ทำเอาช็อกวงการ เมื่อมีข่าวคู่รักต่างวัย เคลลี่ ธนะพัฒน์ และภรรยาสาว นาย-ชนุชตรา เตียงหักรักร้างปิดฉากรักต่างวัยหลังแต่งงานกันมา 2 ปี ซึ่งทั้งคู่ถูกจับตามองว่าไม่มีรูปคู่หวานๆในอินสตาแกรมมาหลายเดือน ล่าสุดหนุ่ม เคลลี่ ออกมาเปิดใจที่ร้านอาหารเรือธงซีฟู้ด ยอมรับว่าได้แยกทางกับภรรยาสาวจริง โดยเผยว่า
“ผมกับน้องนายได้แยกทางกันจริงครับ ผมก็เพิ่งย้ายออกจากบ้าน มีปัญหากันมานาน 3 เดือน แต่เพิ่งย้ายออก ระหว่าง 3 เดือนนี้ก็พยายามจะปรับจูนคุยกันเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็มาถึงวันที่เราต้องตัดสินใจแล้วว่าเราต้องถอยคนละก้าว”
สาเหตุเกิดจากอะไร?
“เราคบกันมาก่อนหน้านี้ 3 ปี แต่งงานกันมา 2 ปี คบกันด้วยความรัก แต่พอมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วก็จะมีเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกัน ไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน หรือช่องว่างระหว่างอายุ คือมันก็หลายอย่างทำให้เป็นปัญหาสะสม 3 เดือนที่ผ่านมาพยายามประคับประคองแล้ว อาจจะด้วยผมทำงานหนัก หลังจากโควิด-19 ก็ถ่ายละคร 3 เรื่อง อาจจะไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน ก็มีการปรับจูน จนเพิ่งมีข่าวว่าเราแยกทางกัน เป็นการตัดสินใจระหว่างเราทั้งคู่ มันก็คงหลายๆเรื่อง อย่างที่บอกมันสะสมมา ก็พยายามแล้วครับ ใจหายเหมือนกัน”
น้องนายโพสต์เฟซบุ๊กทำให้คนตีความว่าเราอาจมีคนอื่น?
“น้องนายเค้าชอบเขียนพวกคำคมอย่าไปใส่ใจกับตรงนั้นมากเลย”
สิ่งที่เค้าโพสต์มีผลกระทบต่อเรามั้ย เพราะคนมองว่าเรามีคนอื่น?
“จริงๆผมไม่ได้ใส่ใจกับตรงนั้นมาก แต่เรื่องมือที่สาม ผมยืนยันได้เลยว่าไม่มีแน่นอนทั้ง 2 ฝั่ง ผมอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี ที่ผ่านมาผมคบใครก็คบคนเดียว ไม่คบซ้อนไม่เคยมีข่าวไปกุ๊กกิ๊กกับใคร”
...
จะมีโอกาสกลับมาเป็นครอบครัวได้อีกมั้ย?
“ณ วันนี้ ได้ตัดสินใจแล้วว่าเราแยกทางกัน เราอยู่กันแบบพี่น้องดีกว่า”
จบดีมั้ย หรือมีอะไรติดค้างกัน?
“ก็ดีครับ ได้พูดคุยกันก่อนจะตัดสินใจแยกทาง ก็ไปทานข้าวพูดคุยกัน”
เราย้ายออก?
“ใช่ครับ เป็นฝ่ายย้ายออกมา เรือนหออยู่บนที่ดินของทางน้อง เราเป็นผู้ชายก็ย้ายออกมา ของก็ไม่มีอะไรแค่เสื้อผ้ารองเท้า ของของเราที่เราใช้จะได้ไม่ทิ้งไว้ให้รกบ้าน”
สภาพจิตใจเป็นยังไง?
“ก็ยังลำบากอยู่ครับ ใจหาย มันเป็นเรื่องที่ทำใจยากครับ (เสียงสั่น)”
ได้ทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่มั้ย?
“ได้คุยกันตลอดเลย ที่ผ่านมาที่พยายามปรับจูนกัน ผมก็คุยกับคุณแม่เค้าทุกวัน”
เสียดายมั้ย?
“ผมจริงจังมาก แล้วก็ตั้งใจมากกับการใช้ชีวิตคู่ ครั้งนี้ คือเราตัดสินใจแต่งงาน เราก็อยาก จะอยู่กับคนคนนี้ไปตลอดชีวิต แต่มันก็...(นิ่ง) ยากอะครับ”
ได้สอบถาม น้องนายมั้ยว่าเป็นยังไงบ้าง?
“ก็เป็นห่วงเป็นใยตลอด อย่างที่บอก รู้ว่าเค้าก็ถ่ายละคร เราก็ไม่อยากไปรบกวน”
หลังจากนี้จะมูฟออนหรือเริ่มต้นความรักครั้งต่อไปมั้ย?
“เพิ่งเกิดเหตุการณ์ เราไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย ผมคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้ยังใจหายอยู่ เราตั้งใจมาก อยากจะมีครอบครัว วางไว้ว่าปีนี้แหละ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็ยากที่จะมาพูดด้วยครับ”
ให้กำลังใจตัวเองยังไงบ้าง?
“เราก็นึกถึงแต่สิ่งดีๆที่เราสองคนเคยผ่านมาด้วยกัน น้องก็เป็นคนน่ารัก เราใช้ชีวิต เรามีเรื่องดีมากกว่าเรื่องแย่ ผมรักพ่อแม่เค้ามาก พ่อแม่เค้าเป็นคนดีมาก รักผมเหมือนลูกคนนึง ผมนั่งคุยกับเค้าได้ทุกเรื่อง”
เสียดายความรักครั้งนี้มั้ย?
“ผมไม่ใช้คำว่าเสียดาย แต่เสียใจ ไม่มีอะไรน่าเสียดาย เรื่องดีๆมันมีเยอะครับ”
ยังเจอหน้าพูดคุยกันได้มั้ย?
“ได้สิครับก่อนที่จะออกมาได้ไปคุยกัน ทานข้าวกัน ก็เป็นการตัดสินใจร่วมกัน ถ้าอยู่ต่อไป เดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด คือถอยกันมาก่อน ให้ต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตอยู่คนเดียวก่อน ตอนนี้ความรักก็คงได้แค่เป็นพี่เป็นน้องกัน”
ก่อนหน้านี้ได้มีการจดทะเบียนสมรสกันมั้ย?
“ไม่ได้จดเคยไปเขตแล้ว ผมถือสัญชาติอเมริกัน พอจะไปคุยก็มีโควิด-19 เลยไม่ได้ไปสักที มีความตั้งใจที่จะจดอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาส”
ยังเป็นห่วงอะไรน้องมั้ย?
“ก็เป็นห่วงหลายๆเรื่อง เรื่องงาน การดูแล เอาเป็นว่าอย่างน้อยเราได้อยู่บ้านเดียวกัน ถึงแม้เราจะห่างกันมา 3 เดือน นอนคนละห้องกัน แต่เราก็ได้อยู่ใกล้ตัว มีอะไรให้ช่วยเราก็ช่วยได้ แต่ตอนนี้เราอยู่คนละที่กันแล้ว ก็คิดอยู่ตลอดเวลา”
ตอนที่อยู่คนเดียวมีร้องไห้ เสียน้ำตามั้ย?
“ก็ต้องมีแหละครับ”.