ความรักตอนนี้หวานแหวว โลกสีชมพูสุดๆ สำหรับพระเอกสายเกรียน เก้า จิรายุ ที่ล่าสุดปล่อยพลังความหวาน ถ่ายแฟชั่นคู่กับหวานใจนักร้องเสียงเท่ วี วิโอเลต ขัดใจสาวทั่วประเทศ แต่ความรักถึงจะราบรื่นเพียงใด

แต่ผลงานเพลงของเจ้าตัวกลับได้รับเสียงยี้ ชาวเน็ตวิจารณ์ว่าเป็นเพลงขยะ ทำเอาพระเอกสุดแนว เก้า จิรายุ แอบจิตตกไปชั่วขณะ งานนี้เจ้าตัวพร้อมเคลียร์ และขออัปเดตผลงานซีรีส์เรื่องใหม่เอี่ยม เดอะ เดบิวต์..อวสานไอดอล (THE DEBUT) ซีรีส์คุณภาพเรื่องล่าสุดจาก WeTV Original ที่มีกำหนดออนแอร์ตอนแรก 16 มีนาคม ทาง WeTV ณ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ พร้อมด้วยการเปิดใจถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ คุณยายมาเรีย ที่มีอาการโรคหลอดเลือดอักเสบ และไขกระดูกสันหลังบกพร่อง จากไปอย่างไม่มีวันกลับ

ถามถึงการรับงานถ่ายแบบคู่กับวีครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?
“ก็ตามที่ทุกคนเห็นครับ ผมกับวีทำงานด้วยกันก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ก็มีคนติดต่อมาทั้งคู่ครับ แล้วเราก็คุยกันคิดว่าโอเคก็เลยลองทำดู คิดว่ามันก็เป็นภาพสวยๆ แล้วก็ไม่ได้เสียหายอะไร”

ตัดสินใจนานไหม การการรับงานถ่ายแบบคู่กันครั้งแรก?
“ไม่ได้คิดมากครับ เพราะว่ามันเป็นแฟชั่น เราไม่ได้มาถ่ายพรีเซนต์ว่าเป็นอะไร เพราะมันก็คือเก้าและวี ซึ่งในการถ่ายแฟชั่น เราก็ต้องพรีเซนต์เสื้อผ้าให้มันสวยก็แค่นั้นเองสิ่งที่เราต้องการ”

...

แอบรู้สึกเขินไหม ทำงานด้วยกัน?
“ส่วนตัวผมงานถ่ายแบบไม่ใช่งานที่เราทำบ่อย เราก็รู้สึกว่าต้องพยายามหน่อย แต่แรกมันก็รู้สึกว่าไม่ค่อยลงตัวสักหน่อย แต่พอถ่ายไป 2-3 ชอตก็รู้สึกว่าโอเคขึ้น โชคดีที่ได้วีมาช่วย

ผมก็ไม่ได้เก่งแฟชั่นมาก วีเขาก็เก่งกว่า เขาก็แนะนำว่าต้องทำอย่างนี้ๆ ก็ให้ลองดู แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขามาบอกให้ทำอะไรเราก็ทำ เพราะผมก็ดื้อ แต่ก็ไม่ได้บังคับกัน ก็เหมือนบอกท่าโพสอะไรนิดหน่อย”

ฟีดแบ็กออกมาเป็นยังไงบ้างกับผลงานถ่ายแฟชั่นคู่กัน?
หลายๆ คนก็บอกว่ารูปสวยครับ ซึ่งก็มีคนติดต่องานมาเรื่อยๆ แต่ก็ต้องดูตามความเหมาะสมนิดนึง เพราะเราเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ก็ราบรื่นดีครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ก็แฮปปี้ดีครับ”

ถามถึงเรื่องเพลงที่โดนดราม่าว่าเป็นเพลงขยะ โกรธไหม?
“ไม่ครับ ผมไม่ได้โกรธเลย ผมก็ไม่ได้คิดอะไรที่เอามาโพสต์หลายคนอาจจะมองว่าผมเป็นคนขี้แกล้ง คนที่คอมเมนต์ที่ดีก็มี คนที่คอมเมนต์ไม่ดีก็มี ซึ่งมันก็มีมาทุกเพลง แต่ว่าคนนี้มันก็จะหนักหน่อย

คือจริงๆ ผมรับได้ เพราะการที่เราทำผลงานออกมา มันก็ต้องมีคนไม่ชอบอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ แต่คนนี้ผมเห็นแล้วว่าด่าผม ก็เลยเหมือนเอาเขามาแกล้งครับ แต่เขาก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว คือต้องบอกก่อนว่าชื่อและรูปของเขาผมคิดว่าเขาคงไม่ใช่ตัวจริงหรอก”

เจอแบบนี้แล้วทำให้ท้อในการทำงานมากขึ้นไหม?
“ไม่ครับไม่ เราแค่เห็นแล้วจับมาเป็นประเด็นเฉยๆ เพราะมันก็มีทั้งคนด่าและคนชม ซึ่งผมก็อยากให้ทุกคนได้ไปฟังกัน และคุณก็พิสูจน์ด้วยตัวเอง ถ้าคุณจะด่าก็ได้ไม่เป็นไร เราทำงานมาเราอยากให้คุณเห็นคนคอมเมนต์อยู่แล้ว

มันอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่ถ้าเราจะไปหวังให้ทุกคนชอบมันไม่มีทาง ไม่โกรธครับ ก็แค่เป็นคอมเมนต์หนึ่ง ถามว่าชอบไหมที่คนมาด่า ก็ไม่ได้ชอบ

แต่ก็ไม่ได้เกลียด ไม่ได้ว่าอะไรเขา มันเป็นสิทธิ์ของเขา มันเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรมี แต่ก็อยากจะเชียร์ให้ทุกคนคอมเมนต์ให้มันน้อยลงก็ยังดี”

ถามถึงเรื่องคุณยายที่จากไป ท่านป่วยมานานหรือยัง?
“ท่านป่วยมาประมาณ 7 เดือนแล้วครับ ซึ่งมันก็มีหลายโรค หลักๆ ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเลือด กระดูกไขสันหลัง และก็เรื่องการผลิตเม็ดเลือดของร่างกายที่มันผิดปกติ”

ช่วงที่ป่วยได้อยู่กับคุณยาย ดูแลท่านยังไงบ้าง?
“ก็เต็มที่ที่สุดแล้วครับ ครอบครัวทุกคนและญาติก็พยายามให้กำลังใจ ก็ดูแลด้วยทุกๆอย่าง พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว ซึ่งคุณยายเขาก็เป็นคนที่แข็งแกร่งและสู้มามาก เขาก็ทนแล้วมันก็เจ็บ ด้วยความที่มันมีภาวะหลายอย่าง ซึ่งยายเขาก็สู้ สู้มาเยอะแล้ว”

ท่านจากไปอย่างสงบ หรือยังมีอะไรที่ยังห่วง?
“คือมันก็มีหลายอย่างที่คุณยายต้องการมีความประสงค์ที่จะทำเต็มไปหมด แต่ถึงจุดหนึ่งคนเราก็ข้ามผ่านสัจธรรมไปไม่ได้ ข้ามผ่านความเป็นจริงไปไม่ได้ เพราะวันนึงเราเกิดมาก็ต้องไป”

...

คุณยายมีเป็นห่วง หรือได้ฝากบอกอะไรไว้ไหม?
“เขาก็อยากให้ลูกหลานและคนในครอบครัวได้มีความสุข คือยายก็รักทุกคนอยู่แล้ว อะไรก็ตามที่เขาอยากทำ เราก็พาเขาไปทำหมดแล้วตอนที่ยังมีชีวิตอยู่

แต่ตอนที่เขาไม่อยู่แล้ว เราก็แค่นำสิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้เรา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เขาสอน สิ่งที่เขาบอก หรือสิ่งที่เขาให้เรามาเป็นบทเรียนแล้วก็แค่นำสิ่งเหล่านี้ไปต่อยอดให้เราเป็นคนดี ได้ไปเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อสังคม ผมว่าผู้ใหญ่ทุกคนเขาก็ไม่อยากให้ลูกหลานไม่เป็นภาระของสังคม เธอเป็นคนดีของสังคมนั่นเองครับ”

คำพูดสุดท้ายที่คุณยายได้บอกเรา หรือสั่งเสียว่าอย่างไรบ้าง?
“ช่วงท้ายๆ เขาก็เริ่มเหนื่อยแล้ว เราได้คุยกันครั้งสุดท้าย ยายก็บอกเราว่า ก็อยากให้เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันข้างนอก อยากให้ยายออกมา ได้มีโอกาสได้เดินไปไหนมาไหนอีกครั้งนึง

เราก็ให้กำลังใจเขา แล้วบอกให้เขาสู้ ทีนี้มันก็เป็นเรื่องของเราต่อแล้วครับ ครอบครัวผม อย่างคุณตาก็ต้องดูแลให้ดีที่สุดครับ ป้าเขาก็อยู่กับยายมาตลอด เขาก็เป็นห่วง”

ตอนนี้คุณแม่เป็นยังไงบ้าง?
“แม่ก็เศร้าครับ”

อยากบอกอะไรกับยายบ้าง?
“ก็อยากให้ทุกคนรู้ว่ายายผมก็เป็นคนดี ผมก็ภูมิใจที่ได้เป็นหลานยาย ก็อยากให้ทุกคนจดจำเขาในแบบที่เขาได้เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ทำอะไรเยอะแยะเพื่อครอบครัว เพื่อสังคมมากมาย

เพราะยายก็เปิดโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงประถม ซึ่งเขาก็ได้ช่วยเด็กมาเยอะ ก็อยากให้จดจำในแบบที่เป็นยาย ในแบบที่เขาก็ได้เป็นคนดีมากๆ คนหนึ่ง”.

...