6 สาว BNK48 รวมตัวใหม่ "LYRA" กับความหวังผลักดัน T-Pop สู่ระดับโลก

• จาก 6 สาว BNK48 สู่การรวมตัวยูนิตใหม่ LYRA
• มีแพลนจะไปฝึกไกลถึงอเมริกา แต่พิษโควิดทำให้การเดินทางไม่อาจเกิดขึ้น
• T-Pop รุ่นใหม่ กับความหวังผลักดันเพลงสู่สายตาชาวโลก

คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้วสำหรับ 6 สาวสมาชิก BNK48 ปัญ ปัญสิกรณ์ ติยะกร, เนย กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล, กระเต็น เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ, นิว ชัญญาภัค นุ่มประสพ, ฟ้อนด์ ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา, นิกี้ วรินท์รัตน์ ยลประสงค์ แต่ในครั้งนี้พวกเธอมาในบทบาทใหม่กับยูนิตพิเศษในนาม “LYRA” (ไลร่า) การรวมตัวเฉพาะกิจในฐานะเกิร์ลกรุ๊ป T-Pop ที่แค่เปิดตัวเพลงแรกเหมือนชื่อวง เมื่อ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา มียอดวิวในยูทูบมากกว่า 5 ล้านวิวไปแล้ว กลายเป็นอีกหนึ่งกลุ่มศิลปินหญิงที่มาแรงในเวลานี้

จาก 6 สาว BNK48 สู่การรวมตัวยูนิตใหม่ LYRA

ไทยรัฐออนไลน์ได้มีโอกาสต้อนรับ 6 สาว LYRA ที่มาเยี่ยมเยือนถึงที่ เราเริ่มต้นบทสนทนากับพวกเธอถึงที่มาที่ไปของการรวมตัวครั้งนี้ เจนนิษฐ์จึงเล่าย้อนไปถึงวันที่ทางค่าย iAM (ไอแอม) และ Universal Music Thailand มาคัดเลือกศิลปินที่มาร่วมยูนิตใหม่ว่า “ตอนแรกเราถูกเลือกมาบางส่วนเพื่อมาออดิชั่นโปรเจกต์นี้ ไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่รู้ว่าทำงานกับ Universal Music เป็นเกิร์ลกรุ๊ป แต่ไม่รู้ว่าจะคัดกี่คน เราก็ไปออดิชั่นกัน 3 รอบ คือร้อง เต้น และสัมภาษณ์เรื่องการเรียน ไลฟ์สไตล์ การแต่งตัว เพลงที่ชอบ”

เมื่อถึงวันที่ประกาศผลว่าใครจะได้มาร่วมโปรเจกต์นี้ ในงาน BNK48 7th Single 77 no Suteki na Machi e เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา นิกี้ น้องเล็กของวง เล่าความรู้สึกหลังเป็นหนึ่งในศิลปินที่ถูกคัดเลือกว่า ช็อกไปเลย “วันที่ประกาศว่าได้ ความรู้สึกแรกของหนูคือช็อกค่ะ เพราะว่ามีความรู้สึกว่าตอนที่ออดิชั่นยังทำไม่เต็มที่ค่ะ แต่พี่เขาก็บอกว่าจริงๆ พี่เห็นอะไรในตัวหนูนะ ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ เขาด้วยค่ะที่เห็นในตัวหนู และได้มาอยู่ร่วมกับพี่ๆ อีก 5 คนค่ะ”

การรวมตัวครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวของรุ่นพี่รุ่นน้อง BNK48 ทั้งรุ่น 1 และ 2 พอได้มาทำงานร่วมกันแบบใกล้ชิด นิวในฐานะรุ่นน้องก็ยอมรับว่าช่วงแรกเกร็งจนทำตัวไม่ถูก “ด้วยความที่พวกเรารุ่น 2 ไม่เคยอยู่กับพี่ๆ รุ่น 1 คือไม่ค่อยได้ร่วมงานกันเท่าไรค่ะ พอได้ร่วมงานกันจริงๆ แรกๆ ก็เกร็งนิดนึง เพราะว่าทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะพูดยังไง ด้วยความที่ไม่ค่อยได้คุยด้วย แต่ว่าพอไปอยู่ในบ้านก็เริ่มเปิดใจ เริ่มเป็นกันเองมากขึ้น มีแชร์บางเรื่องที่เฮ้ย คนนี้จะเป็นแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ไม่คาดคิดค่ะ แต่พออยู่รวมกันก็แฮปปี้ อบอุ่น”

พิษโควิดทำให้ทริปฝึกในอเมริกาไม่อาจเกิดขึ้น

แต่อย่างที่แฟนๆ ทราบกันดีว่า เดิมทีสาวๆ ทั้ง 6 คนจะต้องเดินทางไปฝึกฝนการร้อง การเต้น การแสดง กับผู้ฝึกมืออาชีพระดับโลกที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เป็นระยะเวลา 1 เดือน แต่ด้วยพิษโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลให้ไม่สามารถเดินทางไปฝึกที่นั่นได้ตามความตั้งใจตั้งแต่แรก

เมื่อถามว่ามีกิจกรรมอะไรที่แพลนว่าจะทำที่นั่นแต่ไม่ได้ทำ ปัญตอบทันที “ช็อปปิ้งค่ะ” ถึงตรงนี้เสียงหัวเราะดังทั้งวงเลยทีเดียว ก่อนที่เจนนิษฐ์จะเสริมว่า “วางแผนว่าจะช็อปปิ้ง ทำงานเสร็จจะไปเที่ยวกันก็อดเลยค่ะ แต่ในอนาคตก็อาจจะมีโอกาสได้ไป แต่อาจจะไม่ได้ไปฝึกหรือทำงาน 1 เดือนเต็มอย่างที่วางแผนไว้ตั้งแต่แรกค่ะ แต่อาจจะได้ไปในฐานะ LYRA ค่ะ ยังมีความหวัง” ปัญพูดต่อ “หนูเดาว่าถ้าสมมติได้ไป คงจะเป็นการทำงานมากกว่า” เจนนิษฐ์เสริม “เพราะว่าเราเดบิวต์แล้ว”

ถึงแม้โควิด-19 จะทำให้แพลนทุกอย่างเปลี่ยนไป ฟ้อนด์บอกว่า ถึงช่วงโควิดจะอยู่บ้าน แต่กลับรู้สึกว่างานเยอะกว่าตอนนี้อีก ก่อนจะหัวเราะเสียงใสและพูดต่อว่า “เพราะช่วงโควิดเราก็อยู่บ้าน แต่ทางยูนิเวอร์แซลและฮาเร็มเช็คจะมีให้ส่งคลิปเต้นกลับไปเพื่อดูพัฒนาการ เขาบอกว่าไม่ได้ไปฟิตเนสใช่ไหม งั้นออกกำลังกายที่บ้านนะ นอกจากนั้นก็มีอีกบทบาทนึงด้วย คือ BNK48 ก็ต้องส่งการบ้านเหมือนกันทั้ง 2 อย่าง ส่งคลิปกันทุกวันเลย ยิ่งเราไม่ได้เจอแฟนๆ เรายิ่งต้องทำอะไรออกมาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงด้วย”

เจนนิษฐ์เล่าต่อ “คอนเทนต์ออนไลน์เยอะมากเลย มีเพลง “หัวใจใกล้กัน” คือไม่ได้ออกนอกบ้านก็ยังสามารถอัดเสียงได้” ปัญเสริมให้ฟังอีกว่า “คือช่วงโควิดเป็นช่วงที่พวกเราเตรียมตัวสเตจที่ 2 ของ BNK48 มันก็เลยหนัก เพราะมีทีมเข้ามาใหม่ด้วย แล้วมีทีมบีเป็นสเตจที่ 2 เป็นอันใหม่หมดเลย 16 เพลงที่พวกเราต้องซ้อมกันหนักมาก ช่วงนั้นก็หนักอยู่เหมือนกัน”

มิตรภาพในแคมป์กับโมเมนต์สุดฮา

จากนั้นเราให้ทุกคนพูดถึงบรรยากาศภายใน LYRA Camp ซึ่งสาวๆ เรียกว่าบ้าน ฟ้อนด์เล่าให้ฟังว่า “ก็จะมีห้องในรายการคือห้องไดอารี่ ส่วนห้องลับคือห้องกินข้าว ส่วนใหญ่จะเป็นห้องกินข้าวมากกว่าที่พวกเรารู้สึกว่าเราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากความคิด นิสัยบ๊องๆ จากทุกๆ คน เป็นห้องที่เราเล่นเกมกันด้วย เป็นห้องที่สนุกมาก ส่วนห้องไดอารี่จะเป็นห้องที่เปิดความในใจที่เป็นทางการขึ้นมาอีกนิดนึง” ปัญเสริมว่า “เป็นพื้นที่ที่เราได้ทบทวนตัวเองในแต่ละวันว่าวันนี้เราทำอะไร เราเครียดเรื่องไหน เราภูมิใจเรื่องไหน เขาก็จะเก็บแล้วเอาไปโพสต์ให้แฟนๆ ได้ดูด้วยค่ะ”

แต่เมื่อถามว่ามีเรื่องในแคมป์อันไหนที่ประทับใจกันและกัน หรือมีมุมที่เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ นิกี้รีบตอบทันที “หนูประทับใจท่านอนของแต่ละคนมาก” ก่อนจะทำท่ายกแขนขึ้น เรียกเสียงหัวเราะของสมาชิก 5 คนดังสนั่น  ถึงตรงนี้ปัญเล่าให้ฟังพร้อมรอยยิ้มว่า “แต่ละคนจะมีคาแรกเตอร์การนอนที่แตกต่างกันออกไป จะมีเสียงเอฟเฟกต์ประกอบด้วย บางคนจะมีเสียงเอฟเฟกต์เครื่องบิน บางคนอาจจะแค่เป็นรถยนต์ บางคนนิ่ง แต่บางคนนี่บิ๊กไบค์เลย” ก่อนที่สาวๆ ทุกคนจะหัวเราะดังลั่น

ปัญเล่าอีกว่า “มีอยู่วันนึงที่พี่ๆ ไปปลุกอีกห้องนึง คือเราแบ่งนอนเป็น 2 ห้อง มีห้องข้างล่างกับข้างบน คือพี่ที่ดูแลเขานอนชั้นบนด้วย ของเราจะคอยดูแลได้ง่าย แต่อีกห้องตอนนั้นโทรไปไม่มีคนรับ ก็เลยเปิดประตูห้องเข้าไปดู เขานอนท่านี้” ปัญทำท่านอนนิ่งประกอบ และเล่าอีกว่า “นิ่งสนิทไม่มีอะไรเลย นอนเรียงกัน แต่ตัดมาที่ห้องเราตอนนั้นโหวกเหวกมาก คนนึงเครื่องบิน อีกคนเฮลิคอปเตอร์ อีกคนจักรยาน มีเสียงเบาๆ กรุบๆ” ถึงตรงนี้เสียงหัวเราะจากสาวๆ มาอีกแล้ว

ก่อนที่ปัญจะเล่าต่อ “แต่ก็เปลี่ยนทุกอาทิตย์ เพราะบางคนยังไม่สนิทกันมาก พอทุกคนได้มีโอกาสนอนด้วยกันครบแล้วก็เพิ่มความสนิทกันมากขึ้น เพราะก่อนนอนจะเป็นเวลาส่วนตัวที่ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น ได้รู้ว่าคนนี้กลัวอะไร”

เมื่อเราแซวว่าน่าจะเป็นการละลายพฤติกรรมไปด้วย ถึงตรงนี้เนยในฐานะรุ่นพี่ที่โตที่สุดในวงรีบตอบว่า “ตอนนี้น้องน่าจะเดินมากอดคอพี่แล้วค่ะ” เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกรอบ

เนยเล่าต่อว่า “จากเมื่อก่อนสวัสดี เดี๋ยวนี้ไม่สวัสดีแล้ว เดินมาแล้วทักทายเฮ้ สนิทจัด” จากนั้นนิวเสริมว่า “นอกจากรู้จักนิสัยใจคอแล้ว เรื่องการกินก็เปลี่ยนมาเหมือนกัน เหมือนคนนึงกินแล้วอีกคนนึงกินตาม ก็เลยชอบเหมือนๆ กันค่ะ เมนูมหานิยมตอนเย็นในแคมป์ก็เป็นปอเปี๊ยะกับกุ้งกระเบื้องค่ะ” ก่อนที่สาวๆ จะแย่งกันพูดถึงเมนูที่กินบ่อยๆ มีทั้งเมนูปลาทอด แซนด์วิช ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ แถมหัวเราะถูกใจเมื่อพูดถึงของกินที่ชอบ

การทำงานเพลงแรกในฐานะเกิร์ลกรุ๊ป LYRA

เราถามสาวๆ ต่อถึงการทำงานเพลงแรก “LYRA” ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ เจ มณฑล จิรา และ Richard Cracker 2 โปรดิวเซอร์หนุ่มที่คร่ำหวอดวงการเพลงมานาน ซึ่งในเพลงแรกนี้เป็นสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ป๊อป มีเสียงของเครื่องดนตรีไทยภาคอีสานอย่างแคนและพิณเข้ามาด้วย

นิกี้เล่าถึงการมีส่วนร่วมในการทำเพลงว่า “ตอนแรกเราได้ฟังแค่ Backing Track ทุกคนก็ร่วมออกไอเดียว่าอย่างเพลง LYRA เป็นเพลงแนวไหน เกี่ยวกับอะไรบ้าง ซึ่งทุกคนก็ลงความเห็นว่าอยากเป็นเพลงที่แนะนำตัวพวกเราเอง เกี่ยวกับความรัก ดวงดาว เป็นเพลงที่เราบอกกับทางค่ายว่าเราอยากได้คอนเซ็ปต์แบบนี้ค่ะ”

กับคำถามที่ว่าท่อนฮุคที่ได้ยินคำว่า LYRA ดังชัดมาก ตั้งใจให้คนจดจำวงจากตรงนี้รึเปล่า นิวบอกว่า “หนูว่าจริงๆ แล้วมันเป็นทั้งสองฝ่าย เพราะจริงๆ ตั้งแต่เพลงที่มีแค่ Backing Track มา เนื้อเพลงอันเดียวที่มีในเพลงคือ LYRA ซึ่งเขาออโต้จูนเป็นคีย์ผู้หญิงค่ะ แล้วพวกเราทุกคนก็เห็นด้วยว่ามันควรจะเป็นแบบนี้ แต่เรื่องของเนื้อหาว่าเราอยากนำเสนอ LYRA ในมุมไหนมาจากพวกเรา แต่เรื่องที่มีคำว่า LYRA ในเพลงตั้งแต่แรกเป็นของทางพี่เขา และพวกเราเห็นด้วยค่ะ”

ปัญเล่าถึงการแต่งท่อนแร็ปของเพลงนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งใช้เวลาสั้นๆ ก่อนเข้าห้องอัดให้ฟังว่า “ถามว่าใช้เวลากี่ ชม. ก็คือก่อนเข้าห้องอัดเลย เพราะว่าวันนั้นเราได้ฟังท่อนแร็ปก่อน 1 วัน แล้วพวกเรายังไม่ถูกใจเนื้อกันเท่าไร เขาก็เลยบอกว่าให้เราไปคิดเองเลย แล้วตอนเช้าเราต้องมาอัดเพลง LYRA เลยคิดก่อนเข้าห้องอัดเลยค่ะ ก็ดีใจค่ะที่คนชื่นชอบ”

ในพาร์ทมิวสิกวิดีโอเปิดตัว เนยบอกว่าพอใจกับภาพที่ได้เห็น “พอใจค่ะ ก็เหมือนตัวเอ็มวีเราก็ได้มีส่วนคุยกับผู้กำกับเหมือนกันว่าอยากได้เอ็มวีแบบไหน เราก็บอกเขาว่าเราอยากได้เอ็มวีแรกที่เหมือนกับว่าเน้นพวกเรามากกว่าสตอรี่นิดนึง เหมือนให้รู้จักพวกเราแต่ละคนก่อน ตอนดูเอ็มวีตอนแรกก็รู้สึกว้าวเหมือนกัน เพราะด้วยมุมกล้องมันสวยมาก ภาพก็สวย แสงก็สวยค่ะ”

จากนั้นเนยเล่าต่อถึงเทคนิคการถ่ายทำที่มีมุมกล้องแปลกๆ ม้วนไปม้วนมา “อันนั้นคือกล้องเครน เป็นครั้งแรกที่ได้ลองถ่าย ตอนแรกเหมือนง่าย ตอนที่นั่งดูก็คิดว่าเคลื่อนไปตามกล้อง พอสุดท้ายไปลองถ่ายเองก็รู้สึกว่าจับยากเหมือนกัน แต่ว่าพี่เขาก็ตัดชอตที่สวยๆ ออกมาในเอ็มวีค่ะ เอ็มวีนี้ถ่ายวันเดียวค่ะ นัด 6 โมงจนถึงเที่ยงคืนกว่าๆ ก็เป็นเอ็มวีที่เรียกได้ว่ามีซีนจำของแต่ละคนค่ะ”

เนยยอมรับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการร่วมงานกับ Universal “หนูรู้สึกว่าเหมือนได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ได้ลอง อย่างตอนเข้าแคมป์พวกเราได้ลองแต่งเพลง ซึ่งเขาไม่ได้มีกำหนดว่าต้องทำยังไง บางทีเขาก็ให้เวลาแค่ไม่กี่นาที แล้วเขาให้ข้อคิดว่าต่อให้ใช้เวลาเยอะก็ไม่ได้อยู่ดี แต่ถ้าเกิดกำหนดเวลามาปุ๊บ ยังไงก็ต้องทำให้ได้ คือทำออกมาก่อน ยังไม่ต้องคิดอะไรมาก เหมือนได้ข้อคิดจากการทำงานร่วมกับยูนิเวอร์แซลเยอะมากค่ะ

ถามว่าปรับตัวกับการทำงานเยอะมั้ย ตอนแรกก็กังวล อย่างเช่นเวลาเข้าไปอัดเสียง ด้วยความที่เราเพิ่งเคยทำงานร่วมกัน ด้วยความที่เขามืออาชีพมากๆ หนูก็รู้สึกกดดัน แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้ว เขาปล่อยมาก ให้เราเป็นตัวเองเต็มที่ ไม่ดีไม่เป็นไร ทำออกมาก่อน ก็เลยได้ค้นหาตัวเองเยอะขึ้น กล้าลองทำอะไรมากขึ้น”

คาแรกเตอร์ของ 6 สมาชิก ที่มาพร้อมกับชุดและสีสัน

เมื่อถามถึงชุดของสาวๆ ที่มีสีแตกต่างกัน เหมือนกับต้องการสื่อถึงคาแรกเตอร์ของแต่ละคน ซึ่งเป็นชุดที่ได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์โดย ปุ๊ก จงกล ตั้งประดิษฐ์ สไตลิสต์ชื่อดัง และ Milin แบรนด์แฟชั่นชื่อดังของไทย เนยบอกว่า “ด้วยความที่อาจจะโตสุดด้วย หนูก็เลยได้เลือกชุดที่มีความเซ็กซี่มากกว่า BNK48 นิดนึง ก็เหมือนเป็นอีกด้านนึง แต่ว่าหนูไม่ค่อยได้เปลี่ยนคอนเซ็ปต์ชุดเลย เขาเลือกอะไรมาให้ก็เอาตามนั้น แค่เลือกแบบว่าเอาแบบไหนเฉยๆ ค่ะ”

นิกี้เสริมว่า “แต่จริงๆ คอนเซ็ปต์ของพี่เนยก็คือเวลาถ่ายรูป เขาจะบอกว่าพี่เนยเป็นสาวหวานที่โตขึ้น” ถึงตรงนี้สมาชิกที่เหลือแซวว่าหวานซ่อนเปรี้ยว ก่อนที่นิกี้เล่าถึงคาแรกเตอร์ตัวเองที่สะท้อนผ่านชุดว่า “หนูเป็นมาดนิ่งๆ เซ็กซี่หน่อยๆ เฟียซๆ หน้าแบบห้ามยิ้ม เวลาถ่ายรูปหน้าแบบต้องจือปากตลอดเวลา” นิกี้หัวเราะและเล่าต่ออีกว่า “ชุดก็มีความเซ็กซี่ แต่ก็มีความเข้ากับอายุของตัวเองค่ะ เพราะเด็กสุดด้วย ยังมีความสดใสเป็นสีชมพู”

ส่วนนิวพูดถึงชุดที่ตัวเองใส่ว่า “ของนิวจะมีความเท่และเซ็กซี่ค่ะ อย่างชุดแรกที่ไม่ใช่ชุดนี้ จะมีความผู้หญิงสปอร์ตๆ นิดนึงค่ะ ก็จะมีความเซ็กซี่ด้วย คิดว่าเขาน่าจะเอาให้ตรงกับคาแรกเตอร์หนูเลยค่ะ” นิกี้รีบแซวทันที “สำหรับหนู หนูว่าสีส้มเหมาะกับพี่นิวเพราะมีความรู้สึกว่าพี่นิวดูเป็นคนที่แสบๆ ซนๆ ดูจากชุดที่ 2 ด้วยที่เป็นสปอร์ตๆ” นิวรีบแย้ง “ไม่จริงค่ะ” ก่อนจะหัวเราะเสียงสดใส

ฟ้อนด์พูดถึงชุดตัวเองว่า “ก็จะเป็นสีเหลือง จริงๆ หนูเป็นคนเดียวที่ยิ้มได้ คือตอนถ่ายเขาบอกว่าคนอื่นไม่ต้องยิ้มนะ อนุญาตให้ฟ้อนด์ยิ้มได้คนเดียว ส่วนคนอื่นอมยิ้ม แต่อาจจะไม่ได้สดใสขนาดนั้น คือหนูรู้สึกว่าเป็นลุคที่โตขึ้น แต่ที่เขาให้สีเหลืองกับหนูเพราะว่าดูเป็นความสดใสของกลุ่มนี้ หนูเคยคุยกับพี่ปุ๊ก พี่ปุ๊กมองหนูว่าหนูเป็นเจ้าหญิง หนูก็บอกจริงเหรอคะ” ก่อนจะหัวเราะชอบใจ ส่วนเพื่อนๆ ในวงร้องหูย ฟ้อนด์เล่าต่อ “แต่หนูอาจจะเป็นเจ้าหญิงที่ร่าเริง แสบๆ ซนๆ นิดหน่อย เขาก็เลยให้สีเหลืองมา”

เจนนิษฐ์เผยถึงคาแรกเตอร์ของชุดตัวเองว่า “ของหนูจะไปโทนฟ้าออกน้ำเงิน ถ้าอีก 2 ชุดหลักที่ไม่ใช่ชุดสีพาสเทลก็จะออกน้ำเงิน หนูรู้สึกว่าสีน้ำเงินพี่เขาน่าจะเลือกเพราะมีความนิ่ง ออกแนวขรึมกว่าสีชมพู สมมตินิกี้ถ้าเซ็กซี่จะดูแบบสว่างๆ แต่อันนี้จะเซ็กซี่แบบนิ่งๆ คีปลุคขรึมๆ มั่นๆ มากกว่า ก็จะเป็นสีแบบน้ำทะเลค่ะ”

ปิดท้ายที่ปัญพูดถึงชุดตัวเองที่เป็นสีเขียว ซึ่งเป็นสีที่ชอบ “ของปัญตอนได้สีเขียวก็ดีใจนะ เพราะว่าชอบสีเขียวอยู่แล้ว คาแรกเตอร์จริงๆ คำนี้เป็นคำที่จำได้ขึ้นใจเลย คนบอกว่าไม่ว่าหนูจะใส่ชุดไหนก็จะมีคนบอกว่ามีบอยๆ แสบซน โก้ๆ คนที่ดูครั้งแรกอาจจะเอ๊ะ ชุดมีความแปลกนิดนึง แต่หนูก็ชอบนะคะ ก็เป็นกางเกงขายาวเพราะเป็นคาแรกเตอร์ที่เท่ๆ หน่อย แต่ก็ยังมีความเซ็กซี่นิดๆ ค่ะ”

T-Pop รุ่นใหม่ กับความหวังผลักดันเพลงสู่ระดับโลก

จากกระแสตอบรับที่ดี เพราะเพียงแค่ไม่กี่วันที่ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง “LYRA” ยอดวิวในยูทูบก็พุ่งสูงมากกว่า 5 ล้านวิวแล้ว อีกทั้งวันแรกที่เปิดตัวมิวสิกวิดีโอ LYRA ยังถูกพูดถึงจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของไทย และติดอันดับ 3 เทรนด์ทวิตเตอร์โลก กับแฮชแท็ก #LYRADEBUT แถมยอดดาวน์โหลดยังขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ต iTunes ประเทศไทยอีกด้วย

เจนนิษฐ์เผยถึงความรู้สึกว่า “ก็ประทับใจแฟนๆ ที่เขาน่ารัก เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะทำให้ถึงล้านวิว พวกเราก็รู้สึกขอบคุณมากที่แฟนๆ ทำให้เรารู้สึกว่าไม่เสียแรงที่เราเต็มที่กับงานนี้มากๆ ค่ะ”

ฟ้อนด์เล่าเสริมว่า “เอาจริงๆ ความคาดหวังเพลงแรกที่ปล่อยมา หนูแค่อยากให้ทุกคนชอบและรู้สึกว่า เออ...นี่แหละคือความแปลกใหม่ นี่แหละคือ LYRA ยิ่งชาวต่างชาติเข้ามาดูหนูก็ดีใจมากๆ เลยนะคะ หนูอยากให้เสียงเพลงเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างเราและหลายๆ ประเทศ อยากให้เขาเข้ามาดู T- Pop จริงๆ อันนั้นคือความตั้งใจสูงสุด แต่ยิ่งมาเห็นยอดวิวที่ขึ้นดีอีก กระแสดีอีก แฟนๆ น่ารักอีก ก็เลยรู้สึกว่ามันคือกำไรมากกว่าค่ะ อยากขอบคุณทุกคนค่ะ”

ถึงตรงนี้เราอดที่จะถามไม่ได้ว่า แฟนๆ หลายคนฟังเพลงแล้วนึกถึงยุค T-Pop รุ่งเรือง และคนก็หวังว่า LYRA จะทำให้ T-Pop กลับมาบูมอีกครั้ง และสามารถไปไกลในระดับอินเตอร์ เพราะทั้ง 6 สาวฝึกฝนอย่างหนัก และมีโอกาสร่วมงานกับมืออาชีพในวงการเพลง ซึ่งเป็นคนต่างชาติอีกด้วย เจนนิษฐ์ตอบว่า “ก็ดีใจนะคะ ถ้า T-Pop กลับมาครึกครื้นก็น่าจะดีนะคะ เพราะเอาจริงๆ หนูรู้สึกว่าช่วงนี้มีหลายๆ วงเกิดขึ้นมาเยอะมากเลย มีหลายวงที่ทำแนว T-Pop ด้วย พวกเราได้เป็นส่วนหนึ่งของวงการนี้ก็ดีใจค่ะ”

ด้านปัญเสริมว่า “แต่เราก็คงไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเราจะเป็นตัวปลุกกระแส T-Pop ถ้าทำได้พวกเราก็ดีใจที่เพลงไทยจะกลับมา เพลงไทยจะสามารถโกอินเตอร์ได้ เพราะหนูรู้สึกว่าไม่อยากให้ดนตรีมันมีกำแพง ทุกคนสามารถฟังได้” ส่วนเนยเล่าว่า ก่อนหน้านี้ก็ติดตามผลงานรุ่นพี่ T-Pop ในอดีตเช่นกัน “ที่ผ่านมาก็เคยดูของกามิกาเซ่ คือเป็นคนชอบแนวๆ นั้นอยู่แล้ว จริงๆ มี T-Pop ออกมาเยอะมาก แต่อยากให้มีพื้นที่ได้แสดงความสามารถเยอะๆ หนูว่าถ้าได้มีพื้นที่ในการแสดงเยอะๆ มันน่าจะทำให้วงการสนุกมากขึ้นค่ะ”

กับคำติชมในโลกออนไลน์ที่มีต่อ LYRA ปัญบอกว่า เป็นธรรมดาที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่อยากให้ลองเปิดใจ “อ่านทุกคำติชมค่ะ เพราะเราก็อยากรู้ว่าทุกคนคิดยังไงกับเพลงหรือการแสดงของเรา มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ แต่มันก็เป็นสิ่งที่พวกเราคิดไว้อยู่แล้ว เพราะไม่มีทางที่ทำแล้วคนจะชอบ 100 เปอร์เซ็นต์ได้แน่ๆ แต่พวกเราก็ดีใจที่เป็นผลงานที่เราชื่นชอบและคนส่วนมากก็ชอบ ส่วนคนที่ไม่ชอบก็คิดว่าอาจจะชอบเพลงต่อไปของพวกเราก็ได้นะ (ยิ้ม) พวกเราไม่ได้ทำแค่เพลงเดียวแน่ๆ ยังมีอีกหลายๆ เพลง ก็อยากให้ทุกคนค่อยๆ เปิดใจและรอฟังเพลงต่อๆ ไปของพวกเราด้วยค่ะ”

ปิดท้ายด้วยคำถามที่ว่า แล้วผลงานเพลงต่อไปของสาวๆ ในนาม LYRA จะเป็นยังไง เจนนิษฐ์บอกว่า “เพลงต่อไปมีแน่นอนค่ะ ภายในปีนี้เราจะปล่อยซิงเกิลที่ 2 ออกมา ยังไงก็รอติดตามนะคะ พวกเราชอบค่ะ และคิดว่าทุกคนก็น่าจะชอบเหมือนกัน ถามว่าเพลงเร็วหรือเพลงช้า อุ๊ย ไม่บอกดีกว่า (หัวเราะ) เพราะว่ายังไงก็ภายในปีนี้ อีกนิดเดียวค่ะ อดใจรอนะคะ”

ก่อนจะเล่าถึงเซอร์ไพรส์พิเศษที่จะได้เห็นในไม่ช้านี้ว่า “เร็วๆ นี้จะมี collap กับศิลปินต่างชาติแถบเอเชีย แต่ไม่บอกว่าประเทศอะไร ไม่บอกว่าใคร แต่ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้จะมีอะไรออกมาต้องรอติดตามค่ะ ตอนนี้ตารางซ้อมเต้นเพลงที่ 2 ออกมาแล้วค่ะ คิดว่าจนถึงสิ้นปีนี้น่าจะยังไม่ได้พักยาวๆ ค่ะ” เจนนิษฐ์ปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม

เรียกว่าถึงแม้จะต้องทำงานหนักแค่ไหน แต่เพื่อแฟนๆ แล้ว ทั้ง 6 สาวก็พร้อมจะฝึกฝนและพัฒนาตัวเองต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อผลงานที่ดีสู่สายตาแฟนๆ จนกลายเป็นความประทับใจ และความหวังที่แฟนๆ อยากเห็นวงการ T-Pop ของไทยจะพัฒนาต่อไป และกลับมาเป็นที่นิยมเหมือนในอดีต สามารถผลักดันไปไกลในระดับอินเตอร์สู่สายตาชาวโลก.

ผู้เขียน : Penguin บินได้
ภาพ : ชุติมน เมืองสุวรรณ, BNK48 Official, LYRA Official
กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun