โสดเหงาๆ มาพักใหญ่ สำหรับ ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย พระเอกหนุ่ม จนมีเวลาฟิตซ้อมตีกอล์ฟเพราะเตรียมลงแข่งปีหน้า เจอหน้า ปั้นจั่น ในงานแถลงข่าวเปิดตัวละคร “ตราบฟ้ามีตะวัน” (first meeting) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยอัปเดตความรักที่ยังไม่มีใครเพราะเราปิดตัวเองหรือเปล่า

ปั้นจั่น เผยว่า “ไม่ได้ปิดเลย ที่จริงถึงวัยจะต้องมีใคร แต่เราเป็นคนเลือกเยอะด้วยมั้ง ถ้ามีก็ต้องไม่เป็นแบบเดิมแล้วนะ ถ้ามีเราจะต้องไม่ทำให้ใครเสียใจแล้วนะ ประสบการณ์มันผ่านมาเยอะแล้ว ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว เรารู้สึกปวดหัว เลยคิด เออ! เดี๋ยวมันจะมีก็คงมี เราเป็นผู้ชายด้วย ถ้าเลตหน่อยไม่เป็นไร คุณแม่จะชอบถามว่าเมื่อไหร่จะมีแฟน เริ่มเร่งนิดนึงแต่ปั้นเองยังมีอะไรที่ต้องทำหลายอย่าง แต่ถ้ามันมีคู่คิดก็ดีเหมือนกันนะ คืออยู่คนเดียวได้แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้ยังไม่เจอ”

ถ้าเรามีรักครั้งใหม่เราจะไม่ทำให้เค้าผิดหวัง แสดงว่าที่ผ่านมาที่มีปัญหาล้วนเกิดจากตัวเรา “ทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตผมเป็นคนน่ารักทุกคนเลยนะ แต่มันเป็นช่วงเวลาอาจจะไม่พอดีหรืออะไร มันเกิดจากตัวเรา มันแปลกมากคนที่ดี พออยู่กับเราในช่วงเวลาจังหวะนึง พอเรามองย้อนไปเราคิดว่าน่าจะคบกันได้แต่สุดท้ายช้าไปตลอด คงไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก คนเราคิดได้ หรือไม่ได้เมื่อไหร่ แต่ไม่ได้รับประกันเราเจอคนใหม่ทุกอย่างมันจะดีเพอร์เฟกต์”

เราไม่มีเวลาให้หรือเป็นเพราะว่าเรายังเจ้าชู้ “ผมว่าไม่ได้เจ้าชู้นะ ระยะหลังๆผมไม่ได้มีเรื่องผู้หญิงแต่มันเป็นเรื่องคุณแม่ผมจะชอบบอกว่าเราเป็นคนขี้เบื่อ ไม่ใช่เบื่อสาวคือต้องบอกว่าผมเองหลักๆ คบกัน รู้จักกัน ต้องเข้ากับที่บ้านให้ได้หรืออะไรหลายๆอย่าง กิจกรรม สังคม เราไม่ได้มองแค่คนสองคนแล้ว ผมเพื่อนเยอะ ผมเลยกิจกรรมเยอะ คนที่จะมาอยู่ด้วยกันหรือผมจะไปอยู่กับเค้าผมจะต้องเข้ากับเพื่อนเค้าให้ได้ เค้าควรเข้ากับเพื่อนเราให้ได้ สมมติเค้ารักการขี่ม้า พายเรือ เราก็ไปควร เห้ย! ไปพายเรือ ขี่ม้าอีกแล้ว ทำไมไม่มาอยู่กับเรา ผมว่าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ อะไรที่เค้าชอบก็ปล่อยให้เค้าทำไป ซึ่งแต่ก่อนผมเจอ ทำไมถึงว่างก็ไปตีกอล์ฟ อะไรแบบนี้ มันเลยทำให้ผมรู้สึกอันนี้ไม่ใช่ปัญหา ควรอยู่ที่ความเข้าใจนะ ควรจะต้องเข้าใจกันมากกว่านี้พอยิ่งโตมันไม่เหมือนเดิม โทร.หากันบ่อยๆ ที่จริงวันละครั้งสองครั้งน่าจะพอแล้ว”

...

มองย้อนความรักที่ผ่านมามีผลกับการที่เราจะเริ่มต้นคุยกับใครสักคนมั้ย “ปั้นเคยเชื่อเรื่องพวกนี้ อินกับคำว่ารัก พอยิ่งโตยิ่งรู้สึกธรรมดา มันเฉยๆ ไม่มีรูปแบบตายตัว เจอครั้งใหม่ เจอคนใหม่นับหนึ่งใหม่ เรียนรู้กันใหม่ เพียงแต่อะไรที่เราผิดพลาด ทำไม่ดีไว้ จุดที่ไม่ดี มันไม่ได้หมายความว่าจะแก้ปัญหารักครั้งใหม่ได้ แต่มันแก้ปัญหาตัวเราไปแล้ว ยกตัวอย่างปั้นเคยขี้หึงมาก ปั้นเคยใจร้อนมาก สองสิ่งที่ยกมาตอนนี้มันหายไปจากตัวเราแล้ว เราเป็นคนไม่ตีโพยตีพาย ไม่ทะเลาะอะไรกับใครแล้ว ไม่โมโห ถ้าเริ่มโมโหปั้นจะเริ่มเงียบ ขอโทษไม่พูด แต่ถ้าเมื่อก่อนเคลียร์ตรงนั้นเลย พร้อมระเบิด ขี้หึง คุณอยู่ไหน ไปกับใคร ทำไมลงรูปกับคนนี้ เดี๋ยวนี้ไม่เป็นนานแล้ว ปี สองปี อยากไปไหนไป”

จุดหลักๆของความขี้หึงเลยทำให้รักพังจะพูดแบบนี้ได้เลยมั้ย “ก็มีส่วน แต่สุดท้ายปั้นว่าที่ผ่านมาปั้นก็ยังไม่พร้อม ยังไม่สามารถแต่งกับใครได้เพราะว่าปั้นเองยังดูแลเค้าได้ไม่เต็มที่ ถ้าเรามีใครสักคนก็อยากดูแลเค้าให้เต็มที่ สุดท้ายแล้วไม่มีดีกว่ามั้ง (หัวเราะ)”

ข่าวมีผล พอเริ่มคุยกับใครสาวๆไม่กล้าคุย “ผมว่ามีข่าวเยอะนะ ไม่ใช่แค่ความรัก ไม่ว่าข่าวอะไรก็แล้วแต่ คนตัดสินผมไปอีกแบบ เคยมีข่าวความรัก ปัญหาเลิกราเพราะเจ้าชู้ การเมือง ก็แล้วแต่ ข่าวทำให้คนไม่รู้จักเรากลายเป็นรู้จักเราดีขึ้น รู้จักในมุมที่เค้าคิดมากกว่า เราไม่สามารถไปอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้ ไม่ใช่คนโพสต์ไอจีอธิบายให้ใครฟังก็แล้วแต่จะคิดกัน”

ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เราลดความหัวร้อนลง “ผมมองโลกให้ละเอียดขึ้น กว้างขึ้น พยายามทำความเข้าใจทุกคนที่มีปัญหากับผมด้วย หรือมองผมผิดไป มันเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้ ไม่รู้จะแบกรับไว้ทำไม เคยแบกไว้แล้วเป็นปัญหาชีวิตทำให้เราเป็นทุกข์มาก สุดท้ายไม่ได้ตอบโจทย์มันจะดีขึ้นหรือแย่ลง สุดท้ายอยู่ที่ตัวเรา ผมยอมรับเวลามีข่าวความนิยมก็จะตกลงไปพอสมควร”

นอยด์ขนาดไหน “ช่วงที่นอยด์สุดๆผมมีปรึกษาหมอนะ เกี่ยวกับการเมือง ทุกวันนี้ไม่ใช่ซึมเศร้า เครียด อารมณ์ มันดาวน์ ผมว่าดาราหลายๆคนเป็นนะ คนที่มีชื่อเสียงมีข่าวเยอะๆ บางทีหาทางแก้ไม่ได้ ที่จริงทางแก้มันมีแต่เราต้องใช้ยาช่วย ทุกวันนี้ยังกินอยู่แต่เป็นยาที่ไม่ได้เอฟเฟกต์อะไร ช่วยได้เยอะครับ”.