา ที่กล้าออกมาเปิดใจยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมา ทั้งคู่นั้นรู้สึกอึดอัดใจกับเรื่องที่ถูกจับมาเปรียบเทียบกันตลอด
โดย 2 สาวได้เปิดใจในรายการ ยิปย่อย EP.3: พี่น้อง รักกันยังไง ในเมื่อทั้งโลกบิ้วให้เราเกลียดกัน!? โดยเนื้อหาในคลิปนี้ ทั้งคู่ช่วยกันเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตให้ทุกคนฟัง
โดยยิปโซ เริ่มเล่าก่อนว่า สิ่งแรกที่เราโดนตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ คือ การเปรียบเทียบ ใครสวยกว่า ใครดีกว่า ใครเก่งกว่า ใครงานเยอะกว่า แม้แต่วินาทีการก้าวขาเข้ามาในวงการ ใครเข้ามาก่อน ทำไมไม่ถ่ายรูปกับพี่สาวเลย และจะทำให้มีประเด็นว่าพี่น้องมีปัญหากันหรือเปล่า

เราเป็นพี่น้องที่มีหน้าตาคล้ายๆ กัน มีชื่อคล้ายๆ กัน แล้วทำงานอยู่ในวงการอีก เลยทำให้มีการเปรียบเทียบๆ ผลกระทบตอนนั้น สำหรับยิปโซ ในช่วงแรกเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก
จากนั้น ยิปซี คีรติ ก็บอกว่า เธอนั้นไม่ชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมีช่วงหนึ่งไหลไปกับมันเมื่อตอนยังเด็ก จิตใจยังไม่แข็งพอที่จะสู้กับสิ่งแวดล้อม และทำให้เราเป๋ไปกับคำถาม
...
และเราก็เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับน้องจริงๆ ว่าเราแย่กว่าเขาเหรอ ห่วยกว่าเหรอ และรู้สึกเกิดความแข่งขันขึ้นในใจ คนเราเวลาเป็นพี่น้องกัน หรือยิ่งสนิทกัน หรือเป็นเพื่อนรักกัน ยิ่งสนิท ยิ่งรัก ยิ่งรู้สึกผิด
จากนั้น ยิปโซ เสริมว่า ถ้าเราไม่ได้มีสายใยเกี่ยวข้องใกล้ชิด แล้วถ้าต้องแข่งขันกันก็โอเค แต่ในขณะเดียวกันพอมันมีความสัมพันธ์ส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง
ในขณะที่ต้องแข่งกัน แต่ก็ต้องยังรักกันนะ มันสร้างความกดดัน การเปรียบเทียบ แข่งขันในหมู่พี่น้อง หรือน้อยใจกันและกันมันปกติมาก
ซึ่งยิปซีเสริมต่อว่า ไม่ใช่แค่ในครอบครัวเรานะ แต่ทุกครอบครัวมีโมเมนต์แบบนี้ที่มาจากญาติพี่น้อง ผู้ใหญ่ใดๆ

และ ยิปโซ อริย์กันตา เล่าต่อว่า ทั้งคู่นั้นโดนเปรียบเทียบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ตั้งแต่ที่โรงเรียน ด้วยความที่ยิปซีเป็นเด็กป๊อป สวย แต่ยิปโซอ้วนๆ ใส่แว่น ณ ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจ พี่จะอยู่แก๊งนางฟ้า
ส่วนเราจะเป็นที่รู้จักในนามน้องสาวพี่ยิปซี แล้วเวลาเขามองเราจะถอนหายใจและพูดว่า ทำไมไม่สวยเหมือนพี่สาว ตอนนั้นเสียใจมาก เวลาที่โดนเปรียบเทียบคู่พี่น้อง หรือเพื่อน มันมีความรู้สึกนะ เอาให้ได้แบบพี่สิ เก่งแบบพี่นะ
ยิปซี คีรติ จึงเสริมต่อว่า ประโยคพวกนี้นะ มันสำคัญมาก มันมีผลต่อคาแรกเตอร์ของเด็กว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่มันยังไม่โอเค เขาจะต้องเป็นอีกแบบหนึ่งเพื่อให้ได้รับการยอมรับ
งานนี้ ยิปโซ น้องสาว จึงพูดต่อว่า ทุกการแข่งขันมีผู้แพ้ผู้ชนะเสมอ พอมีผู้ชนะ ผู้ชนะก็จะเริ่มหวงแหนชัยชนะ อยากชนะต่อไปเรื่อยๆ ผู้แพ้ก็รู้สึกแย่ไปเรื่อยๆ
คอมเมนต์แบบนี้มีผลกระทบต่อชีวิตมากๆ แต่กว่าจะแยกแยะได้ มันผ่านความเจ็บปวดและเชื่อว่าหลายคนยังไม่หลุดยังเจ็บปวด คนสองคนไม่จำเป็นจะต้องแข่งขัน เรามีดีในแต่ละคน
จากนั้น ยิปซี เผยความรู้สึกของตัวเองเมื่อหลายปีก่อนที่ทำให้เธอเป็นทุกข์ให้ฟังว่า มีคนเปรียบเทียบเรามาตั้งแต่เด็ก น้องโดนเปรียบเทียบจากคนนอกบ้าน แต่เราถูกเปรียบเทียบจากคนในบ้าน
น้องจะเป็นเด็กน่ารัก แต่เราเป็นเด็กดื้อเงียบ มีความคิดความชอบต่างจากคนในบ้าน ตอนนั้นแยกไม่ออก แต่คิดว่า เราเป็นคนนิสัยไม่ดีเพราะคิดไม่เหมือนพ่อแม่และน้อง

ยิปโซ จึงเสริมต่อว่า ทั้ง 2 คนนั้นถูกเปรียบเทียบกันคนละอย่าง ยิปโซจะโดนเรื่องหน้าตา รูปร่าง แต่พี่สาวจะโดนเรื่องนิสัย ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม
...
ซึ่งเรารู้สึกเจ็บทั้งคู่ เกิดความทุกข์ใจของเรา 2 คนมาเป็น 10 ปี เลยทำให้เราไม่สนิทใจกันร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากจะรักพี่แต่ก็กลัวพี่ อยากจะรักน้องแต่ก็กลัวน้อง
จากนั้น ยิปซี คีรติ เล่าย้อนไปในวันที่เดินไปเปิดใจกับน้องสาวว่า ที่ผ่านมารู้สึกอิจฉา รู้สึกว่าด้อยกว่า และอยากเป็นให้ได้แบบน้อง
ซึ่ง ยิปโซ อริย์กันตา ก็บอกว่า ไม่เคยคิดว่าพี่สาวจะรู้สึกแบบนั้นกับเรา เพราะเราก็รู้สึกแบบนั้นกับพี่สาว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันทำให้เราเข้าใกล้กันไม่ได้ซะที


...