เป็นงานวิวาห์คนบันเทิงที่กลายเป็นกระแสไม่น้อย สำหรับงานแต่งงานของคู่รักดัง โทนี่ รากแก่น และ แก้ว จริญญา ศิริมงคลสกุล แต่ก็ไม่วายเกิดดราม่า เมื่อมีชาวเน็ตบางคนวิจารณ์เรื่องสีผมของแก้วกับชุดไทย งานนี้นอกจากชาวเน็ตคนอื่นจะช่วยฟาดกลับแทนแก้วแล้ว แก้วยังทวีตข้อความฟาดกลับว่า “กิริยามารยาทสำคัญกว่าสีผมและทรงผม ขอบคุณค่ะะะะะ” ล่าสุดนักข่าวเจอเจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างโทนี่เลยถามถึงเรื่องดังกล่าว
ถามถึงชีวิตหลังแต่งงานเป็นไงบ้าง?
“จริงๆ ก็อย่างที่เรารู้สึกแหละครับ อย่างที่เห็นแฮชแท็กยาวๆ #justwannaliveourlives247365 ก็แค่อยากใช้ชีวิตร่วมกันทุกวันทุกเวลา การมีงานแต่งก็เพื่อประกาศให้ทุกคนรับทราบว่า ต่อไปนี้เราก็จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม”
โมเมนต์ร้องไห้ตอนมาเจอกัน ตอนนั้นความรู้สึกมันเป็นยังไง?
“ตอนนั้นมันมีปัญหาเกิดขึ้นข้างหลัง เพราะความตั้งใจของเรา เราอยากให้ทุกคนสามารถมาร่วมงานของเราได้ อย่างที่เราประกาศว่ามันเป็นนิว นอร์มอล ทุกคนร่วมเป็นสักขีพยานได้ผ่านทางยูทูบ เราตั้งใจว่าจะเป็นตอน 4 โมงเย็น แต่พอเรามองนาฬิกาก็เฮ้ย ทำไมมันยังไม่มีอะไร 4 โมง 5 นาทีก็ยังไม่มี เลยรีบโทร.ตามรุ่นพี่มาช่วยดู ปรากฏว่าเขามีปัญหาในการล็อกอินในยูทูบของเรา ทุกอย่างมันเกิดปัญหามาก แล้วโมเมนต์นั้นผมต้องห้ามเจอแก้วแล้ว แก้วจะอยู่ในบ้านในสภาพสมบูรณ์แบบ เพราะมันเป็นธรรมเนียม แต่เราต้องวิ่งเข้าไปหาเขาเพราะเขาเป็นคนรู้เรื่องการล็อกอิน เราก็ตัดสินใจวิ่งเข้าไปหาเขา ไปช่วยกันหาทางว่าจะทำยังไงให้มันเริ่มไลฟ์ได้สักที
...
แล้วโมเมนต์นั้นจริงๆ มันพีคมาก แต่เราสองคนช่วยกันแบบใจเย็น ค่อยๆ คุย เรารับรู้ถึงความรู้สึกว่าเออ คู่เรามันดีจังเลยเนอะ ในโมเมนต์ที่มันพีคมากๆ แต่เราก็ไม่ใจร้อนจนเราทะเลาะกัน เพราะถ้าทะเลาะกันโมเมนต์นั้นคือพังนะ เราก็เดินออกมา แล้วมารอว่าทุกอย่างมันจะต้องโอเค แสดงว่าเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องเริ่มเดิน แล้วก็เริ่มเดิน โชคดีมากที่ได้โอ๊ต ป๊อบ ว่าน สร้างบรรยากาศที่มันสนุกน่ารัก ทำให้เราผ่อนคลายลง
แต่พอรถของแก้วจะต้องขับเข้ามาพร้อมกับเพลง เราแบบไม่ไหวแล้วจริงๆ ทุกอย่างมันสำเร็จ สมบูรณ์แบบ เราเห็นป๊าแก้ว เขาบอกว่าต้องแต่งตัวอย่างนี้เลยเหรอ ต้องพูดอะไร วันนั้นเขาทำทุกอย่างที่พวกเราอยากได้ เขาเดินไปกอดแก้วแล้วพาขึ้นมา เพื่อนๆ หลายคนที่ไม่ได้อยากใส่ชุดเต็มขนาดนั้น เขาก็มีสไตล์ของเขา แต่เขาก็ยอมทำตามเพื่อเรา หลายๆ คนเราแทบไม่ได้แฮงเอาต์ด้วยเลย เขาก็ยอมมา ภาพมันสมบูรณ์แบบมากจนเราอั้นไม่อยู่”
หลายคนก็ประทับใจกับคำพูดว่า ในที่สุดเราก็หากันจนเจอ?
“จริงๆ เราก็รู้คำถามอยู่แล้ว เพราะเราเองก็เป็นคนช่วยออแกไนซ์คิดว่า Sequence มีอะไรบ้าง เราเตรียมในใจมาประมาณหนึ่งว่าเราอยากจะพูดขอบคุณอะไรเขาบ้าง แต่โมเมนต์นั้นมันพูดไม่ออก ไม่ได้พูดเลย แล้วมันก็ย่อมาเหลือแค่ความรู้สึกนั้นจริงๆ ผมมองหน้าเขาแล้วผมรู้สึกว่าเหมือนเป็นพันปีเลยรึเปล่าที่เราเดินสวนกันไปมา ไปมา อาจจะไม่ได้คุยกันหรือทักทายกัน แต่วันนี้มันดีมาก เจอกันจริงๆ ถ้าเจอคนที่ใช่จริงๆ ก็จะต้องเป็นแบบนี้แหละ คือพากันไปในทางที่ดีขึ้น”
พอเปลี่ยนสถานะเป็นสามีภรรยา ความรู้สึกมันเปลี่ยนมั้ย?
“เหมือนเดิมครับ เหตุผลที่เราแต่งงานกันได้ เพราะเราเป็นความธรรมดาทั้งคู่ อยู่ด้วยกันแบบธรรมดามาก ไม่ได้รู้สึกว่างานแต่งที่เกิดขึ้นมันจะต้องพิเศษหรือหวือหวา หลังแต่งงานต้องดียิ่งกว่าเดิมหรืออะไร ผมรู้สึกว่าความธรรมดานี่แหละดีที่สุด เพราะชีวิตคู่มีทุกอย่างทุกรสชาติ เราไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากนี้เราจะต้องดียิ่งกว่าเดิม ผมว่าเท่าที่เป็นอยู่คือมันดีมากอยู่แล้ว เราถึงได้แต่งงานกัน”
ให้คำสัญญากับคุณพ่อคุณแม่ของแก้วยังไงบ้าง?
“เรารู้สึกว่าคำพูด มันไม่ใช่สิ่งที่น่าเชื่อถือ แต่การกระทำสำคัญที่สุด และสิ่งที่เราพิสูจน์กันมาตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน เราพยายามพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์กันทั้งคู่ว่าเวลาเราอยู่ด้วยกันแล้วมันดีขึ้นจริงๆ นะ และผมเชื่อว่าท่านหรือเพื่อนๆ แก้ว น่าจะได้สัมผัส เห็นถึงสิ่งนี้ด้วยตัวเขาเอง ด้วยความเป็นเรา ด้วยสิ่งที่เราทำ เราไม่ชอบที่จะต้องมานั่งพูดสาบานสัญญาหรืออะไร เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ความเป็นจริงทั้งหมด แค่พูดเพื่อคนฟังสบายใจเฉยๆ แต่ความสำคัญคือเราสามารถทำมันได้อยู่เรื่อยๆ ตลอดไป และเรารู้วิธีด้วยว่าทำไมเราถึงทำได้”
...
ถามถึงดราม่าเรื่องสีผมแก้วในงานแต่งงาน เขาเครียดขนาดไหน?
“ไม่เครียดเลยครับ ไม่มีความเครียดเลย เขาแทบจะไม่เห็นเลยว่ามีดราม่าตรงไหน นอกจากที่มีการพาดหัวข่าวว่ามีดราม่า แต่จริงๆ ผมว่าเป็นเรื่องปกติมากที่ความสวยงามของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เหมือนกับความจริงของทุกคนมันไม่เหมือนกันครับ คุณมองแสงแดดอาจจะดูเป็นสีส้ม บางคนอาจจะมองเป็นสีเหลือง ความจริงของทุกคนไม่เหมือนกันเลย เพราะฉะนั้นเรายอมรับได้อยู่แล้ว
ใครอาจจะไม่ชอบ อาจจะไม่ถูกใจ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำในวันนั้นคือมันเป็นความต้องการของเราทั้งคู่ล้วนๆ เราเองก็เป็นคนยุให้เขาทำเหมือนกันนะ ทำเลยๆ อยากเห็นเหมือนกัน จริงๆ ภาพที่เห็นทั้งหมดในงานแก้วเป็นส่วนสำคัญมากนะในการออกแบบทุกอย่าง เขาจะเป็นคนหา reference ว่าอยากจะทำยังไง แม้กระทั่งการแต่งตัวหรือทรงผม เราก็จะรู้สึกว่าเออ มันดี เจ๋ง”
แต่หลังจากนั้นก็มีคนไปทัวร์ลงใส่คนที่มาคอมเมนต์เหมือนกันว่าควรยินดีกับเขามากกว่า?
“ผมว่าก็คงเป็นเรื่องปกติของโซเชียลแหละ ผมว่าถ้าเกิดลองมายืนประจันหน้ากันแบบนี้ เราก็คงจะพูดอีกแบบ แต่พออยู่ในโซเชียล เราก็อาจจะสนุก ผมว่าก็คงเป็นเรื่องธรรมดามั้ง แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นผมอยากบอกเลยนะครับว่าไม่เป็นไร เป็นเรื่องธรรมดามากที่อาจจะชอบหรือไม่ชอบ มันไม่เหมือนกัน
แต่โดยส่วนตัวเรารู้สึกว่าแก้วเป็นคนที่เจ๋งมาก ตั้งแต่แรกที่ไว้ผมยาว อยู่ดีๆ พอจะแต่งงานตัดผมสั้น เราก็เป็นคนตัดให้ พอเสร็จอยู่ไปสักพักหนึ่ง ย้อมผมดีไหม แล้วย้อมไม่ใช่ย้อมทั้งหัวด้วย ย้อมครึ่งนึง เราชอบมาก เราก็รู้สึกว่าครั้งเดียวในชีวิตเราอยากเห็นภาพนั้นมากๆ ภาพที่คุณผมครึ่งขาวครึ่งดำแล้วใส่ชุดไทยแบบเรียบๆ เรารู้สึกว่าเราชอบอยู่แล้ว เราสองคนชอบทำอะไรที่คนเขาไม่ทำกัน ไม่คาดคิดกัน เรารู้สึกสนุก”
...
สีผมนั้นมีความหมายเป็นพิเศษอะไรไหม?
“ไม่มีความหมายนะครับ แต่ตอนแรกผมก็กะทำด้วย ของแก้วครึ่งหน้าครึ่งหลังใช่ไหม ของเราเป็นครึ่งซ้ายครึ่งขวา มีความเป็นหยินหยาง ขาวดำอะไรแบบนี้ แต่เรารู้สึกว่าหน้าเรามันไม่ให้แล้วไง แก้วยังเฟี้ยวฟ้าวได้อยู่ เราก็เลยธรรมดาดีกว่า”
ชาวเน็ตตื่นตูม แต่ผู้ใหญ่ของเราไม่มีปัญหา?
“ไม่มีเลยครับ ไปดูหม่าม้าของแก้วได้ หม่าม้าแก้วเองเพิ่งคอมเมนต์ล่าสุดว่าชอบมากครับ”
แก้วโพสต์ทวิตเตอร์ว่ากิริยามารยาทสำคัญกว่าสีผม?
“เขาพูดลอยๆ ครับ (หัวเราะ) ไม่มีอะไรครับ เราคุยกัน เห็นตลอดครับ ด้วยความยุ่งมากเลย ในงานเราจะไม่ได้ถือโทรศัพท์ขนาดนั้น แต่ก็มีคนรอบข้างที่บอกว่ามันเป็นแบบนั้นแบบนี้ ผมว่าเอาตรงๆ นะมันก็เป็นเรื่องปกตินะ เวลาที่มันเกิดกระแสอะไรขึ้น ทุกคนก็จะต้องพูดถึง ไม่ใช่แค่คนจากทางบ้าน คนในงานก็ด้วย แต่ถามว่ามันมีผลอะไรต่อเรามากขนาดไหน เราก็รู้สึกเอ็นเตอร์เทนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ดีนะครับ ถือว่าเป็นการช่วยโปรโมตงานช่วงเย็นที่เราอยากจะให้ทุกคนมาร่วมอยู่แล้วผ่านออนไลน์ครับ”
...
เป็นงานแต่งปิดท้ายปีนี้แบบสวยงาม คนก็ชม?
“โห ขอบคุณมาก ก็ต้องชมคนที่มาช่วยเราทั้งหมด มันสุดยอดจริงๆ ผมได้รับความช่วยเหลือเยอะมาก เราทั้งสองคนได้รับความช่วยเหลือเยอะมากจากทั้งผู้ใหญ่ เพื่อนๆ จากทั้งทีมที่เสนอเข้ามาจัดทุกอย่างมาได้สวยเกินเบอร์ เล่นใหญ่มาก ความเข้าใจผมกับแก้วตั้งแต่แรกเริ่ม เราอยากจะจัดงานเล็กมากๆ ไม่อยากใช้ตังค์เยอะกับเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่าก็แค่เป็นพิธีหนึ่งให้ทุกคนได้รับรู้แล้วก็จบ แต่คือเล่นใหญ่มาก มีจุดพลุด้วย เราก็ขอบคุณมากจริงๆ แต่ที่สุดแล้วคนในงาน คนที่ได้เห็นได้ชม เขาก็มีความสุขกับเราไปด้วย”.