- นก จริยา ต้องแบกรับความกดดันและคาดหวัง
- ชีวิตคู่กับ จอนนี่ ต้องประคับประคองกันไป
- ร้อยเล่ห์มารยาสร้างจากชีวิตจริงของคนใกล้ตัว
แบกรับความกดดันและคาดหวัง
ว่าด้วยเรื่องของละครที่ถูกจับตามองอีกเรื่องอย่าง ร้อยเล่ห์มารยา ของช่อง 3 ที่ได้พระเอกนางเอกสุดฮอตอย่าง โป๊ป ธนวรรธน์ และ เบลล่า ราณี มาร่วมงานกันอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่สร้างปรากฏการณ์ความฟีเวอร์จากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส มาแล้ว เมื่อได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง งานนี้แฟนละครของทั้งคู่จึงต้องคาดหวังถึงความสนุกและเรตติ้งที่ต้องพุ่งทะยานอย่างแน่นอน
และละครจะออกอากาศตอนแรกในวันนี้ จันทร์ที่ 5 ตุลาคม หลายคนเฝ้ารอหน้าจอชมสดอย่างใจจดใจจ่อ ก็เพราะละครเรื่องนี้ถูกมองจากคนภายนอกว่าต้องเป็นละครที่จะมากู้หน้าให้กับช่อง 3 ทำเรตติ้งให้สูงอีกครั้ง หลังจากที่ถูกช่องคู่แข่งทิ้งแซงนำหน้าแบบไม่เห็นฝุ่นมาแล้วในช่วงครึ่งปีแรก
เพราะเหตุนี้แหละ เราถึงได้ขอนัดสัมภาษณ์ผู้จัดละครคนเก่งอย่าง นก จริยา แอนโฟเน่ เจ้าของค่าย เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จํากัด ผู้ผลิตละครเรื่อง ร้อยเล่ห์มารยา มาพูดถึงความคาดหวัง และแรงกดดันที่ต้องแบกรับเอาไว้จากละครเรื่องนี้ ซึ่งพี่นกตอบกับเราด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้มและสบายๆ ว่า
"พอรู้ว่าได้โป๊ปกับเบลล่ามาก็ยอมรับว่ากดดัน เพราะจากละครแห่งชาติ บุพเพสันนิวาส ที่ทั้งคู่เล่นไว้ พอจะมาลงเรื่องต่อไปแม้จะเป็นเรื่องอะไร คนก็ต้องจับจ้อง และความกดดันนั้นก็ถูกโยนมาที่เรา (ยิ้ม)
ตอนแรกที่วางเรื่องนี้กับช่อง ก็มีโป๊ปเป็นเบอร์หนึ่งมาในใจ เพราะวางตัวละครของเรื่องนี้ให้พระเอกเป็นผู้ชายที่มีคาแรกเตอร์อบอุ่น เป็นผู้ชายธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เป็นผู้ชายคิดบวก เป็นผู้ชายที่เป็นความหวังของผู้หญิง ถ้าได้มีความรักกับผู้ชายคนนี้ ชีวิตจะดี (ยิ้ม) ยังอยากให้ความรักมีมุมที่สวยงามจากผู้ชายคนนี้ที่ตั้งเอาไว้"
...
นก จริยา ได้เปิดเผยต่อว่า พอวางตัวพระเอกเป็นโป๊ป ก็พยายามหานางเอกของเรื่องนี้ ต้องเป็นผู้หญิงที่เข้าใจชีวิตพอสมควร เข้าใจในหลายๆ มิติของชีวิต วางไปยังไงก็ไม่ลงตัว ช่องเลยให้เบลล่ามา ตอนนั้นรู้สึกว่ามันคือความกดดัน เพราะรู้ว่าจะต้องเจอกับความคาดหวังของแฟนละครจากบุพเพสันนิวาส
เพราะความกดดันจึงทำให้ต้องคิดใหม่ ไม่ว่าเขา 2 คนจะเจอกันเรื่องไหน มันก็กดดันหมด ก็เลยลุยทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ให้สนุกที่สุดในการเล่าเรื่องแบบร้อยเล่ห์มารยา อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องให้งานออกมาสู่สายตาคนดูและให้คนดูเป็นคนตัดสิน
นอกจากจะแบกรับความกดดันจากคนดูไม่พอ ละครเรื่องนี้ยังต้องแบกรับเรตติ้งด้วย เราจึงถามผู้จัดคนเก่งว่ารู้สึกอย่างไรกับความคาดหวังในเรื่องนี้ ซึ่ง นก จริยา ตอบกับเราว่า
"ขอฝากได้ดีกว่า ไม่คาดหวังอะไรใดๆ เพราะว่าทุกอย่างในเวลานี้ไม่มีอะไรง่ายๆ สื่อทุกสื่อก็กระจายกันไปหมด มันเป็นเรื่องของยุคสมัยที่ทุกคนสามารถชมได้ทุกแพลตฟอร์ม แต่ถ้าชมสดกับช่อง 3 เลย มันก็จะกลับมาเสพละครที่ได้อรรถรสของละครจริงๆ"
แต่งานนี้เจ้าตัวก็ไม่พลาดที่จะขายงานของตัวเองต่อว่า "โป๊ปและเบลล่าทำงานด้วยกันมาจนคุ้นมือ รู้จังหวะกันไปหมดแล้ว พอเอาเขามาตั้งเป็นตัวละคร เคมีเขาได้
และยังมีฝีมือที่เขารับส่งกันแล้วออกมามันได้ตัวละครที่เราคิด มันเกินคาดเอาไว้ (ยิ้ม) มันมีความน่ารัก มันมีความสัมพันธ์ ตอนที่ตัดพอได้ดูแล้วรู้สึกแฮปปี้กับงานมาก แต่ก็ต้องรอให้คนดูตัดสินให้"
ละครสร้างจากชีวิตคนใกล้ตัว
นก จริยา เล่าให้เราฟังต่อว่า ละครเรื่องนี้แรงบันดาลใจมาจากสตอรี่เรื่องจริงของคนใกล้ตัว เราจึงถามต่อทันทีว่า แกนเรื่องของละครเรื่องนี้เป็นของใคร ทำเอาเจ้าตัวถึงกับร้องเสียงหลงพร้อมกับบอกว่า
"อุ๊ย อย่าถามนะ (หัวเราะ) เจ้าของเรื่องมีตัวตนจริง และเจ้าของเรื่องเขาเป็นเพื่อนเรา ก็ได้มาบ่นว่าชีวิตเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็เป็นที่ระบายให้เขา ช่วยแก้ปัญหาบ้าง พอวันนึงก็ถามเขาว่าทำละครได้มั้ย เพราะชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละครอีกนะ เขาก็โอเค
แต่มันมีหลายมุมที่ไม่กล้าเอามานำเสนอหรอก เพราะว่ามันจะดาร์กเกินไป มันก็เลยเอามาร้อยเรียงใหม่ โดยมีเส้นเรื่องของคนนี้ให้เป็นละครในรูปแบบของการสะท้อนสังคมในทุกวันนี้ เลยได้มาเป็นเรื่องร้อยเล่ห์มารยา"
...
จากนั้น นก จริยา เล่าต่อว่า "โป๊ป เบลล่า หลุยส์ และ วาววา เป็นตัวละครที่มาจากเส้นเรื่องจริง ตัวละครวาววา คือตัวคีย์อีกตัวหนึ่งของละครเรื่องนี้ เป็นคนในสังคมที่ชอบการเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น จนไปลดคุณค่าในตัวเอง
บางทีเราก็ลืมว่าชีวิตเราก็ดีนะ ทำไมเราไม่ไปแบบเราล่ะ แต่กลับอยากจะเป็นแบบคนอื่น ถ้าไปในทางที่ผิด มันก็ทำให้จิตใจเราขุ่นมัว อยากเป็นคนอื่นจนไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง และถูกลากไปในทางที่ผิดได้ พยายามตะเกียกตะกายอยากจะเป็นเขาจนหาความสุขไม่ได้ และนำพาตัวเองไปสู่จุดที่ผิดชอบชั่วดีโดยไม่รู้ตัว"
มีเรื่องชีวิตคู่กับจอนนี่อยู่ในละครด้วย
เราไม่รีรอที่จะถามต่อ พร้อมกับยิงคำถามกลับไปทันทีว่า นอกจากเอาเรื่องราวของเพื่อนมาเป็นละครแล้ว มีเรื่องชีวิตคู่ของตัวเองมาผสมอยู่ในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ทำเอาผู้จัดคนเก่งถึงกับหัวเราะเสียงดังและบอกกับเราว่า
"โอ๊ย จะเป็นอีกเรื่องที่แซ่บนะ แต่เดี๋ยวพี่จอนจะเตะก้านคอเอา (หัวเราะ) เอาแค่บางมุมของวิธีคิดไปใส่ค่ะ ในบางเวลาที่เราไม่มีสติ ที่เราเคยใจร้อน พอวันที่เราไม่ตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะกันกลับมาคุยกันรู้เรื่อง
...
เราก็ได้เห็นคนคนนั้นในตัวละครของรามิลและพิชชาในชีวิตคู่ที่เราเคยผ่านมานะ แต่ว่าไม่ได้เอาชีวิตตัวเองมาทำทั้งหมด มันอายนะ ผู้จัดละครสร้างชีวิตตัวเอง ต้องรอให้คนอื่นเขาสร้างชีวิตเราดีกว่า (หัวเราะ)
และจอนเขาก็รู้ค่ะว่าเราเอาชีวิตเพื่อนมาทำเป็นละคร เพราะเขาก็รู้จักเพื่อนคนนี้ของเราที่มีปัญหา เขาก็ถามว่า เพื่อนยอมเหรอเอามาทำละคร ซึ่งเราก็บอกไปว่าเพื่อนว่าโอเค เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับหลายๆ ครอบครัว และเรื่องมันผ่านไปแล้ว เขาไม่รู้สึกอะไรแล้ว เราก็ขออนุญาตเขาเรียบร้อย"
ละครที่อยู่บนพื้นฐานของศีลธรรม
เพราะเป็นการเอาชีวิตของคนมาทำเป็นละคร และเกี่ยวข้องกับความรักแบบชู้สาว เรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาจะต้องเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้ดูว่าผิดศีลธรรมของไทยเรา ซึ่ง นก จริยา ผู้จัดคนเก่งได้ตอบเรื่องนี้กับเราว่า
"บอกเลยว่ายากค่ะ เพราะมันมีเส้นชีวิตจริงมาเป็นหลัก 1 เส้น แล้วจากประสบการณ์จากคนเขียนบท ผู้กำกับ ผู้จัด และคนรอบตัวเรา ที่เอามาแชร์ๆ กันว่า สิ่งที่เราเห็น ปัญหาของชีวิตคู่ที่เกิดขึ้น ปัญหาของโลกโซเชียล มันส่งผลอะไรกับชีวิตบ้าง
...
ก็เอามันมาเล่าอยู่ในละครเรื่องนี้ ซึ่งคำว่าร้อยเล่ห์มารยาใช้แทนความรู้สึกของคน ณ ปัจจุบันนี้ ที่อยู่ในจริตสังคมแบบเราพุ่งไปข้างหน้าโดยที่เราไม่รู้ตัว เรากำลังเสพเรื่องข้างนอกเยอะเลย โดยที่ไม่รู้เรื่องตัวเราเอง
ละครเรื่องนี้ทุกคนสามารถเป็นพระเอกและนางเอกได้ เพราะตัวละครเป็นตัวคนในชีวิตจริงๆ เราไม่ได้วางนางเอกให้เป็นนางเอ้ก นางเอก ไม่ใช่เดินออกมาแล้วดีพร้อม
แต่คุณผ่านการแต่งงานมา ผ่านชีวิตคู่ ผ่านการฟาดฟันมา แล้วพระเอกก็เป็นคนธรรมดาคนนึง ที่เราไม่ได้สร้างว่าเขาต้องรวย มีพร้อม เดินหล่อหลุดออกมา
ในเรื่องนี้เรามีตัวละครที่แบ่งแยกให้ดูแตกต่างกัน อย่างตัวละครที่ หลุยส์ สก๊อต เล่นนั้น จะเป็นตัวแทนของคนที่อยู่กับวัถตุนิยม หล่อรวย เดินออกมาผู้หญิงหิวเลย มีครบทุกอย่าง
แต่ตัวละครของโป๊ป ไม่ได้มีชีวิตที่หรูหรา เป็นผู้ชายธรรมดา แต่ข้างในเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก มีใจล้วนๆ เป็นผู้ชายคิดดี คิดบวก เราเอา 2 คนนี้มาเป็นตัวเปรียบเทียบกัน
อีกอย่างที่เราสอดแทรกก็คือ การนำพาชีวิตคู่ในสังคมตอนนี้มันยากขึ้น เพราะไม่ได้ถูกตัดสินโดยตัวเรา ถ้าเราลืมที่จะกลับมาเป็นตัวเราอย่างแท้จริง มันจะดันถูกตัดสินโดยคนรอบตัว คนเมนต์ คนกดไลค์ คนกดแชร์
แต่ถ้าเรากลับมาเป็นตัวเราจริงๆ เราจะรู้ว่าปัญหาจริงๆ คืออะไร และจะไปกับมันได้ แบบที่พระเอกตัวแทนของคำว่าสติ มาให้ข้อคิดกับนางเอกว่าแก้ปัญหาแบบนี้สิ ใจเย็นลงสิ เป็นเหตุและเป็นผล ชีวิตของนางเอกจะผ่านชีวิตคู่ไปอย่างทุลักทุเลในช่วงแรก
เราจะยึดเรื่องของความถูกต้องเอาไว้ เราจะไม่ใช่ละครฟิน จิ้น แบบที่อยู่ดีๆ ก็ไม่มีเหตุผล เสิร์ฟจิ้นจนลืมศีลธรรม เรื่องนี้ต้องมีศีลธรรมอยู่ด้วย เพราะเราเป็นคนที่แคร์มากกับเรื่องครอบครัว พื้นฐาน วิธีคิด และความถูกต้อง
การจะเล่าเรื่องแบบนี้ให้มันถูกต้อง เป็นอะไรที่ยากนะคะ (ยิ้ม) เราก็ต้องเอาเส้นของความถูกต้องมาเป็นหลัก ก็คือเมื่อชีวิตคู่มีปัญหา คนรอบตัวอาจจะให้คำแนะนำ แต่บางครั้งชีวิตเมื่อเจอปัญหา มันก็ไม่อาจจะกลับมาแก้ไ้ด้อีก ความผิดพลาดก็ต้องจบลง แล้วความรักครั้งใหม่ก็จะต้องเริ่มขึ้น"
21 ปีกับการทำงานเป็นผู้จัด
จากนั้น นก จริยา เล่าถึงชีวิตการทำงานเป็นผู้จัดละครให้เราฟังว่า ตนนั้นทำงานละครมา 21 ปีแล้ว และถึงกับเอ่ยปากว่าการทำละครมันยากขึ้นสำหรับยุคสมัยนี้ เพราะสื่อเยอะขึ้น สื่อเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน บางทีทำละครไปก็เดาไม่ถูกว่าละครจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน เพราะว่าทุกอย่างมันกระจายไปหมด ซึ่งก็เข้าใจเงื่อนไขนี้ แต่ก็จะทำหน้าที่ของคนทำละครต่อไปให้ดีที่สุดก็พอ
และนอกจากสื่อจะเยอะแล้ว เรื่องการแข่งขันที่สูงขึ้นก็ตามมา ก็ต้องพัฒนางานตาม จะไปหยุดโลกไม่ได้ จะเดินทวนเข็มนาฬิกาก็ไม่ได้ ต้องไปพร้อมเข็มนาฬิกา และก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของคนดู ของคนรุ่นใหม่ ที่เขาสะท้อนให้เห็น และเก็บมาเป็นข้อมูล
แต่การทำละครก็ยังต้องอยู่ภายใต้นโยบายของช่อง 3 ที่บอกว่า สื่อละครที่ทำต้องให้อะไรกลับไปกับคนดูด้วย รสชาติของละครต้องมี เพราะมันคือศิลปะละคร แต่ความแซ่บต้องมาจากความใช่ด้วย มากับเหตุผลที่ถูกต้อง และละครเรื่องร้อยเล่ห์มารยามันเป็นเรื่องความรักแบบชู้สาว และตนก็ยังแคร์เรื่องถูกและผิด
ส่วนใครที่สงสัยว่าพระเอกนางเอกจะมารักกันตอนไหน เพราะนางเอกแต่งงานแล้ว อันนี้ต้องมาดู เพราะตนได้วางให้ทุกอย่างอยู่บนความถูกต้องแล้ว
ชีวิตคู่ที่ต้องประคับประคอง
จบเรื่องงาน เราขออนุญาตมาที่เรื่องส่วนตัวของ นก จริยา และ จอนนี่ แอนโฟเน่ ที่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมา 27 ปีแล้ว ทั้งคู่มีหลักการใช้ชีวิตคู่กันอย่างไรบ้าง ซึ่งผู้จัดละครคนเก่งถึงกับหัวเราะ และบอกกับเราว่า "จะมาหลอกถามอะไรพี่ ไม่บอกหรอกนะ" ก่อนจะหัวเราะเสียงดังอีกครั้งนึง แต่เจ้าตัวก็เล่าให้เราฟังว่า
"ชีวิตคู่มีความยากตั้งแต่เริ่มหนึ่ง และทุกๆ วันของชีวิตคู่ มันมีการเปลี่ยนแปลง พอเราโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ก็จะมีวิธีคิดอีกแบบหนึ่ง ชีวิตของแต่ละคนมันเปลี่ยนวิธีคิดไปพร้อมๆ กับการเติบโตของชีวิต
เพราะฉะนั้นในการใช้ชีวิตคู่มันก็ต้องมีทั้งความเป็นเพื่อน ความเข้าใจกันแบบเพื่อนมนุษย์ ความเข้าใจกันแบบหลายๆ มิติ บางวันเราก็ตอบอะไรกันแบบไม่เข้าหูกัน เราก็โกรธกันนะ แต่ก็คิดแค่ว่า ช่างมันเถอะ ไม่มีชีวิตไหนดีที่สุด แต่ว่าเราเข้าใจมันมากน้อยแค่ไหน
การใช้ชีวิตคู่ต้องเข้าใจคนข้างๆ เราด้วย ไม่มีเทวาดา ไม่นางฟ้า ไม่มีเทพบุตร ทุกคนมีถูกผิด มีอารมณ์ ในทุกช่วงวัยมันมีการเปลี่ยนแปลง และในชีวิตถ้าจะต้องอยู่ในสังคมที่มันยาก
และเรื่องเศรษฐกิจก็เข้ามาอยู่ในชีวิตครอบครัว มันต้องมีความเป็นเพื่อนกันสูง เข้าใจสูง ต้องกลับมาอยู่กับตัวเองให้เยอะขึ้น บางทีคนเราชอบอยู่กับเรื่องของชาวบ้าน เรื่องของตัวเองแก้ไม่ได้ มันไม่ดีนะ"
จากนั้นเราถามต่อว่า คบกับพี่จอนนี่มาเคยมีปัญหาเรื่องความรักหรือไม่ ซึ่ง นก จริยา ตอบกับเราว่า "แหม ไม่อยากจะตอบเรื่องนี้เลย" ก่อนจะหันหลังให้กับเรา และเมื่อพูดจบ เจ้าตัวก็หันมาตอบกับเราว่า
"ถ้าเล่นกับคนดีๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ (หัวเราะ) ถ้าเล่นกับคนไม่ดีมันก็อาจจะมีอะไร (หัวเราะ) เรื่องแบบนี้ส่วนใหญ่เขาโอเคนะ จะเลยเถิดมั้ย มันก็อยู่ที่มีความมีสติของคน ถ้าเลยเถิดเราก็เรียกสติ"
จากนั้นผู้จัดคนเก่งก็ตอบกับเราว่า อย่ามาหลอกถาม ไม่ตอบแล้ว พร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะดังๆ ออกมาอีกครั้งนึง
เหตุผลที่ต้องดูร้อยเล่ห์มารยา
ก่อนจบการสัมภาษณ์ เราก็ให้พี่นกขายของกับเราสักหน่อย ซึ่งผู้จัดละครคนนี้ก็ได้บอกกับเราด้วยท่าทีที่สบายๆ และยิ้มแย้มกับเราตลอดการสนทนาที่ออกรสออกชาตินี้ว่า
"ละครจะออนแอร์แล้วตื่นเต้นมาก และอยากดูมากว่าคนดูจะสนุกกับเรื่องนี้หรือเปล่า ก็ต้องบอกว่ากดดัน แต่ก็จะพยายามไม่คาดหวัง เพราะเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน ข่าวมันมาเข้มข้นในทุกรูปแบบ
ถ้าเราสามารถให้ความสุขคนในช่วงที่เครียดๆ แบบนี้ กับการนำเสนอละครของเรา เราก็จะมีความสุขกับตรงนั้นแล้วแหละ ให้คนได้คลายเครียด มาดูอีกมุมนึงของชีวิต ที่มันมีทุกรส แซ่บ เข้ม หวาน ฟิน จิ้น มีหมด
แต่เราไม่คาดหวังให้ละครของเราเป็นละครแห่งชาตินะ แต่หวังแค่ให้คนดูมีความสุขกับเรื่องนี้ก็พอแล้วจริง (ยิ้ม) อยู่บ้านดูละครกัน เม้าท์กันว่านี่มันเหมือนฉันหรือเปล่า กลับมาอยู่กับสติตัวเอง อยากให้ละครเรื่องนี้เป็นความบันเทิงและความสุขให้คนดูก็พอ
อีกอย่างละครเรื่องนี้น่าจะสะท้อนชีวิตจริงผ่านตัวละคร ที่มีทั้งมุมดี มุมให้ประโยชน์กับคนดู มุมแซ่บของละคร เมื่อก่อนคนจะคิดว่าละครน้ำเน่ามันเกินชีวิตจริง แต่ถ้าได้ดูข่าวในปัจจุบันนี้บอกเลยว่ามันเกินละครไปแล้วค่ะ (หัวเราะ)
ที่เห็นเป็นข่าวอยู่ในทุกวันนี้ คนนั้นครอบครัวมีมือที่สาม อยู่เป็น อยู่ไม่เป็น แม่จับฟาด นู่นนี่นั่น มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมเรา และเรารู้จักคนเหล่านี้อยู่รอบตัวเราอยู่แล้ว ดูแล้วอาจจะเห็นตัวเราอยู่ในนั้นด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
ละครเรื่องนี้เอาไปขายจีนด้วยนะ ถ้าโลกปลอดภัย เราจะมาช่วยกันฟื้นฟู เอาละครไปขายเมืองนอกให้คนกลับมาเที่ยวเมืองไทย เอาเศรษฐกิจกลับคืนมาให้คนไทยกัน เราต้องภูมิใจในความเป็นคนบันเทิง
แต่ภาครัฐเรามองเรื่องนี้ช้าไป เราต้องไฟต์ ภาครัฐต้องหันกลับมามองและสนับสนุนการท่องเที่ยวในสื่อ สนับสนุนวัฒนธรรมในสื่อ สนับสนุนการเอาออกไปขายต่างประเทศเพื่อดึงคนจากข้างนอกให้เข้ามาเที่ยวและเศรษฐกิจของเราจะกลับมาในเร็ววันค่ะ"
จบสวยสุดๆ ปังปุริเย่มากๆ จ้าแม่ นอกจากขายงานละครแล้ว ยังฝากไปถึงภาครัฐกับวิธีช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกด้วย ผู้จัดเขาพูดมาขนาดนี้ ลองเปิดใจไปดูละครเรื่องนี้กันจ้า คืนนี้เวลา 20.23 น. เริ่มเป็นตอนแรกนะจ๊ะ จุ๊บๆ.
ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา
ช่างภาพ : ชุติมน เมืองสุวรรณ
กราฟิก : Theerapong Chaiyatep