หลังจากที่เคยเจอเหตุการณ์ฟ้าผ่ากลางอกมา จนทำให้นักแสดงสาว จุ๊บแจง วิมลพันธ์ เหมือนตายทั้งเป็น โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้แยกทางกับสามีที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 21 ปี เพราะอดีตสามีไปเจอรักใหม่เป็นเด็กฝึกงานสาวสอง ทำให้เจ้าตัวทนไม่ได้ เหมือนฟ้าฝ่ากลางอก และขอเซ็นใบหย่าเลยทันที
ล่าสุดในรายการ ที่รัก เสือ สิงห์ กระทิง แซ่บ จุ๊บแจง ก็ได้พาหนุ่ม บอม อัศจรรย์ ผู้กำกับหนุ่ม มาเปิดตัวในฐานะแฟนใหม่เป็นครั้งแรก โดย จุ๊บแจง บอกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตื่นเต้นมาก เราสองคนอายุก็ไม่ได้น้อยแล้ว ก็กลัวอายถ้าคบกันไปมันไม่ประสบความสำเร็จ
บอม "ครั้งแรกที่เจอกันนานมากแล้ว ประมาณปี 34-35 ได้มั้ง ตอนนั้นพี่เรียนอยู่ ม.ศิลปากร ปี 2"
จุ๊บแจง "ตอนแรกเราไปเล่นหนังของพ่อเค้า แล้วเค้าก็ไปช่วยพ่อทำงานในกองถ่าย ตอนนั้นเค้ายังไม่ได้เป็นผู้กำกับนะ ตอนหนุ่มๆ เค้าก็เจ้าชู้ เพราะเค้าหล่อ และตัวเราเองก็มีความรู้สึกว่าคงไม่เข้ากับเรา แล้ววันหนึ่งก็กลับมา แล้วเค้ามาเป็นนักแสดงเรื่องเดียวกัน เราก็ตกใจว่าเค้ากลายมาเป็นนักแสดงแล้ว"
บอม "เล่นละครกับ จุ๊บ มาเรื่องแรกก็คือ หวานมันฉันคือเธอ ของบรอดคาซท์เรื่องแรกเลย มี เคิร์ก โรลลิ่ง, ต่าย สายธาร เล่นทั้งภาค 1 ภาค 2 เล่นละครมาสัก 2 ปี ก็ตัดสินใจว่าเบื้องหน้าคงไม่ใช่ของเราแล้ว เลยไปเป็นผู้กำกับดีกว่า จริงๆ ชอบด้านผู้กำกับมากกว่าครับ ตอนนี้กำกับหนังวัยรุ่นเรื่อง 16 ห้าว 19 เดือด อยู่ครับ"
นอกจากนี้ จุ๊บแจง ยังได้พูดถึงการรีเทิร์นในครั้งนี้ว่า เป็นรักครั้งแรกของเรา เป็นความรู้สึกดีๆ ที่เราเก็บไว้ พอวันหนึ่งเราเจอกันและลองคบกัน การปรับตัวของเค้ามันก็ดีขึ้น พิสูจน์ให้เราเห็น ก็เชื่อในเรื่องพรหมลิขิต หรือบุพเพสันนิวาสรึเปล่า ที่ทำให้เรากลับมาเจอกัน รู้สึกว่าเค้าเปลี่ยนแปลงเยอะ
...
ถามว่าเต็มที่กับรักครั้งนี้แค่ไหน บอม บอกว่า เต็มที่มากนะ ดูแล้วเค้าเป็นคนที่ใช่ ตอนที่กลับมาจีบกันอีกครั้ง ก็ทำแบบเนียนๆ เอารูปสมัยตอนที่จีบเค้าครั้งแรกส่งไปให้เค้าดูว่าค้นอัลบั้มเจอ เรามีรูปนี้นะ เธอมีมั้ย เราก็จะบอกเค้าว่า ตอนนี้ไม่ได้เจ้าชู้แล้ว ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้เกเร ตอนนี้เราตั้งใจทำงานนะ เราพร้อมแล้ว
เมื่อก่อนเคยคบผู้หญิงทีเดียว 7 คนเลยนะ คือเราอยากลองว่าถ้าเราคบพร้อมกัน 7 คนแล้วเราไม่โกหก และผู้หญิงเค้ารู้ว่าเราคบคนนี้ๆ เค้าจะรับได้มั้ย เราก็บอกหมดเลย และเค้าก็ยอม แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วมีแค่ จุ๊บแจง คนเดียว
จุ๊บแจง บอกว่า กลับมาคบกันครั้งนี้ก็ยังให้แค่ 8 คะแนน เพราะบางครั้งเค้ายังมีอารมณ์ติสต์ อารมณ์ร้อน บางทีเราโทรไปเค้าก็บอกว่า เดี๋ยวค่อยคุย ยุ่งอยู่ แล้ววางสายไป บางทีก็ติดต่อไม่ได้ แต่เราก็เข้าใจเค้านะ เพราะเค้าเป็นผู้กำกับหนังมีเรื่องให้ต้องคิด ต้องเครียด ต้องทำตลอดเวลา
บอม บอกต่อว่า รักครั้งนี้ตั้งใจทำงาน และอยากสร้างครอบครัวให้มันเร็ว มันจะได้มั่นคง ตั้งใจว่ารักครั้งนี้จะแต่งงานเลย พร้อมแจกการ์ดเลยก็ได้ แต่อยากขอบวชก่อนสัก 3 เดือน พอบวชเสร็จก็ค่อยแต่ง
จุ๊บแจง เล่าว่า จริงๆ ผู้หญิงก็อยากจะแต่งงานนะ แต่เรากลัวว่าเราอายุเยอะกันแล้วมันจะดูตลกรึเปล่า เค้าก็บอกว่าอยากแต่งให้พ่อให้แม่ ก็จะมีแต่เพื่อนสนิท และผู้ใหญ่ที่เราเคารพรักก็พอแล้ว ไม่ต้องเอาซองมาให้นะ
ตัวพี่บอมเค้าทำงานหนัก แล้วลูกสาวเค้าเป็นผู้หญิง อยู่ ม.4 แล้ว พอเริ่มโตเป็นสาว เค้าก็อยากจะมีคนที่คุยได้ทุกเรื่อง ตัวเราเองก็อยากแบ่งเบาภาระพี่บอมเค้า ถ้าเกิดเป็นเรื่องลูกเค้า เราก็อยากช่วยดูแลในส่วนที่เราช่วยได้ แต่เราก็ไม่อยากให้เค้าคิดมาก เพราะยังไงจุ๊บรักพี่ จุ๊บก็ต้องรักลูกพี่ด้วย
ด้าน บอม ยอมรับว่า ที่ผ่านมาเราผ่านอะไรมาเยอะมาก แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปพูดเรื่องเก่าๆ ที่ไม่สบายใจ เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ช่างมันไป แต่สำคัญตรงที่ว่าเราจะทำยังไงให้มันดีกับเราในอนาคต และ จุ๊บแจง บอกว่า เหมือนพี่บอมมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป และยิ่งสมัยเด็กๆ เราเคยเป็นป๊อบปี้เลิฟกัน พอเราโตขึ้นความคิดก็เปลี่ยนไป ไปรักกันแบบผู้ใหญ่
นอกจากนี้ บอม ก็ได้พูดถึง จุ๊บแจง ว่า เค้าเข้ามาช่วยเติมเต็มในส่วนที่หายไป เรามีลูกสาวบางเรื่องลูกจะพูดกับเราไม่ได้ เค้าก็จะมาช่วยดูแลในส่วนนี้ และ จุ๊บแจง พูดถึง บอม ว่า เมื่อก่อนเคยมองภาพเค้าว่าเป็นคนเกเร แต่สิ่งแรกที่เราเห็นคือเค้าเป็นคนที่รักลูกมาก และเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว สิ่งแรกคือเราชื่นชมเค้าในเรื่องที่รักลูก และเราก็ไม่เคยคิดนะว่าเค้าจะรักลูกมากกว่าเรา พอเราได้มาสัมผัสตรงนี้ ก็รู้สึกว่าเค้ายังดูแลลูกเค้าได้ดีเลย เค้าก็คงดูแลเราได้
บอม บอกต่อว่า จริงๆ ในความรู้สึกพี่มันไม่จำเป็นต้องมีคำมั่นสัญญาหรอก เพราะในใจเรารู้อยู่แล้ว อยากจะบอกว่าไม่ต้องมาขอคำมั่นสัญญาอะไรกับพี่หรอก เพราะต่อจากนี้ถึงหมดลมหายใจจะไม่หายไปจากจุ๊บแจงอยู่แล้ว
จุ๊บแจง พูดถึง บอมว่า ขอบคุณพี่บอมที่มาเติมเต็มหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง แล้วขอบคุณที่เค้าไม่เคยรื้อฟื้นเรื่องอดีตหรืออะไรเลย และเค้าทำให้เรารู้สึกว่าเราจะไม่ทำให้ 20 ปีกับผู้ชายคนนี้หายไปอีกแล้ว เราต้องดูแลเค้า จนวันหนึ่งใครจะไปก่อนกันเราไม่รู้นะ ก็จะทำให้ดีที่สุด.