• ภาพลักษณ์ผู้ชายลั้นลา ทำผู้หญิงไม่กล้าเข้าหาบอยเพราะกลัวจะไม่จริงจัง
  • บอยต้องยอมลดความรักชีวิตส่วนตัวลง เพื่อเปิดให้คนอื่นเข้ามา
  • ถูกเชียร์สานสัมพันธ์ เดียร์น่า ฟลีโป ยังตอบไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของอนาคต

บอย ปเกรียน พระเอกสายเฮฮา

ถ้าเอ่ยชื่อของ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พระเอกหนุ่มเครางาม เจ้าของฉายา บอย ปเกรียน เชื่อว่าใครๆ ต้องชื่นชอบในตัวพระเอกหนุ่มคนนี้กันไม่น้อย เพราะหนุ่มบอยขึ้นชื่อเรื่องของความเป็นหนุ่มขี้เล่น และเป็นมิตรกับทุกคน

ซึ่งเราเคยได้สัมผัสในมุมความน่ารักของหนุ่มบอยกันมาไม่น้อย เวลาไปตามงานอีเวนต์ที่เจ้าตัวไป ก็จะเห็นพระเอกหนุ่มคนนี้ที่ยังอยู่แม้งานจะเลิกไปแล้ว แต่บอยยังอยู่ถ่ายรูปกับแฟนคลับที่ต่อแถวยืนรอยาวเหยียดด้วยรอยยิ้ม และไม่มีบ่นสักคำ

เพราะเหตุนี้จึงทำให้ชื่อของ บอย ปกรณ์ ยังเป็นที่รักของแฟนๆ และใครหลายๆ คนอยู่เสมอมา แม้ในวันนี้จะมีพระเอกคลื่นลูกใหม่แจ้งเกิดมากมาย แต่ก็ไม่อาจโค่นบอยลงจากตำแหน่งนี้ได้ 

แต่ใครจะเชื่อ กว่า บอย ปกรณ์ จะเดินทางมาอยู่ในจุดนี้ได้ ผู้ชายคนนี้เคยถูกปาไข่ใส่หน้า ในระหว่างที่เจ้าตัวทำพิธีบวงสรวงละคร ไฟรักอสูร ละครที่เล่นเรื่องแรก ซึ่งบอยเคยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ชาวบ้านแถวนั้นคงรำคาญ เพราะใช้สถานที่ตรงนั้นมาทั้งคืนและเสียงคงดัง ก็เลยปาไข่มา จนทำให้โดนตัวเอง

...

แม้จะไม่ได้แจ้งเกิดดังเปรี้ยงปร้างตั้งแต่เล่นละครเรื่องแรก แต่บอยก็ใช้เวลาไม่นานในการก้าวเข้าสู่ตำแหน่งพระเอกแถวหน้าของช่อง 3 ซึ่งเชื่อว่าหลายคนที่เป็นแฟนละครของพระเอกคนนี้น่าจะยังจำผลงานละครเรื่อง สี่หัวใจแห่งขุนเขา ตอน วายุภัคมนตรา และ รอยมาร ได้เป็นอย่างดี เพราะละครเรื่องนี้ บอยเล่นคู่กับ มาร์กี้ ราศรี ได้รับกระแสตอบรับดีมาก จนทำให้บอยและมาร์กี้กลายเป็นคู่จิ้นกันในที่สุด 

13 ปีในวงการบันเทิงโดยประมาณของ บอย ปกรณ์ นั้น ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะบอยก็พบเจอกับสารพัดข่าวที่ทำให้พระเอกขี้เล่นต้องเสียน้ำตามาด้วยเช่นกัน อย่างครั้งหนึ่ง บอยเคยเจอข่าวกินตับสาวที่เกาหลี

ซึ่งเรื่องนี้บอยก็ได้ออกมาขอโทษพร้อมกับร้องไห้เสียใจที่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง แต่สุดท้ายเพราะความเป็นคนนิสัยดี บอยจึงได้รับโอกาสอีกครั้งจากผู้ใหญ่และแฟนๆ 

เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดและเป็นบทเรียนให้กับบอยได้ดีที่สุดเช่นกัน เพราะหลังจากวันนั้น บอย ปกรณ์ ก็ไม่ได้มีข่าวฉาวแบบนี้ออกมาอีกเลย เรียกว่าใช้โอกาสที่ทุกคนมอบให้พิสูจน์ตัวเองได้เป็นอย่างดี  

นอกจากจะเป็นพระเอกนิสัยดีแล้ว บอย ปกรณ์ ยังถูกจัดให้เป็นพระเอกสายกิจกรรมการกุศลอีกด้วย เพราะเจ้าตัวเข้าร่วมโครงการดีๆ กิจกรรมดีๆ อยู่เสมอ ไม่ได้ขาดอีกด้วย 

เส้นทางนักแสดงมาไกลกว่าที่คิดไว้

และวันนี้ เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์พูดคุยกับพระเอกเครางามกันอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ แต่ทุกครั้งที่เจอกัน บอยก็ยังคงเป็นกันเองกับเราอยู่เสมอ พูดคุยทักทาย เม้าท์มอยเรื่องไม่เป็นเรื่องพอหอมปากหอมคอ ก็เริ่มทำงานกันดีกว่า 

เราถามคำถามที่อยากรู้จริงๆ กับบอยว่า อยู่ในวงการมาก็นานแล้ว แต่อายุของการเป็นพระเอกมันมีวันหมดอายุ บอยได้วางแผนชีวิตเอาไว้อย่างไรบ้าง ซึ่ง บอย ปเกรียน ตอบคำถามนี้กับเราว่า

"ตัวผมก็ไม่คิดว่าจะมาเป็นพระเอกได้จนถึงอายุเท่านี้ (ยิ้ม) อาจจะมาได้ไกลกว่าที่เราคิดไว้ด้วยซ้ำ ถามว่าผมวางตัวเองไว้แค่ไหน ใครๆ ก็อยากจะอยู่ในตำแหน่งพระเอกตลอดไป

เพราะการเป็นพระเอกมันก็คือการดำเนินเรื่อง และมันก็เกี่ยวกับการทำงานด้านอื่นอีก แต่ผมก็ไม่ได้ยึดติดกับคำนี้มาก วันหนึ่งมันก็ต้องดำเนินต่อไป อายุก็โรยราไปตามกาลเวลา บทบาททางการแสดงก็ต้องเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา

แต่ผมไม่ได้วางแผนตัวเองว่าจะต้องไปอยู่จุดไหน ทำอะไรต่อไป เพราะตรงนี้ผมให้คนดูหรือผู้จัด คนจ้างเป็นคนตัดสินให้ดีกว่า ทุกอย่างมันจะบอกเราเอง แต่คงไม่มีคนมาบอกผมหรอกว่า พอได้แล้ว ไม่ต้องเป็นพระเอกแล้วนะ

แต่สิ่งที่จะบอกคือเมื่อถึงวันนั้นที่คนส่งบทอื่นมาให้ ซึ่งไม่ใช่พระเอก นั่นแหละก็จะรู้เอง ถ้าถามผม ผมไม่ได้เอาอายุเข้ามาเป็นตัววัดนะ ผมจะวัดจากให้คนดูหรือผู้จัด คนจ้างเป็นคนตัดสินดีกว่า ถ้าเขามองว่าผมเป็นพระเอกได้ ผมก็พร้อมที่จะเป็นพระเอกให้"

บอยไม่ยึดติด จะเล่นบทไหนก็ได้ใช่มั้ย เพราะเหมือนดาราบางคน เขาไม่คิดจะเล่นบทอื่น ขอให้ทุกคนจดจำเขาในภาพของการเป็นพระเอกเอาไว้ แต่สำหรับบอยไม่ได้คิดอย่างนี้

...

"ใช่ แต่ว่าถ้ายังเป็นพระเอกได้ก็อยากเป็นพระเอกอยู่ดี (หัวเราะ) แต่ถ้าวันหนึ่งมีบทที่น่าสนใจมาแต่ไม่ได้เป็นพระเอก แต่บทละครน่าเล่นน่าสนใจมาก ต่อให้เล่นเป็นตัวร้ายแต่เป็นตัวร้ายที่เป็นตัวเอก น่าสนใจมากนะ เพราะบทแบบนี้มีอะไรให้เล่นเยอะมาก

คือผมไม่ได้ยึดติดหรอก แต่ถ้าเรายังอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ได้มันก็โอเค ให้คนดูคนจ้างเขาตัดสินดีกว่าว่าวันหนึ่งแล้วอาจจะเปลี่ยนไปเล่นอันอื่นแล้ว ณ วันนั้นบทพระเอกเขาอาจจะติดต่อเข้ามาน้อยลง แต่ว่ามีบทอื่นติดต่อเข้ามาเยอะแทนถึงวันนั้นเราก็ต้องรู้ตัวเอง"

แล้วต่อไป ถ้าวันหนึ่งบอยไม่ได้เป็นพระเอกแล้ว จะทำอะไรต่อจากนี้ เพราะเห็นตอนนี้ก็ทำธุรกิจหลายตัวอยู่ จะออกจากวงการไปทำธุรกิจเต็มตัวมั้ย เพราะเรารู้กันอยู่ว่าอาชีพนักแสดงมันไม่ได้ยั่งยืนตลอดไป บอย ปกรณ์ ตอบเราว่า 

"เคยคิดจะทำงานเบื้องหลังเหมือนกัน อย่างตอนนี้ก็เริ่มมาทำสตูดิโอ มันก็เกี่ยวกับเบื้องหลัง แต่สตูดิโอเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวตลอดเวลา ก็มีทีมช่วยทำให้ได้ ส่วนการเป็นผู้กำกับหรือผู้จัดก็มีแวบเข้ามาในหัวเรื่อยๆ แต่ ณ วันนั้นก็ต้องดูว่าความสามารถทำได้รึเปล่า

ส่วนที่อยากทำจริงๆ ก็จะเป็นเรื่องของการเป็นพิธีกร ตอนนี้ก็เริ่มก้าวเข้ามาทำ แต่ก็ต้องดูความสามารถของตัวเองว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน เรื่องของการทำรายการก็เป็นสิ่งที่คิดไว้เหมือนกัน ต้องดูอะไรที่ทำได้แล้วก็ดูเรื่องของระยะเป็นตัวประกอบ ดูว่าชอบมั้ย เป็นงานที่สนุกมั้ย รายได้เป็นยังไง คือต้องดูองค์ประกอบหลายๆ อย่างด้วย"

...

เลิกหวงความโสดเตรียมมีครอบครัว


อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ปีนี้ก็ 36 แล้วนะ ถามจริงๆ คิดเรื่องการมีครอบครัวไว้บ้างมั้ย มองภาพตัวเองมีครอบครัวออกหรือเปล่า หรือจริงๆ บอยจะอยู่เป็นโสดรอเลี้ยงหลานๆ ซึ่งบอยยิ้มและหัวเราะ ก่อนจะตอบเรื่องนี้ว่า 

"ด้วยความที่ตอนนี้ยังไม่มีใครที่คุยแล้วไปด้วยกันได้จริงๆ ถ้าวันนี้ผมเจอคนที่ใช่ ผมก็อยากจะคบกัน ศึกษาและเข้าใจกันจริงๆ 2 ปีก็อยากแต่งงานเลย เพราะวัยเราก็เท่านี้แล้ว

สิ่งที่เราคิดคือตอนนี้อายุ 36 แล้ว สมมติให้เวลาอีก 2 ปีในการตามหาใครก็ตาม ถ้าเจอตอนนั้นก็อายุ 38 พอดี พออายุ 40 ก็แต่งงานและมีลูกเลย ที่คิดจะมีลูกเลยเพราะผมกลัวว่าเวลาที่จะได้อยู่กับลูกจะไม่ยาวเหมือนคนอื่น

เพราะตอนนั้นอายุ 41 แต่ลูกเพิ่งจะ 1 ขวบเองนะ (หัวเราะ) เป็นไง คิดไว้ไกลมั้ย เป็นสเตปเลย แต่ก็ไม่ได้กดดันตัวเองนะ ก็เป็นการวางแผนไว้เรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เร่งตัวเอง ก็ปล่อยไป ไม่ได้ ไม่เจอ ก็ไม่เป็นไร (ยิ้ม)"

แต่พระเอกอย่างบอย เอาจริงๆ น่าจะเจอผู้คนหลากหลายในแต่ละวัน แต่ทำไมยังไม่เจอผู้หญิงที่โดนจริงๆ คุยแล้วใช่ คุยแล้วคลิก ซึ่งพระเอกหนุ่มสารภาพเรื่องนี้กับเราว่า 

"ผมเหมือนจะเป็นคนที่เจอคนหลากหลายก็จริง แต่มันเป็นการเจอในลักษณะของการทำงาน แต่ในชีวิตจริงผมเจอคนไม่เยอะ ในชีวิตส่วนตัว ผมเป็นคนใช้ชีวิตสันโดษ หลายๆ คนที่เป็นเพื่อนผมจะรู้ ผมเป็นคนที่ไม่ได้มีสังคมเยอะมาก

ชีวิตผมตื่นมาคือ ไปฟิตเนส ไปนั่งกินข้าว กินข้าวคนเดียวได้ ทุกวันนี้ก็ไปหาอะไรอร่อยๆ กินคนเดียวแล้วก็กลับบ้าน ส่วนภาพเฮฮาที่ทุกคนเห็นคือการทำงานของผมมากกว่า

ผมสนิทกับ เกรท วรินทร มาก แต่ก็ไม่ได้เจอกันบ่อย เพื่อนที่เจอบ่อยจริงๆ ก็จะเป็นเพื่อนสมัย ม.ปลาย นัดเตะบอล เล่นสเกต ทำนู่นทำนี่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้เจอบ่อย นัดเล่นบอล 5 ครั้ง ผมจะโผล่ไปประมาณ 1-2 ครั้ง ทุกวันนี้ชีวิตผมอยู่กับตัวเอง อยู่กับครอบครัวเป็นหลัก"

...

ภาพลักษณ์เฮฮาทำสาวกลัวไม่หยุดที่เขา



หรือเพราะความเป็นพระเอกรึเปล่า จึงทำให้บอยยังไม่มีแฟน กลัวเรตติ้งตก กระแสหาย หรือไม่ได้รับความนิยม อย่างที่ใครหลายๆ คนเขาคิดกัน ซึ่งเรื่องนี้ บอย ปกรณ์ บอกเราว่า 

"ไม่เกี่ยวเลย สำหรับอันนี้คือศูนย์เปอร์เซ็นต์ ทุกวันนี้มันไม่ใช่แล้วที่การมีแฟนแล้วเรตติ้งจะตก ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ดูเดี๋ยวนี้สิ มีแฟนเขาก็เปิดตัวกันหมดแล้ว แต่เหมือนผมเป็นคนชอบใช้ชีวิตแบบนี้ด้วยแหละ พอยิ่งโตก็ยิ่งเป็นด้วยนะ ชอบอยู่คนเดียว (ยิ้ม)"

เราถามต่อทันทีว่า ภายนอกบอยก็เป็นคนที่เข้ากับคนง่าย สนุกสนาน เฮฮา แต่ทำไมพอเป็นเรื่องผู้หญิง คนที่จะเข้ามาอยู่ในใจของบอยได้ทำไมดูยากจัง 

"ผมไม่ได้คุยเยอะอย่างที่ทุกคนมองจริงๆ นะ (ทำหน้าตาจริงจัง) ด้วยความที่ภาพผมเป็นคนสนุกสนาเฮฮาแบบนี้ แต่คนเข้ามาก็ไม่เยอะนะ ผมเข้าหาคนอื่นว่าน้อยแล้ว คนอื่นเข้ามาน้อยกว่าผมอีก (หัวเราะ)

ด้วยความที่ผมเป็นคนคุยแล้วอาจจะดูไม่ค่อยจริงจัง ก็เลยอาจทำให้คนกลัวผมด้วย ผมว่าผู้หญิงกลัวว่าผมจะไม่หยุดที่เขา แต่ทุกครั้งที่พบ และเริ่มคุยศึกษากับใครสักคนหนึ่ง ผมจริงจังตลอดนะ แต่ถ้าคนอื่นจะมองจะคิดว่าผมเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่ว่าอะไร"

และหลายครั้งที่บอยมีความรัก และความรักมันต้องจบไป จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ มันทำให้บอยมองตัวเองมั้ยว่าต้องปรับหรือควรเป็นยังไงกับความรักครั้งต่อไป ซึ่งบอยบอกกับเราว่า 

"อันนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าเวลาคบใครคนหนึ่งก็เกิดปัญหา เรารู้สึกว่ายังต้องปรับ ไม่ดีตรงนี้ มีข้อเสียตรงนั้น ก็เอามาปรับในความรักครั้งต่อไปอยู่แล้ว

มันจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกขี้เกียจมีแฟน ความรู้สึกนี้เคยเกิดเพราะว่าขี้เกียจมานั่งคุยกับใครสักคนหนึ่ง ขี้เกียจต้องโทรหาเขา ต้องทำดี ผมรู้สึกแบบนี้สัก 2-3 ปีที่แล้ว

ผมก็คิดการมีชีวิตคนเดียวมันก็มีข้อดีเหมือนกันนะ คือความจริงผมยังรักชีวิตการอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้เริ่มจริงจัง ต้องลดความรักชีวิตส่วนตัวลง เพื่อเปิดให้คนอื่นเข้ามา (ยิ้ม)"

แล้วตอนนี้แม่ยังอยากให้มีแฟนอยู่มั้ย หรือว่าแม่ปลงแล้ว ไปหวังกับลูกคนอื่นดีกว่า ซึ่งเรื่องนี้บอยตอบเราไป นั่งหัวเราะไปกับเรื่องนี้ว่า "มันมีช่วงนั้นที่แม่จริงจังมากกว่านี้ ช่วงนี้เขาก็จริงจังนะแต่ว่าเบาลง (หัวเราะ)

แต่เขาก็ไม่ได้ถึงขั้นไปหาผู้หญิงมาแนะนำให้ ที่เบาลงก็คือแม่น่าจะปลงลง ประมาณว่าชอบใครก็จีบเลย เหมือนแม่ก็รู้ว่าผมไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอใครเท่าไหร่จริงๆ"

ส่วนความสัมพันธ์กับ เดียร์น่า ฟลีโป นางเอกสาวที่บอยปลื้มอยู่นั้น ตอนนี้มีโอกาสจะพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวบอกกับเราว่า แค่ชื่นชอบ ปลื้มเพราะน่ารัก และเดียร์น่าก็เป็นเด็กจิตใจดีจริงๆ ชอบในความดี แต่ไม่คิดจะไปจีบ ไม่ได้รู้จักมากในระดับที่ว่าจะไปจีบด้วย แต่ถ้าได้รู้จักกันมากกว่านี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต แต่มีข่าวแบบนี้เกรงใจอีกฝ่ายมาก ต้องส่งข้อความไปขอโทษที่ทำให้เป็นข่าวแบบนี้

บาปอยุติธรรม งานละครท้าทายความสามารถ

ผลงานละครเรื่องล่าสุด ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของบอย บาปอยุติธรรม มันยาก ท้าทายความสามารถของบอยมากขนาดไหน ซึ่งเรื่องนี้ บอย ปกรณ์ หัวเราะก่อนจะเล่าถึงความยากของละครเรื่องนี้ให้ฟังว่า 

"เรื่องนี้เป็นบทที่ยากที่สุด ไม่ใช่การพูดเพื่อมาโปรโมตละครนะ ตั้งแต่เล่นละครมาไม่มีเรื่องไหนง่ายหรือยากแตกต่างกันสุดขีด แต่ถ้าให้จัดอันดับเรื่องนี้ถือว่าติดหนึ่งในเรื่องที่เข้มข้น มันเหนื่อยที่สุดในชีวิตเหมือนกัน

ด้วยอารมณ์ของตัวละครที่มีความเข้มข้นในบท และละครเรื่องนี้เป็นละครที่รีเมกมาจากตุรกี หลักๆ คือตัวบท แต่ในเรื่องอารมณ์ของตัวละครก็มีการปรับให้เข้ากับบริบทของคนไทย

ทุกอย่างมีการปรับให้เข้ากับความเป็นคนไทย ชูพอร์ตเรื่อง การผูกปม คลายปม การแก้แค้น การเฉลยเรื่อง จะมีความเป็นอินเตอร์ค่อนข้างสูง ลักษณะของการสืบสวนสอบสวน ถ้าใครเป็นสายชอบซีรีส์เกาหลี เรื่องนี้ไม่น่าพลาด

ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้จะมีความฉลาดค่อนข้างสูง ผมเคยบอกพี่หนุ่ม กฤษณ์ ไว้ตอนที่เล่นละครเรื่อง 3 หนุ่มเนื้อทอง ว่าอยากเล่นบทชีวิตรันทด มีความยากลำบากในชีวิตมากๆ จนพี่หนุ่มได้เรื่องนี้มา อยากให้ผมเล่น แล้วชีวิตก็ไม่ได้รันทด แต่มันมีสิ่งที่เป็นคลื่นพัดเข้ามาในชีวิตตลอด ซึ่งผมชอบเล่นดราม่า

และพี่แอ้ว ผู้กำกับทำการบ้านมาเยอะมาก เขากำหนดให้ตัวละครเหมือนดุดันตลอดเวลา ถ้าเจอคนที่เป็นต้นเหตุเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะฆ่าตลอดเวลา นี่คือตัวละครที่พี่แอ้วมองไว้ แต่มันไกลตัวผมมาก เพราะว่าผมเป็นคนก๊องแก๊งมันก็เลยเป็นอะไรที่ยากจุดหนึ่ง

ผมต้องโชว์ส่วนนี้ตลอด บางทีคิดว่าทำแล้ว แต่ว่ามันยังไม่พอ ความดุดันของพี่แอ้วไม่ใช่การที่มาทำหน้าเครียดตึง แต่มันต้องออกมาจากข้างใน พี่แอ้วเป็นคนเพอร์เฟกต์ แต่ละฉากจะมีภาพในหัวแล้วว่าต้องเป็นยังไง

ผมยอมรับว่าพี่แอ้วเป็นผู้กำกับที่เก่งมากๆ เขาเป็นคนดีไซน์แต่ละฉากดีมากๆ ดีไซน์ฉากที่ธรรมดาให้มีความน่าสนใจได้ เรื่องนี้ไม่มีซีนไหนที่ง่ายเลย ขนาดซีนสั้นๆ ที่มีอยู่ 5 ประโยคก็เป็นซีนที่ยากได้ มันเลยทำให้ตัวละครชิดตะวันที่พี่แอ้วสร้างขึ้นมามีมิติมาก เป็นตัวละครจริงๆ เป็นชีวิตจริงๆ

ผมเล่นละครมาเป็น 10 ปี พอมาเล่นเรื่องนี้ต้องเคลียร์ทุกอย่างใหม่หมด เริ่มใหม่ พี่แอ้วไปดูเรื่องเก่าๆ ของทุกคนมาว่าเคยเล่นอะไรบ้าง เขาจะเปลี่ยน เขาทำการบ้านเยอะมาก 

ผม จีน่า และ บอม เจอพี่แอ้วเรื่องแรกต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ทางกัน การทำงานกับพี่แอ้วเป็นการทำงานที่ค่อนข้างจริงจังมากๆ แต่มันเป็นความเครียดที่สนุกที่ได้เปลี่ยนแพลนไปเรื่อยๆ การได้เล่นกับพี่แอ้วได้วิชาเยอะเลย แต่ว่าความเครียดมันสะสมจากการทำงาน

ผมคุยกับจีน่าบ้าง เพราะจีน่าเป็นคนแรกที่โดน กลัวว่าจีน่าจะพังไปเลย กลัวกำลังใจจะหายไปก่อน ค่อยๆ ปรับไป แต่ผมกับบอมก็ไม่ค่อยคุยกันเท่าไหร่ ไม่กล้าถาม แต่ก็รู้ว่าเครียด

ตอนที่เขาเล่าให้ฟังผมตลกมาก เพราะคิดว่าผมเครียดคนเดียว เลิกถ่ายก็นั่งทบทวนว่าวันนี้มันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีอะไรที่รู้สึกไม่ดีหรืออะไรที่โอเคแล้ว เพื่อการทำงานในวันต่อไป เพราะว่ามันหนักมากจริงๆ

ฝากติดตามละครเรื่องบาปอยุติธรรม เป็นละครอีกเรื่องหนึ่งที่ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าหนักที่สุด เป็นหนึ่งในเรื่องที่หนักในชีวิตผมเหมือนกัน มันเหนื่อยจริงๆ แล้วเป็นอะไรที่ผมรู้สึกว่าดีใจที่ได้มาเจอเรื่องนี้ ทั้งตัวเนื้อเรื่อง ตัวคาแรกเตอร์ที่ผมได้รับ ทุกอย่างมันสนุกไปหมด

รู้สึกว่าสนุก เอ็นจอยตั้งแต่อ่านบท ฟังพี่หนุ่มเล่า ด้วยความที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกซื้อมาจากตุรกี เนื้อเรื่องก็จะมีความอินเตอร์ในระดับหนึ่ง ในลักษณะของพอร์ตเรื่อง การสืบสวน การเปิดปมคลายปม ฝากติดตามด้วยครับ"

หลังจากที่นั่งคุยกับ บอย ปกรณ์ อีกครั้งในวันนี้ ยอมรับว่าในระหว่างที่คุยกันเรื่องชีวิตครอบครัว เราแอบนั่งคิดภาพตามที่เจ้าตัวเล่า และวางขั้นตอนชีวิตของการมีครอบครัวของตัวเองเอาไว้คร่าวๆ บอกเลยว่า แอบเชียร์ให้ถึงวันที่บอยได้เจอใครสักคนที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันมากๆ อยากจะเห็นบอยจูเนียร์ว่าจะน่ารักน่าเอ็นดูมากแค่ไหน จะได้ความเกรียนของพ่อมาบ้างหรือเปล่า เราเชื่อว่าแฟนๆ ของพระเอกคนนี้ คงต้องรอติดตามช่วงชีวิตนี้ของบอยกันอย่างใจจดใจจ่อ และเราก็ขอให้ถึงวันนั้นในเร็ววัน  

ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา

กราฟิก : Sriwon Singha

ช่างภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย