ตั้งแต่เริ่มต้นยุคทีวีดิจิทัลเป็นต้นมา งานข่าวมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เป็นผลมาจากแรงกดดันของบรรดาเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ผูกขาดความสำเร็จมาแต่เดิม คนมาใหม่ถ้าคิดจะอยู่รอดต้องหาแนวทางของตัวเอง
ในปีที่ 9 นี้เราได้มองเห็นความชัดเจนของแนวทางของทีวีช่องต่างๆมากขึ้น ทีวีช่องหลักก็จะยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีละครและข่าวเป็นเมนูหลัก
ขณะที่ทีวีช่องน้องใหม่เริ่มคลำหาทางตัวเองเจอ บ้างก็เอาดีด้านซีรีส์-ภาพยนตร์ต่างประเทศ บางช่องก็สร้างละครมาประชัน บางสถานีเน้นวาไรตี้เกมโชว์ บางช่องมองเห็นโอกาสกับละครทางเลือกเน้นเฉพาะกลุ่ม
และก็มีบางช่องเลือกที่จะเป็นสถานีข่าว
ในช่วง 7-8 ปีมานี้ทีวีดิจิทัลได้ผลิตบุคลากรข่าวออกมาเป็นจำนวนมาก ต่อมาในช่วง 2-3 ปี ก่อนนี้เป็นยุคเก้าอี้ดนตรี พิธีกรข่าววิ่งตามหาสถานีในอุดมคติของตัวเองจนวันนี้สถานีข่าวเริ่มโชว์ศักยภาพตัวเองให้เห็นแล้ว
สถานีข่าวต่อสู้กับช่องหลักอย่างชาญฉลาด การสร้างละครไปปะทะกันก็เหมือนกับเอาไข่ไปกระแทกหิน เงินที่ทุ่มลงไปไม่ต่างจากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ดังนั้น จึงเอาจุดแข็งไปปะทะจุดเด่นของคู่แข่ง ด้วยการทำรายการ “ข่าว” มาประชันกับ “ละคร”
และล่าสุดเราได้เห็นข่าวที่วิวัฒน์รูปแบบใหม่ เป็น “ข่าวเชิงละคร”
มีการเขียนบทกำหนดแนวทางนำเสนอ มีตัวเอก ตัวรอง ตัวประกอบ โครงสร้างไม่ต่างจากละคร เพียงแต่นำเสนอในรูปแบบข่าว
เห็นชัดจากข่าว “ลุงพล” ซึ่งดูกันยาวๆ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน แอร์ไทม์พอกับละคร 1 ตอน โดยถูกนำเสนอต่อเนื่องนานร่วมปีทีเดียว
...
ซึ่งผลออกมาน่าพอใจ เพราะตัวเลขเรตติ้งช่วงเวลาข่าวพุ่งขึ้นไปรั้งอันดับ 1 2 3 แซงละครเฉยเลย
ถึงตอนนี้ไม่มีใครกลัวใครแล้ว “ละคร” กับ “ข่าว” วัดกันที่คุณภาพ วันต่อวันกันเลย.
‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com